ประสบการณ์ด้านการให้บริการ....ด้านบ้านพักฉุกเฉิน (บ้านของวันพรุ่งนี้ )เชียงใหม่ เป็นการให้บริการแก่เด็กและสตรีที่ด้อยโอกาสทางสังคม
โดยการประสานจากเครือข่ายทำงานด้านเด็กและสตรีเชียงใหม่ ได้รับประสานเพื่อขอส่ง Case เข้ารับการบำบัดและช่วยเหลือ พบว่าเป็นผู้หญิงวัย 33 ปีเป็นชาวไทยใหญ่ สัญชาตพม่า ถูกหลอกมาเมืองไทยทางเขต แดน อำเภอแม่สาย ลักษณะ รูปร่างใหญ่ ผอมสูง ฟันด้านหน้าหัก ตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน
จากการสัมภาษณ์ พบว่า เธอ ถูกหลอกมามาทำงานบ้านที่จังหวัดภูเก็ต ในขณะที่ปฎิบัติงานจริงๆ นายหน้าได้ขายเธอให้กับแหล่งขายบริการแห่งหนึ่ง วันแรกเธอไม่ยอมขายบริการ(รับแขก) คนคุมทำร้ายและซ้อมเธอ จนฟันหักด้านหน้า ทำงานด้วยความทุกข์ ในแต่ละวันจะรับแขกวันละ4-5 ราย ค่าตอบแทนไม่เคยได้ อ่านหนังสือไม่ได้ สื่อสารได้ เป็นภาษาไทยใหญ่ และภาษาไทยได้นิดหน่อย เธอทำงานด้านนี้อยู่ที่ภูเก็ตประมาณ 5 ปี
ต่อมา เธอมารู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ ในขณะที่ปฎิบัติงานอยู่ ผู้ที่มาซื้อบริการทางเพศ สงสาร เห็นใจ จึงได้ ชักชวนเธอหนีออกมาทำงาน จากใต้ ขึ้น สู่ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำงานบ้าน ดูแล ปัดกวาดบ้านเล็กน้อยๆ เธอช่างพูด เมื่อใครฟังจะต้องสงสารอยากช่วยเหลือ เมื่อนายจ้างรู้ว่าเธอไม่สามารถทำงานได้ จึงส่งเธอไปขอความช่วย
เหลือด้านการคลอดบุตร กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่ง ทางโรงพยาบาลฯ ส่งเธอ มาขอความช่วยเหลือด้านที่พักต่อไป
จากนั้น เธอได้คลอดลูก เป็น"ผู้ชาย" ดิฉัน จึงได้ตั้งชื่อลูกของเธอว่า "เหินฟ้า" เป็นช่วงที่ละครฮิต ของเมื่องไทยกำลังโด่งดังในช่วงนั้น และโรคร้ายที่ติดตามตัวเธอมาด้วย คือ เธอ ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์
เมื่อเธอมีลูก เธอมีความสุขมากในการดำเนินชีวิต ในแต่ละวันเธอจะทำงานบ้าน ดูแลลูก ฝึกอาชีพเล็กๆน้อยๆ และเรียนภาษาไทย เจ้าหน้าที่ทุกคน นั่งลง เพื่อที่จะสอนภาษาไทยวันละชั่วโมง แต่ความจำไม่ค่อยดี เพราะถูกทำร้ายตบตี ช่วง ที่ทำงานอยู่ เธอพยายาม ในการตั้งใจเรียน ออกเสียงควบกล้ำไม่ค่อยได้ เพราะฟันหลอ แต่เธอไม่ละความพยายาม ทำให้เรียกเสียหัวเราะตลอดเวลา
ในขณะที่เธอมีที่อยู่ที่ปลอดภัย เมื่อไม่สบายจะต้องพาไปพบแพทย์อยู่เป็นประจำ ถือว่าเธอได้รับการดูแลสุขภาพอย่างดี จากเมืองไทย เธอ ยังไม่เพียงพอ
เธอได้พบรัก กับคนสวนข้างสำนักงาน คือคุณลุงวัย 60 ปี เป็นหม้าย อาชีพทำสวนแต่ละวันคุณลุงจะทำสวนและตัดหญ้าหน้าบ้าน เธอจะต้องอุ้มลูกเพื่อที่จะไปเกาะริมรั้ว เพื่อขอความเห็นใจ ว่า "เหินฟ้า" ต้องการพ่อ พยายามขอความรักจากคุณลุง
ความต้องการที่เกิดขึ้นทุกคนต้องการ ที่จะมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่ในขณะเดียวกัน เธอ ไม่ต้องการที่จะบอกคุณลุงด้วยว่าตนเองติดเอดส์ กลัวเขาจะไม่รักตนเอง เรื่องความรัก ผู้ที่ดูแล ก็ไม่ได้หวงห้ามอะไร แต่จะต้องดูความเป็นไปได้ เมื่อตัวเรามีโรคภัยอะไร จะต้องบอกค่ของตนเองด้วย ถ้าจะแต่งงานกัน ไม่ใช่ปกปิดไว้ ในขณะความเป็นจริงคู่ของเรามีสิทธิ์ที่จะรับรู้ดเวยเหมือนกัน
และไม่ได้เกิดความตระหนัก ว่า การที่เธอและลูกมีชีวิตรอดเพราะ ว่าจะต้องอาศัยอยู่ตามมูลนิธิฯ หรือหน่วยงานของรัฐฯ ในการรับการรักษาเรื่องของสุขภาพกายสุขภาพใจ ให้มีความพร้อม เมื่อมีความพร้อมที่จะต้องดูแลตนเองได้ หน่วยงานจะต้องเธอ+ ลูกกลับครอบครัวเดิมต่อไป
การทำงานกับชนกลุ่มน้อย ไม่ใช่ดูแลแต่ร่ายกายของเธอ จะต้องให้การดูแลหัวใจของเธอ ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และพร้อมจะดูแลลูกของเธอ
เมืองไทยดีจัง ที่ดูแลชาวพม่า ดูแลลำบาก
การที่ผู้ที่ด้อยโอกาส หรือชนกลุ่มน้อยก็จะให้การดูแลที่ดีมาก ถือว่าคุณโชคดีมาก
การให้จะต้องให้การดูแลเบื้องต้น เมื่อเขารู้สึกดีขึ้น ก็จะประสาน ในการส่งกลับประเทศต้นทางอีกที
สวัสดีค่ะ คุณทิพวัลย์ สุระพา
มีความเชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน การทำงานกับคนที่ด้อยโอกาส ทำให้อื่มบุญและมีความสุขที่จะให้ ทำให้เกิดอานิสสงส์ที่ดีๆแก่ตัวเอง