วิสัยทัศน์และแนวทางในการพัฒนาสถานศึกษา
วิสัยทัศน์ (Vision)
“โรงเรียนมีความเป็นเลิศตามหลักธรรมาภิบาลสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
สู่คุณภาพนักเรียนที่ยั่งยืนในศตวรรษที่ 21”
(school of height performance organization used to good governance with national strategy to be student of sustainable personal mastery in 21st century)
พันธกิจ (Mission)
เป้าประสงค์ (Goal)
กลยุทธ์ (Strategy)
จุดเน้น (Focus Point)
ผลลัพธ์ (Outcome)
นักเรียนทุกคนมีคุณธรรมจริยธรรม มีลักษณะและทักษะการเรียนรู้ 3R x 8Cs ในศตวรรษที่ 21 มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ก้าวข้ามกับดักความเหลื่อมล้ำโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา
กรอบความคิดในการพัฒนาสถานศึกษา :
บริหารตามหลักธรรมาภิบาลในการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และใช้วงจร เดมมิ่ง (deming cycle) สำหรับการพัฒนาพันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ จุดเน้น เพื่อดำเนินงานคุณภาพการศึกษาในทุกกลุ่มเป้าหมายให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ตรงตามความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น วัตถุประสงค์ของแผนการศึกษาแห่งชาติ นโยบายของรัฐบาล และของต้นสังกัด ประกอบกับพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการเรียนรู้ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ เพื่อกำหนดเป็นแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาที่มีระบบการติดตามตรวจสอบประเมินผล และปรับปรุงพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้แล้วยังให้ความสำคัญกับการบริหารอัตรากำลัง ทรัพยากรทางการศึกษา ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ระบบการนิเทศภายใน เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาบุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อมีส่วนร่วมการวางแผน ปรับปรุง และพัฒนา และร่วมรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา ทั้งนี้ยังส่งเสริมการบริหารจัดการเกี่ยวกับงานวิชาการเพื่อพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การส่งเสริมกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่เน้นคุณภาพนักเรียนรอบด้านให้เชื่อมโยงวิถีชีวิตจริงครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาครู บุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพโดยจัดให้มีชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนางานและการเรียนรู้ของนักเรียน ประกอบกับจัดหาพัฒนาระบบการบริการด้าน ICT เพื่อส่งเสริมระบบบริหารจัดการการเรียนรู้ของนักเรียน
กระบวนการวิธีการและแนวทางการพัฒนาสถานศึกษา :
ใช้หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปรงใส หลักความมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่าเป็นพื้นฐานในการพัฒนาระบบบริหารจัดการ กลุ่มบริหารวิชาการ กลุ่มบริหารงบประมาณ กลุ่มบริหารงานบุคคล และกลุ่มบริหารทั่วไป เพื่อขับเคลื่อนพันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ จุดเน้น ด้วยวงจรเดมมิ่ง (deming cycle) ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้เกิดความเป็นไปได้ในการบรรลุวิสัยทัศน์ในการพัฒนาสถานศึกษา จึงกำหนดเป็นกลยุทธ์เชิงนโยบายของโรงเรียนในปีงบประมาณ 2562 – 2564 ดังนี้
นโยบายที่ 1 จัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง
การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง จะเน้นการส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรม สามารถค้นพบความรู้ความถนัดของตนเอง โดยมีเป้าประสงค์ให้นักเรียนทุกคนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น มีคุณธรรมจริยธรรม และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศภายในปี พ.ศ. 2564
กลยุทธ์ : บูรณาการศาสตร์พระราชามาใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างยั่งยืน
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 100 ของชั้นเรียนมีการบูรณาการ “ศาสตร์พระราชา” มาใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างยั่งยืน
แนวทางการดำเนินการ :
ดำเนินการตามนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยน้อมนำแนวทางพระราชดำริสืบสานพระราชปณิธานและพระบรมราโชบายด้านการศึกษา หรือ “ศาสตร์พระราชา” มาใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ในทุกชั้นเรียน
นโยบายที่ 2 พัฒนาคุณภาพนักเรียน
การพัฒนาคุณภาพนักเรียนจะเน้นการส่งเสริมคุณภาพนักเรียนเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 โดยมีเป้าประสงค์ให้นักเรียนทุกคนได้เรียนวิชาภาษาจีน วิชาภาษาอังกฤษ และกิจกรรมสะเต็มศึกษา (STEM Education) อย่างมีคุณภาพ ภายใน ปี พ.ศ. 2564
กลยุทธ์ : พัฒนาคุณภาพกระบวนการเรียนรู้ด้วยการวิจัยเป็นฐาน
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 80 ของครูผู้สอนนำผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวิชาภาษาจีน วิชาภาษาอังกฤษ หรือ กิจกรรมสะเต็มศึกษา (STEM Education) ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แนวทางการดำเนินการ :
ดำเนินการตามนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยส่งเสริมการนำผลการวิจัย ที่เกี่ยวข้องกับวิชาภาษาจีน วิชาภาษาอังกฤษ หรือ กิจกรรมสะเต็มศึกษา (STEM Education) ไปใช้ ในการพัฒนาคุณภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูผู้สอน
นโยบายที่ 3 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
การสนับสนุนพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักเรียน โดยมีเป้าประสงค์ให้ครูและบุคลากรภายในโรงเรียนทุกคนต้องได้รับการพัฒนากระบวนการลูกเสือ-เนตรนารี รวมทั้งสนับสนุนให้เข้าร่วมการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร ภายในปี พ.ศ. 2563
กลยุทธ์ : พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล รวมถึงการนำกระบวนการ PLC มาอบรมพัฒนาครู
ตัวชี้วัด :
1) ร้อยละ 100 ของครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ในรูปแบบที่หลายหลายโดยเน้นไปที่กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี
2) ร้อยละ 100 ของครูผู้สอนนำกระบวนการ PLC ไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล
แนวทางการดำเนินการ :
ดำเนินการตามนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่
1) ส่งเสริมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาในรูปแบบที่หลายหลายโดยเน้นไปที่กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีวินัยต่อตนเองและมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน และสังคม
2) พัฒนาครูผู้สอนโดยนำกระบวนการ PLC ไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล
นโยบายที่ 4 สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
การส่งเสริมระบบดูและช่วยเหลือนักเรียนให้เข้าถึงบริการทางการศึกษาและการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ โดยมีเป้าประสงค์ให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ได้รับการจัดทำข้อมูล การป้องกัน การติดตามเด็กออกกลางคันโดยชุมชน ผู้ปกครองร่วมรับผิดชอบ และคัดกรองนักเรียนที่มีความจำเป็นและต้องการเป็นพิเศษ โดยดำเนินการตามแนวทาง No Child Left Behind ภายในปี พ.ศ. 2562
กลยุทธ์ : ส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษากับนักเรียนกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มมีปัญหา ด้วยระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และบูรณาการเทคโนโลยีดิจิตัล เพื่อการศึกษาให้สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันทั้งโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่าย ด้านระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการศึกษาด้านสื่อและองค์ความรู้
ตัวชี้วัด :
1) ร้อยละ 100 ของนักเรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพในระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2) ร้อยละ 100 ของสถานศึกษาบูรณาการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยเทคโนโลยีดิจิตัลเพื่อการศึกษาให้สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันทั้งโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่าย ด้านระบบข้อมูลสารสนเทศ
แนวทางการดำเนินการ :
ดำเนินการตามนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสร้างความเข้มแข็งของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ระบบส่งเสริมความประพฤตินักเรียน ระบบคุ้มครองนักเรียน และการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ได้รับโอกาสในการเข้ารับบริการอย่างทั่วถึงและเสมอภาค ด้วยโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายเทคโนโลยีดิจิตัลด้านระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการศึกษา ด้านสื่อและองค์ความรู้
นโยบายที่ 5 จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าประสงค์ให้นักเรียนทุกคน เข้าร่วมธนาคารขยะ โดยโรงเรียนและชุมชนร่วมกันคัดแยก นำกลับมาใช้ประโยชน์ และนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขยายผลในหลักสูตรสถานศึกษา ภายในปี พ.ศ. 2563
กลยุทธ์ : ปลูกฝังจิตสำนึกการพัฒนาที่ยั่งยืนจากโรงเรียนตามพระราชดำริ : ต้นแบบการจัดการสิ่งแวดล้อม
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 100 ของสถานศึกษามีกิจกรรมส่งเสริมสนับสนุนการสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมและน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในสถานศึกษา
แนวทางการดำเนินการ :
ดำเนินการศึกษาดูงานโรงเรียนตามพระราชดำริ : ต้นแบบการจัดการสิ่งแวดล้อม กับโรงเรียนกุดบากพัฒนาศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23 จังหวัดสกลนคร ด้วยการแบ่งฐานการเรียนรู้เป็น 4 ฐาน คือ ฐานเรียนรู้เกษตรผสมผสาน ฐานเรียนรู้ด้านพลังงาน ฐานเรียนรู้ขยะรีไซเคิลและฐานเรียนรู้น้ำ เพื่อให้นักเรียนทุกคน เข้าร่วมธนาคารขยะ โดยโรงเรียนและชุมชนร่วมกันคัดแยกนำกลับมาใช้ประโยชน์ และนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขยายผลในหลักสูตรสถานศึกษา
นโยบายที่ 6 พัฒนาระบบบริหารจัดการและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
กลยุทธ์ : นำหลักธรรมาภิบาลมาพัฒนาระบบบริหารจัดการสถานศึกษา
การพัฒนาระบบบริหารจัดการโดยใช้หลักธรรมาภิบาลและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา โดยมีเป้าประสงค์ให้โรงเรียนได้รับการบริหารตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา พ.ศ. 2550 และการบริหารจัดการอัตรากำลังสอดคล้องกับนโยบายลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอนของครู ภายในปี พ.ศ. 2562
ตัวชี้วัด :
1) ร้อยละ 100 ของสถานศึกษาแบ่งส่วนราชการตามตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา พ.ศ. 2550
2) ร้อยละ 100 ของสถานศึกษาบริหารจัดการอัตรากำลังสอดคล้องกับนโยบายลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอนของครูในการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมด้วยพลังประชารัฐ
แนวทางการดำเนินการ :
ดำเนินการสร้างความเข้มแข็งในการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมด้วยพลังประชารัฐในการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา ด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล และด้านการบริหารทั่วไปเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ลดภาระงานครู โดยจัดทำงานมาตรฐานและภาระงานครูและบุคลากรในสถานศึกษา ด้วยวิธีการบริหารจัดการเวลาแบบ cycle-time management โดยปรับหลักสูตรสถานศึกษาให้ครูสอนไม่เกิน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ และแบ่งภาระงานในสถานศึกษาเป็น 2 ส่วน คือ 1) ภาระงานสอนตามตารางสอน : จัดตารางสอนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติมอยู่ระหว่าง เวลา 8.30 น. - 14.30 น. 2) ภาระงานสนับสนุนการบริหารสถานศึกษา/นโยบายและจุดเน้น : จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนกับกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ให้เริ่มดำเนินการพร้อมกันในระหว่างเวลา เวลา 14.30 น. – 16.30 น. ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการแบบลดรอบระยะเวลา เพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบด้านการบริหารจัดการให้กับโรงเรียนในเครือข่ายสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาต่อไป
บทสรุปสำหรับนักบริหาร
การบริหารสถานศึกษาให้มีความเป็นเลิศตามหลักธรรมาภิบาลสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ผู้บริหารสถานศึกษาควรศึกษาการกำหนดเป้าหมายวิสัยทัศน์ และพันธกิจให้ชัดเจน เพื่อสามารถดำเนินการพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพนักเรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาในทุกกลุ่มเป้าหมาย นำไปสู่การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ตามมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านคุณภาพผู้เรียน ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ และด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ นอกจากนี้แล้วผู้บริหารสถานศึกษาควรดำเนินการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุน การบริหารจัดการเรียนรู้ รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ เพื่อขับเคลื่อนพันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ จุดเน้น ด้วยวงจรเดมมิ่ง (deming cycle) ให้เกิดความเป็นเลิศในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามกลยุทธ์เชิงนโยบายของโรงเรียนในปีงบประมาณต่อไป