ไม่อร่อยยินดีคืนกอด


(ภาพแนวคิดเก่าที่หนังสือเศรษฐกิจพอเพียงไปพิมพ์ ครั้งที่ 3)

การได้ทำอะไรตามที่คิดถือเป็นวาสนา ส่วนมากเราจะคิดทิ้งคิดขว้าง ทำได้บ้างไม่ได้บ้างถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องไปปักใจเอาเป็นเอาตายอะไร คนเราไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ดูอย่างชาวเฮติเถิด เกิดวิบากกรรมหมู่ระดับชนชาติเพราะอะไรก็ไม่ทราบได้ บางคนกำลังก้าวหน้า บางคนกำลังมองหาคู่ บางคนมีการงานทำรุ่งโรจน์ บางคนมีครอบครัวอบอุ่น บางคนอกหัก ฯลฯ..แต่แล้วปุ๊บปับก็มีอันเป็นไป การเกิดมหกรรมโศกมหาโศกของเพื่อนร่วมโลกคราวนี้ กระตุ๊กให้มวลมนุษยชาติเห็นความไม่เที่ยงแท้ อนิจจัง สัตสังขาราอย่างสุดขั่วหัวใจ

(รื้อแปลงหลังบ้านปลูกผักที่ตนเองชอบเจี๊ยะ)

เมื่อยังมีลมหายใจเป็นปกติอยู่บ้างนี้ คิดใคร่คราวญให้ดี มีอะไรจะทำก็ทำเถิด ทำสิ่งที่ดีที่ใจอยากจะทำ ผมโชคดีที่เป็นเกษตรกร บ้านกับที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ตื่นมาก็ไม่ต้องแต่งตัวนั่งรถออกจากบ้านไปทำงาน บางวันตื่นเช้าๆเดินท่อมๆไปดูแปลงผัก ไปทักทายต้นไม้ ไปชื่นชมดอกไม้ ไปดูลูกไก่งวงที่ออกมาใหม่ ทำเอาบางวันเผลอไม่ได้อาบน้ำก็มี อยู่เพลินๆไปจนหมดเวลา ..ชาวไร่ชาวนาไม่มีเวลาหยุดเบรคหรอกนะครับ ทำไปอ้อยอิ่งไปในตัว เช้า-สาย-บ่ายเย็นไม่ต้องเก็บของออกจากสำนักงาน เด็ดผักที่ชอบใส่ตะกร้าเอาขึ้นมาล้างลงกะทะควันฉุย ไม่ต้องแวะซื้ออาหารถุง ไม่ต้องกังวลว่าจะกินอะไร เพราะชอบอะไีรก็ปลูกก็ทำกินเอง เป็นคนละวงจรกับคนที่อยู่ในระบบเงินเดือน ต่างกันที่ของผมเป็นระบบเงินดิน ถามว่ามีความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินไหม จะเอาอะไรมาวัดละครับ คนเราบทจะไปก็ไม่มีใครเอาอะไรติดตัวไปได้สักอย่าง บางทีไปแบบไม่รู้ตัว ไม่ได้แม้แต่จะสั่งลาใคร ถ้าไม่ประมาทมีเวลาก็ทบทวนดู

(เนื้อไม้ตาลหมักไว้ปลูกกล้วยไม้ จู่ๆเห็ดฟางก็ขึ้นมาเอง)

ในหนังสือเจ้าเป็นไผ หัวใจอยู่ที่การบอกเล่าว่าชีวิตแต่ละชีวิตทำอะไรมาบ้าง ท่านไร้กรอบกระแทกหมัดตรง “เกิดมาทำซากอะไร” เป็นลายแทงที่ดำเนินวิถีคนสู้ชีวิต การผ่านร้อนผ่านหนาวของแต่ละชีวิตมีความหมายความสำคัญมาก ที่เจ้าตัวได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ย่อมเป็นเนื้อนาบุญแก่คนที่ได้อ่านจะเก็บเล็กผสมน้อยเอาไปพิจารณาได้ แต่ละท่านเขียนได้อย่างบรรเจิด มีท่านผู้ใหญ่ประทับใจ เล่าให้ฟังว่า..เขียนได้อย่างไรนะ เพราะส่วนใหญ่นักทำงานจะเขียนในเชิงวิชาการ ถ้าเขียนเรื่องกระเทาะชีวิตจะเขียนยาก ทั้งๆที่ผ่านงานเขียนมาปะเลอะปะเต๋อ ท่านสารภาพว่าเขียนอย่างนี้ไม่ได้ จึงชอบมาก ขอชื่นชมนักเขียนทุกท่าน ผมจึงยินดีมากที่ทราบว่าจะพิมพ์เป็นครั้งที่ 2 และอาจจะมีครั้งต่อๆไป..ส่วนเรื่องจะจำหน่ายได้แค่ไหนไม่ใช่หน้าที่ของผู้ เขียน แต่เป็นหน้าที่ของผู้ซื้อ ของดีก็เหมือนไข่ห่านทองคำ หรือน้ำซึมบ่ทราย..ใครได้อ่านก็มีความสุขความคิด โธ่! ผลลัพธ์ออกมาอย่างนี้ก็คุ้มแสนคุ้มแล้วละครับ ที่ผมเสียดายมากก็คือยุไม่ขึ้น..หลายท่านเขียนไว้ในใจ..ทำให้โครงการเจ้า เป็นไผชักกะตุกพอสมควร อยากจะให้ร่วมใจกันอีก ถ้านึกไม่ออกว่าจะเขียนยังไง ก็จองเล่มตัวอย่างที่จะพิมพ์ใหม่นี้แหละไปพิจารณา

(พืชไม่เคยขี้เกียจ ทอดยอดตลอดเวลา)

สังคมมนุษย์กำลังเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ การดำเนินชีวิตการทำงานต่างๆปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ช่วงที่ผมหนุ่มๆคิดและทำอะไรที่มันจุ้นจ้านพอสมควร เคยปลูกต้นไม้นับพันไร่ แต่เมื่อย่างเข้าวัยถดถอยเราจะเดินหน้าลูกเดียวอย่างไรได้ คงต้องผ่อนทุกอย่างลงตามความเหมาะสม จากที่ทำแบบเล็กๆไม่ใหญ่ๆทำ ผมก็มาออกแบบทำสวนครัวรอบบ้านในเนื้อที่1ไร่ ตัดแต่งกิ่งต้นไม้ให้แดดส่องถึงพื้นได้มากขึ้น ขนปุ๋ยมูลสัตว์มาโปรยลงแปลง ติดตั้งระบบน้ำสะปริงเกอร์ให้ครอบคลุมบริเวณสวนครัว ผักและต้นไม้เอาใจไม่ยากหรอกนะมีแสงแดด-มีน้ำ-มีปุ๋ย สม่ำเสมอแค่นี้ก็ไปโลดแล้ว ให้มากให้น้อยก็ไม่เคยบ่นกระปอดกระแป๊ด บังเอิญว่าตอนที่กำลังฟิตได้ปลูกไม้ยืนต้นไว้บ้าง เมื่อมาจัดสวนครัวในฝันจึงได้บรรยากาศที่อบอวลธรรมชาติ หน้าตาจะไม่เหมือนแปลงผักแถวภาคกลาง ที่ขุดร่องขึ้นมา แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาปลูกผักในพื้นที่โล่งโจ้ง ไม่มีความกลมกลืนของต้นไม้ใบหญ้า การทำสวนผักเพื่อเอาเงินเป็นหลักก็คงต้องทำกันอย่างนั้นละครับ แต่ผมทำสวนผักเอาผักมา บำรุงสุขภาพ ก็ต้องว่ากันไปตามวัตถุประสงค์ของแต่ละครัวเรือน ผมให้ความสำคัญของเรื่องสุขภาพที่เชื่อมโยงเรื่องอาหารการกิน จึงแบ่งกลุ่มพืชที่ปลูกออกตามความต้องการดังนี้

(ช่วงนี้ต้นยางบงสวนป่ากำลังออกดอกสะพรั่ง)

  1. กลุ่มสมุนไพร ปลูกไว้เพื่อเอามาปั่นทำน้ำครอโรฟีนดื่มทุกเช้า ปลูกแปะตำปึง คาวตอง กะวานง๊อก ย่านาง ใบเตย ว่านกาบหอย ฯลฯ
  2. กลุ่มผักที่ชอบและใช้ในชีวิตประจำวัน ปลูกมะเขือเทศ น้ำเต้า บวบ ต้นหอม ดอกไม้จีน ผักชี พริก มะเขือ ยี่หร่า สระเหน่ กะเพรากระชายขาว ขิง ข่า ตะไคร้ ผักบุ้ง คะน้า ผักกาด คื่นไฉ่ อ่อมแซบ ผักฮาก มะกรูด มะนาว ตำลึง มะรุม มะกล่ำ มะกอก มะยม มะเขือพวง ตะลิงปริง มะเขือเปราะ มะเขือยาว มะเขือม่วง ฟักข้าว ผักหวานบ้าน ผักหวานป่า ชะพลู ดีปลี พริกไทย แตงไทย ถั่วฝักยาว ถั่วพลู ผักพวกนี้กินยังไงก็ไม่หมด ปลูกมะเขือไว้ไม่กี่ต้นยังปล่อยให้แก่ตั้งเยอะ  ตะลิงปริงลูกหล่นทิ้งเต็มพื้น ช่วงที่ไผ่ออกหน่อ นี่ก็ปะเลอะปะเต๋อ ปีที่แล้วพี่น้องพยาบาลจากขอนแก่นมาเยี่ยม แจงตะกร้าพาเดินไปเก็บมะม่วงอกร่องหล่นเต็มพื้น เก็บสนุกกินไม่ทันจริงๆ
  3. กลุ่มผลไม้ มีทั้งที่เอามาปั่นและรับประทานสุก ปลูกเสาวรส กล้วย มะละกอ น้อยหน่า มะม่วง ขนุน ละมุด มะเฟืองหวาน ฝรั่ง มะเดื่อ ส้มโอ พวกนี้ปลูกง่ายอายุยืน ปีนี้ไม่มีคนมาช่วยเจี๊ยะ ต้องเอากล้วยหอมกับมะละกอสุกเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ กล้วยบางเครือไม่ได้ไปดูผลหล่นทิ้ง แต่ก็คงมีนกได้กินบ้างละนะ
  4. กลุ่มไม้ประดับ ปีนี้ลุยปลูกบัวในอ่าง ได้เกือบจะครบทุกสีแล้ว นอกจากนี้ก็ปลูกพวกไม้ใบสีสวยแปลกๆ พวกกล้วยไม้บ้าง ไม้หอมก็ปลูกไว้หลายชนิดเท่าที่หาได้ ของเดิมก็มีบ้างเช่นลำดวน ดอกแก้ว ช่วงนี้ต้นวาสนา กล้วยไม้ช้างกระ ดอกสะเดากำลังบานส่งกลิ่นหอมทั้งวัน เดินผ่านต้นว่านสาวหลงยังมีกลิ่นโชยออกมาจากใบอีกแน๊ะ ตั้งใจจะขยายให้เต็มพื้นที่รอบบ้าน ..เอาให้หอมจมูกบานไปข้างหนึ่ง ปีนี้ดอกประดู่แดงบานแดงเต็มต้น ถ้าติดเมล็ดก็จะเก็บมาเพาะ ต้นเหรียงก็เช่นกัน ไม้พวกนี้กว่าจะออกดอกนานเหลือเกิน เรียกว่าปลูกแล้วไม่ต้องรอ ถ้าใจดีเมื่อไหร่ก็ออกดอกมาอวดเราเมื่อนั้น
  5. กลุ่มสัตว์เลี้ยงจะลดปริมาณลง โดยเฉพาะวัว เลี้ยงไปเลี้ยงมาจะล้นคอกแล้ว ข้อดีคือเรามีมูลโคใช้อย่างพอเพียง หมูเหมยซานก็จำนวนลดเช่นกัน จะเลี้ยงเพื่อรักษาพันธุ์แท้ไว้เท่านั้น ส่วนสัตว์ปีีกอยู่ในปริมาณพอเหมาะ มีไก่เจ้ไว้ขัน20ตัว มีห่านไว้เดินชูคอ2ตัว มีเป็ดเทศ20ตัว ไก่งวงเพิ่งออกลูก7ตัว ส่วนไก่ต๊อกมีมากแต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะเลี้ยงแบบบุฟเฟ่อยู่แล้ว มีนกยูงอีก1คู่ ถ้าออกไข่น่าจะขยายพันธุ์เพิ่มได้อีก5-6ตัว ส่วนปลาอยู่ในบ่อมากน้อยไม่มีปํญหา ปลาเขียวมรกตตัวโตพอต้มแล้วแต่ไม่กล้า แม่บ้านก็ไม่เอาด้วยเพราะสงสาร คงเลี้ยงเป็นเพื่อนเหมือนนกกระจอกเทศ เลี้ยงไว้ดูเฉยๆ ไ่ม่มีค่าทางเศรษฐกิจแต่มีคุณค่าทางจิตใจ
  6. กลุ่มปลูกสนุกๆ ไม้กระสัง มะเดื่อญึ่ปุ่น มะเฟืองหวาน น้อยหน่าเพชรปากช่อง มะตูมยักษ์ อินทะผาลัม ยูคาลิปตัสพันธุ์กลุ่นใบให้น้ำมัน หรือแม้แต่เอกมหาชัย พวกนี้ปลูกขยายพันธุ์และไว้เสียบยอดในวันว่าง เป็นงานอดิเรกที่ชอบอยู่แล้ว

ชุมชนอีสานเมื่อก่อน บริเวณบ้านจะปลูกไม้ผล ผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ ถ้ายืนพื้นเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่2 ฮิตทำสวนครัวมาตั้งแต่สมัยจอมพลป. เราก็คงพัฒนาเรื่องอยู่ดีมีสุขไปนานแล้ว ไม่ต้องมายักแย่ยักยันเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงกันเอาตอนนี้ มีความพยายามที่จะส่งเสริมในบางยุคสมัย แต่มีคนงาบงบประมาณค่าเมล็ดพันธุ์ที่ไปส่งเสริมก่อนที่ชาวบ้านจะได้กินผัก หน้าแตกเรื่องผักริมรั้วจนพังเป็นแถบๆ การปลูกไม้สวยงาม ไม้ใช้สอย ไม้หอม ผสมลงในสวนครัวนั้น นอกจากเพื่อความร่มรื่นสวยงามแล้ว ยังพัฒนาพันธุ์ไม้แลกเปลี่ยนกัน ไม้ไทยที่เป็นพระเอกมีหลายชนิด สามารถพัฒนาให้เกิดมูลค่าเพิ่มได้ ทดแทนการนำเข้าได้ ในยามข้าวยากหมากแพงก็ยังแก้ไขแก้ขัดได้ด้วยตนเอง คนไทยเข้มแข็งด้วยลำแข้งตนเองได้ ไม่ต้องไปกู้เงินมาสร้างความเข้มแต่ไม่แข็งจริงอย่างในปัจจุบัน ที่แข็งแต่เปลือกไม่ได้แข็งมาจากภายในจิตใจและความสามารถของตนเองอย่างแท้จริง

เรื่องนี้คิดและทำเพื่อให้มนุษย์เงินเดือน หรือคนกรุงคิดเล่นๆ ว่าการที่เอาชีวิตไปผูกพันกับเรื่องหนึ่งเรื่องใดจนไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันนั้น บางทีก็เสียโอกาสของความเป็นมนุษย์ ที่จะได้คิดและทำอะไรอย่างอิสระบ้าง กิจกรรมนอกบ้านของคนกรุงส่วนใหญ่ฟุ่มเฟือย ในบางกอกมีห้างสรรพสินค้าเปิดทั้งวันทั้งคืน ร้านค้า ร้านอาหาร เป็นจุดจูงใจให้คนเมืองอออกนอกบ้าน ซึ่งก็ต้องเสียเวลาต้องอาศัยรถราหาเงื่อนไขมาใส่ตัวสารพัด ชีวิตจึงดาดๆขาดการสัมผัสกับศิลปะในธรรมชาติ อยากให้หันมาทำสวนในบ้าน ปลูกโน้นปลูกนี้ให้ชีวิตมีโช๊คอัพบ้าง เปลี่ยนบ้านให้มีชีวิตชีวา หาอะไรทำที่ง่ายๆ จะทำให้พบความสุขแสนง่าย จากต้นไม้ใบหญ้าที่ตอบแทนน้ำพักน้ำแรงเราในรูปของเบี้ยเลี้ยงความสุข เรื่องนี้ไม่ลองไม่รู้หรอกนะ ว่าวันหนึ่งๆเราสามารถแสวงหาความเรียบง่ายได้ไม่ยากเลย ถ้าคิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นยังไง ก็ลองมาลุยสวนป่า อิ อิ.

การทำงานให้สนุกเราต้องบริหารความคิด ถ้าขายความคิดได้ยิ่งสนุกใหญ่ ถ้าเราคิดทำเรื่องง่ายๆแต่ให้แง่มุมที่แปลกและดูดี อย่างที่โสธรกำลังทำที่ตรัง หรือที่ออตทำที่ขอนแก่น นั่นใช่เลย เป็นงานสนุกกับความคิด ปีนี้ผมจะืทำสวนครัวติดล้อ หน้าตาจะเป็นอย่างไรนั้น จะเอาไปนำเสนอในมหกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และภาคี ระหว่างวันที่25-28กุมภาพันธ์ ซึ่งจะจัดเป็นวาระจรของชาวเฮฮาศาสตร์ด้วย ถ้าท่านไปก็จะได้ชมความคิดที่คุณชิมได้ ..เราไม่ได้จัดให้ชมเฉยๆเดี๋ยวจะเป็นราคาคุย แต่จะเอากะทะไปเคาะโป๊กๆผัดไฟแดงให้เจ๊ยะกันสดๆ โดยเฉพาะสายญาติสกุลเฮเจี๊ยะฟรี ครับผ๊ม บอกเสียก่อน เมนูเด็ด ผัดน้ำเต้างอกไฟแดง (เอาเมล็ดน้ำเต้ามาเพาะเหมือนถั่วงอกแล้วนำไปผัดไฟแดง) ไม่อร่อยยินดีคืนกอด อิ อิ..

หมายเลขบันทึก: 330196เขียนเมื่อ 23 มกราคม 2010 05:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

อรุณสวัสดิ์ค่ะพ่อครูขา

ตื่นเต้นๆ ๆ นอนบ่หลับเลยเด้อค่า อยากเห็นสวนครัวติดล้อ ...

เช้านี้หนูจะไปงานแถวตรังค่ะ ขากลับก็แวะบ้านดูสวนครัวของคู่รักวัยดึกค่ะ

อยากให้บ้านกับที่ทำงานอยู่ด้วยกันบ้างจังเลยค่ะพ่อขา คงสวรรค์ซะ ;)

เมื่อวานหนูกินส้มตำ คิดฮอดพ่อครูหัวป่าขา อีกแล้วค่ะ มีความสุขนะคะ

มาสวัสดี เรียนรู้ เติมปัญญา ยามเช้าครับ

วันหลังจะลงภาพ สวนครัวติดล้อให้ดู

เอ ส้มตำ ติดล้อก็น่าจะทำได้นะ

อิอิ

สวัสดีค่ะ

  • ดีใจจังที่ผักฮาก  มีกลุ่มแล้วค่ะ
  • แล้วผักหนัง ผักสลิด ตายไปหมดหรือคะ

..ยายธี อยากชิมผัดถั่วงอก..แบบกอดคืน..อิอิ...จะไปช่วยพัดเตา..หากฟันฟางไม่ทรยศขึ้นมาอีก เหอๆ...สวัสดีค่ะ

ครูคิม ครับ

จำได้แต่ผักฮาก ผักชนิดอื่นไม่แน่ใจ อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท