วันนี้เลิกงานกลับบ้านประมาณเกือบ 1 ทุ่ม ระหว่างทางเจอกับเจ้าหน้าที่ของพยาธิฯ คนหนึ่ง ได้เอ่ยทักทายกันตามประสาคนรู้จักถาม : "อ้าว..พี่เพิ่งกลับเหรอคะ"ตอบ : "ค่ะ..พรุ่งนี้พี่ลางาน เลยต้องอยู่ทำให้เสร็จ"ถาม : "อ้าว..ไม่มีคนทำแทนเหรอคะ"ตอบ : "ไม่มีค่ะ พี่อยู่คนเดียว ถ้าลาก็ต้องเคลียร์งานให้เสร็จ ไม่งั้นกลับมาก็ต้องเหนื่อยอีก เพราะของที่ต้องล้างจะมีมากองทุกวัน อีกอย่างถ้าไม่ล้างวันนี้ เดี๋ยวไม่มีของให้ใช้ เพราะมันมีน้อย"พี่คนนี้มีหน้าที่ล้างวัสดุอุปกรณ์ในห้องแล็บ ซึ่งวัสดุเหล่านี้มีจำนวนจำกัด ต้องล้างทุกวัน ล้างสะอาดแล้วต้องอบแห้ง เพื่อนำไปใช้อีกครั้งหนึ่ง วัสดุพวกนี้มีมาให้ล้างทุกวัน และต้องทำทุกวัน เพราะไม่งั้นอาจขาดสต๊อก ไม่มีของให้ห้องแล็บใช้และเนื่องจากว่า พี่คนนี้ทำงานใน section นั้นคนเดียว ถ้าลางานระยะสั้น เช่น 1 หรือ 2 วัน ก็จะไม่มีคนมาทำแทนชื่นชมพี่คนนี้ ตรงที่คิดถึงหัวอกผู้ร่วมงานคนอื่นด้วย ถ้าจะวางงานไว้ก่อนแล้วค่อยมาล้างวันจันทร์หน้า ก็เกรงว่าจะไม่มีวัสดุให้ใช้ เลยต้องยอมอยู่เย็น ทำงานเลยเวลาอีก 2-3 ชั่วโมง
ได้พบเห็นคุณกิจฝ่ายสนับสนุนแบบพี่คนนี้ของคุณ nidnoi หลายๆท่านเลยนะคะในภาคฯของเราเนี่ย มีแบบว่าแวะมาทำธุระอย่างอื่นวันหยุดสุดสัปดาห์แถวๆคณะ แต่ต้องรอ ระหว่างรอก็แวะมาจัดของใช้ให้คนทำแล็บไปพลางๆ
เห็นได้บ่อยๆว่า คนภาคฯเราเห็นที่ทำงานเหมือนบ้าน เห็นงานที่ทำเหมือนงานที่บ้าน เห็นคนที่ทำงานด้วยเหมือนคนที่บ้านตัวเอง ก็เลยทำให้ทุกอย่างที่ทำ ทำด้วยความรักที่จะทำ ไม่ใช่เพราะเป็นเพียงหน้าที่ น่าดีใจที่ได้อยู่ในที่ทำงานที่มีคนคุณภาพเช่นนี้มากมายค่ะ
เป็นความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีการบริหารการทำงานที่ดีและน่านำมาเป็นตัวอย่าง....และเล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่คนทำงานท่านอื่น ๆ ด้วยค่ะ
เหมือนที่ อ.นพ.โกมาตร จึงเถียรทรัพย์ เคยเขียนไว้ สรุปได้ว่า
..........
งานไม่ได้เป็นแค่ภารกิจ
ที่จำเป็นต้องทำให้ได้ตามตัวชี้วัด
เพราะงานที่ทำด้วยหัวใจที่อ่อนโยน
ต่อความเป็นมนุษย์นั้น
เป็นมากกว่าภารกิจตามหน้าที่
และเป็นความดีหล่อเลี้ยงชีวิต
......
ขอให้ทุกคนมีความสุขในการทำงานนะคะ
(เห็นหน้าคุณนิดหน่อยชักหิวข้าวล่ะ)