หมายถึง ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่า สภาพอาการเจ็บป่วยอยู่ในระยะลุกลาม เรื้อรัง หรือเข้าสู่ระยะท้ายๆ ของโรคซึ่งไม่มีวันรักษาให้หายได้ โดยมากจะมีชีวิตอยู่น้อยกว่า 1 ปี
หมายถึง การดูแลทางการแพทย์การพยาบาลทุกชนิด รวมถึงการดูแลทางด้านกาย จิต อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ ตามความต้องการของผู้ป่วย ตลอดจนการดูแล ครอบครัวผู้ป่วยจากความโศกเศร้า เนื่องจากต้องสูญเสียผู้ป่วยไป
เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติสามารถใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีความสุขสบายทั้งทางร่างกายและจิตใจ สามารถจากไปอย่างสงบ สมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
อ้างอิง : คู่มือประชาชน การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง (Palliative Care) ของ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
เข้าถึงได้จาก : https://www.rama.mahidol.ac.th/palliative/sites/default/files/public/Pallative%20care.pdf
(รูปภาพ : https://rvnahealth.org/news/a-primer-on-palliative-care/)
การดูแลแบบประคับประคองเป็นการดูแลควบคู่ไปกับการรักษาหลัก โดยมีหลักการที่สำคัญ ดังนี้
อ้างอิง : การดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) สำหรับผู้ป่วยและครอบครัว
เข้าถึงได้จาก : https://www.phyathai.com/th/article/3214-การดูแลแบบประคับประคอง
(รูปภาพ : https://silverbellhomestead.com/occupational-therapy-what-is-it/)
ทำหน้าที่ในการฟื้นฟูคนไข้ที่มีความผิดปกติทางด้านร่างกาย และจิตใจ รวมไปถึงช่วยเรื่องการเรียนรู้ และพัฒนาการของเด็กให้สมวัยอีกด้วย โดยวัตถุประสงค์ของนักกิจกรรมบำบัดคือ ต้องการให้คนไข้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวัน อย่างดีที่สุดตามศักยภาพของบุคคล เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับครอบครัวและสังคมต่อไปได้
อ้างอิง : นักกิจกรรมบำบัด จาก Mahidol University Careers Service
เข้าถึงได้จาก : https://careers.mahidol.ac.th/occupational-therapist/
“อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังอาจได้ยินเสียงรับรู้การสนทนาแม้ว่าอาจจะไม่สามารถโต้ตอบได้ ครอบครัวสามารถพูดบอกความรัก ความห่วงใย บอกถึงการสะสางสิ่งที่ผู้ป่วยเป็นกังวล ให้ผู้ป่วยได้รับรู้และสบายใจ นอกจากนี้ควรพูดด้วยความเคารพในตัวผู้ป่วย และระมัดระวังการพูดขัดแย้งกันเมื่ออยู่ใกล้ผู้ป่วย”
(อ้างอิง : https://www.phyathai.com/th/article/3214-การดูแลแบบประคับประคอง)
ผู้ป่วยหญิงอายุ 55 ปี ได้รับการวินิจฉัย เป็นมะเร็งเต้านม มีการแพร่กระจายไปยังกระดูกหลายแห่ง ผู้ป่วยยังสามารถช่วยเหลือตัวเองและทำกิจวัตรประจำวันได้ และ ยังไปทำงานได้ ต้องการการช่วยเหลือเป็นบางครั้ง ผู้ป่วยมีอาการปวดขาและสะโพก ได้รับยาเป็นมอร์ฟิน วันละ 60 มิลลิกรัม และ ใช้ยาน้ำมอร์ฟินเสริม วันละ 1-2 ครั้ง พอคุมอาการปวดได้
Biological : ผู้ป่วยหญิงอายุ 55 ปี เป็นมะเร็งเต้านม มีอาการปวดขาและสะโพก
Phycological : ผู้รับบริการยอมรับให้การรักษา / ประเมินสภาพจิตใจเพิ่มเติมว่ายังมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพร่างกายหรือตัวโรคหรือไม่ / ประเมินเพิ่มเติมว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตหรือการทำงานหรือไม่ / สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงยาที่ได้รับว่าส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตหรือการทำงานหรือไม่
Social : ผู้ดูแล ครอบครัว/ทีมสหวิชาชีพที่ดูแล/ ได้รับยามอร์ฟีน 60 มิลลิกรัม / ใช้น้ำยามอร์ฟีนเสริมวันละ 1-2 ครั้ง / สถานที่ทำงาน / โรงพยาบาล / บ้านที่อยู่อาศัย
PPS : 90
ให้คำแนะนำกับผู้รับบริการ
ให้คำแนะนำกับญาติ
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา PTOT344 พฤฒาวิทยาผู้สูงอายุสำหรับนักกิจกรรมบำบัด เขียนโดย นักศึกษากิจกรรมบำบัดชั้นปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 (รุ่น14)
สมาชิก
ไม่มีความเห็น