เก้าปีที่ผ่านมาคงเก็บกดมากเลยน้อ? (Must be because of 9 years under depress?)


ผมเข้าใจครับว่าทุกคนอยากได้รัฐบาลในฝัน และก็เข้าใจว่าหลายคนเก็บกดมา 9 ปีครับ แต่ที่วิพากษ์วิจารย์กันแบบที่เป็นอยู่ และคาดคั้นให้รัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไหยในฐานะแกนนำในการต้้งรัฐบาลให้ทำโน่นทำนี่มากมาย และตั้งข้อสังเกต แบบหาเรื่องว่า ‘ที่หาเสียงไว้ จะทำได้ตามที่พูดไว้หรือไม่’ 

ก็ทำไมไม่พากันเลือกพรรคเพื่อให้ให้เขามีเสียงมากพอที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวละครับ ถ้าอยากให้เขาทำทุกนโยบายที่เขาหาเสียง และคนที่วิพากวิจารย์อยู่นี่ เลือกพรรคเพื่อไทยไหมครับตอนเลือกตั้ง และได้ช่วยอะไรเขาไหมตอนที่เขาพยายามจัดตั้งรัฐบาลนะครับ 

และเคยคิดไหมครับว่า ​'ถ้าเราพวกคุณต้องรับผิดชอบในการตั้งรัฐบาล คุณมีทางเลือกมากกว่านี้ไหนครับ' 

ผมเองก็ผิดหวังที่ตั้งรัฐบาลโดยเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ และพรรคที่มีคะแนนเสียงมากที่สุดไม่ได้ตั้งรัฐบาล และไม่ได้เป็นนายก ปัญหาอยู่ตรงไหน ทุกคนก็รู้ และผมก็มีคำถามเดียวกันคือ ‘แล้วทำไมพวกเราไม่เลือกพรรคฝ่ายค้านเดิมให้เขามีคะแนนเสียงมากพอจะตั้งรัฐบาลเองโดยไม่ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภาแลละครับ’

แต่ผมก็เข้าใจและไม่โทษประชาชนครับที่ผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ ซึ่งอย่างน้อยก็เป็นตัวบ่งชี้ว่าประเทศควรเดินต่อไปทางไหน แม้ว่าเป็นเส้นทางที่ไม่เป็นไปตามที่ผมเองคาดฝันไว้ก็ตาม เพราะผมก็มีเพียงเสียงเดียวและสิทธิ์เดียวเหมือนกับทุกคนทุกคน เมื่อเป็นเช่นนี้เราควรให้กำลังใจและให้เวลากับรัฐบาลใหม่ตามความเป็นจริง คือ เป็นรัฐบาลผสมที่คงประกอบด้วยสองขั้วความคิด และมีข้อจำกัดมากมายทั้งในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล และที่จะทำงานกันต่อไป ท่ามกลางความบอบซ้ำและความปัญหามากมายของประเทศในช่วงที่ผ่านมา 

เพื่อความเป็นธรรมและให้กำลังใจกับพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในปัจจุบันว่า ‘คงมีนโยบายแบบร่วมกันกำหนด และร่วมกันทำ มากกว่านโยบายพรรคใดพรรคหนึ่ง หรือนำทุกนโยบายจากทุกพรรคสู่การปฏิบัติได้’ 

ที่สำคัญเขายังไม่ได้แถลงนโยบาย และไม่ได้เริ่มทำงานตามนโยบายเลย แล้วจะคาดคั้นกันไปถึงไหน นอกจากนี้ปัญหาที่เป็นอยู่ก็เป็นผลพวงของรัฐบาลที่ผ่านมา จึงควรให้เวลา และให้กำลังใจกับรัฐบาลเขาทำหน้าที่ไปสักระยะหนึ่งก่อนดีไหมครับ ต้องขอบคุณพวกเขาที่เสียสละมาทำหน้าที่แทนเราดีกว่าไหม 

ส่วนการที่นโยบายรัฐบาลนี้กำหนดไว้กว้างๆ นั้นก็ดีแล้วจะได้ยึดหยุ่นและปรับตัวได้ตามสถานการณ์ของทั้งปัญหาของประเทศ และความรับผิดชองของพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค ประเด็นที่เราควรติดตามคือ แต่ละพรรคจะเลือกทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนหรือไม่เพียงใด ครับ เพราะการกำหนดนโยบายในรายละเอียดมากเกินไปก็กลายเป็นแผนปฏิบัติการ ไม่ใช่นโยบาย 

ผมจึงขอให้กำลังใจรัฐบาลและขอบคุณทุกคน และทุกฝ่ายที่จะร่วมกันดูแลประเทศให้ผ่านวิกฤติต่างๆ ไปให้ได้ ภายใต้ข้อจำกัดมากมายครับ ส่วนการให้ความเห็นก็เป็นสิทธิที่พีงทำ แต่ควรให้เวลาการทำงานกับรัฐบาลใหม่ และรัฐมนตรีชุดใหม่ก่อนดีไหมครับ 

รักนะประเทศไทย

สมาน อัศวภูมิ

10 กันยายน 2566

หมายเลขบันทึก: 714362เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2023 06:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 กันยายน 2023 06:51 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

I see this as a time where politicians must be held responsible for their policies and policy making. It is time that honesty, transparency and accountability be instilled in society.

What does a society become if people have to live with lies and plundering generation after generation? I’d understand if people are no longer tolerant.

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท