ถุงทอง ร่างกายที่เหลือแต่จิตและวิญาณในเดือน มิ.ย. 50


เช้าวันใหม่ ถุงทองลืมตาขึ้นทำให้หลายคนทั้งบ้านเริ่มมีรอยยิ้ม แต่มันก็ยังเป็นยิ้มที่ปนกับความกังวลๆ อยู่ลึกๆ แต่ก็ช่างเถอะขอให้วันนี้อยู่รอดไปได้ก่อน ส่วนวันพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึงหรืออาจจะไม่มีอยู่อีกแล้วสำหรับถุงทอง!

สำหรับเดือนนี้ หน้า "มีอะไรในblog นี้" ต้องขอเว้นว่างเรื่องการตลาดและการจัดการซักเดือน แต่จะอุทิศพื้นที่นี้ให้กับ "ถุงทอง" แล้วกันนะครับ

เกิดอะไรขึ้นกับถุงทอง และทำไมจึงกลายเป็นเรื่องของร่างกายที่เหลือแต่จิตและวิญญาณ เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ถุงทอง เป็นสุนัขพันธ์ร๊อตไวเลอร์ของที่บ้านที่อยู่กันมานานถึง 12 ปี ถุงทองเป็นสุนัขเพศเมียครับ ถุงทองนั้นเมื่อตอนเด็กๆ ถุงทองมีปัญหาเรื่องขาหลังคือ ลีบและไม่ค่อยมีแรงทำให้วิ่งได้ไม่สะดวก แต่การไม่มีแรงของขาหลังนั้นก็ยังไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรมากนัก เพียงแต่ถุงทองจะเป็นสุนัขที่มักจะอยู่กับที่ แทนที่จะซุกซนวิ่งเล่นเหมือน แสนดี ลูกสุนัขเพศเมียพันธุ์ ดัลเมเชียน ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

แต่อย่างไรก็ตาม ถุงทองก็เติบโตมาพร้อมกับการให้ความรักและความเอาใจใส่ของทุกคนในบ้าน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าคือ อยู่ๆ ถุงทองก็ร้องเหมือนจะเจ็บปวดและก็เป็นอัมพาตทั้งตัว ไม่สามารถลุกขยับเขยื้อนเองได้ ทำให้ทั้งบ้านเกิดการโกลาหลกับการที่ถุงทองไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป

เช้าวันรุ่งขึ้นทางบ้านเลยพยายามติดต่อโรงพยาบาลสัตว์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรและนำถุงทองไปให้ตรวจรักษา ผลของการเอ็กซ์เรย์พบว่ากระดูกสันหลักระดับคอของถุงทองนั้นงอกไปทับเส้นประสาท จึงทำให้ถุงทองมีร่างกายที่เหลือแต่จิตวิญาณเท่านั้น ความสามารถทางร่างกายที่เหลืออยู่ของถุงทองก็เป็นเพียงแค่ การกรอกขยับตาไปมา และลิ้นที่ยังพอจะเลียน้ำที่พวกเราพยายามป้อนให้ได้

หลังจากที่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับถุงทอง เราก็พยายามที่จะช่วยเหลือ ที่ทำได้คือการ "ผ่าตัด" แต่อย่างไรก็ตามการคิวผ่าตัดนั้นยังมีคิวอีกหลายคิวและไม่ทราบว่าจะทำการผ่าตัดได้เมื่อไร ซึ่งการเคลื่อนไหวย้ายที่ไปมาของถุงทองในแต่ละครั้งนั้นจะต้องระมัดระวังอย่างมากเพราะถ้าเคลื่อนไหวผิดท่า หรือทำถุงทองหล่นในขณะอุ้ม เราอาจจะไม่มีเพื่อนที่ชื่อถุงทองอยู่ร่วมบ้านกันอีกต่อไป
ถุงทองหลังการผ่าตัด
มาถึงตรงนี้น้องสาวที่ผูกพันกับถุงทองมาก เพราะเป็นคนที่ใกล้ชิดกับถุงทองที่สุดตั้งแต่ถุงทองยังเล็กๆ ก็ทนต่อไปไม่ไหว น้ำตาและความกลัวที่จะเสียถุงทองไปเนื่องจากไม่รู้ว่าจะได้ผ่าตัดเมื่อไร ก็พรั่งพรูออกมาอย่างไม่หยุด ผมทราบดีว่าน้องสาวผมรู้สึกอย่างไร เพราะผมเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่แตกต่างจากน้องสาวผมไปซักเท่าไร

โชคเหมือนเข้าข้าง ในขณะที่เราเตรียมหาโรงพยาบาลใหม่อยู่เพื่อจะให้ถุงทองได้ผ่าตัดได้เร็วที่สุดนั้น ก็มีคนไข้รายหนึ่งที่ขอยกเลิกการผ่าตัดไป ทำให้ถุงทองได้รับการผ่าตัดในวันพฤหัส ระหว่างที่ผ่าตัดอยู่น้องสาวผมก็ยังร้องไห้อยู่ตลอด เมื่อถุงทองออกมาจากห้องผ่าตัด ข่าวที่เราทราบจากทางคุณหมอก็คือ "คืนนี้มีโอกาส 50:50นะ" ขอให้ผ่านคืนนี้ไปได้ ผลคือคืนนั้นไม่มีใครหลับคอยเอาใจช่วยถุงทองกันอยู่
 

เช้าวันใหม่ ถุงทองลืมตาขึ้นทำให้หลายคนทั้งบ้านเริ่มมีรอยยิ้ม แต่มันก็ยังเป็นยิ้มที่ปนกับความกังวลอยู่ลึกๆ แต่ก็ช่างเถอะขอให้วันนี้อยู่รอดไปได้ก่อน ส่วนวันพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึงหรืออาจจะไม่มีอยู่อีกแล้วสำหรับถุงทอง! ถุงทองลืมตาขึ้นได้สักพัก พี่เลี้ยงก็เริ่มป้อนน้ำจากหลอดฉีดยาให้ ถุงทองเลียน้ำจากหลอดฉีดยาอย่างตระกรุมตระกรามเนื่องจากอดข้าวอดน้ำมาเป็นเวลาหลายวัน เมื่อถุงทองเริ่มโต้ตอบโดยการเลียน้ำ สีหน้าของทุกคนก็แจ่มใสขึ้น ส่วนผมเห็นรอยยิ้มของทุกคนที่บ้านก็พลอยดีใจไปด้วย แต่ในใจก็ยังเกิดคำถามที่ตามมาอีกว่า สุนัขใหญ่พันธุ์ร๊อตไวเลอร์ที่มีน้ำหนักตัวถึง 44 kg. นั้นจะสามารถอยู่รอดได้จากบาดแผลกดทับได้อย่างไร?

บาดแผลกดทับนั้นมักจะเกิดขึ้นไม่ว่ากับคนหรือสัตว์หากนอนนิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อนตัวเป็นเวลานานๆ บาดแผลกดทับนั้นรักษาได้ยากตราบใดที่ร่างกายนั้นไม่ได้เคลื่อนไหว ตำแหน่งที่จะพบแผลกดทับบ่อยๆ ก็คือส่วนที่น้ำหนักกดทับร่างกายมากที่สุด ในกรณีของสุนัขนั้นมักจะเกิดขึ้นกับช่วงต้นของต้นขาหน้าส่วนที่ติดกับลำตัวและบริเวณสะโพก บาดแผลที่เกิดจากการกดทับเป็นบาดแผลทีjไม่ได้รักษาให้หายจะลุกลามไปเรื่อยๆ ใหญ่ขึ้น กว้างขึ้นและสามารถกินลึกไปจนถึงกระดูก และมีแผลโอกาสที่จะติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น นั่นคือหากถุงทองไม่สามารถช่วยตัวเองโดยการขยับเขยื้อนได้ พี่เลี้ยงก็ต้องช่วยกันพลิกตัวถุงทองทุกๆ สองชั่วโมง เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับดังกล่าว ตลอดวันวานที่ผ่านมาพี่เลี้ยงช่วยกลับตัวถุงทองไปมา แต่คำถามคือจะทำกันได้นานแค่ไหน?

ถุงทองกับที่นอนใหม่ โชค

โชคเข้าข้างถุงทองอีกครั้งเมื่อผมคิดได้ว่า ผมมีเพื่อนทำที่นอนป้องกันบาดแผลกดทับสำหรับคนอยู่ และผมเองก็มีส่วนช่วยในการให้คำปรึกษาในเรื่องการตลาดของที่นอนป้องกันแผลกดทับสำหรับคนนี้ ผมไม่รีรอที่จะโทรหาเพื่อนคนนี้และบอกเรื่องของถุงทองให้เขาฟัง ซึ่งเพื่อนผมก็ใจดีอย่างสุดๆ ส่งที่นอนป้องกันแผลกดทับสำหรับสุนัขมาให้ผมหนึ่งชุดทันที สำหรับที่นอนที่ถุงทองได้มานั้นก็เป็นเวลาเหมาะพอดีที่เพื่อนคนนี้กำลังทำ Clinical Trial สำหรับที่นอนป้องกันแผลกดทับของสัตว์อยู่ เมื่อที่นอนมาถึง พวกเราก็คลี่และเติมอากาศจากเครื่องปั๊มลมอย่างรวดเร็วทันใจ จากนั้นก็เอาถุงทองขึ้นนอนในที่นอนใหม่ เมื่อร่างกายของถุงทองได้สัมผัสกับที่นอนใหม่สักพัก ผมจึงสังเกตุแววตาของถุงทอง มันมีประกายของสุนัขที่มีความสุขมากขึ้น และเมื่อถุงทองได้เลียน้ำจากหลอดฉีดยาที่พี่เลี้ยงป้อนได้ไม่นาน ก็ปิดตานอนหลับไปอย่างสบาย ทำให้พวกเราพออกพอใจกันมาก และในตอนเย็นเพื่อนผมที่นำที่นอนมาให้ก็แวะมาเยี่ยมถุงทองถึงที่บ้าน และมาให้คำแนะนำพี่เลี้ยงเกี่ยวกับการใช้งาน

ถุงทองกับที่นอนใหม่

ทุกคนที่บ้านเมื่อเห็นถุงทองมีความสุขมากขึ้นเราก็รู้สึกมีความสุขตามไปด้วย อย่างน้อยที่สุดเราก็ได้ดูแลถุงทองเป็นอย่างดี และได้ตอบแทนความซื่อสัตย์ ความเป็นเพื่อนของถุงทองที่มีให้ซึ่งกันและกันตลอดเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้วันนี้ถุงทองจะไม่มีร่างกายที่เคลื่อนไหวได้เหมือนเดินอย่างเมื่อวันวาน แต่เราก็เชื่อว่าถุงทองยังมีจิตและวิญาณที่มีความสุขร่วมกับทุกคนในบ้าน คำว่าพรุ่งนี้อาจจะไม่มีความแน่นอนแต่ผมคิดว่าวันนี้เรามีความสุขมากที่ได้เห็นถุงทอง สุนัขของเรา

บุริม โอทกานนท์
-----------------------------------------------------
* ขอขอบคุณ คุณสุรศักดิ์ ตาบทิพย์วัฒนา เจ้าของบริษัท Ureka ผู้ที่มอบที่นอนป้องกันบาดแผลกดทับสำหรับสัตว์ให้กับสุนัขของเราที่ชื่อ “ถุงทอง”

http://www.bedsorethai.com/
-----------------------------------------------------

 

หมายเลขบันทึก: 99054เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2007 09:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท