สมรรถนะทางอารมณ์และสังคม (social and emotional skills - SES) มีความสำคัญเพิ่มขึ้นมากในสังคมปัจจุบันและอนาคต จึงเป็นเรื่องที่ครูและวงการศึกษาพึงเอาใจใส่ จัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อเอื้อและท้าทายให้นักเรียนพัฒนาสมรรถนะนี้ใส่ตนตลอดช่วงของการเรียนในโรงเรียน และหลังจากนั้น
สมรรถนะทางอารมณ์และสังคมคืออะไร
สมรรถนะทางอารมณ์และสังคม เป็นทักษะและขีดความสามารถที่ซับซ้อนในการรับรู้และกำกับหรือควบคุมอารมณ์ของตน อันจะช่วยให้ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมีความเหมาะสม เป็นปฏิสัมพันธ์เชิงบวก เป็นปัจจัยสำคัญยิ่งต่อการอยู่ในสังคมอย่างราบรื่นและสร้างสรรค์
อาจจำแนกสมรรถนะทางอารมณ์และสังคมออกเป็น ๕ ส่วนคือ
-
รู้จักตัวเอง (self-awareness) เข้าใจอารมณ์ของตนเอง และผลของอารมณ์นั้นต่อความคิดและพฤติกรรมของตน และเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน ค่านิยม และความต้องการของตนเอง
-
มีความสามารถควบคุมตนเอง (self-regulation) สามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองให้เป็นพฤติกรรมเชิงบวกในสถานการณ์ที่ท้าทาย แสดงอารมณ์ของตนออกมาอย่างสร้างสรรค์ จัดการความอีดอัดขัดข้องใจได้อย่างเหมาะสม สมรรถนะส่วนนี้อาจเรียกว่า EF – Executive Functions
-
รู้จักหรือเข้าใจสังคม (social awareness) เอาใจใส่และเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น แสดงความเอาใจใส่อารมณ์ความรู้สึกและมุมมองของผู้อื่น เอาใจใส่และเข้าใจการสื่อสารด้วยอวัจนภาษา
-
ทักษะด้านปฏิสัมพันธ์ (relationship skills) ธำรงปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้อื่น สื่อสารอย่างสร้างสรรค์ทั้งด้วยวัจนภาษา และอวัจนภาษา จัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ และทำงานกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์
-
ตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบ อย่างมีจริยธรรม สร้างสรรค์ และเหมาะสมต่อบริบทหรือสถานการณ์ในขณะนั้น และในระยะยาว
จะเห็นว่า SES เกี่ยวข้องกับ emotional intelligence
สิ่งที่ครูควรทำเพื่อหนุนให้ศิษย์สร้าง SES ใส่ตน
- สร้างระบบนิเวศเชิงบวกในชั้นเรียนและโรงเรียน ระมัดระวังไม่ให้มีการใช้ภาษาเชิงลบ ไม่มีการข่มขู่รังแก ดูถูกกัน
- เอื้อให้นักเรียนรู้จัก เข้าใจ และฝึก SES
- บูรณาการการฝึก SES เข้ากับทุกบทเรียน
- ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์เชิงบวกในหมู่นักเรียน ได้แก่ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และการร่วมกันสร้างสรรค์ และในขณะเดียวกัน เอาใจใส่ป้องกันไม่ให้มีปฏิสัมพันธ์เชิงลบ
- ให้โอกาสนักเรียนได้ร่วมกันสะท้อนคิด โดยสะท้อนคิดเพื่อทำความเข้าใจอารมณ์ของตนในแต่ละกิจกรรม ครูต้องไม่รีบเร่งจัดการเรียนรู้ให้เสร็จ โดยไม่เปิดโอกาสให้ศิษย์ได้สะท้อนคิดร่วมกันเพื่อทำความเข้าใจอารมณ์
- เอาใจใส่สุขภาพจิตของศิษย์ และมีมาตรการช่วยเหลือแก่ศิษย์ที่ต้องการ
- สร้างความร่วมมือกับพ่อแม่ ในการพัฒนาสุขภาวะด้านอารมณ์และสังคมของนักเรียน โดยทำความเข้าใจเรื่องนี้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อร่วมมือกันสังเกตและหาทางช่วยเหลือ ครูต้องไม่ละเลยบทบาทของพ่อแม่ผู้ปกครอง
- หาทางแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของศิษย์ สู่การแก้ไข SES ด้านลบ
สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ
- สร้างบรรยากาศของการพูดคุยกันอย่างเปิดใจ พ่อแม่พูดคุยกับลูกสบายๆ เกี่ยวกับความรู้สึกของตน
- พ่อแม่ทำตัวเป็นตัวอย่างด้าน SES
- ส่งเสริมให้ลูกไปร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อน เพื่อฝึกปฏิสัมพันธ์เชิงบวก
- ส่งเสริมให้ลูกใช้ความมานะพยายาม เพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนด พ่อแม่ชมความพยายาม มากกว่าความสำเร็จ
- เปิดโอกาสให้ลูกได้เผชิญความท้าทาย หรือความยากลำบาก
สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำ
- ละเลยไม่เอาใจใส่ความรู้สึก หรือสุขภาพจิตของลูก
- ด่วนตำหนิ หรือลงโทษลูก โดยไม่คำนึงถึงรากฐานหรือต้นเหตุของปัญหาความประพฤติที่ไม่เหมาะสมของลูก
การเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม (social and emotional learning – SEL) เป็นเรื่องสำคัญยิ่งในยุคปัจจุบัน ในปัจจุบันชีวิตของเด็กนักเรียนจำนวนมากประสบความล้มเหลว เพราะสาเหตุด้านการเรียนรู้ SEL ไม่พัฒนา เมื่อ SES ไม่แข็งแรง ชีวิตก็ว้าเหว่ ถูกชักจูงไปในทางเสื่อมได้ง่าย
วิจารณ์ พานิช
๙ ม.ค. ๖๗