ประเดี๋ยว!สายลมแรงก็พัดผ่าน


สองสามวันสุดท้าย เปียกปูนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน สายตาเหลือแต่ความว่างเปล่า เหม่อลอยไร้จุดหมาย ไม่เหมือนวันก่อน ๆ เมื่อไปหาในทุกเช้าบ่ายจะแสดงอารมณ์ยินดีให้เห็น

สายลมแรงกลางท้องทุ่งเชื้อเชิญอยู่บ่อย ๆ เมื่อหลายปีก่อน ให้มาอยู่อาศัยอย่างถาวรเสียเลย เป็นอารมณ์ความรู้สึกระหว่างเริ่มมาปลูกต้นไม้บนที่นาถมใหม่ช่วงหลังโรงเรียนเลิกและแทบจะทุกวันหยุด คงเพราะวัยเราด้วย นอกจากสายลมแล้ว ความเงียบสงบ เสน่ห์ธรรมชาติ อีกทั้งความเป็นชนบทอื่น ๆ ที่น่าหลงใหล ทำให้การตัดสินใจจะสร้างหลักปักฐานที่นี่ใช้เวลาไม่นานนัก 

การเปลี่ยนแปลงครั้งนั้น เป็นที่มาของความตั้งใจจะเลี้ยงหมาเป็นครั้งแรก เมื่อบ้านรายรอบไปด้วยนาข้าว ทำให้ทั่วทั้งบริเวณเหมาะกับการเป็นที่อยู่ของบรรดางูเงี้ยวเขี้ยวขอ นาที่ต้องมีน้ำขังเป็นเวลานาน สำหรับการเพาะปลูกในแต่ละชั่วรุ่น กว่าจะโต กว่าจะเก็บเกี่ยว..นอกจากเฝ้าบ้านเฝ้าเรือน หมาน่าจะคอยดูแล ช่วยจัดการ หรืออย่างน้อยก็ส่งสัญญาณเตือนภัยให้กับเราได้เป็นอย่างดี

ขนมปังกับเปียกปูนลาบราดอร์สีช็อกโกแลตที่ผู้เพาะพันธุ์สุนัขจากสระบุรีนำมาส่งให้ถึงบ้านกลางทุ่งเมื่อห้าหกปีที่แล้ว อายุเพียงสองเดือน อ้วนท้วนสมบูรณ์จนดูตัวกลมสั้น ขนปุกปุยนุ่มละมุน ฝ่าเท้าเนียนนิ่ม ซุกซน ไม่มีหยุดนิ่ง วิ่งแกว่งหางกระดุกกระดิก ดมโน่นดมนี่ สำรวจทุกสิ่งทุกอย่างไปทั่วระเบียงบ้าน ซึ่งวันนั้นใช้เป็นที่ต้อนรับสมาชิกใหม่ทั้งสอง

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตก่อให้เกิดความผูกพัน ความผูกพันก่อความรักและความห่วงใย หมาทุกตัวที่ริเริ่มนำมาเลี้ยง รวมถึงขนมปังและเปียกปูน ทุกคนในบ้านรู้สึกเช่นนี้ไม่ต่างกัน ซึ่งไม่ค่อยถูกต้องตามหลักพุทธศาสนา ผู้ปรารถนาให้คนพ้นทุกข์ ความรัก ความผูกพัน หรือความรู้สึกที่เกิด มักเริ่มต้นด้วยความสุข แต่ลงท้ายย่อมไม่พ้นความทุกข์ใจ

หมอทั้งที่คลินิกและในยูทูบให้ความรู้เกี่ยวกับโรคร้ายของสัตว์ ว่าความผิดปกติซึ่งเกิดขึ้นที่ตับ มักไม่แสดงอาการให้เห็นล่วงหน้า หมายถึงไม่มีอาการนำมาให้รู้ก่อน จนผู้เลี้ยงสังเกตได้ อาการก็มักจะรุนแรงแล้ว ทั้ง ๆ ที่สุนัขยังเล่น กินอาหาร ยังสดใสร่าเริงเหมือนกับทุกวัน แต่ความผิดปกตินั้น อาจก่อตัวและค่อยดำเนินจนสะสมพอกพูนมาระยะหนึ่งแล้ว 

เปียกปูนเป็นดั่งที่ว่ามาทุกประการ หลังขนมปังจากไปอย่างไม่รู้สาเหตุ เริ่มจากไม่กินอาหารเช้าอยู่สองวัน พอเข้าวันที่สามภรรยาสังเกตเห็นความหนักหนาสาหัส จึงตัดสินใจจะพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา พลันจูงขึ้นรถอย่างที่เคยทำ ความพยายามจะก้าวขึ้นรถในยามเจ็บป่วย อาจเป็นการกระตุ้นให้ใช้พละกำลังเกินขีดความสามารถ..ขนมปังสิ้นใจขณะพยายามจะก้าวขึ้นนั่นเอง 

จึงมีความตั้งใจจะพาเปียกปูนไปตรวจร่างกายโดยละเอียดหลังการตายของขนมปัง เพื่อเป็นการป้องกัน สักสามสัปดาห์จากนั้น จึงไปพบแพทย์ที่คลินิก สิ่งน่าตกใจจากหมอระบุว่า ค่าตับของเปียกปูนสูงมาก แถมตัวเหลืองหรือมีอาการดีซ่าน ซึ่งเราเองไม่สามารถสังเกตเห็นได้เลยด้วยสายตาของผู้เลี้ยง ที่รู้มาก่อนบ้างคือฉี่ของเปียกปูนมักมีสีเหลืองเข้ม และถ้านึกย้อนไปฉี่ขนมปังก็เข้มเช่นนี้

ค่าตับและค่าสารสีเหลืองในเลือดที่สูงกว่าปกติ หรืออาการดีซ่านของเปียกปูน หมอแนะควรเร่งให้น้ำเกลือเพื่อขจัดสารสีเหลืองออก ด้วยการอยู่รักษาตัวที่คลินิก อาการและค่าของสารในเลือดต่าง ๆ จึงค่อยดีขึ้นเป็นลำดับ จนเข้าสู่วันที่สี่ของการรักษา หมออนุญาตให้เปียกปูนกลับบ้านได้ พร้อมให้ยามากินต่อ โดยนัดหมายให้มาเจาะเลือดตรวจดูพัฒนาการเป็นระยะ ๆ

ผลเลือดที่ตรวจครั้งต่อ ๆ มา แม้จะดีขึ้น แต่ยังต้องกินยาต่อ จนเกือบสองเดือนนับจากเริ่มการรักษา น่าจะสักอาทิตย์เห็นจะได้ก่อนที่ยาจะหมด ซึ่งครบกำหนดต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดอีก ขณะอาการเปียกปูนก็ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ความสดใส ร่าเริง ที่ไม่เห็นมานาน เริ่มกลับมา ทั้งเสียงเห่า ความตื่นตัว การวิ่งหยอกล้อเราเมื่อพาไปเดินเล่น..

แต่แล้วความหวังและการรอคอยจะเห็นเปียกปูนหายเป็นปกติต้องดับวูบ เมื่อสังเกตเห็นตาขาวเปียกปูนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอีกแล้ว จู่ ๆ อาการดีซ่านก็กลับมา ทั้งที่พยายามกินยาจนเกือบจะครบตามกำหนด อาการอื่นก็ดีขึ้นมาก รีบนำเปียกปูนไปพบแพทย์ก่อนวันนัดทันที การรักษาโรคเกี่ยวกับตับตามที่หมอเคยวินิจฉัยเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

วันสองวันเท่านั้นที่เปียกปูนยังเทียวไปคลินิกได้ ด้วยการมากินยาและให้น้ำเกลือที่บ้าน จากนั้นอาการทรุดลง อาเจียนแทบจะหมดไส้หมดพุงอยู่สองสามรอบ หมอฉีดยาลดไข้และแก้อาเจียนให้ กลับมาบ้านค่ำนั้นเปียกปูนหอบหายใจแรงไม่หยุดและค่อยหนักขึ้น กระสับกระส่ายจนนอนไม่ได้ เห็นอยากจะเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง แต่ก็ไม่มีแรง แม้แต่จะขยับแข้งขยับขาตัวเอง

เช้ามืดวันรุ่งขึ้น รีบโทรศัพท์ปรึกษาหมอ เพื่อพาเปียกปูนไปรักษาโดยด่วน ปกติหรือทุก ๆ ครั้ง เมื่อได้ขึ้นรถ สีหน้าแววตาเปียกปูนจะตื่นเต้นและเริงร่ามาก แม้แต่เมื่อวานที่ดูแย่เพราะอาเจียนออกมาหลายรอบ แต่การรีบไปหาหมอเช้านี้ เปียกปูนก้าวขึ้นรถเองไม่ไหวแล้ว ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง อดหลับอดนอนมาทั้งคืน พอเห็นถอยรถมารับ ทำได้แค่ลืมตามอง ส่ายหางไปมาช้า ๆ บอกความพึงพอใจ

การรักษาที่คลินิกเปียกปูนต้องให้น้ำเกลือตลอดเวลา วันสองวันแรกไม่รู้ตัวด้วยฤทธิ์ยา ร่างกายแทบไม่ไหวติง เพราะขยับเขยื้อนไม่ได้มาตั้งแต่อยู่บ้านแล้ว วันถัดมารู้สึกตัวมากขึ้น ลืมตา รับรู้และตอบสนองด้วยการโงหัวขึ้นมาทักทาย พูดคุย จูจุ๊บกันได้อย่างที่เคยทำ ทว่าเดี๋ยวนี้สายตาเปียกปูนเต็มไปด้วยความหม่นหมอง สิ้นหวัง ทุกครั้งที่บอกว่าจะกลับ มักผินหน้ามองมาทางเราจนลับตา

สองสามวันสุดท้าย เปียกปูนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน สายตาเหลือแต่ความว่างเปล่า เหม่อลอยไร้จุดหมาย ไม่เหมือนวันก่อน ๆ เมื่อไปหาในทุกเช้าบ่ายจะแสดงอารมณ์ยินดีให้เห็น หมอบอกจากฤทธิ์ยาแก้ปวดและยาอื่น ๆ ที่ค่อยทวีจำนวน ทำให้การรับรู้ไม่เหมือนเดิม คงมึน เบลอ คล้ายคนป่วยที่ได้รับมอร์ฟีนเข้าไปเต็มพิกัด

รวมแปดคืนที่ความรู้ทางการแพทย์พยายามยื้อชีวิตเปียกปูนไว้ ช่วงสายของวันที่เก้า มีอาการถ่ายเหลวดำ ฉี่ไม่ออก ทั้งที่สวมท่อสวนไว้ตลอดเวลา น้ำในร่างกายกรูออกมาคลั่งช่องท้อง จนบวมอย่างเห็นได้ชัด หมอบอกด้วยความห่วงใยปลายเสียงแผ่ว “การทำงานของอวัยวะเริ่มล้มเหลว ลุกลามไปยังไต ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการกรองของเสีย น่าจะภายในวันนี้ ต้องทำใจ..”

วันก่อนสายลมแรงพาขนมปังและเปียกปูน พร้อมความสุขสมหวังมามอบให้ถึงบ้านกลางท้องทุ่ง วันนี้สายลมแรงยังคงโบกสะบัดหอบเอาชีวิตเปียกปูนลับหายไปไม่รู้หนไหน ทิ้งร่องรอยการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่ง ซึ่งเป็นนิรันดร์ ไว้ให้เรียนรู้!

หมายเลขบันทึก: 714385เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2023 10:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 กันยายน 2023 18:35 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

-สวัสดีครับครู-ตามไปอ่านใน Fb แล้ว 1 รอบ-ดูแลอย่างดีและเต็มที่แล้วนะครับ-ณ ตอนนี้บ้านไร่ของผมก็ไม่ได้เลี้ยงสัตว์อะไรแล้ว ในช่วงแรกที่มาอยู่บ้านไร่ใหม่ ๆ ก็จะเลี้ยง “แม่นิ่มนวล”หมาน้อยที่มาด้อมๆ มองๆ ก็เลยเลี้ยงไว้ แม่นิ่มนวล เก่งมากๆ ครับ สามารถกัดงูได้แบบสุดยอด มีลูกน้อยออกมาให้เราได้ชื่นชมรุ่นแรกชื่อ ม้า นิล มัง กร แล้วแม่นิ่มนวลก็จากไปด้วยโรคประจำตัว…รู้สึกใจหายเวลาเค้าไม่สบาย ตัวสุดท้ายที่จากไปก็คือเจ้านิล หลังจากหมดเจ้านิลแล้ว ผมก็ไม่นำมาเลี้ยงอีกเลยครับ คงเป็นเพราะใจไม่พร้อมเวลาต้องจากกันครับ…

รู้สึกอย่างนั้นเลยเหมือนกันครับ เคยฟังผู้มีประสบกาณ์มาก่อนบ้างในเรื่องเหล่านี้ แต่ก็ไม่เข้าใจ มาเข้าใจจริง ๆ ก็เมื่อประสบด้วยตัวเองนี่เอง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เลี้ยงสัตว์และคงจะต้องเป็นครั้งสุดท้ายแล้วล่ะครับ..ขอบคุณมากครับคุณเพชร

I have generations of dogs as friends and protectors for over 40 years. I value their friendship and their devotion to (our) family’s quality of life. I wish many of them could have lived longer to see me in my older age, too. I remember them.

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท