ประสบการณ์ไปประชุม PMAC 2025 IOC ที่โกเบ ชวนให้ผมสะท้อนคิดหลากหลายมุม ทั้งในเรื่องส่วนตัวของผม และในเรื่องงานของ PMAC โดยข้อสะท้อนคิดบางส่วนได้เขียนลงในบันทึกตอนก่อนๆ แล้ว
คำว่า “ข้อสะท้อนคิด” ของผม มีความหมายตรงกับ “ข้อเรียนรู้” คือมีทั้งที่พุ่งเป้าไปภายนอกตัวเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้นำไปคิดต่อ และมีทั้งส่วนที่ตัวผมเองรับมาหาทางดำเนินการเพื่อใช้ PMAC เป็นพลังขับเคลื่อนความก้าวหน้าของสังคมไทย ตามพระปณิธานของสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช
เหตุการณ์ในห้องรับรอง ANA บ่ายวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๗ ที่ผมเขียนเล่าไปแล้ว บอกผมว่า เราต้องการ im“ผู้ใหญ่ในสังคม” ที่ผู้คนยอมรับ คอยทำหน้าที่ตีความสาระจาก PMAC IOC นำมาหาโอกาส empower ทีมไทย ให้เข้าสู่ action mode ต่อจาก imagination mode หรือ dream mode
โดยมีการรวมตัวกัน ร่วมมือกัน คิดออกแบบกิจกรรมตามแนวทางของ PMAC ที่ PMAC IOC ตกลงกัน เพื่อหาทางนำเสนอผลเบื้องต้นในบริบทไทยในเวที PMAC เรื่องนั้นๆ อย่างกรณี PMAC 2025 : Harnessing Technologies in an Age of AI to Build a Healthier World ทีมไทยมีผลการทดลองเบื้องต้นตามแนวทางดังกล่าวในที่ประชุมปลายเดือนมกราคม ๒๕๖๘ ยิ่งถ้าได้ชวนประเทศเพื่อนบ้านเช่นลาว กัมพูชา เวียดนา เมียนมาร์ ก็จะยิ่งดี
หากทำเช่นนี้ได้ ก็จะค่อยๆ พัฒนาจากเวทีความคิด สู่เวทีคิดแล้วทำ เกิดผลกระทบอย่างแท้จริงต่อระบบสุขภาพโลก
ไม่ทราบว่า ความฝันเช่นนี้ ไปไกลเกินความเป็นจริงหรือไม่
หากจะดำเนินการตามฝันนี้ ทีม PMAC Secretariat ก็ต้องเพิ่มบทบาท จะดำเนินการอย่างไร
ผมเสนอต่อ ดร. สพ.ญ. อังคณา เลขะกุล หัวหน้าทีม PMAC Secretariat ที่กำลังฝึกปรือวิทยยุทธ เพื่อรับไม้ต่อจาก อ. บุ๋ม ว่า เพื่อให้ PMAC สร้าง impact เชิงนโยบายสุขภาพโลกได้มากขึ้น เราต้องมีข้อมูลของเวทีสุขภาพโลก ที่เป็นเวทีหลักๆ ว่าเขากำลังดำเนินการแนวไหน มีข้อมูลว่าอย่างไร เพื่อเอามาวิเคราะห์ทำความรู้จักเขา และนำมาคิดกลยุทธว่า PMAC จะเข้าไปหนุนหรือร่วมมือกับเขาอย่างไร เพื่อร่วมกับขับเคลื่อนระบบสุขภาพโลก
สรุปได้ว่า จินตนาการเชิงสะท้อนคิดของผม เน้นที่ผลกระทบจาก PMAC ทั้งที่เป็นผลกระทบต่อระบบสุขภาพไทย และที่เป็นผลกระทบต่อระบบสุขภาพโลก
วิจารณ์ พานิช
๒ เม. ย. ๖๗
ไม่มีความเห็น