วันที่ ศุกร์ ที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ที่ผ่านมาดิฉันมีโอกาสเข้าร่วมเวที “การจัดการความรู้ สู่ชุมชนคุณธรรม” จัดโดยโครงการจัดการความรู้และการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายคุณธรรม ภายใต้การดำเนินการของ สรส. ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากศูนย์คุณธรรม .....
เท่าที่ทราบเวทีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้พื้นที่ปฏิบัติ ๙ แห่ง มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และมีการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกันเอง และอีกวัตถุประสงค์หนึ่งคือต้องการให้คณะกรรมการโครงการฯ นี้ได้เข้าใจถึงกระบวนการและวิธีการทำงานของโครงการฯ จึงได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่โครงการฯ ได้ใช้กระบวนการของการจัดการความรู้
สิ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้จากเวทีนี้คือ เนื่องจาก ๙ พื้นที่ที่เข้าร่วมนี้สามารถแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มที่นำ KM ไปใช้ในโรงเรียน และ กลุ่มที่มีการใช้ KM ในชุมชน.... ทั้ง ๒ กลุ่มนี้ ทำให้ดิฉันเห็นความต่างได้ชัดเจนโดยจะขอเล่าในบ้างประเด็น เช่น
วัตถุประสงค์ของการนำ KM ไปใช้
โรงเรียน---- นำ KM ไปใช้เพื่อพัฒนาวิธีการสอนโดยมุ่งผลลัพธ์ในการเสริมสร้างศักยภาพของเด็กนักเรียนเป็นหลัก
ชุมชน----- นำ KM ไปใช้เพื่อพัฒนาอาชีพ การดำเนินชีวิตของตนและคนในชุมชน.. โดยเริ่มจากปัญหาของตนเอง
วิธีการพูดและการนำไปใช้
โรงเรียน----- ครูจะพูดกระบวนการ KM และคำว่า KM ตรงตามทฤษฎีมาก.. มีหลักการถูกต้องแม่นยำ.. แล้วนำความเข้าใจนั้นไปใช้และประยุกต์กับนักเรียนของตน...
ชุมชน-------- พูดไม่เก่ง...ไม่พูดคำว่า KM เลย.... เล่าที่มาที่ไปของปัญหา วิธีการคิด และกระบวนการที่ตนเองทำ... แต่ FA ต้องซักเยอะๆ ..........
ความประทับใจคือ ชาวบ้านหลายคนที่มาร่วมงานนี้ กล้าพูด-กล้าเขียน กล้านำเสนอต่อหน้าคนมากมาย แม้ว่าจะเขียนหนังสือไม่ถูกหรือพูดไม่เก่ง เพราะบางคนจบแค่ ป.4 หรือต่ำกว่า... ซึ่งชาวบ้านเล่าตอนนำเสนอว่าที่กล้าพูดและกล้าเขียนเป็นเพราะ คุณทรงพล (ผอ. สรส.) บอกว่า “ถ้าผมให้พูดและเขียนแล้วจะตายก็ให้รู้ไป”……ชาวบ้านจึงกล้าที่จะทำและไม่อายใคร