เมื่อวาดเสร็จให้ตัวแทนกลุ่มอื่นมาอ่านใจภาพวาดว่าเขาคิดอย่างไร และให้เจ้าของภาพมาเฉลยว่า “อ่านใจถุกหรือไม่” ซึ่งมีทั้งเกินและขาด
ฝีมือการวาดและการให้สีสุดยอด ขอบอก จากคนว่ายน้ำเป็นจิ้งเหลนว่ายน้ำแทน (อ. สมฤทัย สาวห้าพันปีของเภสัช เป็นคนพูด)
สุดท้ายของกระบวนการเป็น AAR เรานั่งล้อมวงกัน เห็นหน้าเห็นตากันหมด เวียนไปแต่ละคนจนครบ พอสรุปได้ว่า คนส่วนใหญ่ อยากรู้ว่า KM คืออะไร เอาไปใช้ได้อย่างไร บ้างก็ว่า “เอ๊ะ เราก็ทำอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาเรียก KM”
จะเรียกอย่างไรก็ช่างเถอะ ถ้านำมาใช้ได้ดี มีประโยชน์ บรรลุเป้าหมายที่สุจริต ก็คือการได้นำ KM มาใช้โดยไม่รู้ตัว เรียกว่า “เนียนในเนื้องาน” ไม่ทราบสำนวนใครขอยืมมาใช้ก่อนนะคะ
หลายคนชอบรูปแบบกระบวนการ ที่มีกิจกรม “ร่วมรู้ ร่วมเรียน” กันตลอด ไม่มีเวลาหลับ สับปะหงก หลังมื้อเที่ยงเลยจริงๆ
ก่อนจบ ดิฉันได้ฝากกลอนไว้ให้ 1 บท ว่า
KM ใช่ความรู้อยู่บนหิ้ง
ต้องทำจริงให้เห็นเป็น action
หมั่นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (ลปรร) ระหว่างกัน
เป็นชุมชนสัมพันธ์ (CoPs) ที่มั่นคง
สร้างเครือข่าย (network) มากหลายขยายฐาน
ร่วมสร้างงานสร้างสังคมสมประสงค์
มีหรือที่องค์กรอ่อนแอลง
มีแต่จะสูงส่งดำรงชัย
เสียดายจัง แบตตารี่กล้องหมดเสียก่อน เลยไม่มีภาพมาฝาก
ชอบบทกลอนจัง สุดยอกเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ อ.ปารมี ความจริงสุดยอก ก้อดีเหมือนกันนะคะ
ถึงสุดยอก ตอกอก ใหฟกช้ำ
ก็จะทำเ รื่อยไป ไม่ถอยหนี
อยากสะสม บ่มเพาะ สิ่งดีดี
ชีวิตนี้ ตายไป ไม่อายเอย
อยากรู้จริงเรื่องตายใครอายบ้าง
บนเส้นทางผู้ประเมินขัดเขินแย่
หมั่นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครูตุ๊กแก
ร้องตับแก่เมื่อใดได้รู้กัน
กลอนบทเขียนสรุปไว้ได้ดียิ่ง
ชมมาด้วยใจจริงที่สร้างสรรค์
ที่นอนหลับก็ต้องตื่นขึ้นทันควัน
มา action share to learn เพลินจิตเอย
ขออภัย....ไม่ตั้งใจปลุกให้ตื่น
หากเมื่อคืนนอนดึกให้นึกขวาง
คนอะไรก็ไม่รู้ไม่ดูทาง
เสียงโฉ่งฉ่างโวยวายคล้ายพิกล
เมื่อตื่นแล้วมาคุยกันฉันท์เพื่อนมิตร
ใยปกปิดตัวใจให้ฉงน
เป็นเพื่อนกลอนสอนไปมานะกมล
มีเพื่อนเพิ่มมาอีกคนน่าสนใจ