ผมพึ่งรู้ว่าผมโคตร (ของโคตรของโคตร) รวยเลยครับ ผมเป็นอภิมหาเศรษฐีใหญ่ผู้ร่ำรวยล้นฟ้าทีเดียว ผมขอโม้หน่อย
"อะไรวะ!! รวยแล้วมาโม้" คุณอาจจะนึก
ก็คนมันอยากจะโม้ จะทำไม??
ผมรวยติดอันดับต้นๆ ของโลกทีเดียว มีคนไม่มากนักที่มีรายได้มากกว่าผม คนในโลกนี้โดยส่วนใหญ่มีรายได้น้อยกว่าผมทั้งนั้น
ผมรวยเป็นอันดับที่ 95,450,755 ของโลก หมายความว่ามีคนอีก 6.7 พันล้านคนที่มีรายได้น้อยกว่าผม ถ้าคนทั้งหมดคิดเป็น 100% ผมอยู่ในอันดับ 1.59% ทีเดียวเชียวนะครับ นั่นคือคนในโลกนี้ 98.41% จนกว่าผม!!
โคตรรวย ขอบอก
โคตรของโคตร (ของโคตร) รวยเล้ย
ผมวัดความรวยของผมโดยไปที่เว็บ Global Rich List แล้วใส่รายได้ต่อปีโดยประมาณของผม โดยเอาเงินเดือนมาคูณสิบสอง เงินเดือนอาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นข้าราชการระดับแปดที่ทำงานมาเกือบยี่สิบปีบวกเงินค่าตำแหน่งวิชาการด้วยก็อยู่ที่ประมาณไม่ถึงสี่หมื่น คิดตัวเลขเกินๆ ไปหน่อยต่อปีก็เกือบจะใกล้ห้าแสน แหม.... เท่ากับคนอื่นทำงานเดือนเดียวพอดี ผมเลยใส่ตัวเลยห้าแสนบาทไปกลมๆ แล้วก็ได้ตัวเลขอันดับความรวยอย่างที่ผมบอกข้างต้นนี่ละครับ
เงินเดือนขนาดผมนี้อาจจะเยอะสำหรับข้าราชการด้วยกันเพราะในระบบมหาวิทยาลัยนั้นระดับขั้นไปได้เร็วกว่าข้าราชการในหน่วยงานอื่น แต่เงินเดือนขนาดนี้นั้นน้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่ทำงานเอกชนโดยเฉพาะในสายวิชาชีพอย่างผมที่เขาคุยกันหลักแสน
อย่ายอผมว่าผมเสียสละทำงานรับใช้ชาตินะครับ ผมขี้เกียจไปทำงานเอกชนต่างหากล่ะ
แม้กระทั่งเป็นข้าราชการผมยังเป็นได้ไม่ดีเลย เพราะผมทำเฉพาะสิ่งที่ผมสนุกที่จะทำเท่านั้น คติประจำตัวคือ "ไม่สนุกไม่ทำ จ้างแพงแค่ไหนก็ไม่ทำ" เพราะผมเป็นคนฉลาดแต่เป็นคนขี้เกียจ มี IQ สูงแต่ EQ ต่ำ คุณสมบัติเช่นนี้ไม่สามารถเป็นทั้งคนดีและคนไม่ดี ความขี้เกียจเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่ขี้เกียจขนาดนี้ยังรวยติดอันดับต้นๆ ของโลกเลย แล้วคนขยันๆ ทั้งหลายจะรวยขนาดไหน?
คนรวยจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีเวลาชื่นชมและมีความสุขกับความรวยของตัวเอง กลับเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างคนจนที่ต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แม้จะมีเงินเพียงพอที่จะซื้ออาหารกินสมบูรณ์แล้ว ก็ยังดิ้นรนหาเงินซื้อหาสิ่งที่เหนือความสมบูรณ์นั้นขึ้นไปอีกไม่มีที่สิ้นสุด
เรามีเงินซื้อก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นชามอร่อยเจ้าเก่าหัวถนนที่ปั่นจักรยานไปซื้อได้ ทำไมเราต้องดิ้นรนหาเงินไปซื้อสเต็กเนื้อโกเบที่ต้องนั่งเครื่องบินไปกินด้วย?
บางคนขยันจนไม่มีเวลาถามตัวเองว่าจะขยันหาเงินไปไหน หลายคนตอบไม่ได้ว่าถ้ามีเงินแล้วจะเอาไปทำอะไร สุดท้ายก็เอาไปให้หลวงพ่อช่วยใช้ซื้อรถเบนซ์ประจำกุฎิเพื่อแลกกับ "บุญ" ที่นับไม่ได้
บางที Global Rich List อาจจะช่วยเตือนสติให้เรามีเวลานั่งคิดเรื่องความรวยความจนได้มากขึ้น
สำหรับผมที่รู้ตัวว่ารวยแล้ว ผมขอใช้เวลาละเลียดความรวยของผมให้มีความสุขในทุกๆ วันครับ
มาอยู่นิ่งๆ สงบๆ แล้วดื่มด่ำความรวยด้วยกันไหมครับ คนไทยโดยส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะที่สามารถทำได้กันทั้งนั้นครับ
อิจฉาจัง..ค่ะ..
ยายธีน่าจะรวยกว่าผมถ้าใช้รายได้ของ developed countries อย่างเยอรมันนะครับ ยายธีลองคำนวนที่ Global Rich List ดูนะครับ
แต่ข้อจำกัดของ Global Rich List คือเขาไม่ได้คิดเรื่องค่าครองชีพครับ มีรายได้มากก็ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อของได้มากครับ
อาจารย์คะ...ยายธีล้อเล่น..น่ะค่ะ...และอีกอย่างยายธี..ตก..คำนวน..และ..เป็นคนคิดเลขไม่เป็นเจ้าค่ะ..๕๕๕...
ยายรู้แต่ว่า...อาทิตย์หนึ่งอยุ่คนเดียว..บ้านไม่ต้องเช่า..จ่ายแต่ค่า...โสหุ้ย..ซื้อข้าวกิน..เมืองเยอรมัน สองพันกินได้ทั้งอาทิตย์..แฮะะๆๆเมืองไทยไม่ไหว..อ้ะะ.ๆๆๆ
ลองแล้วค่ะ รวยมาก ๆ จริง ๆ ด้วยค่ะอาจารย์ อิ อิ ^_,^
ฮาๆๆๆ...
ถ้าเอาส่วนที่เหลือจากหักหนี้ไปเข้าสูตร จะจนที่สุดในโลกมั้ยเนี่ยยยย....
เลยไม่กล้าเข้าสูตรน่ะค่ะ ...
ฮาๆๆๆๆ
ยายธีครับ ตอนผมอยู่อเมริกาผมก็รู้สึกว่าผมใช้เงินน้อยกว่าอยู่เมืองไทยครับ คิดว่าเราใช้เงินกินอยู่เท่าที่จำเป็นจริงๆ ไม่มีเรื่องอื่นๆ มาให้ใช้เงินมากครับ
พี่หมอครับ ตอนผมเห็นตัวเลขที่เขาคำนวนก็แทบไม่อยากเชื่อว่ามีคนจำนวนเยอะมากในโลกนี้ที่มีรายได้น้อยกว่าเราที่นึกว่าเป็นคนรายได้ปานกลางในประเทศกำลังพัฒนาเล็กๆ อย่างนี้ครับ การกระจายรายได้ของโลกนี้นี่ไม่เท่าเทียมจริงๆ ครับ
เป็นอีกปัญหาของ Global Rich List ครับพี่ติ๋ว นอกจากเรื่องค่าครองชีพ แต่คำนวนเล่นๆ ดูแล้วก็สนุกดีครับ :-)
ลองแล้วครับ.... รวยจนชั่วขณะหนึ่งนี้อยู่ที่การเปรียบเทียบจริงๆ ครับ....