(51)
กว่าดิฉันจะเรียนรู้(แบบเห็นเลาๆ รางๆ)ว่าอะไรคือทางสายกลางในการสร้างคน ก็ปาเข้าไปครึ่งชีวิต......
และก็ไม่ได้แปลว่าจะเดินถูกทางเสมอไป
ทุกครั้งที่ฝึกเด็กๆ ดิฉันจึงต้องบอกพวกเขาให้เข้าใจข้อตกลงเบื้องต้นดังต่อไปนี้ก่อน
หนึ่ง ผู้ที่สอนอยู่นี้ มิใช่มนุษย์ที่ดีพร้อมสมบูรณ์แบบ แต่เป็นคนธรรมดา ที่เต็มใจทำหน้าที่ครู
สอง เป้าหมายของการฝึก อยู่ที่การช่วยสร้างวิธีคิด(การรู้เท่าทันการสื่อสาร) ให้มองเห็นและตระหนักรู้ ถึงความเป็นมนุษย์ที่ดี ในอุดมคติ
แม้เราทุกคนจะมีธรรมชาติของความ รัก โลภ โกรธ หลง ในฐานะปุถุชนเหมือนๆกัน
แต่การตระหนักรู้ถึงความเป็นมนุษย์ที่ดี จะช่วยให้เราครองสติมั่น ไม่ทำสิ่งใดอย่างสุดโต่งไป
......สิ่งนี้น่าจะเป็นคุณแก่ชีวิตเรา......
สาม โดยกระบวนการและวิธีการฝึกนั้น โปรดคิดสงสัยไตร่ตรองไปตลอดทุกขั้นตอน
และสุดท้าย เป็นการยากที่ผู้สอนซึ่งเป็นปุถุชนธรรมดา จะสร้างมนุษย์ที่ดีพร้อมออกมาได้ทั้งร้อย
หากจะโชคดีอยู่บ้างก็แปลว่า ผู้เรียนบางคนมองเห็นหัวใจของการรู้เท่าทันการสื่อสาร และเข้าใจสิ่งที่ฝึกไป
ซึ่งแปลได้อีกว่าเป็นศักยภาพที่ถึงพร้อมของผู้เรียน มิใช่ด้วยความเก่งกล้าสามารถของผู้สอน
ดังนั้น หากในเด็กๆร้อยคน สามารถมองเห็นและตระหนัก ได้สักหนึ่งคน คนเป็นครูก็จะดีใจเป็นอันมาก
แต่หากตระหนักได้ทั้งร้อย ครูก็คงมีความสุขใจไปตลอดชีวิต ....
...................................................
ปรับเพิ่มเติมจาก เว็บไซต์วิชาการด็อตคอม กระทู้ การรู้เท่าทันการสื่อสาร (Communication Literacy) ความเห็นเพิ่มเติมที่ 72 26 ก.พ. 2549
วันนี้ตอนเย็นก็สอนนักศึกษาเหมือนกันว่าอย่าเชื่อเพราะอาจารย์บอก.....
โหลดรูปลงประวัติได้นานยังค่ะ วันก่อนยังเป็นรูปทะเล....ยิ้ม ยิ้ม
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
สวัสดีครับ คุณดอกไม้และทะเล
ขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่าน ที่แวะเข้ามาทักทายค่ะ
ดิฉันก็ติดตามอ่านข้อเขียนต่างๆของอาจารย์ทุกท่านอย่างเพลิดเพลิน
เพราะแต่ละท่านมีลีลาการสื่อสารที่เป็นเอกลักษณ์และเนื้อหาก็ให้ความรู้และข้อคิดใหม่ๆ ชวนให้ติดตาม
ส่วนดิฉันก็คิดออกอยู่เรื่องเดียว คือ การรู้เท่าทันการสื่อสาร จะเขียนจะพูดทีไรก็เลี้ยววนกลับมาหาเรื่องนี้จนได้ทุกที...
......จนเพื่อนๆจะเลิกชวนไปทานส้มตำด้วยอยู่รอมร่อแล้วอ่ะค่ะ....
ปัจจุบันสอนคนสร้างคนนี่ค่อนข้างยากครับ หนึ่ง-นักศึกษากว่าจะมาถึงมือเรา เขาผ่านการอบรมมาค่อนข้างเยอะ สอง-สิ่งแวดล้อมปัจจุบันมีสิ่งหลอกล่อเยาวชนของชาติ
เราเหล่าอาจารย์เป็นเพียงสิ่งแวดล้อมหนึ่งที่เขาสัมผัส ซึ่งเขาใช้เวลากับเราน้อยมาก
แต่พวกเราเหล่าอาจารย์ก็คงต้องสู้กันต่อไปครับ เพื่ออนาคตของชาติ
สวัสดีค่ะพี่แอม
หลังจากกลับมาจากนครฯด้วยความรู้สึกประทับใจอย่างมาก ในมิตรภาพ ความเป็นพี่เป็นน้องของนิเทศศาสตร์ที่นั่น......ตอนนี้พี่แอมคงอยู่ญี่ปุ่น เฟินก็ยังเดินหน้าเก็บข้อมูลต่อไป.....อย่าลืมเอาประสบการณ์ที่ญี่ปุ่นมาเล่าให้ฟะงบ้างนะคะ
ขอบคุณพี่แอมมากๆค่ะ
น้องเฟินอุตรดิตถ์
สวัสดีค่ะเฟิร์น
พี่แอมป์เพิ่งกลับมาถึง แล้วก็เพิ่งเห็นว่าเฟิร์นโพสต์เข้ามา ดีใจที่ได้พบตัวจริงนะคะ และขอให้ดำเนินงาน dissertation โดยราบรื่น ให้ได้รับความร่วมมือที่ดี และได้รับข้อมูลตรงตามที่ต้องการในทุกที่ที่เฟิร์นไปเก็บข้อมูลนะคะ มีโอกาสเมื่อไหร่อย่าลืมลงมานครศรีฯอีกนะคะ ยินดีต้อนรับน้องๆทุกเมื่อค่ะ
ขอให้โชคดีและราบรื่นตลอดทุกช่วงงานนะคะ
พี่แอมป์ (^_^)
สวัสดีค่ะอาจารย์ภีรกาญจน์
ขออภัยที่ตอบช้าไปหน่อยนะคะ ดิฉันดีใจมากที่อาจารย์ให้เกียรติสื่อสารกับดิฉัน เท่าที่ลองดูในคำหลัก ดิฉันรู้สึกว่ามีท่านอาจารย์ในสายนิเทศศาสตร์เข้ามาสื่อสารใน gotoknow อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่มากนักนะคะ น้องเฟิร์น(ข้างต้น)ก็สอนนิเทศศาสตร์เหมือนกันค่ะ
ดิฉันลองบอกพี่ๆน้องๆที่มหาวิทยาลัยไปบ้าง แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านใดเข้ามาแล้วบ้าง ดิฉันอยากให้พี่ๆน้องๆได้เข้ามาพบมิตรภาพในโลกการพิมพ์ส่งสาร และอ่านเพื่อรับสาร ซึ่งเป็นโลกของการสื่อสารที่น่ารักดี
ดิฉันชอบตรงที่อนุญาตให้เผยตัวตน แม้จะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอยู่บ้าง แต่ก็เหมาะสมสำหรับการสื่อสารและการรับผิดชอบการสื่อสาร อย่างสุภาพชน
สำหรับการฝึกเด็กๆ ดิฉันก็รู้สึกว่าออกจะหนักหนาสาหัสเอาการค่ะอาจารย์ เพราะเขาได้ฝังรูปรอยมาจากมัธยมแล้ว และการก่อร่างสร้างรูปโดยศาสตร์ที่เรามุ่งหวังนั้น ง่ายกว่าการปลูกฝังความเป็นมนุษย์ที่ดีมากมายนัก
เช่น สอนให้เขียนข่าวประชาสัมพันธ์ (สอนความรู้ และกลไก และเทคนิคการเขียน) ง่ายกว่าสอนให้เป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ดีเยอะ (สอนจิตวิญญาณนักประชาสัมพันธ์ สอนให้เห็นคุณค่าของการสื่อสารและการ "ประสานงาน" เพื่อช่วยคน มิใช่หวังเพียงผลประโยชน์จากคน)
ดิฉันกำลังศึกษา และค้นหาคำว่า ความเป็นมนุษย์ที่ดี ค่ะอาจารย์ภีรกาญจน์ อยากค้นคว้าคำนี้ให้ลึกซึ้ง เวลาอธิบาย เด็กจะได้เห็นภาพและเข้าใจ ดิฉันจะได้ไม่รู้สึกว่าสอนได้แค่กลไก แต่อยากสอนไกลไปถึงจิตวิญญาณด้วย
ดิฉันขอสารภาพว่าจนบัดนี้ก็ยังเข้าใจเรื่องนี้แต่เพียงผิวเผินเหลือเกินค่ะ
อาจารย์ Handy คะ
ขอบพระคุณที่อาจารย์แวะมาเยี่ยมนะคะ ดิฉันดีใจมากที่ได้ทราบว่าอาจารย์อยู่ราชภัฏ และยิ่งดีใจมากที่สุดที่อาจารย์เล่าว่าเคยอยู่ที่สวนโมกข์ ดิฉันอ่านบล็อกต่างๆที่อาจารย์เขียนอย่างมีความสุขมาก
ดิฉันเคยไปสวนโมกข์ตอนเล็กๆ มีโอกาสฟังท่านพุทธทาสเทศนาธรรมอยู่บ้างค่ะ แต่ตอนนั้นยังเด็กนัก จึงไม่เข้าใจอะไรมากนอกจากคำว่า "อย่าเห็นแก่ตัว" ที่ท่านกล่าวบ่อยจนจำได้ ยังจำตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์สอนใจได้อยู่จนบัดนี้
และสัมผัสได้ว่าการสื่อสารบางอย่างในสวนโมกข์มีอะไรเย็นๆจับอยู่ลึกๆในใจเรา แบบที่ไม่เคยรู้สึกในที่อื่นใด....
ขอบพระคุณอาจารย์มากอีกครั้งนะคะ และจะติดตามอ่านบันทึกของอาจารย์ไปตลอดเช่นกันค่ะ
ปล.ดิฉันชอบคติประจำใจของอาจารย์มากค่ะ
สวัสดีค่ะ
ชอบจังค่ะคำว่า "อยู่ที่การช่วยสร้างวิธีคิด(การรู้เท่าทันการสื่อสาร) " ขอบอกว่าการสอนให้คนคิดเป็น นี่คือทานอันประเสริฐสุด ขอบคุณนะคะที่ได้รู้จักคนคุณภาพ
ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์ราณี
คือดิฉันก็ออกจะกลุ้มใจเหมือนกันค่ะ ว่าที่ฝึกเด็กๆให้รู้จักสื่อสาร และรู้จักทำงานเป็นทีมไปนั้นได้ผลจริงหรือไม่ เพราะจำนวนมากพอเรียนจบ เธอก็ลั้นลันลาจากดิฉันไปแต่งงาน .....ดิฉันก็เลยไม่รู้จะออกแบบๆสอบถามวิจัยยังไงดี เพราะไม่มีประสบการณ์ ......คือหมายถึงดิฉันไม่ใคร่เข้าใจงานทีมลักษณะนี้อ่ะค่ะ :)
อาจารย์ขจิตคะ
อย่าแปลกใจนะคะพี่แอมป์ ว่าทำไม้ ทำไม มีคนคนหนึ่งมาขุดกรุ แล้วก็อ่านละเลียดละเอียดยิบ
รัก(ข้อเขียน)คุณเข้าแล้วเต็มเปา...
55 555 55
กำลังมีแนวคิดว่า หลังจากตกผลึกมาหลายสิบปี
เราเอง ใฝ่ฝันถึงการมีอาชีพเป็นครู
ก็ อะไรจะไม่ดีไปกว่า เป็นครูที่ กล้าบอกลูกศิษย์ดังข้างบน
หมอเล็กเองเป็นครูมาประปราย มักมีอีกข้อหยอดเสมอว่า
"คนฟังหรือผู้เข้าเรียนจ๋า รู้อะไรมากกว่าดิฉัน ช่วยบอกดิฉันด้วย"
จริงใจและกันเอ๊ง กันเอง
เอาล่ะ เดี๋ยวจะขุด พรวน กรุไปเรื่อย ๆ พี่แอมป์ต้องตอบด้วยนะเออ
ความจริงเขาน่าจะมีรางวัล สุดคะนึง(ภาคขุดกรุ-ผลงานเก่าหากทรงคุณค่า) จะเสนอพี่แอมป์ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอเล็ก
หลังจากลุกขึ้นมาปัดหยากไย่ใยแมงมุมตามเนื้อตามตัวเสร็จแล้ว พี่แอมป์ก็พร้อมที่จะสนทนาต่อทันที.. เพราะดีใจมากที่มีคุณหมอนักโบราณคดีมาขุดกรุแล้ว อิๆๆๆ....
ขอบพระคุณด้วยใจจริงสำหรับกำลังใจที่น่ารักมากนะคะคุณหมอเล็ก และเรียนด้วยใจจริงว่าคุณหมอเล็กนี่แหละค่ะ คือ"ครู"ตัวจริงของลูกภู และเป็นครูคนแรกที่เข้าใจลูกอย่างที่สุด คุณพ่อคุณแม่ที่เข้าใจลูกด้วยหัวใจ และก่อร่างสร้างรูปลูกน้อยมาอย่างปราณีตเช่นนี้ เชื่อว่าลูกน้อยจะเติบโตขึ้นด้วยหัวใจที่งดงาม ดีใจแทนลูกภูจริงๆ : )
ดีใจซะอีกทีที่คุณหมอเล็กเป็นครูที่จริงใจยิ่งนะคะ คนหนึ่งคนคงไม่สามารถรอบรู้ไปได้หมดทุกเรื่อง คนที่เป็นครู ก็ไม่ได้แปลว่าจะรู้มากกว่าลูกศิษย์เสมอไป หากเรายอมรับความรู้ของกันและกันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกันและกันได้ด้วยมิตรภาพ ด้วยความรักที่จะให้แก่กันและกันอย่างแท้จริง พี่แอมป์เชื่อว่าโรงเรียนก็จะกลายเป็นสวรรค์บนดิน here and now และ now and forever เลยนะคะ
ขอบพระคุณที่ตั้งใจและเต็มใจแวะมาขุดกรุเอ๊ยแวะมาเยี่ยมเยียนกันนะคะคุณหมอเล็ก พี่แอมป์รู้สึกชื่นใจจัง
"ความรู้สึกชื่นใจที่ได้สัมผัสมิตรภาพที่เกิดจากความจริงใจ" เช่นนี้ เป็นรางวัลที่มีค่าที่สุดของพี่แอมป์เลยค่ะคุณหมอเล็ก : ) : ) ; )