ดิฉันได้สอนนักศึกษาเกี่ยวกับเรื่องดุลยภาพของตลาดว่าอุปสงค์(ความต้องการซื้อ)จะต้องเท่ากับอุปทาน (ความต้องการขาย) ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งจะมีการปรับตัวเข้าสู่จุดดุลยภาพโดยอัตโนมัติเสมอ นั่นเป็นที่มาให้นักศึกษาเขียนเรื่อง เศรษฐศาสตร์ความรัก
เกมส์นี้ล่อแหลมมากครับ
ผมเคยเห็นนักเศรษฐศาสตร์ท่านหนึ่งคิดแบบนี้ให้ผมฟัง
แต่ขอโทษครับ ผมไม่แน่ใจว่าเหมาะที่จะเสนอหรือไม่ ไม่เหมาะก็ลบทิ้งได้เลยนะครับ
เขาเทียบกิจกรรมการแต่งงาน กับการไม่แต่งงาน อันไหนประหยัดและคุ้มกว่ากัน
และที่ผมฟังแล้วทะแม่งๆก็คือ ตีค่าของเพศสัมพันธ์ออกมาเป็นค่าทางเศรษฐศาสตร์ ที่บางคนก็ยอมรับไม่ได้ ทั้งทางด้านจิตใจ และตัวเลขมูลค่าที่ใช้เทียบเคียง
แต่คนที่ไม่รู้เรื่องเศรษฐศาสตร์อย่างผมก็เอามาเล่ากันเป็นเรื่องตลกในวงเหล้าซะมากกว่า
แต่ผมว่าคิดแบบนั้นมันโหดเกินไปครับ
(แถมมี มูลค่าตอบแทนเพศสัมพันธ์แบบ diminishing return ด้วยนะครับ)
ใจจริงๆเราก็ไม่ค่อยเห็นด้วย
แต่เราก็ไม่อยากเถียงเรื่องเศรษฐศาสตร์กับนักเศรษฐศาตร์ครับ
อาจารย์ลูกหว้าคะ
ตามรอยจาก B อ.แป๋วค่ะ
พอดีทางม.ราชภัฏพิบูลสงครามจะมาดู KM ที่ มข
วันที่ 16 มกราคมนี้
ไมทราบอาจารย์มาด้วยหรือเปล่าคะ
ถ้ามาด้วยจะประสานผ่าน Bกับอาจารย์ได้หรือไม่คะ
น้อง (พิชชา)
อย่างน้อย ก็ได้เข้าหลักเศรษฐศาสตร์ได้ง่ายขึ้นที่เดียวครับ
แถมกระบวนการความคิด ของคนที่ตามไปอ่าน เกิดมากมายเลยครับ(แง่ดีนะครับ)
ขอให้อาจารย์ มีความสุขทั้งปีนะครับ
สวัสดีครับอาจารย์ลูกหว้า
ในโลกแห่งสหวิทยาการ ผมคิดว่าศาสตร์ทั้งหลายสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ จะดีเพียงใดอยู่ที่ปัญญาของแต่ละคนครับ แม้แต่เรื่องของความรักก็มิได้อยู่ในข้อยกเว้นดังกล่าว การสอนวิชาเศรษฐศาสตร์เชื่อมโยงไปสู่ความรักจะทำให้ฝึกการคิดสร้างความเข้าใจในเนื้อหาวิชาเป็นเศรษฐศาสตร์เพื่อชีวิตมากขึ้น
เธอเข้าใจฉันบ้างในบางสิ่ง
สิ่งทุกสิ่งก็ดูจะมีค่า
ฉันเข้าใจเธอบ้าง บางเวลา
เวลาทุกเวลากูดูจะเบิกบาน
คุณ bright Lily....
ขอบคุณนะคะที่มาเยี่ยมเยียน ว่างๆคิดเมนูใหม่ๆมาฝากบ้างนะคะ
เรียนท่านดร.แสวง....
ผมเห็นว่าเงื่อนไขในเศรษฐศาสตร์รัก จุดหลักอยู่ที่ใจ
สำคัญตรงที่ ความพอเหมาะพอดี ของแต่ละคน
ใช้อะไรกำหนด สิ่งที่อาจารย์คิดถ้าต่อยอดและเผยแพร่จากเศรษฐศาสตร์ความรักจะเป็นเศรษฐศาสตร์ใหม่ที่ใช้สอนวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี
คุณเม็กดำคะ
ชอบมากเลยค่ะ เข้าใจง่าย ขออนุญาต คัดลอกในบ้างข้อความ ไปส่งอาจารย์หน่อยน่ะค่ะ ขอบคุรค่ะ