เรื่องกิ๊กๆก๊อกๆ


บ่ายๆมีรถปิคอัพคันหนึ่งวิ่งเข้ามา พร้อมกับเสียงโล๊งเล้งของเด็ก รถจอดหน้าอาคารใหญ่เด็กๆลงรถตุบตั๊บ แล้วพากันเดินเข้าไปในอาคารที่ไม่มีใครอยู่ หายไปพักหนึ่งก็ออกมา..คุณครูพามาหาผมที่บ้านหลังเล็ก เล่าให้ฟังว่าเด็กกลุ่มนี้มาวิทยากรเรื่อง “ดินอิฐซีเมนต์” ให้โรงเรียนใกล้ๆนี้  ในฐานะกลุ่มที่ชนะโครงงานเรื่องอิฐดินซีเมนต์ ที่แปลกก็คือ..เด็กที่ยังไม่แน่ใจว่าอิฐที่ตนเองศึกษามันสร้างบ้านได้จริงๆ คุณครูก็เลยมามาดูให้เห็นด้วยตาตนเอง ยังดีนะครับที่ครูมีกะจิตกะใจจะเติมเต็มให้ลูกศิษย์ตัวจ้อยชั้นป.6 แสดงว่าการปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเชิงบูรณาการเริ่มจากจุดเล็กๆนี่เอง

ระยะนี้พ่อแม่-ปู่ย่า-ตายายจะพาเด็กๆมาดูนกกระจอกเทศ ดูลูกหมูเหมยซานตัวป้อมๆที่ปล่อยให้ออกมาวิ่งเล่นอิสระ มาดูฝูงไก่ต๊อก และนกยูงแสนสวยที่กรีดกรายไปมาตามธรรมชาติ เด็กบางคนสนใจลอมฟางขนาดใหญ่ บางกลุ่มเดินไปเจอเตาหลุมดินที่ฤๅษีกับอารามขุดไว้หุ้งต้ม ซักถามกันใหญ่ว่ามันหุงข้าวยังไง ..โธ่..นี่เด็กชนบทนะครับ ยังห่างไกลกับเรื่องพื้นฐานท้องถิ่น เด็กบางคนสงสัยเรื่องตอตาลที่กลิ้งอยู่มากมาย  การศึกษาที่ขังเด็กไว้แต่ในห้องควรเขยี้อนได้แล้วนะครับ เด็กนะพร้อมเรียน แต่ระบบการศึกษาปิดกั้นโอกาส คิดแต่จะครอบเด็กจนเอ๋อกันทั้งประเทศ ..จริงๆแล้วเด็กในวัยแสวงหาอยากรู้อยากเห็น เพียงแต่ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรับลูกให้ทันและจัดกระบวนการเรียนนอกห้องให้ เหมาะสม ถ้าคุณครูเข้าใจในนโยบายการศึกษา ที่รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาพยายามขยายความ..

”การปรับการเรียนการสอนในระดับประถมถึงมัธยมปลาย โดยกำหนดกรอบแนวปฏิบัติในการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ในภาคเรียนที่1/2553 โดยลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหาสาระที่มีอยู่ในในแต่ละกลุ่มวิชาอีก30% และลดตัวชี้วัดเหลือ 2.165 ตัวชี้วัด”

รศ.สมพงษ์ จิตระดับ ขาเก่าที่กระทุ้งเรื่องการศึกษามาตลอด ให้ความเห็นว่า..นายกฯ ต้องเปลี่ยนจากโครงการ”ประชานิยม” ให้เป็น “สวัสดิการ” เพื่อให้การศึกษาชัดเจนยิ่งขึ้น ควรมุ่งเน้นเรื่องหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ การบริหารจัดการสมัยใหม่ ผู้บริหาร ครู และการให้ความสำคัญกับหน่วยงานระดับล่างอย่างเต็มที่ กระจายอำนาจสู่สถานศึกษามากขึ้น และทำให้ส่วนกลางเล็กลง ทำให้วัฒนธรรมการสอนของครูเปลี่ยนไป แทนที่จะสอนแบบท่องจำ สอนในห้อง สอนจากหนังสือ ให้หันมาสอนนอกห้องเรียน ใช้โครงงาน กิจกรรมต่างๆ  จะมีวิธีอย่างไรให้ท้องถิ่น ภาคเอกชน ฯลฯ เข้ามาร่วมกันจัดการศึกษามากขึ้น และรัฐบาลต้องเข้าไปแทรกแซงอุดมศึกษา ซึ่งอยู่ใน”ยุคธุรกิจการศึกษา” รวมทั้งจัดระบบแอดมิสชั่นส์ ปรับระบบการวัดและประเมินผลใหม่หมดทุกระดับ และต้องทบทวนระบบการผลิตครูตามหลักสูตร5ปีใหม่

นโยบายก็คือนโยบาย ถ้าไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมก็ไม่ต่างกับไฟไหม้ฟาง

เมื่อผลออกมาแบบง่อนแง่น

ก็เตรียมรับนโยบายที่เลื่อนเปื้อนฉบับใหม่ๆต่อไป

สรุปว่าทำอะไรได้ก็ชวนลูกศิษย์ทำไปตามสมควรเถิดนะครับ

เหมือนที่โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

ครูคิมและเพื่อนครูกำลังสนุกกับพาเด็กเรียนรู้เรื่องใกล้ตัวใกล้ใจ

ช่วงปีใหม่มีผู้บริหารและคณะครูมาเยี่ยม

เราคุยกันถึงสภาพการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ผมชวนคิด..ผู้บริหารควรใช้พระคุณมากกว่าพระเดช

เพราะครูผู้สอนเหนื่อยกับการสู้รบปรบมือกับเด็กทั้งวัน

ถ้ามาเจอน้ำร้อนแทนน้ำเย็นมันก็ห่อเหี่ยว

เด็กยุคนี้เป็นเด็กพันธุ์ใหม่ อยู่กับสื่อใหม่ๆ ครูต้องปรับตัวให้เป็นครูพันธุ์ใหม่

ถ้าตามไม่ได้ไล่ไม่ทันการเรียนการสอนเปิดเปิงกระเจิงแน่

 

วันต่อมามีรองผู้อำนวยการโรงเรียนหนึ่งมาเยี่ยม

มาถึงบ่นฉอดๆกล่าวถึงผู้บริหารอย่างโน้นอย่างนี้นับชั่วโมง

..หายศีรษะไปทั้งวัน ไม่เคยอยู่โรงเรียน มาถึงก็ด่าๆๆๆครู

..ให้นโยบาย..เด็กเละเทะอย่างไรก็อย่าไปเตะ

..ถ้าเด็ก ผู้ปกครอง ยังเฉยเมย

..ผู้บริหารก็เสวยสุขไปได้เรื่อยๆ

   อามิตรพุทธ..

วรรคทองจากท่าน ว.วัชรเมธี

ที่ใดมีกิ๊ก ที่นั่นมีกรรม / Having an affair is a recipe for doom.

หมายเลขบันทึก: 327357เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2010 09:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
  • ผมมองว่า รัฐบาลเองยังไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาการศึกษา
  • เอาแค่เรื่องครู ก็ทำไม่ได้แล้ว
  • ขนาดขาดครูมากมาย แต่รัฐบาลก็แก้ปัญหาแบบเรือเกลือครับ
  • ลองเอาการศึกษา เป็น วาระแห่งชาติ  ทำเรื่องกระบวนการเรียนรู้ มากกว่าทำเรื่อง ตำแหน่ง  การทำผลงานทางวิชาการ ทำไมไม่ประเมินครูตามสภาพจริง ประเมินแต่เอกสาร ผลงานวิจัย ครูคงได้ตายก่อน ถ้าทำเรื่องกระบวนการเรียนรู้ของเด็กๆๆรับรองว่า การศึกษาบ้านเราคงดีกว่านี้ครับ

" ยุคธุรกิจศึกษา "  เป็นยุคที่คนมีเงินเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้รับความรู้อย่างเต็มที่ค่ะ ท่านอัยการ

สวัสดีครับ

  • คนเราถ้าทำหน้าที่ตัวเอง ให้เต็มความรู้  ความสามารถ
  • ปัญหาต่างๆจะไม่เกิดขึ้นเลย
  • โชคดีมีสุขตลอดไปครับท่าน

...ระบบการศึกษาเมืองไทย..เคยอ่านในบล้อกนี้...เขาเขียนประโยคที่พอดีพอเหมาะกับโจทย์..คือ ตัดตีนให้พอดีเกือก..สวัสดีค่ะ...

ก็ต้องทำใจนะรูปหล่อ ในเมื่ออยู่ในประเทศที่บริหารการศึกษาได้แค่นี้ จะเอาแค่โน้นคงจะยาก เว้นที่เราจะทำเองตามภาระหน้าที่ของเรา อย่างที่อ.ขจิตทำนี่แหละ ดีแล้ว และจะดีอีกเรื่อยๆ ถ้าขยันทำต่อๆไป ถ้าไม่แพ้ความสวยเสียก่อน แคว๊กๆๆ

สงสัยครูอุ้ยเบลอ ผมบ่แม่นอัยการครับ

ขอบคุณที่ให้ความสนใจ

ถ้าเด็กตั้งใจดี เขาก็มีเงินให้ยืมเรียนแล้วนะครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับครูจ่อยครับ ทำหน้าที่ของแต่ละท่านให้ดี ทุกอย่างจะดีขึ้น

ยายธีครับ

- เกือกมีหลายไซส์

- แถมคนใส่ยังเลือกแฟชั่นอีก

- คนจัดการย่อยยุ่งยากนิดหน่อย

-ถ้าเอาอย่างพระสมัยก่อน ท่านไม่ง้อรองเท้า ครับ

สวัสดีรับปีเสือค่ะพ่อครูขา กลายเป็นยุคธุรกิจศึกษาไปแล้ว หนุว่าคงต้องใช้เวลานานอักโข พอๆ กับช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมาที่รัฐหลงๆ งงๆ ทำเอาระบบป่วนจนไม่เหลือมังคะ

ปีใหม่หนูเปลี่ยนเบอร์ใหม่โทรไป พ่อครูบ่รับ เลยสงสัยว่าบ่ฮับสายเบอร์แปลกแม่นบ่ค่า

 

 

 

 

สวัสดีปีใหม่คะพ่อครู

สบายดีนะคะ

พรปีใหม่จากพ่อครูนะคะ

Poo ขอเบอร์ใหม่ อิอิ

ช่วงปีใหม่เดินป่า ไม่ได้รับทอระสับ เล๊ย ขออภัย

สวัสดีปีใหม่ค่ะ พี่ชายใหญ่

  • ครูอ้อย กับ สะมะนึก มัวแต่ ก๊อกแก๊กๆๆๆ เลยไม่ได้สวัสดีปีใหม่พี่ชายใหญ่
  • มีความสุขมากๆๆนะคะ  ฝากกอด พี่สาวครูอ้อยด้วยค่ะ
  • หลานสาวด้วยนะคะ

คิดถึงหลายๆๆเด้อค่ะ

สวัสดีปีใหม่ครับ ครูอ้อย และคนที่รักครูอ้อย แคว๊กๆ

สวัสดีควันครูค่ะ พ่อครู  ขอนำดอกไม้มากราบครู

ขอให้พ่อครูมีสุขภาพแข็งแรง  และอารมณ์ดีตลอดไปค่ะ

  

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท