ความแตกต่างของซีรีส์ และละคร

หลายคนอาจสังสัยว่าซีรีส์กับละครนั้นมีความคล้ายครึ่งกัน อาจจะแยกกันไม่ออก โดยละครในต่างประเทศจะใช้คำว่า Drama ส่วนซีรีส์ที่ความหมายเป็นชุด ลักษณะการออกจึงแบ่งเป็นตอนๆ โดยบทความนี้จะมาแบ่งในความแตกต่างกันของซีรีส์กับละคร รวมไปถึงเรื่องมายาคติที่มีมานานในปะเทศไทยเกี่ยวกับการจำแนกประเภทของละคร และซีรีส์

ด้านมายาคติ

สิ่งที่คนไทยใช้มานานแล้วตั้งแต่สมัยน่านเจ้า ไทยเป็นการละเล่น คำนี้จึงใช้กันมานาน และอ่านเหมาะรวมทั้งซี่รีส์ และละครเป็นหมวดหมู่เดียวกัน ซึ่งเป็นมายาคติที่ใช้เรียกติดปากกันจนเป็นปกติแล้ว ที่ถึงจะแยกไม่ออกแต่ก็เข้าใจกันดี ยกตัวอย่างการจัดหมวดหมู่ของ ละครเกาหลีที่อยู่เกาหลีจะเป็น K Drama แต่พอออนแอร์ในไทยทางแพลตฟอร์มนั้นๆ ก็เรียกเป็น K Series ซะงั้น เพราะอาจเป็นคำที่อาจเข้าใจมากกว่า จากการเรียกว่า ซีรีส์เกาหลี

เปรียบเทียบองค์ประกอบ

ละครจะมี ละครโทรทัศน์ที่ส่วนมากจะจบไปเลยใน 1 เรื่องโดยไม่มีการสร้างภาคต่อ เว้นแต่ว่าจะมีกระแสนิยมที่มากล้นเหลือหลาย ก็จะสร้างออกมาเป็นอีกภาค ซึ่งหลักๆ จะเน้นดำเนินเรื่องโดยตัวหลัก ซึ่งก็เหมือนกันหนังทุกแบบ แต่สเน่ห์และความดึงดูดละครจะเน้นไปที่ตัวหลักนั่นเอง

 แถมละครก็ยังมีละครออกแบบที่เรียกว่า ละครเพลงด้วย ที่จะมีการร้องเพลงของคู่พระนาง โดยส่วนมาจะเป็นเรื่องรักใคร่ๆ ของคู่พระนาง ความเข้าใจผิดกัน ความอ่อนไหว รวมไปถึงฉากเซอร์วิสคนดูในการทำฉากเลิฟซีนของพระนางด้วย

ส่วนในซีรีส์จะเป็นหนังแบบตอนๆ เช่นเดียวกับละครทีวี แต่มักจะมีเนื่อเรื่องที่ต่อเนื่องและยาวนานเป็น ภาคๆ หรือที่แอพสตรีมมิ่ง เรียกว่า ซีซั่นนั่นเอง ซึ่งการดำเนินเรื่องก็จะคล้ายๆ กับละคร แต่จะมีตัวละครที่มีความน่าสนใจกันเกือบหมด ในเรื่องของปมต่างๆ จะมีความซับซ้อนกันมากขึ้น นั่นเอง แต่ละตัวละครจึงมีคนชื่นชอบ นอกเหนือจากตัวเอก เนื้อหาก็มีความแปลกใหม่กว่าละครมาก

 

ดังนั้นละครกับซีรีย์อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยที่ พล็อตเรื่อง ความโดดเด่นของตัวละคร และความซับซ้อนของปม ซึ่งท่านก็อาจเรียกแบบเดิมก็ได้ว่าซีรีย์เป้นละคร แต่ในต่างประเทศอาจต้องแยกแยะว่า มันต่างกันอย่างไรนั่นเอง