ไม่ผิดหวัง

ซื้อผลไม้มากิน เปลือกที่ปอกและเมล็ดที่เหลือ ภรรยามักจะนำมาโยนทิ้งให้ย่อยสลายเป็นปุ๋ยของต้นไม้บริเวณใกล้กอกล้วยน้ำว้าข้างบ้าน ที่นี่จึงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไม้ผลนานาชนิดไปโดยปริยาย

กล้ามะละกอ ๓-๔ ต้น ที่เลือกเหลือเก็บไว้ เมื่อโตมากขึ้น ๆ จึงตัดสินใจตัดกล้วยน้ำว้าออกเสียกอหนึ่ง เหลือไว้เพียงกอเดียว เพื่อเปิดโอกาสให้มะละกอ ๓ -๔ ต้นนั้น เจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

ประสบการณ์ปลูกมะละกอของคนไม่เคยปลูกมาก่อนไม่ใช่เรื่องง่าย จากมาเริ่มหัดปลูกต้นไม้ครั้งแรกกันที่นี่ พื้นที่ที่แบ่งปลูกต้นพะยูงไว้กว่า ๒๐ ต้น ได้ปลูกมะละกอแทรกไว้ระหว่างแถวด้วยจำนวนประมาณกัน

น่าจะดินถมใหม่ที่ช่วยให้มะละกอเจริญเติบโตได้ดี จำนวนที่ปลูกกว่าครึ่งโตจนออกดอกออกผล ต้นแรกของชุดแรก ๆ ขนาดผลใหญ่มาก แต่สีสันไม่สวย รสชาติไม่อร่อย ออกไปทางจืดชืดเสียมากกว่า

มะละกอบางส่วนตายไปก่อน ส่วนที่เหลือซึ่งโตขึ้นจนออกลูกให้กินได้ดังว่า ยังคงทยอยตายเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ จนหมดทุกต้น น้ำที่รดแน่ใจว่าไม่ขาด ยิ่งช่วงปลูกต้นไม้ใหม่ ๆ มั่นใจได้เลยว่า เห่อและขยันไม่น้อยกว่าใครอยู่แล้ว (ฮา)

เพิ่งมาถึงบางอ้อในภายหลัง จากคำบอกเล่าของคุณครูยูทูป (ฮา) ปัญหาของเรา น่าจะมาจากการรดน้ำที่มากเกินไป มะละกอชอบน้ำก็จริง แต่ไม่ชอบให้แช่ขัง ต้องระบายเร็ว ปลูกในที่สูงหรือดินปนทราย ไม่อุ้มน้ำ น่าจะดีกว่า..

เมื่อลองพิจารณามะละกอ ๓-๔ ต้น ที่ธรรมชาติอภินันทนาการให้เหล่านี้ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ดูจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ งอกขึ้นเองแท้ ๆ แรก ๆ ไม่ค่อยได้ดูแลด้วย แต่กลับเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่นานเท่าไหร่ก็ติดลูกให้กิน

ที่น่าประหลาดใจและเป็นความโชคดีอย่างยิ่งก็คือ นอกจากมะละกอที่สุกสีจะสวยแล้ว เนื้อยังแน่น เนียน และหวานมาก ๆ นึกดูเอง ถ้าจะไปหาซื้อตามร้านขายผลไม้ให้ได้คุณภาพเท่านี้ คงต้องเลือกเฟ้นอย่างที่สุดแล้วเท่านั้น

นี่แหละหนอ! ถ้าเริ่มจากคาดหวัง สุดท้ายอาจเป็นความผิดหวังก็ได้ แต่ถ้าเริ่มจากไม่คาดหวัง ก็ไม่มีโอกาสผิดหวังเลย