"บัตรประชาชนเอาอยู่" ^-^
ดิฉันเป็นข้าราชการครู ปกติข้าราชเรามักจะไม่ค่อยทำบัตรประชาชนกันเพราะสามารถใช้บัตรข้าราชการแทนได้ ตัวดิฉันเองก็ไม่ค่อยเห็นประโยชน์ของบัตรประชาชนเท่าใดนัก ช่วงที่มีการทำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดน้องสาวได้ขอให้ไปส่งทำบัตรประชาชนที่อำเภอ ดิฉันเองเห็นว่าไหนๆ ก็ต้องไปรอน้องสาวอยู่แล้วก็ทำของตัวเองด้วยเลยก็แล้วกันเพราะบัตรประชาชนใบเก่าก็ทำหายไปนานแล้ว(นิสัยไม่ดีจริงๆ ไม่เห็นประโยชน์เพราะมีบัตรข้าราชการอยู่) ประกอบกับเห็นโฆษณาว่ามีประโยชน์มากมายในอนาคตก็เลยตัดสินใจทำ ทำแล้วก็ยังคงไม่ค่อยได้ใช้ ใช้่บัตรข้าราชการมาเรื่อยๆ
วันหนึ่งสามีบอกให้ไปทำพาสปอร์ตกับลูกๆ จะพาไปเที่ยวฮ่องกง สามคนแม่ลูกก็เลยพากันไปทำพาสปอร์ต ก่อนไปก็เตรียมถ่ายเอกสารกันเยอะแยะมากมายตามความเคยชิน เช่น สำเนาบัตรข้าราชการตัวเอง สำเนาบัตรประชาชนของลูก สำเนาทะเบียนบ้าน เตรียมทั้งตัวจริงด้วย แถมสูติบัตรเผื่อไว้ด้วย แต่พอไปถึงสำนักงานกองการต่างประเทศ ที่เตรียมถ่ายเอกสารมามากมายไม่ใช้่เลยค่ะ เค้าขอแค่บัตรประชาชนเท่านั้น รับบัตรคิวรอเรียกดำเนินการต่างๆ พอถึงคิวเจ้าหน้าที่เรียก เค้าก็ใช้แต่บัตรประชาชนเสียบเข้าเครื่อง แล้วให้เราสแกนนิ้วมือ ข้อมูลต่างๆ ก็ขึ้นที่คอมพิวเตอร์เจ้าหน้าที่เราไม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรมากมาย เจ้าหน้าปรินซ์ข้อมูลต่างๆ มาให้เราตรวจสอบว่าถูกต้องไหม แล้วก็ถ่ายรูป เสร็จไปจ่ายตังค์ กลับบ้านรอรับพาสปอร์ตได้เลย (ดิฉันให้ส่งทางไปรษณีย์) สะดวกรวดเร็วดีใช้เวลาทำไม่เกิน 10 นาที (ไม่นับนั่งรอคิวนะคะรอนานหรือไม่นานเพราะคิวยาวสั้นแต่ละวันไม่เท่ากันขึ้่นอยู่กับจำนวนคนไปทำ) ทำให้เริ่มเห็นประโยชน์ของบัตรประชาชนอย่างจริงจัง ต่อมาพาน้องสาวไปทำพาสปร์อตก็ไม่ต้องถ่ายเอกสารหอบพรุงพรังอีกแล้วเพราะรู้แล้วบัตรประชาชนใบเดียว"เอาอยู่"
ยังไม่หมดค่ะประโยชน์ของบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดที่ดิฉันมีประสบการณ์ืที่ดียังมีอีกค่ะต่อมาถึงฤดูกาลเสียภาษี เราคนไฮเทคโนโลยีนีนาก็เสียภาษีทางอินเตอร์เนตละกันไม่ต้องเสียเวลางานเสียน้ำมันขับรถไปสรรพากร ก็ใช้เลขบัตรประชาชนเป็นรหัสเสียภาษีได้เลยกรอกข้อมูลระบบก็คำนวณภาษีให้ เสร็จก็ไปจ่ายภาษีที่ต้องชำระทางเอทีเอ็ม เหม่สะดวกง่ายดายดีแท้อีกแล้วค่า ยังยังไม่หมดค่ะแต่อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเกี่ยวกับบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดไหมแต่คิดว่าน่าจะใช่
ดิฉันไปอบรมคุณธรรม จริยธรรมของคุรุสภา ปกติเวลาเราไปอบรมเจ้าหน้าที่เค้าต้องเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง และอื่นๆอีกมากมายให้เรา เราต้องถ่ายเอกสารเซ็นรับรองสำเนาให้เจ้าหน้าที่เค้า แต่คราวนี้ไม่ต้องค่ะ แค่ลงชื่อเข้ารับการอบรมพร้อมหมายเลขบัตรประชาชนของตัวเองเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอร้องว่าต้ัองกรอกเลขที่บัตรด้วยไม่กรอกไม่ได้ ก็เลยคิดเอาเองว่าระบบการเบิกจ่ายคงรองรับเรื่องการใช้บัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดแล้ว ถึงแม้่เราจะไม่ได้เอาบัตรประชาชนเราไปเสียบที่เครื่องเหมือนตอนทำพาสปอร์ตแต่ถ้าเลขบัตรประชาชนกับชื่อของเราที่เจ้าหน้าที่กรอกเข้าไปตรงกันระบบก็คงทำงานต่อไปได้เหมือนกับการเสียภาษี (คิดเองเออเองอีกละตามประสาคนคิดฟุ้งซ่าน) ถ้าใครทราบว่าที่ดิฉันคิดนั้นถูกหรือผิดก็ช่วยกรุณาชี้แจงให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ จะได้มีความรู้ที่รู้จริง ดีจังในอนาคตต่อไปเราไม่ต้องเสียเงินค่าถ่ายเอกสาร ไม่ต้องหอบเอกสารพรุงพรังแล้วเพราะ"บัตรประชาชนเอาอยู่" ^-^
ขอขอบคุณท่านที่กรุณาเสียเวลาอ่านบันทึกนี้ของดิฉัน อาจจะไม่ค่อยเป็นวิชาการมากนักเพราะเป็นคนชอบเขียนแนวพูดคุยมากกว่าแนววิชาการ ปกติสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อนๆชอบล้อว่าเป็นวิชาไร้สาระ แถมติดนิสัยพยายามทำตัวให้เข้ากับเด็กวัยรุ่นทั้งลูกตัวเองทั้งลูกศิษย์ บันทึกฉบับนี้จึงเป็นแนวพูดคุยมากกว่า มีความเห็นยังไงก็มาคุยกันนะค่ะ
ครูแตน
ดีใจที่คุณครูเขียนไว้ในบันทึกแล้ว ตอนแรกคิดว่ามีแต่ในอนุทินค่ะ
ดีใจจังคำขวัญวันเด็กปีนี้มีคำว่า "จิตสาธารณะ" ด้วย ขอให้เด็กไทยทั้งหลายเห็นความสำคัญของการมีจิตสาธารณะตามที่ท่านนายกฯให้คำขวัญไว้ด้วยเถอะ เพื่อพ่อหลวงของเราผู้มีจิตสาธารณะสูงสุดในประเทศนี้
"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"
ไม่มีความเห็น
ประทับใจรายการเจาะใจภารกิจของทั้ง 4 คู่เอาใจช่วยทุกคู่เพราะเป็นสิ่งที่น่าส่งเสริมสนับสนุนทุกคู่ นี่ล่ะค่ะจิตสาธารณะที่อยากให้รายการทีวีอื่น ๆ ช่วยกันทำบ้าง ทำในรูปแบบอื่น ๆ ก็ได้ มาช่วยกันรณรงค์จิตสาธารณะเพื่อสังคมที่น่าอยู่กันเถอะค่ะ ได้บุญด้วยนะจ้ะ==; ความจริงรายการนี้เค้าเอาเรื่องของคนที่มีจิตสาธารณะดี ๆมานำเสนอบ่อย ๆ ค่ะเช่นตอนสถานียิ้มแย้มก็เป็นจิตสาธารณะที่น่าประทับเช่นเดียวกันค่ะ ฯลฯ อีกหลายๆตอนก็เช่นกัน
ใครไม่ได้ดูเชิญเข้าดูที่เว็บของรายการได้ที่http://www.johjai1991.com/yellowpoints/นะค่ะ แล้วจะประทับใจเช่นเดียวกับดิฉันแน่ๆค่ะ
ในกิจกรรมจิตอาสาของเว็บเราก็เป็นจิตสาธารณะเช่นกันค่ะ มาร่วมกันบริจาคเยอะ ๆ นะคะ
ไม่มีความเห็น