อยากบอก อ.ลูกหว้า ว่าหนังสือของตลาดหลักทรัพย์ แพงมากครับ ซื้อแต่ละเล่มผมกลั้นใจน่าดู บางเล่มมีแต่น้ำๆ (ประมาณว่าเขียนให้เยาวชนอ่าน) เคยเห็นวางให้อ่านที่ห้องสมุดมหาลัยต่างๆ แต่น้อยคนครับที่จะหยิบมาอ่าน
แต่บางเล่มเขียนได้ดี เหมาะสำหรับครนที่เริ่มสนใจในการลงทุนรูปแบบต่างๆ ผมชอบเล่มที่เกี่ยวกับ หุ้นห่านทองคำ อ่านสนุกและภาพประกอบสวยงาม ครับ
ส่วนสัญญารัก... เล่มนี้สงสัยต้องยืมอ.ลูกหว้าอ่านครับ
อ.ครับ ผมไม่ได้มีเงินมากนักหรอกครับ เอาเป็นว่า อ.ลูกหว้ามีเงินซัก 10000 - 20000 บาท ก็เป็นเจ้าของบริษัทมหาชนได้หลายที่แล้วครับ แล้วแต่จะเลือก
ผมใช้เงินเก็บบางส่วนลงทุนครับ (อายุน้อย กล้าเสี่ยงหน่อย) ใช้เงินไม่มากครับ เชื่อผมเถอะ ดูชื่อผมจิครับ เงินไม่เยอะหรอกครับ ช่วงนี้หุ้นแย่มากๆ ถ้ามีมุมมองอนาคตที่ดีน่าช้อนเก็บไว้ครับ ถูกๆๆๆมากๆๆๆ 555+ ผมเงินหมดแย้วไม่มีให้ช้อนซื้อครับ
สวัสดีครับอาจารย์ลูกหว้าครับ
จะมารออ่าน เผื่อยืมเอาคอนเซ็ปฟิวเจอร์ไปขอแฟนแต่งงานครับ ; )
พี่ต้นจะใช้วิธีฟิวเจอร์ขอสาวแต่งงานเหรอครับ
สุดยอดจริงๆเลยครับครับ แสดงว่าถ้าสาวเจ้าเรียกสินสอด 1 ล้าน พี่ต้นแกใช้เงินประเดิม 1 แสนพอ อยู่ๆกันไปเห็นถ้าไม่ดี short ออกไปก่อน สรุปจ่ายค่าสินสอดไม่ถึง 1 ล้าน อิอิ มีเหตุผลครับ มีเหตุผล หุหุ
แซวเล่นๆครับ อย่าถือสานะ ทั้งพี่ต้น และอาจารย์ลูกหว้า เจ้าของ blog ครับ
ประเภทและชนิดของ derivatives
derivatives นั้นมีมากมายหลายอย่างด้วยกัน แต่ที่เรารู้จักๆกันจะรู้จักกันดีๆ นั้นมี สามตัวด้วยกันคือ
แล้วที่บอกว่ามีมากมายหลายอย่างก็เพราะว่ามันมี Future on Options, Options on Future, Options on Options, และอื่นๆอีกมากมาย
Forward contracts
สัญญาแบบ Forward นั้นเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่กำหนดวันที่ซื้อขาย จำนวนสินทรัพย์ และราคาที่แน่นอนไว้ครับ คำศัพท์ที่ต้องสนใจก็คือ Expiration หรือ Maturity date วันที่ซื้อขาย(ตกลงกันในสัญญา) ราคาที่ซื้อก็เรียกว่า Delivery price แต่ที่สนุกก็คือเวลาซื้อเรียกว่า Long ส่วนขายเรียกว่า Short ครับ
Future contracts
Future คือ forward อ้าวแล้วมันต่างกันตรงไหน ต่างกันตรงที่ forward นั้นเบี้ยวได้ง่าย เพราะเป็นการตกลงระหว่างคนสองคน ดังนั้นก็เลยมีการตั้ง Future contracts เข้ามา
Future contracts นั้นจึงเป็นการซื้อขายผ่านตัวกลางครับ เพื่อป้องกันการเบี้ยวโดยเฉพาะ
แล้วก็เวลาที่ทำสัญญา แทนที่จะกำหนดเป็นวันแน่นอนโปะเชะ ไปเลย Future contracts นั้นกำหนดเป็นช่วงเวลา เช่นเดือนกันยา ก็สามารถส่งได้ทั้งเดือนกันยาเลย ดังนั้นก็เลยมีการ trade หรือซื้อขายแลกเปลี่ยนทำกำไรกันได้ครับ
ทำให้ Future นั้นมีการให้ราคากันในหนังสือพิมพ์ครับ เทรดกันมันมือไปเลย
ตลาด Future ใหญ่ก็คือ CBOT (Chicago Board of Trade) ครับ
คำที่น่าจะต้องรู้จักก็คือ Future price ครับ ตามชื่อครับ ราคาที่ตกลงกันในสัญญา อีกคำก็คือ Spot price ซึ่งก็คือราคาจริงๆ ตามวัน
เพราะฉะนั้น ถ้าเราเป็นคนขาย Future contracts เราก็จะกำไรเมื่อ Future price > Spot price เพราะเราได้เงินมากกว่า ราคาที่เราขายจริงตอนนี้ใช่ไหมครับ ถ้าเราเป็นคนซื้อก็ต้องกลับกัน
Options
อันสุดท้ายแล้ว ก็คือ options Options คือสิทธิ สิทธิในการซื้อหรือการขายสินทรัพย์ Options นี่แหละ ที่เป็นที่สนใจของนักวิจัยด้านการเงินหลายต่อหลายท่านด้วยกัน ถึงกับส่งคนได้รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์มาแล้ว
ประเภทของ Options
หลักๆ มีสองแบบ คือ
เวลาซื้อ Options นั้นต้องผ่านคนกลาง หรือที่เรียกว่าโบรกเกอร์ บางทีอันนี้ก็จะเรียกว่า OTC (Over the counter) (ไม่ใช่ under the table )
ความแตกต่างระหว่าง Forward, Future, Options
(โขมยมาจากน้องต้นเจ้าเก่าค่ะ ลองอ่านดูนะคะ อิอิ...แบบว่าเขาอยากไปเขียนได้ดีกว่าทำไมหล่ะ ขอมาแชร์หน่อยนะน้อง)
เริ่มกันที่ Forward กับ Future นะครับ
ทั้งคู่เป็นสัญญาล่วงหน้าเหมือนกัน (คิดง่ายๆเหมือนหนังจีนนะครับ ที่พ่อแม่ชอบหมั้นหมายกันให้ลูกตั้งแต่ยังเป็นสหายกันในยุทธภพ หรือแม้แต่ยังไม่มีเมียเลย) เพราะสัญญากันแล้วก็ต้องทำตามครับ (ดังนั้นทั้งคู่คือ Future และ Forwardนั้นเหมือนกัน)
แต่ต่างกันตรงที่ บางคนบอกว่า เนี่ยให้ลูกอายุ 20 นะ พอลูกครบ 20 ปุ๊ปแล้วมาแต่งกันเลยนะ(ไอ้พวกนี้กำหนดแน่นอนครับ เป็น Forward)
กับอีกพวกแค่สัญญาเฉยๆ ไม่บอกว่าแต่งเมื่ออายุครบ 20 (บอกแค่ 20 เฉยๆ แต่ไม่บอกปุ๊ป) พวกนี้เรียกว่า Future ครับ เพราะสามารถแต่ง (หรือ เทรด) ได้ตั้งแต่ ครบ 20 ปีพอดี จนถึงอีก 1 วัน จะอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ก็ยังไม่ถือว่าทำการผิดสัญญา แต่อีกอย่างที่ต้องจำไว้ก็คือ Future นั้น ต้องทำผ่านคนกลาง หรือ over the counter ครับ
ส่วน Options กับ Future (กับ Forwards ด้วย) นั้นต่างกันยังไง
ทั้งคู่เป็นสัญญาที่มีผลต่อเหตุการณ์ล่วงหน้าเหมือนกัน แต่ว่ามันต่างกันครับ ต่างกันตรงที่
ถ้าพ่อแม่หมั้นหมายกันแบบ options
ลูกอาจะมีสิทธิดูหน้า เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวก็ได้ แล้วพอเห็นว่าหน้าตาเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวไม่ได้เรื่อง หรือนิสัยหรือพฤติกรรมเข้ากันไม่ได้ ก็บอกไม่เอาแล้ว ไม่แต่งแล้ว แต่บอกพ่อแม่ว่าไม่แต่งก็ไม่ถือว่าผิดสัญญาครับ เพราะว่า Options นั้นเป็นสิทธิครับก็จะเลือกแต่งก็ได้จะไม่แต่งก็ได้ (จะเหมือนหมั้นไหมนะ)
แต่ถ้าเป็น Future
จะหน้าตาน่าเกลียด ขี้เหล้าเมายา ยังไงๆ ก็ต้องแต่งครับ ไม่แต่งไม่ได้ ถ้าไม่แต่งถือว่าทำผิดกฏหมายครับ ถือว่าเบี้ยว อาจจะมีการฆ่าล้างตระกูลกันได้ครับ (อันนี้ก็เวอร์ไป)