สวรรค์ชั้นเจ็ด??? ตอนที่ สอง


ในบทความ สวรรค์ชั้นเจ็ด??? อ้างถึง ลิลิตโองการแช่งน้ำ (ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา) ที่ว่า

ในวรรคที่กล่าวถึง พระอิศวร แต่กลับมีการนำคุณสมบัติของพระอินทร์เข้าไปปนอยู่ด้วย นั้นมีใจความดังนี้

" โอมพระ บรเมศวราย :โอมพระอิศวร
ผาย ผาหลวง อะคร้าว : ผู้ผึ่งผายอยู่ ณ เขา ไกรลาศ (ผาหลวง) อันงดงาม
ท้าวเสด็จเหนือวัวเผือก :ขี่วัวเผือกเป็นพาหนะ วัวเผือกนี้ชื่อ อศุภราช
เอาเงือกเกี้ยวข้าง :เอางู ทำเป็นสร้อยสังวาล เกี่ยวกระหวัดที่สีข้าง (คำว่าเงือก โบราณ ใช้แปลว่างู )
อ้างทัดจันทร์เป็นปิ่น :ใช้พระจันทร์เป็นปิ่นปักผม
ทรงอินทร ชฎา :ผู้ยิ่งใหญ่ผู้ทรงสวมชฎา
สามตาพระแพร่ง :ผู้มีสาม ตา แยกออกมา (ที่พระนลาฎ=หน้าผาก )
แกว่งเพชรกล้า :กวัดแกว่งเพชร (พชร/วชร/วัชระ/วชิระ/วิเชียร=สายฟ้า) เป็นอาวุธอย่างแกร่งกล้า
ฆ่าพิฆนจัญไรฯ"
:ทำลายร้างความจัญไร

 

จะเห็นได้ว่า (พชร/วชร/วัชระ/วชิระ/วิเชียร=สายฟ้า) เป็นอาวุธของพระอินทร์ การที่ (พราหมณ์)ผู้แต่ง โองการแช่งน้ำ กล่าวอ้างว่า เพชร เป็น อาวุธของพระอิศวร  นี่จึงถือเป็นความบกพร่องผิดพลาดในข้อที่สอง สาเหตุใดที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ หลงผิดไปว่า พระอินทร์ และพระอิศวรเป็นเทพเจ้าองค์เดียวกัน จึงกระจ่างแจ้งขึ้นแล้วว่า พระอินทร์ และพระอิศวร มิใช่เทพเจ้าองค์ เดียวกัน และพระอิศวรมิได้ทรงใช้ สายฟ้าเป็นอาวุธ เรื่องนี้ถือเป็นคุณูปการของ พระยาสัจจาภิรมย์ (สรวง ศรีเพ็ญ) ผู้เขียนตำรา เทวกำเนิด

เมื่อกล่าวถึง พระอินทร์ ผู้ถือ เพชร เป็นอาวุธ ก็ต้องเทียบกับ ตำนานเทพที่เป็นเจ้าแห่งฟ้าผ่า หรือมีสายฟ้าเป็นอาวุธ  ของชาว Akkadian (ประมาณ 2200 ปีก่อนคริสตศักราช) นั่นคือ เทพธิดา Zarpenik ผ้ถือสายฟ้าเป็นอาวุธ ประทับทรงอสูรกริฟฟอน และสมัยต่อมา ชาวเอเชียกลางก็มีเทพที่ใช้สายฟ้าเป็นอาวุธต่อเนื่องมาไม่ขาด เทพแห่งดินฟ้าอากาศ Teshub ของชาวฮิตไตต์ ในสมัย 900 ปีก่อน ค.ศ. ก็ถือสามง่ามสายฟ้าเป็นอาวุธ และต่อมา ชาวกรีกก็รับช่วงให้เทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ซีอุส   ถือสายฟ้าเป็นอาวุธเช่นกัน และในทางตะวันออก ชาวจีนก็มี เทพธิดาเถียนหมู่ เป็นเทพแห่งสายฟ้า พระนางถือกระจกสองบานใช้เป็นที่ส่งสายฟ้าลงมายังพื้นโลก โดยมี หลี่ซู เป็นเทพแห่งฟ้าร้องและมี หลี่กุง แบกกลองเป็นผู้ช่วย  ในยุโรปภาคเหนือ พวก นอร์สแมน หรือชาวนอร์เวย์โบราณที่เรารู้จักกันว่า พวกไวกิ้ง ก็มีเทพสูงสุดคือ ธอร์ ซึ่งเป็นเทพแห่งสายฟ้า โดยมีความเชื่อว่า ธอร์ มีขวานวิเศษที่เมื่อตีกระทบทั่ง ก็จะเกิดสายฟ้าขึ้นมา เครื่องรางที่ขลังที่สุดของชาวนอร์คือ ค้อนของธอร์ ที่มักจะทำเป็นเครื่องรางห้อยคอกัน (1)


จากคำแปล ลิลิตโอการแช่งน้ำ ข้างต้น กวินได้ ละที่จะแปล คำว่า พิฆน  เอาไว้เพราะไม่แน่ใจความหมาย แต่ตอนนี้รู้ ความหมายของคำนี้แล้ว

คำว่า พิฆน นี้ แปลว่า อุปสรรค เมื่อ พิฆน/วิฆน สนธิกับ อิศ(ร)  ซึ่ง อิศ(ร) เมื่อ พฤต อิ เป็น เอ จะได้ว่า เอศ(ร)  

พิฆน/วิฆนะ+เอศ(ร) =พิฆเนศ(ร)/วิฆเนศ(ร)  แปลว่า ผู้เป็นใหญ่เหนืออุปสรรคทั้งปวง

ด้วยเหตุที่ว่า พระ พิฆเนศ(ร) เป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ เพราะเป็นใหญ่เหนืออุปสรรคทั้งปวงนี้เองคนแขกจึงนิยมบูชา พระพิฆเนศร เพราะเชื่อว่าจะทำให้ตนประสบแต่ความสำเร็จ

อนึ่ง ในลิลิตโองการแช่งน้ำ ท่อนที่ว่า
ฆ่าพิฆนจัญไรฯ  จึงต้องแปลว่า  ทำลายร้าง อุปสรรค และ ความจัญไร จะเห็นได้ว่า ลิลิตโอการแช่งน้ำ ในวรรคที่กล่าวถึง พระอิศวร แต่กลับมีการนำคุณสมบัติของพระอินทร์ และ พระพิฆเนศ(ร) เข้าไปปนอยู่ด้วย พราหมณ์ผู้แต่งลิลิตโองการแช่งน้ำนี้มั่วนิ่ม mix เอกลักษณ์ของเทพเจ้า ปนกันมั่วไปหมด หนอ


อ้างอิง

(1) พวงร้อย(นามแฝง) .ตำนาน ประวัติศาสตร์ความเข้าใจ ฟิสิกส์ของฟ้าผ่า .ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโลโยราชมงคล [cited 2009 May 2]. Available from: http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/53/Lighting/index.htm

คำสำคัญ (Tags): #สวรรค์ชั้นเจ็ด
หมายเลขบันทึก: 258905เขียนเมื่อ 3 พฤษภาคม 2009 00:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 11:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ตามมาอ่านอย่างงง ๆ ไม่ค่อยมีความรู้นักค่ะ

เก็บไว้ในคลังความรู้ก่อน เผื่อต้องใช้

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท