โลกเปลี่ยนไป จึงสิ้นโลก?


บล๊อกใหม่ของผมชื่อ "ตามใจฉัน" ครับ ความจริงเวลาเขียนจะติ๊กไม่แสดงบันทึกต่อผู้อื่นก็ได้ แต่รู้สึกไม่มัน  จึงขอบันทึกใส่กระดาษทดสาธารณะซึ่งสะใจกว่า

เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อคืนดูสารคดีของ the Horizon Project เรื่อง Bracing for Tomorrow ซึ่งออกแนว science fiction คือเขาทำนายต้นเหตุของวันสิ้นโลก โดยพยายามผูกโยงบุคคลที่มีชื่อเสียง กับแนวคิดวิทยาศาสตร์เข้ามาครับ ใช้ศัพท์วิทยาศาสตร์เยอะๆ ดูน่าเชื่อถือดี -- ใครอยากดู อาจหาดูได้โดยค้น bittorrent ได้ ถ้าเน็ตเร็วพอ (เตือนแล้วนะครับ)

ที่มาเขียนบันทึกนี้ ก็เพราะสารคดีกล่าวอ้างไอน์สไตน์ ว่าไอน์สไตน์เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแกนหมุนของโลกที่ทำให้อารยธรรมมนุษย์สูญสิ้น (อ้างปฏิทินชาวมายันซึ่งคำนวณไว้ถึงวันที่ 21 ธันวาคม 2012 หมายความว่าโลกจะจบวันนั้น; กระแสกราวิตรอนจากหลุมดำใจกลางกาแล็กซี ทำให้เกิดแผ่นดินไหว+ภูเขาไฟระเบิด+สึนามิสูงหกพันฟุต; การกลับขั้วแม่เหล็ก ทำให้โลกไม่มีสนามแม่เหล็กป้องกันรังสีคอสมิค ฯลฯ)

In a polar region there is a continual disposition of ice, which is not symmetrically distributed about the pole. The earth's rotation acts on these unsymetrically deposited masses, and produces centrifugal momentum that is transmitted to the rigid crust of the earth. The constantly increasing centrifugal momentum produced this way will, when it reaches a certain point, produce a movement of the earth's crust over the rest of the earth's body, and this will displace the polar regions toward the equator. -- Albert Einstien

ข้อความที่ quote มา ค้นพบบนอินเทอร์เน็ตจริงครับ แต่ก็ไม่ได้มีข้อสรุปตามแบบที่สารคดีพยายามจะเสนอให้เชื่อ

อย่างไรก็ตาม ไอน์ไตน์ได้เขียนจดหมายคุยกับชาลส์ แฮพกู๊ดเรื่องการเปลี่ยนแปลงแกนหมุนของโลกจริง

หมายเลขบันทึก: 92103เขียนเมื่อ 24 เมษายน 2007 05:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

Conductor...........

เค้าว่า (ไม่มีอ้างอิง เพียงแต่อ่านบางเล่ม แล้วมั่วเอาเอง)...

แกนโลกหมุนเวียนไปทำนองลูกข่าง เมื่อแกนขั้วโลกเข้าไปใกล้ดวงอาทิตย์ ก็จะทำให้น้ำแข็งที่ใกล้ๆ ขั้วโลกละลายมากขึ้น... เมื่อน้ำแข็งละลายไปก็ทำให้หญ้างอกขึ้นปกคลุมดิน... สัตว์ก็จะค่อยๆ อพยพเข้าไปใกล้ขั้วโลกมากขึ้น... มนุษย์ก็จะค่อยๆ ตามสัตว์เข้าไป และจะเริ่มเข้าไปตั้งถิ่นฐานใกล้ขั้วโลกมากขึ้น ...

ต่อมาแกนขั้วโลกก็เริ่มเหวี่ยงกลับ เอนตัวออกห่างดวงอาทิตย์มากยิ่งขึ้น น้ำแข็งก็ค่อยๆแผ่ขยายจากขั้วโลกออกครอบคลุมผิวดินมากยิ่งขึ้น ความหนาวมากขึ้น หญ้ามีน้อยลง ทำให้สัตว์และมนุษย์ค่อยๆ อพยพออกห่างจากขั้วโลกมากยิ่งขึ้น... พวกมนุษย์ที่อพยพออกมา ก็จะเข้าไปรุกรานอีกพวกซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่รอบนอกของขั้วโลกซึ่งมีอากาศไม่หนาวจัด และมีอาหารสมบูรณ์...

ต่อมาแกนขั้วโลก็จะเหวี่ยงกลับเข้าไปใกล้ดวงอาทิตย์อีกครั้ง.... เค้าว่า โลกจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างนี้ตลอด... โดยรอบหนึ่งจะใช้เวลานับพันๆ ปี (จำตัวเลขไม่ได้)...

ประเด็นที่คุณโยมเล่า เกี่ยวโยงถึงเรื่องนี้ทำนองนี้ด้วยหรือไม่ ? ... และแนวคิดนี้มีความเป็นไปได้อย่างไรบ้าง ?...

เจริญพร  

ในบล๊อกนี้ เดิมทีผมตั้งใจไว้ว่าจะอ่านข้อคิดเห็นอย่างเดียว เมื่อพระอาจารย์มาเจิมไว้ ก็เลยเห็นว่าควรตอบครับ

โลกไม่ได้มีสัณฐานเป็นทรงกลมเหมือนลูกบอล วงโคจรของโลกก็ไม่ได้เป็นวงกลม ดังนั้นเมื่อโลกโคจรไป ก็จะแกว่งนิดหน่อยครับ แต่ยังหมุนไปได้เรื่อยๆ ด้วยโมเมนตัมเชิงมุม แม้จะไม่กลับมาทับที่เดิม (มีข้อสงสัยต่อ ว่าพิกัดของดวงดาวตามวิชาโหราศาสตร์ ซึ่งอิงกับสถิตินั้น ถูกต้องแค่ไหนในเมื่อพิกัดเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา)

เรื่องที่แกนของโลกทำมุมเอียงกับระนาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ แล้วทำให้น้ำแข็งละลาย ไม่น่าจะทำให้โมเมนตัมเชิงมุมเปลี่ยนแปลงไปครับ

ที่น่าสนใจคือในหลายปีที่ผ่านมา มีการปรับเวลามาตรฐานโลกให้ช้าลง ซึ่งหมายความว่าโลกหมุนช้าลง แต่ผมไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรครับ

ในส่วนที่ไอน์สไตน์พูด ถ้าจะให้เข้าใจง่ายขึ้น ก็ลองนึกถึงลูกบาส ที่นักบาสชอบเอามาปั่นบนนิ้วเพื่อโชว์สาวครับ ถ้าหยดน้ำไว้บนลูกบาสแล้วปั่น หยดน้าก็จะไหลออกจากแกนหมุน ด้วยแรงหนีศูนย์กลางครับ

เช่นเดียวกับหิมะที่ตกแถวขั้วโลก ก็จะพยายามหนีออกจากแกนหมุน แต่ที่ไปไม่ได้เพราะมีแรงเสียดทาน (เกาะนำแข็งที่จมเรือไททานิคก็ลอยลงใต้ เพื่อหนีแกนหมุน ส่วนเกาะน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่หลุดออกมาจากขั้วโลกใต้และพบที่นิวซีแลนด์ เมื่อเร็วๆ นี้ เป็นการลอยขึ้นเหนือเพื่อหนีแกนการหมุนของโลกเช่นกันครับ คือทั้งสองกรณี ลอยเข้าหาเส้นศูนย์สูตร)

 แสดงว่าวงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงไปใช่มั้ยครับ อาจจะขยับออกไกลจากดวงอาทิตย์มากขึ้น เลยต้องปรับเวลาให้ช้าลงเรื่อยๆ แถมบ้านเราอาจจะหมุนและโคจรอยู่ในช่วงใกล้ดวงอาทิตย์ยาวนานขึ้น (วงโคจรเปลี่ยนไป) เลยทำให้โลกร้อนขึ้น อากาศร้อนขึ้น หน้าร้อนยาวนานขึ้น เป็นไปได้มั้ยครับ

  ขอบคุณครับอาจารย์

น่าจะใช่ครับ จากสูตรในวิกิพีเดีย ถ้ารัศมียาวขึ้น ความเร็วก็ต้องลดลง เพราะมวลของโลกกับโมเมนตัมเชิงมุมเท่าเดิม

หรือว่าโดนราหูอมๆ คายๆ เลยมึนก็ไม่รู้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท