การพัฒนาสุขภาพในกระบวนทัศน์ใหม่ เป็นสุขภาพที่เน้นการป้องกัน ควบคุม และสร้างเสริม หรือเป็น วิถีสุขภาพเชิงรุก (Proactive Heath Development Approach) รวมทั้งให้ความสำคัญต่อการรักษาความมีสุขภาพดีและความใส่ใจต่อการสร้างสุขภาวะ (Well-Being Health) ให้สมดุลกับสุขภาพแบบตั้งรับซึ่งเน้นการต่อสู้ให้หายจากความเจ็บป่วย (Illness Health) กลุ่มปัจเจกและชุมชนต่างๆทั้งของประเทศไทยและทั่วโลก ต่างกำลังมุ่งสู่สุขภาพในกระบวนทัศน์ใหม่นี้
สุขภาพแนวใหม่นี้ ต้องปรับวิธีคิดใหม่ ใช้ความรู้แนวใหม่ที่เชื่อมโยงกันระหว่างแนวคิดกับการปฏิบัติ ตลอดจนต้องสร้างคนและพัฒนาศักยภาพชุมชน ให้มีความสามารถในการจัดการตนเองแบบใหม่
การลงมือทำและเรียนรู้ไปด้วยกันระหว่างภาควิชาการซึ่งมีทักษะทางวิชาการและความรู้ (Knowlege and Technical Skills) กับภาคประชาชนและเครือข่ายชุมชน ซึ่งเป็นผู้นำทางประสบการณ์และมีความรู้ที่สามารถปฏิบัติในวิถีการดำเนินชีวิตจริง (Non-Technical Skills) เป็นหนทางหนึ่งของการพัฒนาสุขภาพแนวใหม่นี้ให้เกิดขึ้นได้จริง
ผู้นำ ความเป็นผู้นำ และภาวะผู้นำ เป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการพัฒนาสุขภาพในแนวทางใหม่นี้ เพราะแนวทางการพัฒนาสุขภาพเชิงรุกนั้น ประชาชนและชุมชนต้องยกระดับเชิงคุณภาพของการมีส่วนร่วม จะเป็นผู้รอรับบริการไถ่เดียวไม่พอ (Passived Participants) ทว่า ต้องสามารถร่วมปฏิบัติและทำในสิ่งที่ตนเองต้องการด้วยตนเอง (Active Participants)
สามารถนำการตัดสินใจ ริเริ่มด้วยตนเอง และจัดการตนเองได้ ซึ่งกล่าวได้ว่า เป็นสุขภาพของภาคประชาชนที่ประชาชนและชุมชนต้องมีความสามารถในการแสดงความเป็นผู้นำและบริหารจัดการภาวะผู้นำ การพัฒนาทักษะปัจเจก ความเข้มแข็งของชุมชน และการส้รางเสริมศักยภาพชุมชนระดับต่างๆ จึงเป็นการจัดการการพัฒนาสุขภาพที่สำคัญ และทำให้เรื่องสุขภาพกับการพัฒนาสังคม เกื้อหนุนส่งเสริม และบูรณาการเป็นเรื่องเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้นำ ความเป็นผู้นำ และภาวะผู้นำ แม้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อการยกระดับการมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาสุขภาพโดยองค์รวมของสังคม แต่ก็มีความหมายที่แตกต่างกัน
ผู้นำ หมายถึง ตัวผู้นำและตำแหน่งหน้าที่ในการเป็นผู้นำ ซึ่งโดยทั่วไป เราแบ่งผู้นำออกเป็นสองแบบ คือผู้นำแบบเป็นทางการ และผู้นำโดยธรรมชาติ
ประชาชนและชุมชนส่วนใหญ่ของสังคมไทย มักรู้จักแต่เพียงผู้นำที่เป็นทางการหรือผู้นำโดยตำแหน่ง อีกทั้งรับรู้ตนเองเพียงการเป็นราษฎร รอคอยเป็นผู้ตาม และเป็นผู้ต้องได้รับบริการจากการที่มีผู้อื่นมาทำในสิ่งที่ตนเองต้องการให้ ซึ่งทำให้หลายสิ่งที่อยู่ในวิถีชีวิตและเป็นสิ่งที่ต้องร่วมสร้างด้วยตนเอง ขาดพลังจัดการให้ทัดเทียมกับความจำเป็นของโลกปัจจุบัน ทั้งในเรื่องสุขภาพและอื่นๆ
ความเป็นผู้นำ หมายถึง คุณสมบัติและลักษณะการเป็นผู้นำ ซึ่งตัวผู้นำและผู้อยู่ในตำแหน่งการนำ จะมีอยู่อย่างหลากหลาย อีกทั้งอาจจะแตกต่างกันในความเป็นผู้นำ แม้ในฐานะการเป็นผู้นำในเรื่องเดียวกัน โดยทั่วไป เรารู้จักความเป็นผู้นำโดยจำแนกไปตามวิถีการนำ และวิธีการที่ใช้แสดงความเป็นผู้นำ เป็นต้นว่า ผู้นำเชิงอำนาจ ผู้นำทางปัญญา ผู้นำทางความรู้ ผู้นำทางจิตใจ ผู้นำเชิงบารมี ผู้นำทางค่านิยม ผู้นำทางการปฏิบัติ ผู้นำทางความดีงาม เป็นอาทิ
การจำแนกความเป็นผู้นำ ด้วยตำแหน่งผู้นำ มักทำให้ชุมชนและสังคมรู้จักความเป็นผู้นำในความหมายที่แคบ ต่อเมื่อศึกษาเรียนรู้ศักยภาพและทุนทางสังคม ตลอดจนความสามารถพิเศษที่ปัจเจกแต่ละคนจะมีความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติในชีวิตของตนเอง เราจึงจะสามารถเห็นได้ว่า แท้จริงแล้วปัจเจกแต่ละคนมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งสามารถแสดงความเป็นผู้นำออกมาในเงื่อนไขแวดล้อมที่แตกต่างกัน
บางคนรู้เป็นหมอ บางคนรู้เป็นชาวนา บางคนรู้ทำมาค้าขาย บางคนรู้สร้างความสุขแก่ผู้อื่น บางคนรู้ความเป็นครู บางคนรู้การช่าง บางคนรู้ปกป้องคุ้มภัยชุมชน บางคนรู้ถ่ายทอดสื่อสาร บางคนเก่งทำเรื่องส่วนรวม บางคนเก่งทำอาหารเลี้ยงดูผู้คน และอีกสารพัดที่หลายหลากอยู่ในความเป็นมนุษย์
กล่าวได้ว่า ทุกคนจะมีความสามารถในการแสดงความเป็นผู้นำออกมาในสถานการณ์ต่างๆไม่เหมือนกัน เมื่ออยู่ร่วมกันและจัดการสารทุกข์สุขดิบร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ชุมชน และกลุ่มก้อนการรวมตัวเป็นหน่วยทางสังคมต่างๆ ปัจเจกทุกคนจึงต่างพึ่งพาอาศัยกัน บางโอกาสเป็นผู้นำ บางสถานการณ์เป็นผู้ตาม หากขาดผู้อื่นเราก็จะไม่มีทางพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้ คนอื่นและผู้อื่นก็เช่นกัน ผู้คนและสรรพสิ่งจึงเป็นองค์ประกอบซึ่งกันและกันทั้งความมีและไม่มี การนำและการตาม
ภาวะที่ผุดขึ้นจากการจัดการเหตุปัจจัยหลายอย่างซึ่งทำให้ทุกคนรู้ได้ด้วยตนเองว่า ควรโน้มการคิด ตัดสินใจ และพากันปฏิบัติไปทางไหน และอย่างไรนั้น เราเรียกองค์รวมของสิ่งนั้นว่า ภาวะผู้นำ (Collective Leadership)
อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่มักไม่เห็นความเป็นผู้นำที่อยู่ในตนเอง กล่าวอย่างที่สุด เรามักรู้จักผู้นำที่ให้คนอื่นแสดง ทว่า มักไม่ได้เรียนรู้ให้เห็นความเป็นผู้นำภายในตนเอง ความเป็นผู้นำในอีกความหมายหนึ่ง จึงหมายถึงการเรียนรู้เพื่อเห็นตนเองและสามารถเคารพการตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆของตนเองได้ ความเป็นผู้นำกับความเชื่อมั่นในตนเองจึงมีความหมายที่ใกล้ชิดกันมาก และผู้นำในความหมายนี้ ย่อมหมายถึงผู้นำโดยการปฏิบัติ ซึ่งปัจเจกและชุมชนทุกคนสามารถแสดงความเป็นผู้นำได้ (Leader is not position,but action) (จาก ศาสตราจารย์ ดร. วาย เจมส์ ซี เยน และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ ดร.กระแส ชนะวงศ์)
ภาวะผู้นำ เป็นผลรวม (Collectives) จากการจัดการเหตุปัจจัยและเงื่อนไขแวดล้อมหลายด้าน โดยทั่วไปแล้ว ปัจเจกและชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทสังคมไทย มักไม่กล้าแสดงความเป็นผู้นำที่มีอยู่อย่างจำเพาะตนออกมา เพราะสภาวการณ์ต่างๆ ทางสังคมและวัฒนธรรม ตลอดจนประสบการณ์ทางสังคมของชุมชน ไม่เอื้อต่อการเข้าถึงศักยภาพและทุนทางสังคมอันมีอยู่อย่างหลากหลาย
ดังนั้น การมีผู้นำ และความเป็นผู้นำ ที่มีอยู่อย่างหลากหลายของประชาชน จึงต้องการการเรียนรู้และพัฒนาการจัดการที่ดี กลุ่มปัจเจก ชุมชน และเครือข่ายชุมชน จึงจะสามารถแสดงภาวะผู้นำออกมา ทางด้านสุขภาพและการส้รางเสริมสุขภาพ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เน้นการปฏิบัติเชิงรุกและจำเป็นต้องก่อเกิดจากการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในฐานะผู้ริเริ่มและผู้นำการปฏิบัติ จึงจะสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีพลัง
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการเกิดวิกฤติและสั่งสมในกระบวนการทางสังคมจากคนหลายรุ่น (Learning Community by Crisis) ซึ่งอาจจะเป็นไปอย่างช้าๆ และไม่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว การให้ประสบการณ์ทางสังคมแก่ปัจเจก ชุมชน และเครือข่ายเชิงพื้นที่ของชุมชน โดยการวิจัยเชิงปฏิบัติการสังคมและการจัดเวทีเรียนรู้สาธารณะ ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากการแก้ปัญหาและการลงมือทำจริง ก็นับว่าเป็นหนทางหนึ่งที่จะก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์และสร้างประสบการณ์ตรงที่จะมีความหมายต่อการเรียนรู้ทางสังคม (Social Learning)
เมื่อนำมาเชื่อมโยงกับการพัฒนาภาวะผู้นำของชุมชนไปด้วย ก็จะทำให้เกิดเวทีการเรียนรู้ตนเอง เคารพตนเอง เคารพชุมชนอื่น เคารพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นศักยภาพและความเป็นผู้นำของตน อีกทั้งได้ประสบการณ์ตรงในการคิดและแสดงการตัดสินใจร่วมกันเกี่ยวกับอนาคตของตนในประเด็นการจัดการที่มีความเป็นส่วนรวม มีความหมาย และเข้าถึงคุณค่าที่ลึกซึ้งมากยิ่งๆขึ้น เป็นการจัดการและกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งผุดบังเกิด ภาวะผู้นำ (Collective Leadership) เสริมศักยภาพชุมชนให้มีโอกาสเพิ่มพูนความสามารถจัดการเรื่องส่วนรวมของตนเองร่วมกับคนอิ่น
แนวคิดเบื้องต้นดังที่กล่าวมา ทำให้เครือข่ายวิจัยสร้างสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างบูรณาการชุมชนลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง กับเครือข่ายวิจัยลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง และเครือข่ายชุมชน จัดเวทีสาธารณะ เพื่อเรียนรู้ระหว่างเครือข่ายการวิจัยที่ทำงานเชิงพื้นที่ภายใต้ประเด็นที่แตกต่างกัน เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2550 ที่วัดบางช้างเหนือ ตำบลคลอใหม่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยมีเครือข่ายการวิจัยด้านสุขภาพจากคณะและสถาบันต่างๆของมหาวิทยาลัยมหิดล กับ อบต และชุมชนคลองใหม่ เป็นเจ้าภาพร่วมกัน
ขณะเดียวกัน ก็เป็นเวทีจัดการเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาเชิงพื้นที่ ซึ่งทำให้เวทีสาธารณะระดับเครือข่ายชุมชน มีบทบาทต่อการจัดให้ชุมชนร่วมกันสังเคราะห์และสะท้อนผลจากกระบวนการเรียนรู้ในช่วงเวลาต่างๆ รวมทั้งจากเวทีที่จัดขึ้น ไปสู่การให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสาธารณะระดับท้องถิ่น ซึ่งในเชิงกระบวนการแล้ว จัดว่าเป็นการพากันเรียนรู้ที่จะมุ่งสู่อนาคตและพัฒนาแนวการจัดการร่วมกัน พัฒนาศักยภาพปัจเจก และเสริมสร้างภาวะผู้นำชุมชน นั่นเอง
แง่มุมดังกล่าวนี้ มีความน่าสนใจทั้งในเชิงระเบียบวิธีของการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วมเพื่อสร้างเสริมพลังชุมชน และเป็นวิธีวิทยาเพื่อเพิ่มพูนศักยภาพการจัดการภาวะผู้นำของชุมชน นอกเหนือจากบทเรียนที่น่าสนใจอีกหลายเรื่อง.
ไม่มีความเห็น