เมื่อวันที่ 3 พ.ค.50 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปนำเสนอผลงานวิชาการเพื่อคัดเลือกเป็นผลงานวิชาการยอดเยี่ยมของกระทรวงสาธารณสุข ที่พัทยา หลังจากที่ได้นำเสนอผลงานในการประชุมวิชาการเมื่อปีที่แล้วและได้รับการคัดเลือกว่าเป็นผลงานวิชาการดีเด่น จากประสบการณ์ในการประชุมวิชาการครั้งนั้น และการนำเสนอวิชาการในครั้งนี้ พบว่าบรรยากาศในการนำเสนอไม่เหมือนกันเลย อาทิ
1. เป็นการนำเสนอรวมกันทุกสายงาน โดยแบ่งเป็นงานเชิงปริมาณ และงานเชิงคุณภาพ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ 1-2 คน เป็นผู้วิพากษ์ และมีผู้วิพากษ์สายงานอื่นอีก 4-5 คน ทำให้บรรยากาศไม่คุ้นเคย และการนำเสนอหากเป็นผลงานที่เป็นเฉพาะด้าน ผู้วิพากษ์ท่านอื่น ๆ จะไม่รู้เรื่อง ดังนั้นผลงานต้องเขียนให้อ่านได้รู้เรื่องทั้งวิชาชีพคนเอง และวิชาชีพอื่น ๆ
2. บรรยากาศจะค่อนข้างเคร่งเครียด เหมือนกับการสอบวิทยานิพนธ์ ทั้งที่กรรมการบอกว่าอย่าทำหน้าเครียด จริง ๆ แล้วผมไม่เครียดแต่บรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้หน้าเครียดโดยไม่รู้ตัว จนกรรมการต้องพูดแซวตลอดรายการที่วิพากษ์
3. อย่าคิดว่าผ่านการเลือกเป็นผลงานดีเด่นแล้ว ผลงานจะดีพอใช้ได้ เพราะผลงานของผมเมื่อตนนำเสนอเป็นผลงานดีเด่น ไม่โดนวิจารณ์ เลย แต่ในครั้งนี้ผมโดนวิจารณ์ว่าให้กลับไปเรียนหนังสือใหม่ ทั้ง ๆ ที่ผมก็จบปริญญาโทไปแล้ว สงสัยต้องไปเรียนปริญญาเอกต่อ
4. Mehodology ต้องแข็งแรงมาก ๆ เพราะผู้วิพากษ์เน้นเรื่องนี้มาก ๆ จะทำเป็นแบบลูกทุ่ง ๆ หรือ R2R สงสัยคงจะไม่ได้ ยิ่งผลงานเป็นการวิจัยเชิงทดลองแล้ว ต้องรอบคอบจริง ๆ
5. งานนี้ตอนแรกผมจะไม่ไปนำเสนอเพราะรู้ว่าผลงานมีข้อจำกัดมาก ๆ แต่เกรงใจผู้จัดและผู้อำนวยการ จึงทำให้รายงานการวิจัยที่ส่งไปก่อนทำได้ไม่ดีนัก ผู้วิพากษ์จะวิพากษ์ตามรายงานการวิจัย เป็นส่วนมาก ดังนั้นต้องเตรียมรายงานการวิจัยดี ๆ เหมือนจะส่งลงวารสารวิชาการสาธารณสุข
6. สุดท้าย ผมคิดว่าควรจะให้โอกาสผู้เสนอผลงานวิจัยว่าต้องการประกวด หรือต้องการเผยแพร่ผลงานอย่างเดียว เพราะการนำผลงานไปแข่งขันกัน ทั้งที่ต้นทุนไม่เหมือนกัน เช่นบางเรื่องเป็นผลงานที่ต้องการทำ ปริญญาโท หรือ เอก งานที่ทำในชุมชนจะไปสู้ได้อย่างไร
สุดท้าย นับเป็นโอกาสที่หาได้น้อยที่ได้ไปร่วมในการนำเสนอเสนอครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามประสบการณ์ที่ได้มา ทำให้รู้ว่าความรู้ของเรามีแค่เพียงน้อยนิด เหมือนกับเป็นกบในกะลา การได้ไปเรียนรู้โลกภายนอกทำให้เราเปิดโลกทรรศน์ และได้มุมมองที่กว้าง และทำให้เราละเอียดรอบคอบ และต้องการค้นหาความรู้ ให้มากกว่านี้ .... ความรู้ไม่สิ้นสุด และไม่คงที่ ................ ขอบคุณสำนักวิชาการสาธารณสุข ครับ