มีผู้ถามว่า “จะต้องทำอย่างไร ใจจึงจะฟูเช่นนี้ตลอดไป”


หัวใจสำคัญนั้นอยู่ตรงที่ว่าเรารู้ตัวหรือไม่ในขณะที่ใจของเรากำลังฟูหรือกำลังแฟบ
                 
               ในช่วงท้ายของ KM Workshop ผู้เข้าร่วมบางท่านมักจะแสดงความรู้สึกในทำนองที่ว่า “2-3 วันนี้มีความรู้สึกที่ดีมาก รู้สึกว่ามีพลัง หัวใจพองโต ใจมันฟู” และมักจะต่อด้วยคำถามที่ท้าทายว่า “จะทำให้ใจฟู อยู่ตลอดไปได้อย่างไร? กลัวว่ากลับไปไม่กี่วันใจก็จะแฟบอีก” ผมมักตอบคำถามในทำนองที่ว่า . . .เป็นไปไม่ได้หรอกที่ใจจะฟูตลอดไป อย่าว่าแต่สองสามวันเลย เดี๋ยวขณะที่นั่งรถกลับ อาจจะมีโทรศัพท์ดังขึ้นมา พอพูดเสร็จ จิตอาจจะตก ใจอาจจะแฟบก็ได้ แต่พอไปถึงบ้านได้เห็นหน้าลูกกับภรรยา ใจอาจจะฟูขึ้นมาก็ได้ สรุปง่ายๆ ว่ามันเป็น “ธรรมชาติของใจ” ที่แปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง ไม่เคยทรงตัวอยู่กับที่ได้
               ประเด็นที่อยากให้เห็นก็คือ ใจที่ฟูหรือใจที่แฟบนั้น หากมองกันจริงๆ แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัญหาอะไร ปัญหาส่วนใหญ่นั้นเกิดจาก "สิ่งที่ตามมา" หลังจากนั้นต่างหาก ตัวอย่างเช่นเมื่อใจแฟบแล้วพูดออกไปในเชิงตัดพ้อต่อว่า หรือเมื่อใจฟูแล้วนำไปสู่การกระทำที่กล้า(บ้าบิ่น) อยู่ในอาการหลงตัวเอง แสดงอำนาจบาทใหญ่ แสดงอีโก้ โอ้อวด ฯลฯ คำพูดหรือการกระทำที่ตามมาหลังจากที่ใจฟูใจแฟบต่างหากที่เป็นตัวปัญหา เราไม่สามารถทำใจให้ฟูได้ตลอดไป และใจก็ไม่มีทางที่จะแฟบได้ตลอดเวลาเช่นกัน
               จริงๆ แล้วหัวใจสำคัญนั้นอยู่ตรงที่ว่าเรา “รู้ตัวหรือไม่ในขณะที่ใจของเรากำลังฟูหรือกำลังแฟบ” ถ้าเรารู้ตัว สิ่งที่ตามมาก็ไม่สามรถสร้างปัญหาขึ้นมาได้ แต่ถ้าเราไม่รู้ตัว ไม่ว่ามันจะฟูหรือแฟบก็สร้างปัญหาได้ทั้งนั้น ความสำคัญจึงอยู่ที่ “การรู้ตัว” ไม่ได้เกี่ยวกับความต้องการที่จะทำให้ใจฟูได้นานๆ อย่างที่ถามมา เพราะว่าการทำเช่นนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างล้วนแปรเปลี่ยนไปเป็นธรรมดาตามกฎธรรมชาติ กฏของธรรมชาติที่ว่าด้วยเรื่องความไม่เที่ยงหรือการแปรเปลี่ยน ใครที่เห็นการแปรเปลี่ยนนี้ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ “เข้าถึงธรรม” ได้อย่างแท้จริง

                                          

หมายเลขบันทึก: 398928เขียนเมื่อ 27 กันยายน 2010 20:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มีนาคม 2012 13:07 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

จะให้ ฟู ต้อง สร้างเครือข่าย Don't walk alone ครับ

สวัสดีท่าน อาจารย์ ครับ

ฟู หรือ แฟบ ก็เป็นธรรมดามีขึ้นมีลง

คอยรู้ตัว แบบ กลางๆ ไม่ตื้นเต้น ปรุงแต่ง เกินไป มีสติ รู้ได้ไว ไม่ไหลหลง

ก็สบายจิต สบายใจ ครับ

ขอบพระคุณสำหรับบทเรียนครับ...

สวัสดีค่ะอาจารย์

จะจดจำและนำไปปฏิบัติค่ะ  โชคดีจริง ๆ ที่ได้อ่านบันทึกนี้ เข้าใจง่ายค่ะ "จะใจฟูหรือใจแคบ  โดยรู้ตัวว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาแต่สำคัญคือผลที่เกิดหลังจากใจฟูและใจแฟบนั้นต่างหาก"

ใจฟูน่ากลัวกว่าใจแฟบนะคะ  ขอขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ  ขออนุญาตนำไปเล่าบอกต่อเพื่อน ๆ ค่ะ

อาจารย์สอนคล้ายๆ หลวงพ่อปราโมทย์เลยครับ

สวัสดีค่ะ

แวะมาหาอีกรอบค่ะ อาจารย์  เที่ยวนี้มาขอขอบพระคุณอาจารย์มากนะคะที่ได้คลี่คลายจิตใจที่แฟบ ๆ

http://gotoknow.org/blog/krukim/398957

สาธุ

จะฟู จะแฟบ ก็ใจของเรา ใจมันคิดไปเอง สร้างขึ้นมาเอง

เอาใจไปสัมพันธ์เอง...ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์

  • ตามพี่คิมมาครับ
  • กำลังพยายามฝึก "ตระหนักรู้ตนเอง"
  • ขอบพระคุณบันทึกดีดีเช่นนี้ครับ

ผมเอง ส่วนใหญ่ รู้ว่าฟู  รู้ว่าแฟ่บ  แต่รู้แป๊บเดียว   มันก็เผลอคิดตามใจไปที่ฟูหรือแฟบ

โดนกับตัวเอง..โดยเฉพาะเมื่อเร็วๆนี้

เดี๋ยวแฟ่บ  เดี๋ยวฟู แต่ก็ดีค่ะ"เข้าถึงธรรม" ได้ดี

จุไรรัตน์ ปานบ้านเกร็ด

ฟูบ้าง แฟ่บ บ้าง เป็นการเรียนรู้ชีวิต ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่มีใครใจฟูหรือแฟ่บตลอดเวลาอยู่ที่ว่าเราจะดูแลใจของเราอย่างไร

ตัวผมเองพอรู้ฟู/รู้แฟบบ้าง แต่ตามไม่ค่อยทันครับ เลยจัดการได้ไม่เต็มที่ มีสติแต่ยังไปไม่ถึงกำลังสมาธิ ปัญญาครับ

ลูกเอ๋ย

        ยามใด..ที่ลูกรู้สึกว่าชีวิตมีความราบรื่นปลอดโปร่งสะดวกสบายไปทุกสิ่ง  ลูกต้องไม่ยึดมั่นว่ามันเป็นเช่นนั้นตลอดไป  อาจมีวันที่ต้องประสบความยุ่งยากเดือดร้อน  ถ้าลูกไม่ตั้งอยู้ในศิลธรรมตลอดไป 

        ยามใด...ที่ลูกมีความเหลือเฟือ เงินทองไหลมาเทมา มีความสมบูรณ์พูนสุขทุกประการ ก็อย่ายึดมั่นว่ามันเป็นเช่นนี้ตลอดไป  อาจจะมีสักวันที่ลูกตกระกำลำบาก ระหกระเหินแม้จะหาที่ค้างกายก็ทั้งยาก  หากลูกไม่รู้จักใช้เงินให้เป็นประโยชน์ในทางที่ถูกที่ควรทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น

        ยามใด..ที่คนนิยมชมชอบเคารพนบนอบต่อลูก  ลูกก็จะต้องยิ่งทำตนให้เป็นที่เคารพยิ่งขึ้น  ถ่อมตัวด้วยความจริงใจมิใช่เสแสร้งทำ  ปากอย่าง  ใจอย่าง  อวดดี  วางอำนาจ 

       ยามใด...ที่ลูกได้รับยศฐาบรรดาศักดิ์สูงส่งลูกก็อย่ายึดมั่นในโลกธรรมนั้นว่าจะแน่นอนเสมอไปต้องเตือนสติตนเองอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งยศศักดิ์ ชื่อเสียง เงินทองและความสุขทั้งมวลอาจจะพินาศ ไปในพริบตาเดียวก็ได้หากลูกไม่มั่นประกอบกรรมดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป  แม้ลูกจะมีความรู้ความสามารถเพียงใดก็ตามจงอย่าทนงตนว่าใครก็สู้ไม่ได้  ลูกจะต้องเป็นผู้มีคุณธรรมสูงส่ง  และคงความสูงส่งนั้นไว้ได้ไม่มีว้นที่จะตกต่ำ 

           สรุปว่าจะใจแฟบหรือฟู  จงอย่ายึดมั่นถือมั่น  ...จงตามดูใจของตน  และประกอบกรรมดีต่อไป...

มาอ่านบันทึกดีๆ ให้ใจฟูทุกวี่วัน ขอบพระคุณค่ะ

+ สวัสดีค่ะอาจารย์...

+ ขอบคุณมากค่ะ...ที่บันทึกนี้ของอาจารย์ที่ช่วย  เน้น   ย้ำ   ซ้ำ  เติม ให้หนูตั้งสติกับอาการใจแฟบ(ที่ยังค้างคาอยู่...แม้ไม่มากก็ตาม)

+ หนูรู้ค่ะว่า...การรู้ตัว  การตื่นรู้ ...ต้องผ่านการฝึกเป็นนิจ...

เมื่อมีการรับอารมณ์ก็เป็นธรรมดาของใจที่มีการปรุงไปตามการรับรู้หรือตามกระแสแห่งธรรมเมื่อขาดสติ จนกว่าท่านจะเห็นตัวจริงของตัวรู้ พยายามได้ทุกท่านครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท