“เห็นแก่ตัวให้น้อยกว่าคนอื่น”
เป็นคำพูดสรุปสุดท้ายของหมอแปะ”ผีบ้าแห่งอมก๋อย”
เมื่อคืนดื่มกาแฟไปมากหน่อย เลยทำให้หลับช้า ก็ลุกขึ้นมาเปิด ทีวีดูเล่นๆ เรื่อยเปื่อย เจอรายการ คนค้นคน ก็นั่งดูสักหน่อย และไม่เสียเที่ยว ได้อะไรดีๆ เยอะ
คนบ้าคลั่งทำงานเพื่อสังคม ก็สามารถแบ่งเวลาให้แก่ครอบครัวอย่างเหมาะสม
และสัจธรรม “ความเห็นแก่ตัวของคนเรา” ถ้าอยากทำงานเหมือนหมอแปะ ต้องไม่เห็นก็ตัว หรือ เห็นแก่ตัวน้อยกว่าคนอื่น อย่างที่หมอแปะเขาสรุป
เมื่อพูดถึง การไม่เห็นแก่ตัว การเสียสละ หรือการสิ่งคนอื่นสำคัญกว่าตน ก็พลอยให้นึกถึง การเป็นพี่น้องกันของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม
ทุกวันนี้ เราจะพบบ่อยๆ ว่า ไม่ว่ามุสลิมจากมุมไหน ของโลกเกิดตกทุกข์ได้ยาก มุสลิมส่วนอื่นๆ ก็จะรู้สึกไปด้วย หรืออย่างน้อยมีอารมณ์ร่วมกับมุสลิมกลุ่มนั้น
อย่างที่นบี กล่าว
مَثَلُ الْمُؤْمِنِينَ فِي تَوَادِّهِمْ وَتَرَاحُمِهِمْ وَتَعَاطُفِهِمْ مَثَلُ الْجَسَدِ إِذَا اشْتَكَى مِنْهُ عُضْوٌ تَدَاعَى لَهُ سَائِرُ الْجَسَدِ بِالسَّهَرِ وَالْحُمَّى
“อุปมาผู้ศรัทธาทั้งหลาย(มุมินีน)ในการให้ความแก่กันและกัน เมตตาแก่กันและกัน สงสารแก่กันและกัน เปรียบเสมือนร่างกายร่างเดียวกัน เมื่ออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งร้องด้วยความเจ็บปวด ส่วนอื่นของร่างกายก็จะเดือดร้อนไปด้วย โดยการอดหลับอดนอนและตัวร้อนเป็นไข้” (รายงานโดย มุสลิม)
ความรู้สึกต่างๆเหล่านี้ จะไม่เกิดขึ้น ถ้าคนๆนั้นไม่เสียสละ หรือ ยังเห็นแก่ตัวอยู่ท่านนบี กล่าวอีกว่า
لا يؤمن أحدكم حتى يحب لأخيه ما يحب لنفسه
“คนใดคนหนึ่งในพวกเจ้าจะไม่ได้รับเป็นผู้ศรัทธา จนกว่าเขาจะรักพี่น้อง(มุสลิม)ของเขาเหมือนอย่างที่เขารักตัวเขาเอง” (รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม)
เช่นกัน ความรักจะไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่เสียสละถ้าเราย้อนไปสมัยแรกๆ ที่นบี ได้อพยพ(ฮิจเราะฮฺ) ไปยัง มะดีนะห์ เราก็จะพบว่า พื้นฐานของความสำเร็จและการร่วมมือกันระหว่าง ชาวมักกะฮฺ (มะฮาญีรีน) กับชาว มะดีนะห์(อันศอร์) ก็พบว่า เพราะความเป็นพี่น้องที่ท่านนบีได้ปลูกฝังแก่มุสลิมทั้งสองพวก
การเสียสละของชาวมะดีนะห์(อันศอร์) มีมาก จนเราเองก็คาดไม่ถึง แต่เป็นเพราะศาสนา เป็นเพราะความศรัทธาที่พวกเขามีในอัลลอฮฺ และนบีของพระองค์ มุฮำมัด รอซูลุลลอฮฺ พวกเขาทำได้
ชาวอันศอร์ ท่านหนึ่ง บอกแก่ชาว มุฮาญิรีน ว่า ทรัพย์สินของเขาทั้งหมดเขาจะแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง ทั้งๆที่ทั้งสองไม่ใช่ญาติ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน รู้เพียงแต่ว่า เขาคือมุสลิมเหมือนเขาเท่านั้น ได้อพยพมาจากมักกะฮฺด้วยมือเปล่า
ครับ .. ความเป็นพี่น้องจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีการเสียสละ ..
การเสียสละในที่นี้ไม่ใช่พูดแต่ลมปาก หรือยิบยื่นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็นับว่าเสียสละแล้ว แต่เป็นการเสียสละที่เรียกว่า إيثار (อิซาร์) หมายถึง การเห็นคนอื่นสำคัญตนเอง
ภาพเสียสละ หรือภาพคำบรรยาของหะดีษที่ว่า รักเขาเสมือนรักตนเอง อธิบายโดยเหตุการณ์สงครามอัลกอดีซียะห์ ระหว่างมุสลิม กับ ชาวเปอร์เซีย..มุสลิมที่ไปสู่รบเกิดบาดเจ็บหลายคน นั่งเรียงรายกันร้องโอดโอยขอน้ำดื่ม และมีผู้หนึ่งนำน้ำมาให้คนข้างๆดื่ม แต่พอเขาจะดื่มก็ได้ยินเสียงคนข้างๆ ร้องขอน้ำ เขาก็ให้ไปยื่นน้ำนั้นให้คนข้างๆนั้นดื่มทั้งๆก่อน ทั้งๆที่ตัวเองก็หิวน้ำ พอคนที่สองจะดื่มก็ได้ยินคนที่สามร้องขอน้ำอีกเช่นกัน คนที่สองบอกให้ไปให้คนที่สามดื่มก่อน ชายคนที่รินน้ำอยู่ก็ไปยังคนที่สาม แต่ไม่ทันให้เขาดื่มน้ำ เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว หันกลับมาจะให้คนที่สองก็เสียชีวิตแล้วเช่นกัน และพอกลับไปยังคนแรก คนแรกก็เสียชีวิต .. และนี่คือภาพชัดเจนถึงการให้ความสำคัญแก่คนอื่นมากกว่าตน แม้ตนเองต้องการเมื่อมีคนอื่นต้องการกว่าก็ให้คนอื่นก่อน .. ลักษณะแบบนี้ ในภาษาอาหรับเรียกว่า إيثار (อิซาร์) คือ การให้ความสำคัญแก่ผู้อื่นมากกว่าตน ..
... และความเป็นพี่น้องอย่างแท้จริงกันระหว่างมุสลิมไม่เกิดขึ้น ถ้ามีมี อิซาร์..
ซอฮาบะห์ในอดีตเสียสละเพื่ออิสลามมากมายครับ แต่แปลกที่มุสลิมในยุคปัจจุบันลืมเรื่องความเป็นพี่น้อง ลืมเรื่องการเสียสละไป
สังคมมุสลิมจึงโดดเดี่ยวและ..... จริงๆ
Asalamualaikum.
Iman yang kuat akan membina ukhuah Islamiah, pengurbanan dan isar, sebaliknya ananiah hanya kepengtingan diri sendiri.
Kita sangat perlu kepada umah yang mempunyai kekuatan iman. wallahu alam.