(39)
การรู้เท่าทันการสื่อสาร : ฝึกคนให้รู้จักให้ มีหัวใจแบบ"แม่"
ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอยากฝึกเด็กๆให้เป็น ”…คนดีที่เก่ง...”
ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน ก็(สามารถร่วม)สร้างความรักความผูกพันให้เกิดขึ้นที่นั่น
หรือถ้าที่นั่นเขามีความดี มีความรักความผูกพันอยู่แล้ว ก็อยากให้เด็กๆเป็นคนหนึ่งที่จะร่วมสานต่อความรัก ความผูกพัน ความเอื้ออาทรกัน ให้เข้มแข็งยั่งยืนต่อไป ...เหมือนความรักของแม่กับลูก
ดิฉันเห็นวิธีคิดแบบ "แม่" แล้วทึ่ง ชอบ มีความสุข ดิฉันไม่เคยเป็นแม่คน แต่เคยเห็นคนเป็นแม่มานับคนไม่ถ้วน ความเป็นแม่ ช่างเต็มไปด้วยความอบอุ่นละเอียดอ่อน
ถึงแม้จะมีความเห็นแก่ตัวของปุถุชนอยู่บ้าง แต่ก็มีความเสียสละคละอยู่ในความเห็นแก่ตัว (เช่นการคิดถึงลูกของตัวเองก่อนลูกคนอื่นบ้างในบางครั้ง) เป็นความเห็นแก่ตัวตามธรรมชาติที่รับได้... ดิฉันคิดเอาตามที่เห็นว่า หัวใจของความเป็นแม่ คือการให้อย่างมีวุฒิภาวะ
ความเสียสละที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นจะเกิดตามมาเองเมื่อมนุษย์ได้เรียนรู้ ว่าตนพร้อมจะเสียสละเพื่ออะไร
เพื่อการสร้าง เพื่อการให้ หรือเพื่ออะไรอีกล้านแปดที่ไม่ใช่การทำลายแบบขาดปัญญา
ขออภัยด้วยเถิดนะคะ สำหรับท่านที่เห็นแย้งหรือต่างไปจากนี้ ในประเด็น"ความเป็นแม่"ของปัจเจก ที่มิได้เป็นไปตามอุดมคติเสมอไป คือว่าจากใจจริง....ดิฉันเข้าใจ... แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบจะยกอะไรมาเป็นภาพตัวแทนให้ชัดไปกว่านี้
.............................................................................
ปรับเพิ่มเติมจาก เว็บไซต์วิชาการด็อตคอม กระทู้ การรู้เท่าทันการสื่อสาร (Communication Literacy) ความเห็นเพิ่มเติมที่ 71 (11 ก.พ. 2550)
เคยเอาความเป็นแม่ ไปแก้ปัญหาในหน่วยงานค่ะ (เบี่ยงเบนประเด็น??จนน้อง ๆ งง)
เขาจะเข้าชื่อกันเพื่อ(ฟ้อง)กล่าวโทษ คน ๆ หนึ่งต่อหัวหน้า นัยว่า ทนไม่ได้แล้ว ขอเซ็นชื่อ..ออก อย่างนี้ต้อง..เอาออก
ดิฉันใช้ความคิดจนเกือบ(สติ)แตกอยู่สองสามวัน
ถึงวันรวมพลจริง
เรารีบกล่าวนำก่อนแว่บหนึ่งว่า
"เราอยู่กันมานานแล้ว เหมือนครอบครัว"
"สมมุติเราเป็นแม่..พี่ใหญ่ก็ได้เอ้า ลูกคนหนึ่ง แม่ก็อยากสอน อยากสั่ง แต่หวังว่าคงไม่หวังให้เราตีเขาจนแตก..นะ"
หลังจากนั้น.................
..............
.............
......
...........คือบางคนก็..ฉอด ฉอด ฉอด สั้น
บางคนก็ยาว.....................................
"เอาเลย ไหนขาดประเด็นไหนอีกบ้าง"
"ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ณ ที่นี้ก็มีลูก(เป็นแม่)กันหลายคน"
"เอ้าลองพูด แสดงหน่อยว่าจะสอนเขาคนนี้ อย่างไร"
................................อีกเยอะ............................
ทว่า พอจะปิดประชุมย่อยและลับ
มีคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เรา หยิบยกคำพูดเรามา พูดซ้ำว่า
"เอาเถอะนะ ให้โอกาสเขาอีกสักหน่อย วันนี้ก็เพิ่งดุลูกที่บ้านมา..พี่ขอบายรายนี้ไปก่อน" โอ เข้าทางเรา!!!
จวบวันนี้ เจ้าตัวปัญหาก็ยังอยู่กับพลพรรค อย่างชื่นมื่น
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย..อิ อิ
เม้นท์กลาง ๆ ค่ะ
ไชโย้... คุณแม่ตัวจริงมาแล้ว : )
น่ารักจังเลยค่ะคุณหมอเล็ก การให้โอกาสและการปรับตัวเข้าหากันนี่น่ารักที่สุดในโลกเลย ...!!.. เพื่อนร่วมงานคุณหมอเล็กโชคดีจัง : )
ความแตกต่างและความขัดแย้งในที่ทำงานเกิดขึ้นได้เสมอจริงๆนะคะ แต่การพูดคุยกันด้วยความพยายามที่จะเข้าใจ และเรียนรู้ที่จะรับกันได้อย่างที่เป็น รวมถึง"พูดคุย"กันจนเห็นทางออก และให้โอกาสกัน(อีกครั้ง)นี่เยี่ยมจริงๆ ทีมงานต้องมีวุฒิภาวะสูงมาก และโชคดีเหลือเกินที่ในหน่วยงาน มีคุณแม่ที่จิตใจดีมาอยูร่วมกัน จึงเข้าใจหัวใจของการให้ เพราะ หัวใจของความเป็นแม่ คือการให้อย่างมีวุฒิภาวะ : )
ขอชื่นชมทีมงานของคุณหมอเล็กด้วยใจจริงนะคะ พี่แอมป์ประทับใจตั้งแต่คราวงานประกันคุณภาพแล้ว คนที่คุยกันได้ ถึงจะขัดกันบ้างแย้งกันบ้าง แต่ก็อยู่กันไปอย่างเข้าใจ มีอะไรก็คุยกัน โดยมี"คนกลาง"ที่เข้าใจคนอย่างนี้ นับได้ว่ามีหัวใจของความเป็นแม่อย่างแท้จริง
... และหน่วยงานนั้น..คือสวรรค์บนดินชัดๆเลยค่ะคุณหมอเล็ก : )