ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไปโรงพยาบาลสงขลานครินทร์มีนโยบายจะการยกเลิกแฟ้ม opd card โดยจะเริ่มในผู้ป่วยใหม่ก่อน ส่วนผู้ป่วยเก่าให้ค่อยเป็นค่อยไป ในระยะเริ่มต้นอาจพบปัญหาบ้าง คาดว่าเราจะป็นที่แรกในประเทศไทย ที่ลดการใช้กระดาษ ยกเลิกแฟ้ม opd card โดยใช้ระบบบันทึกเป็นระบบอิเลคทรอนิกส์แทน คาดว่าจะลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล ลดที่เก็บopd card ลดการค้นแฟ้ม และอื่นๆอีกมากมาย ............
14-06-2551
การตรวจผู้ป่วยนอก / ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบPaperless ในระยะเปลี่ยนผ่าน
ประเด็นที่เป็นประโยชน์จากการพัฒนาระบบ Paperless
1. ผู้ป่วยได้ตรวจตามเวลานัด/ผู้ป่วยใหม่ไม่ต้องเสียเวลารอแฟ้มในรายที่แพทย์เลือกระบบ Paperless เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลารอแฟ้ม
2. ลดภาระงานกรณียกเลิกการ print out ผลlab ที่มีในคอมพิวเตอร์ทุกชนิด และยกเลิกการ print out รายละเอียดการตรวจในรายที่แพทย์เลือกระบบ Paperless ทำให้มีเวลาดูแลผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น
3. ลดต้นทุนการเบิกสติ๊กเกอร์จากการยกเลิกการ print out ผลlab และยกเลิกการ print out รายละเอียดการตรวจในรายที่แพทย์เลือกระบบ Paperless
4. กระตุ้นให้แพทย์ลงข้อมูลในคอมพิวเตอร์มากขึ้น ทำให้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์มีแนวโน้มสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
5. ลดความซ้ำซ้อนของการทำงานซึ่งเดิมต้อง print out ข้อมูลที่มีอยู่แล้วใน คอมพิวเตอร์ มาติดใน OPD Card ทั้งหมด ทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายค่าสติ๊กเกอร์จำนวนมาก
6. สามารถสืบค้นข้อมูลเพื่อการบริหารและการวิจัยได้ เรียนรู้ได้
ได้มีการพูดคุยกบคนทำงานสรุปพบว่ายังมีปัญหาได้ดังนี้
1. การส่งแฟ้ม OPD Card ในระยะเปลี่ยนผ่าน คณบดีให้แพทย์สามารถเลือกที่จะเข้าระบบ Paperless หรือไม่ก็ได้ เวชระเบียนไม่สามารถทราบได้ว่าแพทย์ท่านใดต้องการใช้ OPD Card หรือไม่ต้องการจึงจำเป็นต้องส่ง OPD Card ราย ในระยะที่ผ่านมาพบว่าส่งบ้างไม่ส่งบ้าง ให้ register ขอเป็นรายๆไปทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบการตรวจและระบบนัดคือ
· ผู้ป่วยไม่ได้ตรวจตามนัด ในกรณีที่แพทย์ไม่สมัครเข้าระบบ Paperless เจ้าหน้าที่ต้อง register เพื่อขอแฟ้ม แฟ้มมาส่งช้ามาก ทำให้ผู้ป่วยและแพทย์อารมณ์เสีย
· เจ้าหน้าที่ของคลินิกต้องเสียเวลา register เพื่อขอแฟ้มใหม่ ซึ่งเป็นงานที่เพิ่มขึ้นจากเดิม ระบบเดิมผู้ป่วยนัดเวชระเบียนจะค้นแฟ้มให้ทุกราย
· ในรายที่แพทย์เลือกระบบ Paperless แต่ยังมีเอกสารที่ยังไม่บันทึกผ่านระบบ HIS เช่นผลตรวจการได้ยิน ผลEKG รูปถ่าย แบบฟอร์มต่างๆ ใบrefer ใบเอกซเรย์ intervention ฯลฯ เจ้าหน้าที่ของคลินิกต้องเสียเวลา register เพื่อขอแฟ้มใหม่ เพื่อนำมาเก็บเอกสารเหล่านี้
2. ระบบการตรวจของแพทย์
· ยังมีแพทย์ประมาณ 40-50 % ยังถนัดที่จะใช้แฟ้ม OPD Card ไม่ถนัดที่จะดูผลการตรวจ / ผล Lab ผ่านคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันยกเลิกการ print ผล Lab ที่มีในคอมพิวเตอร์ แต่อาจารย์แพทย์บางท่านยังให้ print ผล Lab อยู่
· โปรแกรมวาดรูปอยู่ในระหว่างการทดลองใช้ ยังวาดรูปได้ล่าช้า ปลายปากกาใหญ่ไป วาดรูปไม่สะดวก
· ประวัติการตรวจผู้ป่วยไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของเวชระเบียน มีทั้งในคอมพิวเตอร์ และเขียนในกระดาษใน OPD Card มีทั้งพิมพ์และไม่รายละเอียดการตรวจติดในแฟ้ม ทำให้เสียเวลาในการอ่านประวัติเก่ามาก
3. ระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่OPD
· ปรับระบบสื่อสารของพยาบาล / เจ้าหน้าที่ เนื่องจากเดิมเจ้าหน้าที่สามารถสื่อสารกันด้วยข้อมูลใน OPD Card ซึ่งสามารถเปิดดูได้เลยทั้งบริเวณเคาน์เตอร์ หน้าห้องตรวจ และในห้องตรวจ ปัจจุบันถ้าไม่ใช้ OPD Card ต้องเดินมาดูหน้าคอมพิวเตอร์บริเวณเคาน์เตอร์ซึ่งลงโปรแกรมของพยาบาลเท่านั้น
· การจัดลำดับผู้ป่วยเข้าห้องตรวจ เดิมใช้ OPD Card เรียงตามลำดับเวลา เมื่อไม่มี OPD Card ทำใบแทน หรือบัตรแทนเพื่อจัดลำดับคิวเพื่อเป็นสื่อในการเรียกผู้ป่วยเข้าห้องตรวจ
· ระบบการทำงานมีทั้ง 2 ระบบ
· เมื่อไม่มี OPD Card ต้องพัฒนาระบบสื่อสารในการส่งต่อผู้ป่วยทั้งภายในคลินิกและภายนอกคลินิก โดยเฉพาะการส่ง consult ระหว่างคลินิก เจ้าหน้าที่ที่รับ consult ต้องเสียเวลาเปิดดูประวัติการตรวจในคอมพิวเตอร์
· ในรายที่แพทย์เลือกระบบ Paperless แต่ยังมีเอกสารที่ยังไม่บันทึกผ่านระบบ HIS เช่นผลตรวจการได้ยิน ผลEKG รูปถ่าย แบบฟอร์มต่างๆ ใบrefer ใบเอกซเรย์ intervention ฯลฯ เจ้าหน้าที่ของคลินิกต้องเสียเวลา register เพื่อขอแฟ้มใหม่ เพื่อนำมาเก็บเอกสารเหล่านี้ การจัดเรียงเอกสารไม่มีระบบที่แน่นอน
· หน่วยงานที่รับการส่งต่อยังต้องการ OPD Card ทุกราย เช่นการ admit หอผู้ป่วยยังต้องการแฟ้มทุกราย ส่งต่อไปยังห้องผ่าตัด DSC ห้องส่องกล้อง ฯลฯ ต้องแฟ้มทุกรายเสียเวลา register เพื่อขอแฟ้ม
4. ระบบคอมพิวเตอร์ที่สนับสนุนยังไม่ครอบคลุมทุกโปรแกรม มีผลทำให้แพทย์ที่เลือกระบบ Paperless ยังต้องใช้แฟ้ม OPD Card เพื่อให้ระบบ Paperless สมบูรณ์ยิ่งขึ้นควรพัฒนาโปรแกรมต่อไปนี้
· พัฒนาโปรแกรมสำหรับเจ้าหน้าที่อื่นๆ ( Non MD ) ที่ดูแลผู้ป่วยเช่น นักตรวจการได้ยิน ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ผู้ป่วย นักกายภาพบำบัด ฯลฯ เดิมสามารถเขียนลงใน OPD Card ให้สามารถลงข้อมูลในระบบ HIS ได้
· พัฒนาโปรแกรมสำหรับ Scan เอกสาร / รูปภาพ ที่ส่งมาจากโรงพยาบาลอื่นๆ หรือเอกสารที่เป็นแบบฟอร์มต่างๆที่ยังไม่ลงในระบบ HIS
· พัฒนาโปรแกรมการลงข้อมูลการrequest/การรายงานผลในส่วนที่ยังใช้กระดาษเช่น รูปถ่าย แบบฟอร์มต่างๆ ใบเอกซเรย์ intervention แบบฟอร์มการตรวจคลินิกเฉพาะโรค การคัดกรองพัฒนาการของเด็ก ฯลฯ เข้าในระบบ HIS
ขอบคุณที่สนใจค่ะ แล้วจะเก็บมาเล่าให้ฟังนะคะ
สนใจค่ะ เพราะทุกันนี้ OPDcard บางรายหนาเกินไป แต่อาจมีปัญหาบ้างในการทำงานใหม่ ๆ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ยกเลิกการบันทึกลงกระดาษ ใช้การบันทึกลงคอมพ์ เวลา audit ทำอย่างไรครับ
และกรณีที่องค์กรภายนอกเช่น สกส., ปกส. ขอรายละเอียดเพิ่มเติมทำอย่างไรครับ
ฟังดูดี แต่ในทางปฏิบัติทำได้ยากมาก เพราะไม่สะดวกในการทำงานในห้องทันตกรรมเลย
เทคโนโลยีการสื่อสารกับการแพทย์ดูจะเป็นเรื่องที่ไปด้วยกันได้อย่างเหมาะเจาะ เพราะนอกจากวงการแพทย์จะต้องนำเทคโนโลยีมาใช้ในเรื่องการพัฒนายา และการรักษาโรคแล้ว ยังสามารถช่วยให้การให้บริการรวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย ค่ะ
ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ก็มีการใช้ระบบบันทึกข้อมูล
เป็นเป็นแฟ้มอิเลคทรอนิกส์มาเกือบ 6 เดือนแล้วค่ะ
โดยเป็นการแสกน OPD card ลงฐานข้อมูลคอมพิเตอร์
ทางหน่วยสารสนเทศที่รพ.พัฒนาปรับปรุงให้เข้ากับใช้งานมาโดยตลอด
ตอนนี้ ใช้สะดวก และรวดเร็วขึ้นมาก
แต่อาจยังต้องพัฒนาโปรแกรมการลงข้อมูลของแพทย์ในอนาคตค่ะ
เพราะขณะนี้เป็นไฟล์อิเลคทรอนิกส์ที่ได้มาจากการใช้กระดาษอยู่
ยินดีที่ได้มาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณลักษมี
ผมในฐานะคนไข้ ผมต้องการพบแพทย์ มากกว่าที่จะมาเสียเวลากับเรื่องนี้ครับ ทางที่ดีควรปรับปรุงระบบพร้อมกันทั้งประเทศเลยครับ
บทความนี้โดนใจคนทำงานมากๆค่ะ ตอนนี้เริ่มพัฒนาในASTHMA CLINIC/คนไข้เด็กที่มีการนัดหมาย สู้ๆค่ะ ให้กำลังใจคนทำงานค่ะ#2P#เราและเขาปลอดภัย