บุกอาณาจักรแตงโม


(ถึงเมืองหาดใหญ่ มองหาบ้านแป๊ดไม่เจอ)

  • คงเป็นเรื่องฟ้าลิขิตกระมังครับ ระหว่างผมกับกลุ่มบริษัทแตงโม ที่สนใจกันมามานานแต่ก็แคล้วคลาดทุกที ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนโข่งที่สถาบันพระปกเกล้า เพื่อนๆยกโขยงกันไปทัศนศึกษาที่บริษัทแตงโมอย่างสนุก ส่วนผมก็วืด!!วืด..ได้ฟังแต่เพื่อนมาโม้ให้คันในความครุ่นคิดคำนึง คุณอัมรา พวงชมพู (เจ้าของบริษัท) เอ่ยปวกชวนแต่ก็ไม่ได้จังหวะ เมื่อวานนี้ระหว่างรอขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ คุณอัมราลองโทรถึงคุณสามีท่านประธานบริษัท แย้มว่า..วันนี้พ่ออยู่ที่โรงงานไหม (เพราะปกติแล้วเป็นการยากที่ทั้ง2ท่านจะว่างตรงกัน) เสียงปลายทางบอกว่าช่วงนี้ยังอยู่ที่โรงงาน คุณอัมราบอกว่าจะพาครูบา>>ไปเยี่ยม สรุปว่าการนัดหมายลงตัวเหมือนอภินิหาร ที่จะจัดสรรเวลาในระยะกระชั้นชิดได้

  • ลงเครื่องที่สุวรรณภูมิบ่าย4โมงเศษ ระหว่างนั่งรถคุณอัมราได้เล่าเรื่องคุณสามีให้ฟัง ว่าเป็นนักธุรกิจที่มีความสุขกับต้นไม้ เป็นนักการค้าที่มีมิติสังคมในหัวใจ  จึงมีมุมมองไม่เหมือนนักค้าขายอื่นๆ ที่สำคัญทั้งคู่เป็นนักปฏิบัติตัวยง สร้างอาณาจักรธุรกิจที่มีผลการประกอบการระดับอินเตอร์ สามารถที่จะสู้เชิงธุรกิจที่เป็นแบบอย่างได้ ผมกระหายที่จะคุยเรื่องคมความคิดจากท่านประธานฯมานานแล้ว เมื่อนัดกันได้จึงดีใจยิ่งกว่าลิงได้กล้วย แต่..รถก็ติดเหลือเกิน เป็นช่วงที่เลิกงานด้วย รถคลานเหมือนหนอน ไปทีละกระดึบๆ ต้องทำใจเพราะไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ คนกรุงเทพถูกมัดมือชกอยู่บนท้องถนนลักษณะนี้..;วันละหลายชั่วโมง

ผมควักกล้องถ่ายรูป

มากดแช๊ะๆไปเรื่อยๆ

และแล้วฟ้าก็เป็นใจ

ท้องฟ้ากรุงเทพฯสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์

ช่วงพลบค่ำท้องฟ้ามืดครึ้มฝนทำท่าจะกระหน่ำลงมาอย่างหนัก

จู่ๆ..บนฟ้าก็คลี่คลายเมฆสลายเบาบาง

ฝนลงเม็ดเล็กน้อยแต่เวลาก็เคลื่อนคล้อยจนมืด

  • เราไปถึงอาณาจักรแตงโมจวนจะ1ทุ่ม คุณอัมราส่งผมให้คุณอดิสรณ์ พวงชมพู แล้วตัวเองก็แว๊บไปงานศพ บรรยากาศเหมือนบุกถ้ำเสือยังไงไม่รู้นะ ก้าวแรกไปเจออาณาบริเวณ รูปแบบที่พำนักอาศัยของคนที่ทำเป็น ก็ซ็อก!แล้ว ทุกก้าวย่างที่เดินไปตามมุมต่างล้วนสงบสุข เรียบง่ายและดูดี เสียแต่เป็นเวลากลางคืนไม่ได้ภาพมาฝาก และไม่ได้ดูกิจกรรมที่เจ้าภาพอยากจะให้ชม สาเหตุมาจากรถติดแท้ๆ แต่เมื่อนั่งคุยกัน2คนเวลา2ชั่วโมง ก็เหมือนผมได้เรียนลัดกับพระอาจารย์ใหญ่ ไต่ถาม-แลกเปลี่ยน-เรื่องราวกันไม่อ้อมค้อม ระเรียงมาตั้งแต่กระบวนการเศรษฐกิจพอเพียง ทำไมมันไม่เวิร์ก จุดยักแย่ยักยันอยู่ตรงไหน คุณอดิสรณ์ตีแตกโพล๊ะๆๆ..ผมตาแจ้งอยู่หลายเรื่อง ได้แคะคุ้ยเรื่องนโยบายต่างๆ การส่งเสริมอาชีพ การพัฒนา..
  • ได้คำตอบจากมุมมองนักธุรกิจผู้สันทัดกรณี ท่านบอกว่าที่ชาวบ้านปลูกอ้อย-มันสำปะหลัง-หรือพืชไร่อื่น สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าทางการเมือง ยากนักที่จะลืมตาอ้าปากได้ ถูกกดราคาจากพวกเซ็งลี้ไม่กี่คน ยกตัวอย่างลำใย-ลองกอง-มังคุด มันจะมียักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้ารวมหัวกันกำหนดราคา กดเพดานไว้เพื่อตนเองจะได้กำไรมากๆจากการส่งออก การ แทรกแซงราคาของรัฐบาลก็เหมือนการเล่นปาหี่ เอาเงินหลวงไปซื้อยังซิกแซกเอากำไรเข้ากระเป๋าอีก สิ่งเหล่านี้คือกระบวนการหากินบนหลังชาวบ้านมายาวนาน ซึ่งก็มีวิธีสลัดแอกได้ถ้าเรามีรัฐบาลที่มีคุณภาพ แต่ก็คงจะยากอีกนั่นแหละถ้าดูรูปการณ์แวดล้อม ทางที่ดีภาคธุรกิจที่มีมิติทางสังคมนี่แหละ ออกไปทำโครงการที่เฉลี่ยความเป็นธรรมให้ทุกฝ่าย คุณอดิสรณ์เล่าถึงโครงการเชิงประจักษ์ที่จะลงไปทำที่จังหวัดบุบลราชธานี ลงทุนไปซื้อที่ทำเองด้วย ให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกันทำมาหากินเชิงธุรกิจไปด้วย ยกตัวอย่างพวกที่ปลูกอ้อยส่งโรงงาน ก็ลองหันมาปลูกอ้อยเคี้ยวอ้อยคั้นน้ำ้อ้อยสดขาย อย่างขี้หมูขี้หมาก็ได้ไร่ละ5-60,00 บาท เรื่องนี้ไม่โม้เฉยๆแต่ท้าชาวบ้านลุย ข้าฯรับผิดชอบเองถ้าเกิดอะไรขึ้นมันส์ไหมละ
  • คนอีสานชอบกินส้มตำ

ทำไมไม่ปลูกมะละกอ 1,000 ต้น ปลูกมะนาว-พริก-มะเขืิอเทศ

แล้วตั้งร้านข้างถนนชวนกันยกครัวมั่วแซบมาตั้ง

ตำโป๊กๆขาย มีปลา มีไก่ เอามาปิ้งขาย

มีผัก-มีกล้วยอ้อย มีต้นหมากรากไม้  แม้แต่หน่อกล้วย หน่อไผ่ เอามาวางขาย

ปลูกด้วย ขายด้วยมันถึงจะทันกินทันใช้

ฟังๆแล้ว..ต้องสอนชาวบ้านให้ค้าขายเป็น

คนที่ค้าขายเป็นจะเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องการเพาะปลูก

ว่าปลูกอะไร เท่าไหร่ อย่างไร ถึงเงินจะไหลมาเทมา

  • คุยกันไป เจี๊ยะสลัดจานโต สมควรแก่เวลา คุณอดิสรณ์บอกว่าไปคุยกันต่อบนรถ ท่านขอเป็นโชเฟอร์ขับมาส่งผมเอง ออกเดินทางประมาณ3ทุ่ม จากสามพรานนครปฐมมายังโรงแรมแรมมารวย ที่พหลโยธิน หลงวนเวียนอยู่แถวๆมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เกือบชั่วโมง เดือดร้อนถามผู้สันทัดกรณีทั่วทั้งกรุงเทพฯ จอดรถถามแท๊กซี่ แต่ก็ยังหลงกรุงอยู่ดี กว่าจะเจอโรงแรมล่วงเวลาไป 5ทุ่มเศษ จึงเป็นอะไรๆที่ไม่ธรรมดาอยู่เรื่อย ก่อนจากลาก็นัดหมายกันว่า เจ้าพ่อแตงโมจะชวนคุณอัมราบุกสวนป่า จะไปขอนอนคุยกันสักคืน ส่วนวันเวลาไหนยังไม่กำหนด พร้อมไม่ไหร่เสียงโทรศัพท์จะดังตามมาภายหลัง
  • ระหว่างเดินทางไปหาดใหญ่

เจอคณะจากสภาพัฒนฯและ สสสส. บอกว่ากำลังจะส่งจดหมายไปหาพอดี

วันที่ 23 ว่างไหม?

เอาละสิ ..มีอะไรหรือครับ?

เราจะจัดเสวนากันเรื่อง“อนาคตประเทศไทยจะทำยังไงดี”

หัวข้อจำได้คร่าวๆประมาณนี้ละครับ

ผมนึกถึงเรื่องที่คุยกันที่อาณาจักรแตงโม

อยากจะทำเรื่องแคบๆ ..“อนาคตของตัวเราเองมากกว่า”

ถ้าทุกคนช่วยกันรับผิดชอบตนเอง

ไม่ไปสร้างผลกระทบให้บ้านเมือง

ไม่เถือแถผลประโยชน์ของส่วนรวม

ไม่ลอยแพสังคม

ช่วยกันเป็นตัวคูณทางสังคม

ประเทศไทยถึงจะน่าอยู่ครับผ๊ม..

ท่านใดเห็นด้วยเอามือลงได้แล้วคร๊าบบบบบ

อิ อิ ..

 

หมายเลขบันทึก: 363474เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2010 14:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 13:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะ

แวะมาทักทายค่ะ ยกมือจนเมื่อยแล้วค่ะ

มาขอความรู้ด้วยคนครับ ท่านครูบา

ตามมาดู แตงโม กับ มะเขือเทศ ครับท่านพี่

พ่อยังหลงในเมือง

เมื่อคืนผมหลงในป่ายาง..ไม่มีใครให้ถาม

พอเจอคนถามได้ก็บอกพิกัดไม่ชัดเจน..หลงเหมือนเดิมอีก..

กว่าจะหาทางออกได้เกือบห้าทุ่ม..ครับ

ศุกร์ฟ้าครึ้ม เตรียมไล่ฝนไปฝั่งโน้น รอรับนะคะพ่อครูขา ... มาปุ๊บ กลับปั๊บ ชีพจรลงเท้าจังค่ะ " น้องฟ้า มีหมวกเมฆ งามหลายเด้อค่า

  • สวัสดีครับพ่อครูบา
  • วันก่อนลุงเอกแวะไปเยี่ยมที่กำแพงเพชรครับ
มหาชาญ คนบ้านประชาไทย ใกล้ๆหนองกี่

ท่านครูบา   ได้ฟังที่วัดโคกสมานคุณ ผมเด็กอีสานบ้านนา เริ่มเห็นคุณค่าของบ้านเฮา จึงอยากจะศึกษาเมล็ดพันธุ์ สนใจข้อมูลและตัวอย่างเพิ่มเติม

ฟังครูบาแล้วปิ๊งไอเดีย  อยากรู้จักต้นไม้มากขึ้นครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท