ผมเล่าประสบการณ์รอบแรก (ให้ยา ๖ ครั้ง) ไว้ที่ (๑) และรอบสอง (ให้ยา ๓ ครั้ง) ที่ (๒)
ครั้งที่ ๑ รอบ ๓
หมอนัดวันจันทร์ที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๗ ก่อน ๑๒.๓๐ น. ผมไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อย โดยในตอนเย็นวันที่ ๑๐ ผมไลน์ไปเรียน อ. หมอสิทธิพรว่าวันจันทร์ผมจะไปรับ บีซีจี ตามนัด เวลา ๑๒.๑๕ น. ท่านตอบรับทราบ และท่านก็มาที่ห้องบำบัดเวลานั้น เวลา ๑๒.๓๐ น. ผมก็ได้รับบีซีจีอยู่ในกระเพาะปัสสาวาะเรียบร้อย
เนื่องจากช่วงนั้น อาจารย์หมอประเวศ เข้ารับการผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจ เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ผมจึงถือโอกาสไปเยี่ยมท่านที่ชั้น ๗ ตึกนวมินทร์ ไปพบ อ. หมอจันทพงษ์อยู่ด้วย อาจารย์คุยเสียงดัง และเป็นสาระเรื่องแนวทางพัฒนาสังคมและโลกที่ปัจจุบันเดินผิดทาง ผิดธรรมชาติ ท่านถามเรื่องการดำเนินการของ สช. ตามที่ท่านให้การบ้านไว้
นั่งคุยสักพักผมก็ลากลับเพื่อให้ท่านได้พักผ่อน กลับถึงบ้านราวๆ บ่ายสองโมง รีบดื่มน้ำเป็นการใหญ่ เพื่อจะได้ไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
การถ่ายปัสสาวะหลังจากนั้นปกติดี แต่ตอนสุดมีลมออกมาปุดๆ หลายปุด ในการถ่ายปัสสาวะ ๒ ครั้งแรก หลังจากนั้นไม่มีลมอีก แต่เวลาฉี่รู้สึกปวดหรือระคายในลำกล้อง และตกค่ำรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว แต่ผมไม่ได้กินยาใดๆ ตื่นเช้าวันที่ ๑๒ ก็ยังรู้สึกตะครั่นตะครอคล้ายมีไข้ต่ำๆ จึงไม่ได้ออกไปเดินออกกำลัง แต่ผมก็ยังออกไปหาหมอฟันตอนเช้า และไปประชุมตอนบ่าย
หมอฟันใส่รากฟันใฟ้ แล้วให้ยา Amoxycillin ป้องกันการติดเชื้อ กับพาราเซตามอลมากินยามปวด ผมกินทันที่ตอน ๙.๓๐ น. ทั้งสองอย่าง และกินพาราอีกทีตอนบ่าย ไม่ทราบว่าเพราะยาแก้ปวดลดไข้นี้หรือเปล่าที่ทำให้อาการตะครั่นตะครอหายเป็นปลิดทิ้ง เช้าวันที่ ๑๓ ผมออกไปเดินออกกำลังได้ตามปกติ รวมทั้งอาการระคายในลำกล้องก็หายไปด้วย
แต่สังเกตว่ากลางวันวันที่ ๑๓ ผมปวดนิดๆ ที่อัณฑะด้านขวาสองสามวินาที หลังจากนั้นอีกราวๆ สิบนาที ปวดที่ท้องน้อย สองสามวินาที เป็นอาการปวดพอรู้สึก ไม่ก่อความทรมานแต่อย่างใด และเกิดแค่ครั้งเดียว
ครั้งที่ ๒ รอบ ๓
วันที่ ๑๘ มีนาคม ผมไปรายงานตัวก่อน ๑๑.๓๐ น. เวลา ๑๒.๒๕ น. ก็ได้ใส่ยา บีซีจี โดยคราวนี้แพทย์ประจำบ้านชื่อ นพ. สิริรัฐ นาคแดง เป็นผู้ใส่ให้ เราคุ้นเคยกันมาแล้วในการให้ยารอบแรก คุณหมอเล่าว่า เพิ่งกลับมาจากไปฝึกงานที่โรงพยาบาลญี่ปุ่นที่ฟูกุโอกะ ๑ เดือน เราคุยกันว่าโรงพยาบาลญี่ปุ่นคนไข้ไม่แน่น ก่อน ๑๓ น. ผมก็ขึ้นรถกลับบ้าน
คราวนี้รู้สึกตะครั่นตะครอค่อนข้างมาก ต้องกินยาพารา และนอนพัก
ครั้งที่ ๓ รอบ ๓
วันที่ ๒๕ มีนาคม ผมไปโรงพยาบาลแต่เช้า เพราะหมอฟันนัดตัดไหมที่เย็บไว้สองสัปดาห์ก่อนในการใส่รากฟันเทียม แล้วไปนั่งทำงานที่ห้องอาหารอาคารศรีสวรินทร์ โดยระวังตัวแจไม่ดื่มน้ำมาก และตอนเช้ามืดก็งดยาขับปัสสาวะที่กินครึ่งเม็ดทุกเช้า กินอาหารเที่ยงที่นั่นแล้วไปรายงานตัวที่ห้อง ๕๑๗ ตามนัด
วันนี้ อ. หมอสิทธิพร ใส่ยาให้เอง และนัดอีก ๓ เดือนไปส่องกล้องวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๗ พร้อมทั้งสั่งยา บีซีจี อีก ๓ ขวดสำรองไว้ แต่ผมยังไม่ได้ซื้อ เพราะต้องรีบเข้าประชุมคณะกรรมการมูลนิธิสดศรีแบบออนไลน์ โดยผมเป็นประธาน กะว่าจะไปซื้อเช้าวันที่ ๑๗ มิถุนยาน พร้อมกันเลย
รอบสามให้ยา ๓ ครั้ง สัปดาห์ละครั้ง แล้วจะเว้นไป ๖ เดือน แล้วให้อีก ๓ ครั้ง ทุกๆ ๖ เดือน จนครบ ๓ ปีในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๙ (หวังว่าจะอยู่จนถึงวันนั้น)
วิจารณ์ พานิช
๑ เม.ย. ๖๖ ห้อง ๑๕๑๐ โรงแรมจอมเทียนบีช
จะรอติดตาม จนถึงได้ยาครบนะคะอาจารย์