"ฟิวเจอร์ส สัญญา(รัก)ล่วงหน้า ": เศรษฐศาสตร์....ริมรั้ว


         เนื่องจากได้อ่านบันทึกเกี่ยวกับตลาดอนุพันธ์ของน้องต้น(ไปอ่านหนังสือ)ที่     http://gotoknow.org/blog/GoReadABook/86559  และอ่านหนังสือของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่อง     "ฟิวเจอร์ส  สัญญา(รัก)ล่วงหน้า"  เลยขอหยิบเรื่องนี้มาแนะนำในเศรษฐศาสตร์...ริมรั้วดูบ้างค่ะ

          ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า บริษัทตลาดอนุพันธ์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  หรือ   Thailand     Future  Exchange (TFEX)  จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือเป็นตลาดกลางสำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ไม่ใช่สินค้าเกษตร

         หลายท่านอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วสำหรับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ ต.ส.ล. ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าเหมือนกัน   แต่จะแตกต่างกันตรงสินทรัพย์อ้างอิงในการซื้อขายแตกต่างกัน

          TFEX จะเน้นซื้อขายสัญญาทางการเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ไม่ใช่สินค้าเกษตร   ส่วน ต.ส.ล. เนี่ยจะซื้อขายสัญญาล่วงหน้าของสินค้าเกษตรอย่างเดียว

          ว่าแล้ว...เรื่องนี้จะมาเกี่ยวกับสัญญา(รัก) ได้อย่างไร    แล้ว TFEX   นี่จะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง   ลองติดตามอ่านได้ค่ะ  บันทึกนี้ขึ้นชื่อเรื่องไว้  แล้วจะเข้ามาต่อยอดไปเรื่อยๆค่ะ    ท่านใดเข้ามาเยี่ยมเยียนสามารถช่วยต่อเติมได้นะคะ  ขอบคุณมากค่ะ
              
               

หมายเลขบันทึก: 87815เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2007 00:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
  • มาทักทาย
  • กำลังคุยกับพี่ Handy
  • ขอบคุณครับ
  • พอดีพรุ่งนี้มีสอนเยอะค่ะ  ยังไงจะเข้ามาอธิบายเพิ่มในวันพรุ่งนี้นะคะ  อย่าเพิ่งหนีไปไหนก่อนนะคะ
  • สวัสดีค่ะพี่ขจิต
  • ขอบคุณนะคะที่แวะมาทักทายกัน

อยากบอก อ.ลูกหว้า ว่าหนังสือของตลาดหลักทรัพย์ แพงมากครับ ซื้อแต่ละเล่มผมกลั้นใจน่าดู บางเล่มมีแต่น้ำๆ (ประมาณว่าเขียนให้เยาวชนอ่าน) เคยเห็นวางให้อ่านที่ห้องสมุดมหาลัยต่างๆ แต่น้อยคนครับที่จะหยิบมาอ่าน

   แต่บางเล่มเขียนได้ดี เหมาะสำหรับครนที่เริ่มสนใจในการลงทุนรูปแบบต่างๆ ผมชอบเล่มที่เกี่ยวกับ หุ้นห่านทองคำ อ่านสนุกและภาพประกอบสวยงาม ครับ

 ส่วนสัญญารัก... เล่มนี้สงสัยต้องยืมอ.ลูกหว้าอ่านครับ

  • ขอบอกว่าตลาดหลักทรัพย์แจกฟรีให้กับหน่วยงานโดยเฉพาะพวกครูค่ะ 
  • เวลา TSI เขามาจัดอบรม  เด็กๆไปร่วมกิจกรรมก็จะได้หนังสือมาเพียบ  แล้วเขาก็มาให้อาจารย์ค่ะ   เวลาไปศึกษาดูงานเขาก็แจก
  • ส่วนใหญ่ที่คณะเขาไม่ค่อยใช้ประโยชน์  สุดท้ายอยู่ที่พี่หมดเลยค่ะ
  • ส่วนที่เหลือเป็นความสนใจส่วนตัวของครูต่างจังหวัดค่ะ   พี่จะรู้แต่ภาคทฤษฏีค่ะ  เพราะไม่มีเงินพอจะไปปฏิบัติจริง  จึงต้องขอเรียนรู้จากผู้มีเงินเหลือใช้ทั้งหลายค่ะ
  • แวะมาแจมกันได้นะคะ  เพราะพี่อยากได้การแชร์จากคนที่มีโอกาสไปลงทุนจริงๆบ้าง  เป็นการพูดคุยกันแบบไม่ซีเรียสค่ะ   คนที่ไม่ได้อยู่ในสายนี้ก็จะได้พอมองออกบ้าง  เดี๋ยวจะทะยอยเขียนนะคะ
  • อ้อ...หุ้นห่านทองคำพี่ก็มีค่ะ  เป็นอาจารย์นี่ก็ดีนะคะ   นักศึกษาชอบให้หนังสือค่ะ หนังสือจะล้มทับอยู่แล้ว

อ.ครับ ผมไม่ได้มีเงินมากนักหรอกครับ เอาเป็นว่า อ.ลูกหว้ามีเงินซัก 10000 - 20000 บาท ก็เป็นเจ้าของบริษัทมหาชนได้หลายที่แล้วครับ แล้วแต่จะเลือก

   ผมใช้เงินเก็บบางส่วนลงทุนครับ (อายุน้อย กล้าเสี่ยงหน่อย) ใช้เงินไม่มากครับ เชื่อผมเถอะ ดูชื่อผมจิครับ เงินไม่เยอะหรอกครับ ช่วงนี้หุ้นแย่มากๆ ถ้ามีมุมมองอนาคตที่ดีน่าช้อนเก็บไว้ครับ ถูกๆๆๆมากๆๆๆ 555+ ผมเงินหมดแย้วไม่มีให้ช้อนซื้อครับ

  • พี่เลือกจะนำเงินไปสร้างบ้านค่ะ  เลยยังเป็นหนี้เยอะ  แบบว่าอยากมีบ้านเร็วกว่าเพื่อนๆรุ่นเดียวกันค่ะ
  • พี่เห็นด้วยว่าอายุยังน้อย  เสี่ยงได้ก็เสี่ยง แต่เป็นการเสียงแบบมีเหตุผลนะ  เดี๋ยวว่างๆจะเปิดอีกบันทึกไว้คุยกันเกี่ยวกับเรื่องหุ้นจ้ะ
  • พอดีตอนนี้ค่อนข้างปวดหัวค่ะ  เดี๋ยวค่ำๆจะเข้ามาเขียนนะคะ  บันทึกนี้จะเคลื่อนไหวเรื่อยๆค่ะ
  • ไม่ใช่บันทึกที่จบตั้งแต่แรก....วันนี้เจออะไร คิดอะไรได้จะเข้ามาต่อเติมค่ะ   เพราะฉะนั้นอย่าแวะมารอบเดียวนะคะ  
  • เดี๋ยวขอไปพักผ่อนก่อนนะคะ  ตอนนี้สมองยังไม่แล่นค่ะ  ถ้าสอนแบบเป็นทางการหน่ะง่าย
  • แต่การจะนำเรื่องยากๆมาเล่านี่งานหินเลยค่ะ
  • ขอเวลาสักนิดนะคะ

สวัสดีครับอาจารย์ลูกหว้าครับ

จะมารออ่าน เผื่อยืมเอาคอนเซ็ปฟิวเจอร์ไปขอแฟนแต่งงานครับ ; )

 

พี่ต้นจะใช้วิธีฟิวเจอร์ขอสาวแต่งงานเหรอครับ

  สุดยอดจริงๆเลยครับครับ แสดงว่าถ้าสาวเจ้าเรียกสินสอด 1 ล้าน พี่ต้นแกใช้เงินประเดิม 1 แสนพอ อยู่ๆกันไปเห็นถ้าไม่ดี short ออกไปก่อน สรุปจ่ายค่าสินสอดไม่ถึง 1 ล้าน อิอิ มีเหตุผลครับ มีเหตุผล หุหุ

  แซวเล่นๆครับ อย่าถือสานะ ทั้งพี่ต้น และอาจารย์ลูกหว้า เจ้าของ blog ครับ

  • สองหนุ่มหลวมตัวเข้ามาแล้ว  พี่ก็ไม่สัดทัดเรื่องฟิวเจอร์ส    ช่วยแจมหน่อยนะคะ  พี่ไม่ค่อยถนัด
  • แต่เรื่องความรักพอมีประสบการณ์บ้าง อิอิ..เดี๋ยวมาแจมกัน  เพราะพูดเรื่องนี้ทีไรนักศึกษาก็ท่องจำมาสอบทุกที
  • เดี๋ยวว่างๆจะเขียนค่ะน้องๆ
  • มาบอกว่าเรานัดชวนกันกับพี่ Handy ไปอบรมครูที่สุพรรณฯ
  • เดือนพฤษภาคมครับผม
  • บันทึกพี่เป้นอะไรไม่ทราบแก้ไขไม่ได้ เพิ่งเข้า gotoknow ได้วันนี้
  • ฮือๆๆๆ
  • ได้อ่านแว๊บๆเหมือนกันค่ะ
  • เดือนพฤษภาคมสงสัยหว้าจะต้องออกพื้นที่รณรงค์เรื่องร่างรัฐธรรมนูญและการลงประชามติค่ะ
  • ตอนนี้หว้าไม่มีปัญหาเลยค่ะพี่
  • ว่าแต่อบรมช่วงไหนบ้างหรือคะพี่...
  • ได้นำบางส่วนที่น้องต้นเขียนไว้มาฝากค่ะ
  • ต้นฉบับเต็มดูได้ที่นี่ค่ะ
  • http://gotoknow.org/blog/GoReadABook/86559
  • ประเภทและชนิดของ derivatives

    derivatives นั้นมีมากมายหลายอย่างด้วยกัน แต่ที่เรารู้จักๆกันจะรู้จักกันดีๆ นั้นมี สามตัวด้วยกันคือ

    1. Forward
    2. Future
    3. Options

    แล้วที่บอกว่ามีมากมายหลายอย่างก็เพราะว่ามันมี Future on Options, Options on Future, Options on Options, และอื่นๆอีกมากมาย

  • Forward contracts

    สัญญาแบบ Forward นั้นเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่กำหนดวันที่ซื้อขาย จำนวนสินทรัพย์ และราคาที่แน่นอนไว้ครับ  คำศัพท์ที่ต้องสนใจก็คือ Expiration หรือ Maturity date วันที่ซื้อขาย(ตกลงกันในสัญญา)  ราคาที่ซื้อก็เรียกว่า Delivery price แต่ที่สนุกก็คือเวลาซื้อเรียกว่า Long ส่วนขายเรียกว่า Short ครับ

    Future contracts

    Future คือ forward   อ้าวแล้วมันต่างกันตรงไหน ต่างกันตรงที่ forward นั้นเบี้ยวได้ง่าย เพราะเป็นการตกลงระหว่างคนสองคน ดังนั้นก็เลยมีการตั้ง Future contracts เข้ามา

    Future contracts นั้นจึงเป็นการซื้อขายผ่านตัวกลางครับ เพื่อป้องกันการเบี้ยวโดยเฉพาะ

    แล้วก็เวลาที่ทำสัญญา แทนที่จะกำหนดเป็นวันแน่นอนโปะเชะ ไปเลย Future contracts นั้นกำหนดเป็นช่วงเวลา  เช่นเดือนกันยา ก็สามารถส่งได้ทั้งเดือนกันยาเลย ดังนั้นก็เลยมีการ trade หรือซื้อขายแลกเปลี่ยนทำกำไรกันได้ครับ

    ทำให้ Future นั้นมีการให้ราคากันในหนังสือพิมพ์ครับ เทรดกันมันมือไปเลย

    ตลาด Future ใหญ่ก็คือ CBOT (Chicago Board of Trade) ครับ

    คำที่น่าจะต้องรู้จักก็คือ Future price ครับ ตามชื่อครับ ราคาที่ตกลงกันในสัญญา อีกคำก็คือ Spot price  ซึ่งก็คือราคาจริงๆ ตามวัน

    เพราะฉะนั้น ถ้าเราเป็นคนขาย Future contracts เราก็จะกำไรเมื่อ Future price > Spot price เพราะเราได้เงินมากกว่า ราคาที่เราขายจริงตอนนี้ใช่ไหมครับ ถ้าเราเป็นคนซื้อก็ต้องกลับกัน

    Options

    อันสุดท้ายแล้ว ก็คือ options Options คือสิทธิ   สิทธิในการซื้อหรือการขายสินทรัพย์ Options นี่แหละ  ที่เป็นที่สนใจของนักวิจัยด้านการเงินหลายต่อหลายท่านด้วยกัน ถึงกับส่งคนได้รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์มาแล้ว

    ประเภทของ Options

    หลักๆ มีสองแบบ คือ

    1. Put options สิทธิในการขายสินทรัพย์
    2. Call options สิทธิในการซื้อสินทรัพย์
  • เวลาซื้อ Options นั้นต้องผ่านคนกลาง หรือที่เรียกว่าโบรกเกอร์   บางทีอันนี้ก็จะเรียกว่า OTC (Over the counter) (ไม่ใช่ under the table )

  • ความแตกต่างระหว่าง Forward, Future, Options

  • (โขมยมาจากน้องต้นเจ้าเก่าค่ะ ลองอ่านดูนะคะ อิอิ...แบบว่าเขาอยากไปเขียนได้ดีกว่าทำไมหล่ะ  ขอมาแชร์หน่อยนะน้อง)

  • เริ่มกันที่ Forward กับ Future นะครับ

  • ทั้งคู่เป็นสัญญาล่วงหน้าเหมือนกัน (คิดง่ายๆเหมือนหนังจีนนะครับ ที่พ่อแม่ชอบหมั้นหมายกันให้ลูกตั้งแต่ยังเป็นสหายกันในยุทธภพ หรือแม้แต่ยังไม่มีเมียเลย) เพราะสัญญากันแล้วก็ต้องทำตามครับ (ดังนั้นทั้งคู่คือ Future และ Forwardนั้นเหมือนกัน)

  • แต่ต่างกันตรงที่ บางคนบอกว่า เนี่ยให้ลูกอายุ 20 นะ พอลูกครบ 20 ปุ๊ปแล้วมาแต่งกันเลยนะ(ไอ้พวกนี้กำหนดแน่นอนครับ เป็น Forward)

  • กับอีกพวกแค่สัญญาเฉยๆ ไม่บอกว่าแต่งเมื่ออายุครบ 20 (บอกแค่ 20 เฉยๆ แต่ไม่บอกปุ๊ป)  พวกนี้เรียกว่า Future ครับ เพราะสามารถแต่ง (หรือ เทรด) ได้ตั้งแต่ ครบ 20 ปีพอดี จนถึงอีก 1 วัน จะอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ก็ยังไม่ถือว่าทำการผิดสัญญา แต่อีกอย่างที่ต้องจำไว้ก็คือ Future นั้น ต้องทำผ่านคนกลาง หรือ over the counter ครับ

    ส่วน Options กับ Future (กับ Forwards ด้วย) นั้นต่างกันยังไง

  • ทั้งคู่เป็นสัญญาที่มีผลต่อเหตุการณ์ล่วงหน้าเหมือนกัน แต่ว่ามันต่างกันครับ ต่างกันตรงที่

  • ถ้าพ่อแม่หมั้นหมายกันแบบ options

  • ลูกอาจะมีสิทธิดูหน้า เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวก็ได้ แล้วพอเห็นว่าหน้าตาเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวไม่ได้เรื่อง หรือนิสัยหรือพฤติกรรมเข้ากันไม่ได้ ก็บอกไม่เอาแล้ว ไม่แต่งแล้ว แต่บอกพ่อแม่ว่าไม่แต่งก็ไม่ถือว่าผิดสัญญาครับ เพราะว่า Options นั้นเป็นสิทธิครับก็จะเลือกแต่งก็ได้จะไม่แต่งก็ได้ (จะเหมือนหมั้นไหมนะ)

  • แต่ถ้าเป็น Future

  • จะหน้าตาน่าเกลียด ขี้เหล้าเมายา ยังไงๆ ก็ต้องแต่งครับ ไม่แต่งไม่ได้ ถ้าไม่แต่งถือว่าทำผิดกฏหมายครับ ถือว่าเบี้ยว อาจจะมีการฆ่าล้างตระกูลกันได้ครับ (อันนี้ก็เวอร์ไป)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท