มาลี
นาง มาลี มาลี เพชรพิพัฒน์

มาลี


ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนบ้านธำมรงค์(รองประชาสงเคราะห์)
Username
malee_phet
สมาชิกเลขที่
60573
เป็นสมาชิกเมื่อ
เข้าระบบเมื่อ
-
(ไม่มีตั้งแต่ พ.ศ. 2564)
ประวัติย่อ

            ชื่อ มาลี   ดูออกจะเชยและโบราณ สักหน่อย  แต่ขอบอกว่า เป็นชื่อที่ดิฉันภูมิใจ และไม่คิดจะเปลี่ยน  เพราะเป็นชื่อที่แม่ตั้งให้ นามสกุลเดิม  ทับทิมศรี  แต่จำเป็นต้องเปลี่ยน  เพราะต้องทำตามระเบียบของสังคม  ชื่อจริง มาลี  ชื่อเล่น ก็คือ  ลี   เพราะชื่อจริงมันมีอยู่แล้วเรียกให้สั้นเข้าก็ชื่อ  ลี  น่าจะดีที่สุด  เพราะพ่อกับแม่คนโบราณ คงหาชื่อที่ดีกว่านี้ไม่ได้    ส่วนชื่อ กล้วย  เพื่อน ๆ ทั่วไปเรียกกันมานานกว่า 20  ปี  เพราะเพื่อน ๆ รู้ดีว่า ดิฉันชอบกินกล้วย เป็นชีวิต  ถ้าท้องดี ๆ  กินเป็นหวี ก็ไม่เหลือ  ดังนั้นชื่อไหนคงไม่เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ  เท่า ชื่อ กล้วย

            บ้านเกิด ของดิฉันคือ จ.นครสวรรค์  แต่พอโตได้ ประมาณ 6 ขวบ พ่อแม่ ก็ย้ายที่ทำกินมาอยู่ที่กำแพงเพชร  เลยกลายเป็นคนกำแพงเพชร  ตั้งแต่นั้นมา  ดิฉันเป็นลูกคนสุดท้อง  ในจำนวนพี่น้อง ถึง  7  คน

            ดิฉันเริ่มเรียน  ชั้นประถมศึกษาป.1-ป.4  ที่โรงเรียนวัฒนศิริ  จังหวัดกำแพงเพชร  แต่อาศัยว่าเป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 ตลอด  น้าชายก็เลย รับไปเรียนต่อที่ โรงเรียน สตรีโพฒิสาร   จังหวัดนครสวรรค์  ไม่เช่นนั้นคงมีหวังได้เป็นเกษตรกร แบบพ่อและแม่แน่เพราะพ่อกับแม่จะไม่ให้เรียนหนังสือ  ด้วยน้าชายเป็นช่างเย็บผ้าที่มีฝีมือ  ดิฉันก็เลยได้วิชาช่างเย็บผ้า ติดตัวมา เพราะความอยู่ไม่สุกอยากรู้ไปซะทุกเรื่อง  เลยเย็บผ้าเป็นตั้งแต่อยู่ป. 5  ถึงกระนั้นฝีมือก็ยังไม่เข้าขั้น  แต่มีพื้นฐานจากการถูกใช้ให้ทำทุกวันตั้งแต่ยังเด็ก   ความภูมิใจในการเรียนที่นี่ มีอีกครั้ง เพราะเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยมในสายชั้น ป.7

           พอจบ ป. 7  แม่บอกให้ย้ายกลับมาเรียนที่บ้านเพราะจะได้ทำงานช่วยด้วย  เลยต้องกลับกำแพงเพชรอีกครั้ง แต่การกลับมาครั้งนี้ ต้องอยู่คนเดียว พี่ ๆ ส่วนใหญ่แต่งงานกันหมดแล้ว เลยต้องทำอะไรด้วยตัวเอง เพราะพ่อกับแม่ต้องอยู่คนละบ้านกับดิฉัน  ชีวิตที่ต้องรับผิดชอบตัวเอง  นาน ๆ พ่อกับแม่จะมาหาสักที  เพราะการเดินทางในสมัยนั้นค่อนข้างลำบาก  มาหาบ่อย ๆคงไม่ได้  พอปิดเทอม ดิฉันต้องไปช่วยพ่อแม่ทำงาน  เป็นความโชคดีที่สื่อ ICT ไม่มีแพร่หลายอย่างสมัยนี้  ไม่เช่นนั้น ชื่อ ครูมาลี จะมีหรือเปล่าก็ไม่รู้นะเพราะอาจจะมัวหลงระเริงอย่างเด็กสมัยนี้  ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด ในสมัยนั้นก็คือ การอ่านหนังสือ  อ่าน ๆ ๆ อ่านไปซะทุกเรื่องที่อยากจะอ่าน เลยกลายเป็นคนรักการอ่านมาตั้งแต่เด็ก

        ดิฉันเรียนสายวิทยาศาสตร์  แต่พื้นฐานความจริงชอบภาษาชอบเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน ชอบอ่านชอบเขียน แต่เพราะว่าการแนะแนวการศึกษาสมัยนั้นนิยม สายวิทย์  ทำให้ชีวิตต้องเรียนในสิ่งที่สังคมต้องการ  จบม.ศ. 5  เริ่มค้นพบตนเอง ว่าเราควรจะเรียนในสิ่งที่ตนเองชอบ  เลยสอบโควต้า แข่งกับสายศิลป์  โชคดีที่สอบได้ มาเรียนในสถานที่ดี  ที่ มศว. พิษณุโลก  เรียนเอกภาษาไทย   วิชาโท  เทคโนฯ  เพราะเราไม่ใช่เรียนภาษาไทยแล้วจะหัวโบราณอย่างที่เขาว่า  แต่ต้องค้นหาสิ่งที่ตนเองชอบ  ผลพลอยได้ เลยนำความรู้จากการเรียนวิชาวิชาโท  ทำมาหากิน  ช่วยชีวิตให้เรียนจบปริญญาตรี  จากการรับจ้างถ่ายรูป เพราะจะรอเงินที่พ่อแม่ส่งให้คงเรียนไม่จบแน่ เพราะพ่อแม่มีให้น้อยเหลือเกิน  โชคดี ที่สื่อดิจิตอลไม่มีในสมัยนั้น ทำให้ได้เงินจากการถ่ายรูปกับนิสิตเอกอื่น ๆ ไหลมาเทมา เรารู้เลยว่าการหาเงินมันไม่ยากเลย ถ้าเราตั้งใจและไม่อายใคร ความรู้ที่ได้ จาก  อ.ถาวร  อ.กมเลศ  อ.ประหยัด  อ.สัญญา ช่วยให้เราก้าวหน้าและจบออกมาด้วยความภาคภูมิใจ

       จบการศึกษาปริญญาตรี  ความโชคดีก็เกิดเพราะบังเอิญ สอบบรรจุได้ทำงาน  จากการผ่านด่านผู้สอบถึง 16,000  คน แต่รับได้เพียง  95  คน  โรงเรียนที่ไปอยู่ค่อนข้างกันดาร  ไฟฟ้าไม่มี  น้ำปะปาไม่มีใช้น้ำบ่อ  แต่ก็อยู่ได้  อยู่ที่โรงเรียนบ้านโพธิ์พัฒนา จ.กำแพงเพชร   และที่นี่เอง  ที่ทำให้ดิฉันพบกับครูหนุ่มที่อยู่กันมาจนถึงปัจจุบัน  

        เราดูใจกันนานกว่า 4 ปี คิดว่าเพียงพอแล้วเลยตกลงแต่งงานกัน  ตอนนั้นดิฉันอายุ  28  สามี  อายุ  35  อยู่กันมา ได้ 3 ปี  ก็มีทายาทคนแรก เป็นผู้ชาย 1คน เรา ตั้งชื่อให้ไทย ๆ ว่า"ลูกมะตูม"    

        เราช่วยกันสร้างฐานะ และคิดว่าเงินเดือนอย่างเดียวคงไม่พอ  ต้องหารายได้พิเศษ อย่างอื่น  ดิฉันรับจ้างเย็บผ้าในวันหยุด  ซึ่งมีความรู้เดิมและไปเรียนเพิ่มเติมในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เรียน ปักชื่อนักเรียนด้วยจักรรับจ้างปักชื่อนักเรียนก่อนเปิดเทอม (มืออย่างเดียวคงไม่ทันแน่)  รับจ้างถ่ายรูปตามงานต่าง ๆ  ตั้งแต่เป็นครูใหม่ ๆ เพราะเรายังไม่มีภาระอะไรมากนักพ่อกับแม่สอนว่าจะทำอะไรให้รีบทำรีบหาตั้งแต่อายุยังน้อยเพราะเวลาผ่านไปแล้วจะย้อนกลับมาอีกไม่ได้ ก็เลยเลือกที่จะสร้างฐานะให้มั่นคงก่อนตามคำสั่งสอนของพ่อแม่  และคิดว่าการเรียนอะไร  ทำอะไรที่เป็นประโยชน์  และมีความสุขกับสิ่งที่เราทำจะดีกว่า  เลยทำให้เรามีตังใช้ได้หลายทาง  สามีเป็นคนขยัน  อดออม  ก็เลยเข้าใจกันและช่วยกันทำงานอย่างมีความสุข และต้องอย่าให้ใครเดือดร้อนไม่กระทบกับงานประจำ  ทำอยู่นานจนฝีมือเป็นที่รู้จัก  ในขณะเดียวกัน งานสอนก็ต้องทำให้ดีเพราะเป็นงานประจำของเรา  โชคดีอีกเพราะดิฉันอยู่โรงเรียนที่มีผู้บริหารเก่ง และดี  เลยส่งเสริมให้ดิฉันเป็นครูดีเด่นระดับจังหวัด  นับเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งกับชีวิตของเราในสมัยนั้น

       4  ปี  ต่อมา  ดิฉันมีทายาทคนที่ 2  เป็นผู้ชายอีกนั่นแหละ  เราตั้งชื่อให้ไทย ๆ เหมือนเดิม ว่า "ลูกตาล"

       อยู่โรงเรียนเดิมมากว่า 11  ปี  คิดว่าน่าจะย้ายเข้ามาอยู่ใกล้บ้านเลยย้ายมาอยู่โรงเรียนใหม่  โชคดีที่ย้ายมาอยู่โรงเรียนเดียวกับสามี  อีก คือ โรงเรียนบ้านธำมรงค์ฯ  จ. กำแพงเพชร  ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาส เราก็เลยไม่ได้แยกจากกันเลยตั้งแต่บรรจุเป็นครู ดิฉันเป็นครูภาษาไทยหัวใจเทคโน เพราะสอนทั้งภาษาไทยและคอมพิวเตอร์ แต่ขอบอกไม่ได้จบเอกคอมฯเลยแต่อาศัยว่าเป็นอยากรู้เลยสนใจอ่าน  ฝึก อบรม และไม่อายที่จะถามผู้ที่รู้กว่า ทำให้มีความรู้ที่พอจะสอนได้ และที่นี่ ทำให้ดิฉันและสามี  มีความเจริญรุ่งเรือง  สั่งสอนเด็ก ๆ  ให้เป็นคนดี  ด้วยความตั้งใจในการทำงาน สะสมประสบการณ์และงานที่ทำให้เป็นระบบ  ทำให้ดิฉันและสามี ได้ตำแหน่ง  ครูชำนาญการพิเศษ  ทั้งสองคน ทำให้ชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้น   มีฐานะครอบครัวที่มั่นคง 

       ชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้เรามีความคิดที่รอบคอบ  นำประสบการณ์มาสอนเด็ก ๆให้เป็นคนดีมีความอดทน  เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกหลาน ถึงแม้ว่าเราจะอายุมากขึ้น  แต่สิ่งเป็นไปในโลกเปลี่ยนแปลงการหยุดอยู่นิ่ง คงไม่ดีแน่ จึงคิดว่าน่าจะมาเรียนต่อ หลังจากที่เราทำอะไรให้ชีวิตและครอบครัวมามากแล้วและควรจะทำอะไรที่ตนเองชอบอายุจึงไม่ใช่อุปสรรคในการเรียน  ความพากเพียรและความอดทนต่างหากที่ทำให้เราก้าวหน้าดิฉันคิดว่าเราควรจะเรียนเมื่อเรามีความพร้อม  และคิดว่า จะตั้งใจศึกษาหาความรู้ที่ได้ไปสั่งสอนเด็กให้เป็นคนดีในสังคมและเป็นอนาคตของชาติ จนกว่าชีวิตของความเป็นครูจะหมดไป

       

 

            

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท