จุดไต้ไม่ตำตอ


(เมืองหาดใหญ่อยู่ลิบๆเบื้องล่าง)

ล่องใต้คราวนี้ มีเรื่องสนุกจนเหนื่อยหมดแรง ไม่ได้เขียนบล็อกไปหลายวันเพราะติดลูกพัวพันกับงานรับใช้หลวงพี่ติ๊ก ผมกราบเชิญท่านทีไรท่านไม่เคยขัดข้อง ยากแค่ไหนหลวงพี่ก็มาให้ทั้งๆที่ระดับท่านนั้นธรรมดาที่ไหนละ มีงานล้นย่ามตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อท่านเชิญมาผมรีบสนอง เป็นงานอบรมพระธรรมฑูต5จังหวัดชายแดนภาคใต้รุ่นที่1โครงการส่งเสริมความมั่น คงของสถาบันพระพุทธศาสนา หลักสูตรวิทยากรกระบวนการ พัฒนางานกระบวนธรรม” กลุ่มพัฒนาจิต เพื่อชีวิตที่ดีงาม fa for d (facilitator for developmant of decency) ณ วัดโคกสมานคุณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

(ประธานบริษัทสยามแฮนด์บรรยายธรรมด้วยฝีมือและลีลามืออาชีพชั้นครู)

งานนี้รอดตัวกลับมาได้เพราะมีคุณอัมรา พวงชมพู เจ้าของบริษัทสยามแฮนด์ ที่ผลิตเสื้อแตงโมอันลือลั่นร่วมเป็นวิทยากร หลวงพี่จัดงานไม่ธรรมดาเลยนะครับ มีวิทยากรระดับบิ๊กๆมาทั่วภาคใต้ มีท่านเจ้าคุณ-เจ้าคณะภาค-พระผู้ใหญ่มาร่วมด้วยช่วยกัน งานถวายความรู้พระสงฆ์ผมไม่ถนัดเสียด้วย จ้องแต่จะเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ หลังจากจบการบรรยาย หลวงพี่ติ๊ิกชวนพระทั้งหลายให้ศีลให้พร พร้อมกับให้ลงความเห็น ว่าควรจะเชิญ2คนนี้มาอีกหรือเปล่า ถามกันต่อหน้า..ท่านใดละครับจะกล้าบอกว่าไม่ต้องการ เป็นการมัดมือชกที่แยบยลมาก สาธุ จึงตกลงรับอาสาว่าจะมาอีกในวันที่ 2 มิถุนายน 2553

(แอมเปร์ที่อยากเจอ เป็นเด็กร่าเริง สนใจเรียน เสียงเสน่ห์เวลาพูดสำเนียงใต้)

พันธกิจผมเรียนร้อยในช่วงเช้า ช่วงบ่ายคุณแม่หนูแอมแปร์กับแป๊ดและ2หลานสาวมารับไปเที่ยว แป๊ดเองก็ติดงานแต่ไม่รู้ใช้คาถาไหนเบี้ยวออกมาพาพ่อเที่ยวได้ ก่อนจะลุยก็พาไปเติมพลังเสียก่อน เป็นร้านอาหารเมนูใต้ล้วนๆที่ทำให้คนชิมเป็นชาวใต้ได้อย่างไม่ยากเย็น คนที่นี่แปลก ชอบรับประทานขนมจีนกับไข่ต้ม แป๊ดสั่งอาหารและขนมแปลกๆอร่อยๆมาให้ชิม เติมน้ำมะพร้าวลงไปอีกลูกหนึ่ง อิ่มจนอืดเลยละขอรับ ..เราขับรถข้ามสะพานไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่เกาะยอ หลังจากที่เคยมาเมื่อ30กว่าปีมาแล้ว เกาะยอวันนี้จำแทบไม่ได้ ในอ่าวมีการเลี้ยงปลาในกระชัง ตัวพิพิทธภัณฑ์สะท้อนตัวตนและวัฒนธรรมพื้นถิ่นได้อย่างครบครัน เราเดินห้องนี้เข้าห้องโน้นขึ้นๆลงๆตามห้องแสดง ที่จัดไว้ลดหลั่นตามสภาพของไหล่เขา อันดับแรก ไปเจอรูปหล่อโลหะกลุ่มการแสดงมโนราห์ก็คุ้มแล้วละครับ เจ้าน้องฟ้าชวนพ่อรำแสดงท่าตามอย่างสนุก ส่วนน้องแอมเปร์เป็นเด็กร่าเริงคุยเก่งขนตางอนเช้ง..เด็กๆสนุกคุณแม่ก็ชม เพลิน เพราะเพิ่งมาครั้งแรกเหมือนกัน ห้องที่รวบรวมผ้าทอพื้นถิ่นมาแสดงอย่างหลากหลาย ผมไปเจอผ้าที่ทอป็นตัวอักษรมีข้อความยาวๆ ไม่ทราบว่าทำได้ยังไง นับเป็นเรื่องภูมิปัญญาชั้นสูงระดับมหัศจรรย์เลยละครับ ท่านใดไปชมอย่าลืมสังเกตเรื่องนี้

(พี่ป้าน้าอา ดูเจ้าตัวเล็กชวนพ่อรำมโนราห์สิครับ จ๊าบบบบบบบส์ จริงๆขอบอก)

กว่าจะลงจากเกาะยอได้ก็บ่ายคล้อยแล้ว ขับรถลงแพขนานยนต์ ข้ามไปยังฝั่งเมืองสงขลา ตรงไปยังวัดบ่อยาง ตั้งใจไว้นานแล้วจะไปกราบหลวงพี่ชัยวุธ มาคราวนี้สมใจนึกแล้วครับ อิ่มบุญอิ่มใจตั้งแต่โผล่เข้าไปก็เจอท่านนั่งรออยู่ใต้ร่มต้นมะขามขนาดใหญ่ หลายคนโอบ ท่านเมตตาพาเดินชมวัด ผมชอบส่ายตาหาต้นไม้ใหญ่ในวัด และแล้วก็เจอเรื่องที่คาดไม่ถึง วัดบ่อยางแห่งนี้จะมีขุมทรัพย์ชั้นยอดที่หาเปรียบไม่ได้ หลังวัดมีต้นจันท์นขนาดยักษ์อายุหลายร้อยปี คง ปลูกตั้งแต่สมัยที่มีผู้คนมาตั้งรกรากที่เมืองสงขลาโน่นแหละ ผมว่าต้นที่ศาลากลางจังหวัดลำพูนใหญ่แล้ว ต้นจันท์นที่วัดบ่อยางใหญ่กว่ามากนัก มองไกลๆเหมือนต้นก้ามปูขนาดยักษ์ กำลังออกดอกช่อเล็กๆ หลวงพี่บอกว่าเป็นพันธุ์ลูกสีเหลือง มีร่องรอยคนไปจุดธูปขอหวยแล้วทำไฟไหม้ ยังดีที่ดับได้ทำให้ต้นไม้รอดตายมาจนถึงเท่าทุกวันนี้ ถ้าทางวัดเอาสิ่งที่รกรุงรังข้างๆออก จัดบริเวณให้ร่มรื่น เป็นที่ให้คนมาศึกษาและชื่นชมกับต้นจันท์นที่ประมาณอายุประมาณคุณค่าไม่ได้ อายุคงเท่ากับเมืองสงขลา ทำป้ายบอกไว้ ..นักท่องเที่ยวและใครๆก็คงจะอยากมาชม “ต้นไม้ใหญ่หนึ่งเดียวในประเทศ” เท่าที่มีการค้นพบ ต้นพิกุล ต้นลั่นทม ต้นมะขามยักษ์ ล้วนแต่มีอายุนับร้อยปีขึ้นไป ต้นไม้เก่าแก่ระดับก๋งเรียกพี่นอกจากเป็นหน้าตาให้แล้ว ยังเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ที่น่าทะนุบำรุงรักษาไว้รอการชื่นชมต่อๆๆไป

(ใครอยากวาสนาดี เชิญมากราบหลวงพี่ชัยวุธ)

หลวงพี่พาไปกราบพระในโบส์ถ ได้ไปดูต้นมะม่วงที่ท่านเขียนถึงในบล็อก ได้ของฝากเป็นไข่ครอบที่เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก ท่านฝากมาถึงชาวเฮด้วย ผมหิ้วมารอแล้วนะครับ ยังไม่ชิมเกรงว่าจะหมดก่อน..ใครไม่มาถือว่าสละสิทธิ์ ส่วนใครมาช้าอาจจะได้แค่ล้างจาน หลวงพี่เล่าว่า ..วันแรกที่ท่านมารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ผึ้งหลวงรังขนาดใหญ่ก็ย้ายตามมาเกาะที่ต้นมะขาม สงสัยเทวดาจะส่งมาแสดงความยินดีและคอยปกปักรักษาวัดแห่งนี้ เรามาจัดงานเฮฮาศาสตร์ที่นี่ก็ดีนะครับ มีที่นอนที่กลิ้งมีเยอะ ท่านบอกว่าทำอะไรก็สะดวก จึงขอบอกญาติโยมทั้งหลาย มาใต้ไม่ได้แวะวัดบ่อทองก็เหมือนมาไม่ถึง วาสนาจะพิการอย่างน่าเสียดายเชียวแหละ

(ลูกหลานเมืองใต้ สดชื่น สนุกสนาน เป็นคนเก่ง คนดี เป็นฝีมือคุณพ่อคุณแม่)

ออกจากวัดขับรถผ่านย่านธุรกิจไปหน่อยเดียว ก็ถึงชายทะเลที่จัดไว้เป็นสวนสาธารณะของเมือง เป็นที่พักผ่อน-ออกกำลังกาย ได้ไปเจอพญานาคตัวใหญ่ที่สุดในโลกกำลังพ่นน้ำลงหน้าอ่าวท่าเรือสงขลา พญานาคที่ว่านี้ตัวยาวนับกิโลเมตร กลางคืนสวยงามมาก ช่วงตะวันตกดินบรรยากาศก็คงงดงามเช่นกัน เรียกว่ามาที่นี่ถ่ายรูปกันเพลินเลยละครับ ใกล้ๆกันเป็นพื้นที่แสดงอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้คนมาเที่ยวกันขวักไขว้ ใครไปใครมาอย่างลืมแวะเน้อ เข้าวัดบ่อยางแล้วย่างเดินทอดน่องทอดใจไปในทะเลสงขล แป๊ดพาแวะร้านอาหารอีกแล้ว ตั้งอยู่ริมชายหาดฟังเสียงคลื่นซัดสาดแกล้มเมนูเด็ด ขนาดว่าอิ่มแล้วก็ยังบรรจุลงไปอีก แบบนี้..ไม่อ้วนเอาเท่าไหร่?..ก็ไม่รู้ มื้อนี้แอมเปร์เป็นเจ้าภาพ บอกได้คำเดี๋ยวว่าประทับไว้ในใจ..

(โรงแรมที่พัก-กับฝนฉ่ำสุวรรณภูมิ)

ดึกแล้วคุณขา แยกย้ายกันกลับเคหา

แป๊ดพามาพักที่โรงแรมแห่งเดิมที่เคยนอนกับหลวงพี่เม้งเมื่อเจอกันครั้งแรก

เป็นที่พักที่สุดยอดด้านการออกแบบ สวย สงบ สะอาด

คอมฯเดี้ยงเหนื่อยด้วยจึงนอนป๊อกเดียวถึงเช้า

แป๊ดมาถึงพร้อมกับของฝากอีก 1 กระเป๋า กับ 1 กระสอบ

เอามาฝากน้าอึ่งให้หนำใจ

ลาก่อนหาดใหญ่น้ำใจงาม..

เจ้านกยักษ์บินฝ่าเมฆฝนเรื่อยมา ดูคล้ายกับเราไปชวนฝนกลับบ้านด้วย ช่วงที่ร่อนทะลุพายุฝนถ่ายรูปไว้หลายฉับ พอถึงสุวรรณภูมิฝนก็เทลงมาไม่ลืมหูลืมตา รีบจับแท๊กซี่ไปบริษัทนครชัยแอร์ ระหว่างทางเจอรถอุบัติเหตุ เสียเวลาไปครึ่งชั่วโมง นึกว่าจะตกรถเที่ยวนี้เสียแล้ว สุดท้ายก็หลุดคำว่าแห้วมาได้อย่างใจหายใจคว่ำ ใกล้เที่ยงพนักงานเอาข้าวกล่องมาแจก ผมงัดเอาหมูย่างของฝากน้าอึ่งมาทดสอบ พบว่าของเขาอร่อยจริงๆด้วย ถ้าไม่เกรงใจคนฝากคงล่อเกลี้ยงไปหลายกล่อง ถึงบุรีรัมย์เข้าตลาดไปสำรวจผักพื้นเมือง ไปเจอคนขายอึ่ง (แสดงว่าฝนตกหนักจนอึ่งออกมาให้จับ) นึก ได้ว่าวันเกิดน้าอึ่งเพิ่งจะผ่านไป แห้วศรีซื้ออึ่งอ่างมาครึ่งกิโล ราคา90บาท เอามาปล่อยหลังบ้านเป็นการกุศลให้น้าอึ่ง ขอให้สวย ขอให้สวย เหมือนอึ่ง คิ คิ

(ท่าเมาหมูย่าง-แมลงเม่า-ของฝาก-อึ่งซื้อมาปล่อย)

ที่สวนฝนตกหนักก่อนเรามาถึง

อากาศเย็นสบาย

แต่กลางคืนหลังฝนหมาดๆเช่นนี้

แมลงเม่าไม่รู้กี่ล้านตัวมาเล่นไฟ

ปลาในบ่อก็ออกมาดินเนอร์แมลงจนท้องกาง

เราช่วยกันทำกับข้าวเมนูพิศดาร

อิ่มแล้วก็แยกย้ายกันนิทรา

เย็นนี้ก็จะตั้งท่ารับเครือญาติระลอกแรก

พระอาจารย์JJ ส่งรายชื่อนักรังสีวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ขอนแก่นมาแล้ว

ล้วนเป็นนายแพทย์ผู้ใหญ่จะมากินข้าวมื้อเที่ยงวันที่ 5 ด้วย 15-20 ท่าน

สรุปว่าช่วงนี้มีนายแพทย์มาชุมนุมที่สวนป่าประมาณ 20 ชีวิต

ท่านใดทราบข่าวนี้ รีบยื่นวีซ่าแล้วตามมาแสดงฝีมือให้ปรากฎ

ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมอิ่มอกอิ่มใจ

มาไวเท่าไหร่ได้กำไรเท่านั้น มาช้าเท่าใด ขาดทุนเท่านั้น ขอบอก

ใครไม่ได้มาก็คอยอ่านเอาเรื่องก็แล้วกัน

ขออนุโมทนาสาธุกับทริปนี้

ขอให้บังเกิดความยินดีทั่วหน้าด้วยกันทุกท่านเทอญ

แคว๊กๆ..

หมายเลขบันทึก: 355937เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2010 06:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

นำบรรยากาศแถวสาธร สวนลุมมาฝากครับ วันนี้ น่าจะมีข่าวดี สำหรับ ประเทศ เรา

สวัสดีท่านครูบาครับ

อนุโมทนาสาธุกับ trip หาดใหญ่ด้วยครับ...

สวัสดีค่ะพ่อครู ตามมายิ้มๆ อ่านแล้วอิ่มอกอิ่มใจค่ะ

ขอบคุณทุกท่านครับ

ผลเป็นประการใดจะเล่าให้ฟังนะขอรับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท