ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนเรื่องทำความดีเพื่อถวายในหลวงให้ได้ซัก 80 ความดี ในตอนนี้ก็เพิ่งเขียนได้แค่ตอนที่ 4 เอง อันที่จริงก็มีเรื่องที่น่าจดจำเยอะแต่ว่าพักนี้อิฉันเองรู้สึกว่าตัวเองจะสูงขึ้นแถมมีขนขึ้นเยอะผิดปกติ
อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อย่าเพิ่งคิดส์มาก ห้ามคิดนอกลู่นอกรอยเด็ดขาด เพราะอิฉันกะลังจะบอกว่าตัวเองน่ะ
"ขี้เกียจสันหลังยาว + ขี้เกียจจนตัวเป็นขนแย้ววว...."
สำหรับความดีในตอนนี้ เป็นเรื่องที่ดิฉันเต็มใจไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับคนนอกสถาบัน โดยที่ดิฉันได้รับการติดต่อจากคุณนภัสกุล ซึ่งเป็นหนึ่งใน KM Team ของสถาบันทันตกรรม ให้ไปเป็นผู้ให้และไปเล่าเรื่องเทคนิคการเป็นคุณลิขิตให้กับสถาบันทันตกรรม ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านรั้วติดกับบำราศฯนี่เองแหล่ะค่ะ
แต่...อิฉันก็เกิดความเครียด...ว่าจะพูดอะไรดี ...
...จะต้องเตรียมเรื่องอะไรไปเล่านี่ ...
...วิตกจริต และเป็นทุกข์ไปล่วงหน้าตามประสาคนสติแตก ปัญญายังไม่เกิด แถมด้วยติดภาระงานประจำของตนเองอีก
เกิดสติและตั้งหลักได้ก็จากการมาทบทวนถึงบันทึกต่าง ๆ ที่ตนเองอดตาหลับขับตานอนบันทึกใน G2K "ชุมชนคนชุดเขียว" ความคิดที่สว่างวาบเข้ามา..และนั่นแหละ โป๊ะเช๊ะ ....ช่ายเลย...บอกกับตัวเองทันทีว่า...เอ้า..ฮึบ...สู้ว๊อย...
"..เราก็เล่าเรื่องที่เราบันทึกมาให้เขาฟังสิ เขาต้องการฟังสิ่งที่เป็นประสบการณ์จริงนะ ไม่ใช่ทฤษฎี..."
และในวันที่ 26 มกราคม 2550 เวลา 13.00 - 16.00 น. ดิฉันก็ไปปรากฏกาย ณ สถาบันทันตกรรมและพบกับ"พลพรรครักลิขิต"
อู๊ย....ไม่ต้องงงค่ะ อิฉันตั้งชื่อให้กับชาวทัตกรรมที่สนใจและรักการลิขิต เพื่อให้กิ๊บเก๋และน่าสนใจเล่น ๆ ค่ะ ซึ่งดิฉันก็แอบเห็นสีหน้า แววตาของหลายคนดูวิบวับ ๆๆๆ ดูท่าว่า..จะสนใจชื่อที่ดิฉันตั้งให้ซะแล้ว
เมื่อจบ Table Talk เรื่องเทคนิคการเป็นคุณลิขิต ดิฉันได้ให้สมาชิก "พลพรรครักลิขิต" ลองฝึกทักษะการเป็นคุณลิขิตด้วยการหาอาสาสมัครให้สมาชิกเล่าเรื่องใดก็ได้มาเป็นตัวอย่างสัก 1-2 เรื่อง และในขณะที่อาสาสมัครนั้นเล่าเรื่องก็ให้สมาชิกคนอื่นฝึกทักษะการฟังและจับประเด็นเพื่อฝึกการจดบันทึก ก็มีน้องคนหนึ่งอาสาเล่าเรื่อง ความว่า...
"....หนูรู้สึกประทับใจกับเพื่อนที่ทำงานชั้น 3 กับชั้น 4 ที่ทำงานกันช่วยเหลือกันมาตลอด ถึงแม้ว่าบางครั้งก็อาจจะมีเรื่องที่ไม่ชอบใจกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีงานมาชิ้นหนึ่ง ก็จะเห็นเจ้าหน้าที่ของชั้น 3 และชั้น 4 ช่วยกันทำงานจนสำเร็จทุกครั้งเลย ซึ่งเป็นเพราะเจ้าหน้าที่เขารักกัน ทำให้หนูประทับใจและอยากให้หน่วยงานอื่นเป็นอย่างนี้บ้าง..."
จากนั้นดิฉันให้ทุกคนลองจับประเด็นว่าได้ประเด็นหรือ/ใจความสำคัญอะไร คุณเชื่อไหมคะว่าคนทันตกรรมมีทักษะการจับประเด็นสุดยอดจริง ๆ ค่ะ เขาพากันตั้งชื่อให้เรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน มีทั้ง..
นอกจากนี้ทุกคนยังเกิด ปิ๊ง..!! ..แว๊บ ได้พล็อตเรื่องที่จะนำไปเขียนบันทึกได้อีกอย่างหลากหลาย หลายคนสนใจที่จะสมัครเป็นสมาชิกของ G2K แถมได้ตั้งชื่อบล็อกของตนเองก่อนที่จะได้สมัครซะอีก งานนี้คุณหมอกฤษดาต้องเป็นพี่เลี้ยงให้กับสมาชิกที่เหลือแล้วล่ะค่ะ
สำหรับดิฉันเองนั้น...ก็รู้สึกอิ่มเอม ดี๊ด๊า...อย่างบอกไม่ถูก 3 ชั่วโมงที่ดิฉันได้นั่งพูดคุยเล่าประสบการณ์การบันทึกตรงกับ คุณหมอกฤษดา ปัญจนุวัฒน์ และสมาชิกประมาณ 10 กว่าคน เป็นกลุ่มเล็ก ๆ ที่น่ารักและอบอุ่นอย่างยิ่ง ความสำเร็จของเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ เกิดจาก...
ท้ายสุดขอบอกชาวทันตกรรมทุกคนที่มาร่วมพบปะพูดคุย Table Talk อย่างเป็นกันเองว่า " พวกคุณยอดเยี่ยมมากค่ะ"
คุณเม็กดำ 1
อ.หมอนนท์คะ
กาลครั้งนี้สอนว่า...เมื่อสติแตก อย่าให้สติเตลิด ต้องค่อย ๆ ทบทวน
ปัญญาย่อมเกิดภายหลังสติแตกค่ะ อิอิอิ...
พี่เล็กอย่าตรากตรำทำงานหนักมากนะคับ หมูเห็นเงียบๆไป เป็นห่วงมากๆคับ
สวัสดีคับพี่เล็กที่คิดถึง^_________________^
สวัสดีค่ะ
บันทึกพี่เล็กมีชีวิตชีวาไม่เคยเปลี่ยนเลยนะคะ