nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

หนังดีที่น่าดู “The Pursuit of Happyness”


เคยถามตัวเองสักครั้งหรือไม่ว่า นิยาม “ความสุข” ของคุณคืออะไร

                คริส  การ์ดเนอร์  เซลล์แมนลูกติดที่ล้มเหลวในอาชีพ  เมียทิ้ง ไร้บ้าน ต้องหอบหิ้วลูกชายอายุ ๕ ขวบตะลอนไปแย่งที่ซุกหัวสำหรับคริส นอนตามบ้านพักอนาถาของรัฐ    นิยามความสุขของเขาคือ  การที่บริษัทโบรคเกอร์บอกรับเขาเข้าทำงาน หลังจากการฝึกหัดงานอย่างยาวนาน  นั่นหมายถึงว่าเขาจะมีบ้าน มีอาหารสำหรับตัวเองและลูก               

      หนังเริ่มเรื่องด้วยการบอกผู้ชมว่า  หนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของผู้ชายคนหนึ่ ง               

      คริส  การ์ดเนอร์ เป็นเซลล์แมนขายเครื่องสแกนกระดูก  ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาเข้าไปพบลูกค้าที่เป็นหมอแล้วถูกปฏิเสธ  หนี้สินมากมายรอจ่าย   นานวันเข้าเขากลายเป็นคนที่ล้มเหลวในสายตาเมีย วันหนึ่งเธอก็ทิ้งเขาไป  เหลือเพียงลูกชายให้เขาดูแล  วันนั้นเองที่คริสถูกตามไปสัมภาษณ์ที่บริษัทโบรคเกอร์ใหญ่เพียงเพื่อจะถูกคัดตัวเป็นพนักงานฝึกงาน ๒๐ คนที่ไม่ได้รับเงินตอบแทนจากจำนวนผู้สมัครนับพัน  และมีเพียง ๑ คนจาก ๒๐ คนเท่านั้นที่จะถูกเลือกเข้าเป็นพนักงาน

        ช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดสำหรับคริสกับลูกชายคือช่วงฝึกงาน คริสถูกไล่ออกจากบ้าน ไปเช่าห้องในโรงแรมก็ถูกไล่ออกจากห้องพัก  เงินก้อนสุดท้ายในบัญชีถูกสรรพากรยึด   กลางวันเขาไปฝึกงานที่บริษัท ตกเย็นเขาหอบหิ้วลูกชาย กระเป๋าเสื้อผ้า ไปอาศัยนอนตามบ้านพักอนาถา  คืนหนึ่งเขากับลูกชายต้องซุกตัวนอนในห้องน้ำของสถานีรถใต้ดิน  คริสไม่เคยยอมแพ้ และมุ่งมั่นไปข้างหน้าด้วยความเชื่อว่าเขาจะต้องเป็นพนักงานบริษัทโบรคเกอร์ตามที่เขามุ่งหวังให้ได้  วันแล้ววันเล่าที่คริสต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ  และแล้ววันของเขาก็มาถึง

       พลันที่ถูกเรียกเข้าไปพบผู้บริหารและได้รับรู้ว่า  พรุ่งนี้เขาจะเดินเข้าบริษัทในฐานะพนักงานคนหนึ่ง  น้ำตาแห่งความสุขเอ่อคลอ  หนังจบลงที่ตรงนี้  และนี่คือนิยามแห่งความสุขที่คริส การ์ดเนอร์แสวงหา

        คริส  การ์ดเนอร์มีตัวตนจริง  หนังบอกเล่าการต่อสู้เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายชีวิตของชายคนหนึ่ง  ที่หลังจากนั้นไม่นาน  เขาเป็นเจ้าของธุรกิจโบรคเกอร์  และมีฐานะในระดับเศรษฐี

       หนังให้กำลังใจสำหรับคนที่ไม่ยอมต่อสู้  คนที่ท้อแท้ สิ้นหวัง  คริสพูดกับลูกชายในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดว่า  อยากทำอะไร อยากเป็นอะไร  ต้องคว้ามันมาให้ได้  อย่ายอมให้ใครมาบอกว่านายทำไม่ได้

      ถ้าคุณเป็นนักดูหนัง  คุณจะนึกถึงวิล สมิธ ในบทของตำรวจนักบู้  อารมณ์ดีที่วิ่งไล่ล่าผู้ร้ายอย่างแคล่วคล่อง   คุณจะนึกไม่ออกว่าวิล สมิธ จะสามารถแสดงเป็น คริส การ์ดเนอร์ได้อย่างน่าประทับใจ  กระทั่งได้เสนอชื่อชิงตำแหน่งดารานำชายยอดเยี่ยมบนเวทีออสก้า   นี่เป็นบทที่ดีที่สุดของเขา

      ไปดูกันเถอะค่ะ  แล้วคุณจะเดินออกจากโรงหนังอย่างสุขใจ.

                                                                          บันทึกเมื่ออาทิตย์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๐

หมายเลขบันทึก: 82165เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2007 10:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2014 15:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อยากดูค่ะ  เค้าแสดงกับลูกชายของเค้าเองด้วย
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท