วันนี้เป็นรุ่นสุดท้ายของการอบรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเพื่อวางรากฐานคนปลูกต้นกล้าในโรงเรียนของบุคลากรทางการศึกษาของสำนักการศึกษา เชื่อหรือไม่ว่าใน 4 รุ่นที่ผ่านมา มากกว่า 50 คนเป็นบุคลากรที่ไม่รู้แม้กระทั่งการเปิดเครื่อง , มากกว่า 10 คนคิดว่า การเรียนรู้มากกว่าคนอื่นจะเป็นการเพิ่มภาระงานให้ตนเอง(ไม่รู้ดีกว่า)
มากกว่า 80 คนตั้งใจเรียนสม่ำเสมอ(มาทุกวันและตรงเวลา) แบบทดสอบที่แจกให้แก่บุคลากรทุกท่านแสดงความคิดเห็นมากกว่า 90 เปอร์เซนต์เห็นว่าเป็นโครงการที่ดีและอยากให้จัดอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้แก่บุคลากร
ที่จริงแล้ว การอบรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้นในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวางรากฐานบุคลากรให้สามารถช่วยเหลือตนเอง(ให้ได้) ในเรื่องของการทำงานที่จำเป็นต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้าช่วยเช่นพิมพ์หนังสือราชการเอง,พิมพ์ข้อสอบเอง,สามารถเก็บคะแนนและตัดเกรดได้เอง การที่บุคลากรได้กลับไป(พยายาม)ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
นอกจากจะช่วยให้อาจารย์เรียนรู้ระบบการจัดเก็บข้อมูลแล้ว ยังสามารถซึมซับวิทยากรใหม่ ๆ ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ได้อีกด้วย
ไม่มีการบังคับให้มาเรียน นี่คือปณิฐานของคณะทำงานพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ที่มาอบรม ฯ ต้องกรอกแบบสอบถามความสมัครใจเข้ารับการอบรมไม่มีการติดตามว่า ใครทำไมไม่มาอบรม ฯ ผู้เข้ารับการอบรม ฯ จะได้เรียนรู้โดยวิทยากรที่เป็นอาจารย์ที่สอนและจบจากสาขาคอมพิวเตอร์ที่เป็นคณะทำงาน ฯ คณะทำงานทุกคนทำงานกันหนักมาก เพราะนอกจากโรงเรียนปิดแล้วพวกเราคณะทำงาน ฯ ต้องมาทำงานเพื่อเป็นวิทยากรการอบรม ฯ ต้องหลังจากวันนี้(11 เมษาฯ) จึงจะได้หยุดพัก
ทีมวิทยากร ฯ เราคุยกันบ่อยมาก ไม่เฉพาะเรื่องงาน แต่เราดูแลสารทุกข์ของกันและกัน ยอมรับในข้อคิดเห็นของทุกคนแล้วจึงโหวตเสียงลงมติในทุกเรื่อง คนในกลุ่มคณะทำงาน ฯ มาทำงานด้วยความสมัครใจไม่มีการกำหนดว่าต้องทำ ต้องมา ไม่มีคำสั่งบังคับ คณะทำงานฯ จึงทำงานด้วยใจที่ออกจากใจที่แท้จริง ดิฉันซึ่งเป็นผู้ดูแลซึ่งอยู่ในส่วนของงานระบบสารสนเทศ ของสำนักการศึกษา ซึ่งต้องดูแลจิตใจของทุกคนที่เป็นคณะทำงาน คอยให้กำลังใจ คอยให้คำปรึกษาและรับข้อติติงต่าง ๆ จากทุกด้านไม่ว่าจะเป็นมาจากผู้บริหารระดับสูง หรือจากบุคลากรต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งก็ยอมรับว่ามีบ้างที่ท้อใจ(มากๆๆๆ) แต่เมื่อคิดถึงเป้าหมายและรอยยิ้มของทีมคณะทำงาน ฯและรอยยิ้มให้กำลังใจจากบุคลากรที่เข้ารับการอบรมและบุคลากรอื่น ๆ ที่ทราบภารกิจในส่วนต่าง ๆ ของเทศบาลนครพิษณุโลก ก็ทำให้มีกำลังฮึดสู้ซะทุกครั้ง
จบจากหลักสูตรเบื้องต้นนี้ คงต้องรอเปิดเทอมใหม่เพื่อที่จะดำเนินกิจกรรมในส่วนของการให้ความรู้และการอบรมในโครงการนี้ในเรื่องของโปรแกรมประยุกต์ต่อไปคือ โปรแกรม Photoshop Flash e-book e-learning และโปรแกรมสุดท้ายของปีงบประมาณนี้คือ การซ่อมประกอบและลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ดิฉันและคณะทำงาน ฯ จะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อจะพัฒนาคนปลูกต้นกล้าให้สามารถดูแลและพัฒนางาน พัฒนาคน และพัฒนาองค์กร เพื่อเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้..ให้ได้ค่ะ
" งานหนัก ไม่เคยฆ่าคน"
มาให้กำลังใจโครงการดีๆ เหนื่อยแทนเพราะปิดเทอมก็ต้องมาสอน ตัวเองก็เปิดโครงการลดน้ำหนักเด็กที่โรงเรียนสาธิตมัธยม มหาวิทยาลัยนเรศวรตลอดเดือนเมษายนเหมือนกัน เด็กๆน่ารักและตั้งใจดีมากเลย สนุกดี
เข้ามาเยี่ยมบล็อกเพื่อนร่วมงานที่แสนดี....
หลังจากที่ได้ร่วมงานกับคุณเพ็ญศรีและเสร็จสิ้นการอบรมไปเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ก็ได้พัก (ดู) เล่นน้ำสงกรานต์ได้ 8 วัน นอนยังไม่ทันเต็มอิ่มก็ได้รับคำสั่งด่วน ให้เข้ารับการอบรมครูสอนคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นโครงการของ สสวท. ร่วมกับ สพฐ. ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 23-27 เม.ย. ก็ได้เข้าไปสัมผัสกับคณะครูอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลที่มีอาชีพเดียวกัน แต่อยู่คนละสังกัด ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการอบรม และรู้สึกเบื่อกับการอบรมเล็กน้อย เพราะเป็นเรื่องบ้าน ๆ ที่เรารู้แล้ว เช่น ข้อมูล สารสนเทศ การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ การใช้วินโดว์ส เบื้องต้น แล้วก็เป็นหลักสูตร หนังสือ เนื้อหาเล่มเดียวกันที่ได้อบรมให้กับคณะครูเทศบาลฯ ที่เพิ่งจบไปทั้ง 5 รุ่น มีการปรับปรุงขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มีความรู้สึกหนึ่งซึ่งเป็นข้อเปรียบเทียบ และข้อแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
- ครูสังกัด สพฐ. มีความสามารถเฉพาะตัวด้านคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับพอใช้ และมีการปฏิบัติที่สามารถรับความรู้ใหม่ได้ดีกว่าครูเทศบาล ทั้งนี้สันนิษฐานมาว่า เขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลก มีการตื่นตัวด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาหลายปีแล้ว เพราะเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้วก็ได้มีโอกาสไปเป็นวิทยากรร่วม เรื่อง การใช้โปรแกรม Swish, flash และการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ดังนั้นโอกาสที่ครูของเค้าจะใช้คอมพิวเตอร์ระดับพื้นฐานไม่เป็นมีน้อยมาก
- ครูสังกัด สพฐ. มีความร่วมมือร่วมใจ กระตือรือร้นที่จะรับความรู้อยู่ใหม่ๆ อาจมีปัจจัยมาจากการต้องการทำผลงานของตัวเอง ซึ่งมีบุคคลรอบข้างไม่ว่าผู้บริหาร เพื่อนร่วมงานคอยช่วยเหลือและสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง การใช้คอมพิวเตอร์ทำสื่อการสอนจึงเป็นเรื่องที่พวกเค้าต้องทำความเข้าใจและตั้งใจทำอย่างดี
- สิ่งที่ ครู สพฐ. กำลังตื่นตัวมากตอนนี้คือ การฝึกให้นักเรียนเขียนโปรแกรมภาษาซี บังคับให้หุ่นยนต์ หรือ Robot สามารถเดินได้ ตีลังกาได้ เต้นแอโรบิกได้ ซึ่งเป็น high light ของเค้าเลยทีเดียว
- ส่วนครูที่ต้องการทำผลงานโปรแกรมที่พวกเค้ากำลังสนใจตอนนี้คือ Macromedia Captivate, Namo Editor ซึ่งใช้ร่วมกับโปรแกรม Photoshop , swish และ flash และนอกจากคณะครูของเค้าจะทำเองแล้วยังสอนให้นักเรียนทำเป็นด้วย โดยมีการเรียนการสอนแบบโครงงาน ฝึกให้นักเรียนทำสื่อการสอนเอง แล้วให้นักเรียนกลุ่มดังกล่าวทำสื่อให้กับคณะครูที่ต้องการมีสื่อการสอนด้วยคอมพิวเตอร์เป็นของตนเอง โดยมีค่าใช้จ่ายแค่ค่าแผ่นซีดี ค่าปก และค่าขนมให้นักเรียนเพียงเล็กน้อย
อนาคตอยากเห็นครูเทศบาลนครพิษณุโลก มีจิตสำนึกในด้านเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์แบบกระตือรือร้น ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แบ่งปันความรู้ และถ่ายทอดเผยแพร่ผลงาน แบบนี้มาก ๆ ค่ะ
ดีใจมากค่ะ ที่พี่ ๆ เพื่อน ๆ ทุกคนเข้ามาให้กำลังใจ สัญญาค่ะว่าจะทำสิ่งดี ๆ เพื่อคนปลูกต้นกล้าทุกคน แค่ได้เห็นว่ามีคนเป็นห่วงก็ปลื้มใจมากแล้วค่ะ