๖๓๕.แบบนี้ก็มี (ดี)


         อ่านบันทึกของอาจารย์ beyondKM เรื่องมีผู้ถามว่า "จะต้องทำอย่างไรใจจึงจะฟูเช่นนี้ตลอดไป"  ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อกลางวันของวันนี้  ในการสนทนาของพวกเรากลุ่มครูผู้ "เกษียณอายุราชการก่อนกำหนด"

         ครูหนึ่งเล่าว่า "ที่โรงเรียนของเธอจัดงานให้อย่างสมเกียรติ  ผู้บริหารและครูมอบสร้อยคอทองคำหนัก ๒ บาท  พร้อมพระเลี่ยมทองหลวงปู่เงิน ให้เป็นของที่ระลึก  จัดพิธีให้กล่าวอำลาครู นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน  และผู้บริหารโรงเรียนเสียสละทุนส่วนตัวจัดทำของที่ระลึกให้สำหรับแจกนักเรียนทั้งโรงเรียน" แสดงถึงการรักใคร่และอาลัย  ตอบแทนความดีงามระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน  สิ่งของอาจจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ  แต่มีความหมายในการแสดงออก

        ครูสองเล่าว่า "ที่โรงเรียนของเธอ  จัดงานเลี้ยงให้เช่นเดียวกับครูหนึ่งลาครู ลาเด็กและลาผู้ปกครอง  แต่พิเศษ โรงเรียนมีภาพวิดิโอเกี่ยวกับกิจกรรมที่ครูสองทำฉายให้ทุกคนดูในงานเลี้ยง" แสดงถึงการให้ความซาบซึ้ง ในความรัก ความผูกพันในการที่อยู่ร่วมกัน  เพื่อต้องการให้ผู้จากไปมีความประทับใจและเก็บจำความรู้สึกดี

        ครูสามเล่าว่า "โรงเรียนของเธอจะจัดวันที่ ๓๐ กันยายน เพราะผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาให้รอ จนกว่าทุกคนจะพร้อม  เพราะมีกิจกรรมลาครู ลาเด็กและลาผู้ปกครองเช่นเดียวกัน  และมีการแสดงของนักเรียน" เช่นเดียวกับครู ๒ ท่านข้างต้น แสดงให้เห็นว่าโรงเรียนและชุมชนมีสัมพันธภาพที่ดี  เป็นแบบอย่างของเยาวชนและนักเรียนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนในการให้คุณค่าของคนในชุมชนมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงเรียน  ผู้บริหารมีความสามารถไม่ทำให้โรงเรียนและชุมชนแตกแยกแบ่งชั้น

        เกี่ยวอะไรกับบันทึก "ใจฟูใจแฟบ" ใน บันทึกของอาจารย์ beyondKM ข้างต้น  เนื่องจากครูสี่เล่าว่า "สำหรับโรงเรียนของเธอนั้นผู้บริหารโรงเรียนบอกว่าไม่มีการเลี้ยงส่งแต่อย่างใด  โดยพูดต่อหน้ากรรมการสถานศึกษาด้วย ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษานั้นถูกผู้บริหารล็อบบี้ไว้หมดแล้วว่าไม่มีการเลี้ยงส่ง และไม่มีการประชุมครูในโรงเรียนแต่อย่างใดทั้งหมดผู้บริหารตัดสินใจด้วยตนเอง" แบบนี้ก็มี...ไม่ทราบจะวิพากษ์ว่าอย่างไร  ฟังแล้วไม่น่าเชื่อว่าเป็นการกระทำของคนระดับผู้บริหาร

         ฉันรู้สึกเห็นใจครูสี่มาก พวกเราได้พูดให้กำลังใจครูสี่ และได้อ่านบันทึกฉบับนี้ให้ครูสี่ฟังทางโทรศัพท์ พร้อมกับแนะนำให้ครูสี่เข้าไปอ่านด้วยตนเอง  ครูสี่โทรศัพท์กลับมาว่า "สบายใจขึ้นกว่าเดิมมาก"  และเธอได้สติกลับคืนมาแล้ว

         ตอนแรกที่ฉันได้ฟังครูสี่เล่า ฉันรู้สึกเห็นใจและใจแฟบไปกับครูสี่มาก  และเก็บมาคิดนึกตำหนิติเตียนการกระทำที่ไม่มีใครทำ  เมื่อได้อ่านบันทึกของอาจารย์ beyondKM ทำให้ฉันคลี่คลายความรู้สึกได้  เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา 

        ส่วนความคิดเห็นส่วนตัวของฉันก่อนที่จะได้อ่านบันทึกของอาจารย์นั้น  ฉันคิดว่า "การจะเลี้ยงหรือไม่เลี้ยง  ไม่ใช่เรื่องสำคัญ  ทานแค่ไหนก็ได้แค่อิ่ม หากไม่มีใจที่จะมอบให้กันก็ไม่มีความหมายอะไร  หากแต่มีใจแค่รอยยิ้มและสายตาแม้จะปราศจากคำพูดใด ๆ ก็ทำให้ลาจากกันด้วยดี" แบบนี้ก็ดี...กว่า

         เรื่องนี้ไม่ได้เกิดกับเรา  ทำให้เรามองเห็นว่า "เป็นเรื่องธรรมดา" ได้ง่ายมาก  แต่ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเรา "ความเป็นธรรมดา" คงไม่เข้าถึงได้ง่าย ๆ  ที่นำมาเขียนเพราะเห็นว่าเรื่องนี้ควรเป็นบทเรียนของสังคม  ผู้บริหารไม่ควรทำตัวแบบเด็กเล่นขายของ และแก้แค้นโดยการคิดด้วยตนเอง แบบไม่เป็นธรรมเลย

        ขอขอบพระคุณอาจารย์ประพนธ์ ผาสุขยืด beyondKM เป็นอย่างสูงที่ช่วยให้พวกเรามีสติมากขึ้น  และมองเห็นว่าทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นไปตามธรรมชาติ

 

RedRedRedRed

หมายเลขบันทึก: 398957เขียนเมื่อ 27 กันยายน 2010 22:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 13:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)

สวัสดีครับพี่สาว

  • แวะไปอ่านตามลิงค์
  • ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
  • กลับมาอีกครั้ง "ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา"
  • ศ.นพ.อารี วัลยะเสวี ท่านบอกไว้ว่า "ความจริงคือความจริง และข้อเท็จจริงคือข้อเท็จจริง"
  • พี่คิมสบายดีนะครับ

สวัวดีค่ะพี่ครูคิม

ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดาและธรรมชาติจริงๆค่ะ...

สวัสดียามดึกฝนตกค่ะ

       ดาว่า ใจที่ทำให้เกิดอารมณ์ สำคัญมาก คนเราไม่เหมือนกัน จะฟูจะแฟบทุกคนจะได้พบเมือนกัน ก็อยู่ที่ใจจะยอมรับได้แค่ไหน ยอมรับได้ ใจก็ไม่ทุกข์ คือดูให้ธรรมดา  แต่ยอมรับไม่ได้ ไม่พอใจ  ใจก็เกิดทุกข์  ก็ห้ามใจเขาไม่ได้อีก ครู 1 2 3 4 ขอสรุป    ดาเห็นด้วยเหมือนกับของคุณครูคิมค่ะ  และเราควรพอเพียง พอดี  ไม่ควรคาดหวังอะไรไว้ก่อน เป็นดีที่สุด หรืออาจคิดคาดหวังไว้บ้างก็ขอให้กลับความคิดทันที  ในสิ่งที่เราตั้งใจทำหรือคิด แล้วหวังผลขอให้   ใจคิด พอเพียง  แฟบพอดี  พองพอดี         ขอบคุณมากค่ะ

         

   

  • สวัสดีค่ะพี่คิม
  • ตามไปอ่านแล้วเห็นด้วยนะคะ การระลึก รู้ และมีสติ เป็นเรื่องที่ถ้าหลายคนทำได้ หมายถึง ไม่ว่าอะไรก็ตามที่มากระทบต่อความคิด ความรู้สึกของเรา ก็ไม่สามารถทำให้เราหวั่นไหวได้...
  • ขอบคุณมากค่ะ
  • ดีใจจังเปิดได้แล้ว พยายามจะเข้ามาเมนท์ในบันทึกพี่ 5 ครั้งแล้วคืนนี้
  • แต่พอบันทึกกลับไม่มีข้อความเลย  ทุกครั้ง  และเปิดได้แต่บันทึกเก่าๆ

แปลกแต่จริง

  • จะมาบอกว่าน้องรอพี่มาเที่ยวที่บ้านอยู่นะจ๊ะ  พี่มาวันไหนบอกก่อนเลย 
  • ปิดเทอมน้องจะวางแผนไปอยู่กับลูกๆสักพัก   แต่รอพี่มาก่อนค่ะ 
  • เบอร์โทร.น้องยังใช้ได้อยู่ทั้งเก่าและใหม่  โทร.มาได้ทั้ง 24 ชม.ค่ะ 
  • แต่พี่ต้องทำใจกับฤดฝนบ้านน้องหน่อยนะคะ  เพราะมนตกไม่เป็นเวลา
  • แต่ไม่ใช่อุปสรรค เพราะเรามีร่มค่ะ  อิๆๆๆๆๆ

อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่คิม

  • หลายวันก่อน ครูอิงได้รับเชิญให้ไปงานเลี้ยง ครูเกษียณอายุ ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง
  • มีความประทับใจอย่างสุด ๆ เลยค่ะ
  • มีความรู้สึกว่า ถ้าฉันเป็นผู้บริหาร ฉันอยากจัดงานแบบนี้ให้ครูฉันบ้างจังเลย
  • คิดดูซิคะ จัดกินเลี้ยงโต๊ะจีน 100 โต๊ะ  ผู้ปกครองนักเรียนมาเต็มหมดทุกโต๊ะ
  • ลุ้นสุด ๆ เมื่อครูที่เกษียณขึ้นไปแกะกล่องของขวัญที่ผู้บริหารและคณะครูมอบให้
  • เป็นกล่องของขวัญขนาดใหญ่  แต่ห่อไว้หลายชั้นมาก แกะจนเหลือเล็กนิดเดียว แล้วทุกคนก็ได้เฮและฮือฮา เมื่อเจอ สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมด้วยพระเลี่ยมทองอีก 1 องค์ ทราบว่าเป็นความพร้อมใจของคณะครู ลงขันกันคนละ 800 บาท ส่วนพระเลี่ยมทองนั้นเป็นของขวัญจากเงินส่วนตัวของผู้บริหาร
  • พิธีกรบนเวทีเล่าให้ทุกคนฟังว่า คุณครูเกษียณอายุ เป็นคนที่ชอบหมีแพนด้ามาก โรงเรียนจึงจัดทำ หมีแพนด้า ขนาดเท่าคน ให้กับคุณครูด้วยค่ะ และโรงเรียนก็ทำหมีแพนด้า ตัวเล็ก ๆ แจกเด็กนักเรียนทั้งโรงเรียน
  • การแสดงของเด็กนักเรียนก็ประทับใจทุกชุดค่ะ ที่สำคัญนะคะ ศิษย์เก่าของโรงเรียน ที่เคยเรียนกับคุณครูท่านนี้ มาร่วมงานอย่างเนืองแน่น และเป็นตัวตั้งตัวตีจัดการเรื่อง "การแสดงของเด็ก" แต่ละชุด
  • แบบนี้แสดงว่า โรงเรียน สามารถได้ใจจากชุมชน เต็มเปี่ยมใช่มั้ยคะ
  • ครูที่โรงเรียนแห่งนั้นเล่าว่า นอกจากงานที่เห็นแล้ว ครูที่เกษียณท่านนี้ ยังได้รับ 2 ขั้น 2 ปีติดกัน เป็นรางวัลด้วยค่ะ
  • ครูอีกท่านเล่าว่า อีก 2 ปี ถึงคราวผู้บริหารจะเกษียณบ้าง คณะครูตกลงกันว่าจะจัดงานเกษียณอายุของ ผอ. ให้ยิ่งใหญ่กว่านี้ โดยเริ่มเตรียมการกันบ้างแล้ว พร้อมกับเชิญครูอิงล่วงหน้าด้วย
  • ที่น่าประทับใจอีกอย่างคือ คืนนั้นฝนตก แต่คณะผู้ปกครองไม่มีใครถอยเลยค่ะ พร้อมใจกันเอาร่มขึ้นมากาง ร่วมงานแต่ต้นจนจบ
  • ขออภัยนะคะ ที่เม้นท์ยาวมาก  ก็มันประทับใจมากกกกกกกกกกกกกกกก หน่ะค่ะ
  • คุณครูท่านนั้นคงจะหัวใจฟูฟ่องตลอดเวลา ก็ขนาดผู้ร่วมงานอย่างครูอิง ยังรู้สึกหัวใจฟูฟ่องซะขนาดนี้ 555555+
  • ว่าแต่พี่คิมขา อย่าให้ครู หนึ่ง สอง สาม สี่ อ่านเม้นท์นี้เลยนะคะ เดี๋ยวจะเกิดการเปรียบเทียบกันแล้วทำให้ใจแฟบเอาได้

พี่คิมขา ครูอิงว่า พี่คิมชวน ครู หนึ่ง สอง สาม สี่ มาเที่ยวประจวบฯ มั้ยคะ กำลังคิดจะพาพี่คิม น้องเอก และน้องหนานเกียรติ อาจจะท่านวอญ่าอีกคน (ยังไม่เต็มรถตู้เลย) ไปเที่ยวหาดวนกร  และเหมาเรือไปเที่ยว เกาะจาน ดำน้ำดูปะการัง แต่ไม่รู้จะติดมรสุมหรือเปล่า

                              หาดวนกร

                  ดำน้ำดูปะการังที่เกาะจาน

สวัสดีค่ะน้องไทบ้านผำ

ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ  เรื่องต่าง ๆ ที่เล่ามาหากไม่เกิดกับเรา  เราก็สามารถมองเห็นเป็นธรรมดาได้ง่าย

หากเกิดกับคนอื่น เราก็ควรเห็นใจค่ะ ทำให้เข้าใจ "หัวใจฟู" แล้วเกิดความหลงในอำนาจของผู้บริหารค่ะ

สวัสดีค่ะน้องมาตายี

ใช่ค่ะ หากเราจะพูดว่า "เป็นเรื่องธรรมดานั้นพูดได้ง่ายมากค่ะ" เพราะมันไม่ได้เกิดกับเรา
หากแต่เรื่องนี้เกิดกับเรา "มันก็ยากกว่าจะได้คำว่าธรรมดามาไว้ในสำนึก" แต่พี่คิมคิดว่า น่าเป็นบทเรียนกับสังคมนะคะ

สวัสดีค่ะพี่คิม

แวะมาร่วมฉลองชีวิตเอกเขนกของพี่คิมค่ะ

แต่น้องเชื่อว่าแม้จะเกษียณหรือไม่ พี่คิมก็ยังคงทำงาน ทำหน้าที่อย่างมีความสุขเสมอ...

เพราะพี่คิมเป็นคนมีความสุขและจิตสาธารณะ

ชอบบันทึกของอ.ประพนธ์ เรื่องใจฟู-แฟบนี้เช่นกันค่ะ

รักษาสุขภาพนะคะ

ด้วยความระลึกถึงค่ะ

(^___^)

  • สวัสดีครับพี่ครูคิม
  • แวะมาทักทายครับ สบายดีไหมครับ
  • พรุ่งนี้ผมจะพาเด็กๆ ที่ ร.ร. ไปทัศนศึกษา ร.ร.กาสรกสิวิทย์ จ.สระแก้ว
  • เกี่ยวกับการทำนาแบบธรรมชาติ ไม่ใช้เครื่องจักร ใช้กระบือแทน
  • จะรูปมาฝากนะครับ
  • มีความสุขทุกๆ วันครับ

สวัสดีค่ะพี่คิม

มาทักทายค่ะ...พี่คิมสบายดีนะคะ

พูดถึงเรื่องงานเลี้ยงนี่ ตัวดาวเองไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่ ตอนไปทำงานเค้าเลี้ยงต้อนรับ แต่พอจะไปเรียนต่อเค้าก็เลี้ยงส่ง

ดาวเองรู้สึกว่ามันเป็นประเพณีที่ต้องเลี้ยง ต้องมอบของขวัญ ดอกไม้....

การที่จะจัดหรือไม่จัดงานนั้น ในความรู้สึกของดาวไม่ได้ต่างกันเลยค่ะ เพราะสิ่งที่ประทับใจ หรือบอกว่าผู้ร่วมงานเค้ารู้สึกดีกับเรานั้นแสดงออกเวลาที่ร่วมงานกันอยู่แล้ว ความทรงจำดีๆ จะอยู่ในใจของใครอีกหลายๆ คน แม้จะไม่มีพิธีการใดๆ ก็ตาม ^v^

วันที่ผู้บริหารเกษียน อย่าจัดเลี้ยงก็แล้วกัน

ของแบบนี้มันอยู่ที่จิตสำนึกของผู้บริหารนะคะ

ถ้าเขาบริหารคนด้วยพระเดชผลก็จะออกมาเป็นแบบนี้

แต่ถ้าเขาบริหารคนด้วยการเพิ่มพระคุณเข้าไปด้วย  ผลที่ออกมาก็จะเป็นแบบที่ทำให้ทุกคนใจฟูฟ่อง  ล่องลอยอยู่บนมิตรภาพที่อบอุ่นและอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน

เข้าใจความรู้สึกของครูสี่มากๆค่ะ..

สวัสดีค่ะพี่ครูคิม

ทุกอย่างล้วนธรรมดา เข้าใจและมีสติ

ขอบคุณบันทึกดีๆนี้ค่ะ

สวัสดีค่ะน้องดากานดา น้ำมันมะพร้าว

พี่คิมว่าเรื่องนี้ "ผู้บริหารของครูสี่ อาจจะสติไม่ดี" ค่ะ เพราะข้อปฏิบัติแบบนี้เขาเป็นกันทั้งบั่นทั้งเมือง

ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบหน้าครูสี่  แต่ก็ควรจะมีพรหมวิหารสี่ประจำใจบ้าง  แล้วแบบนี้จะบริหารใครได้คะ

พี่คิมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ค่ะ  ส่วนหลักธรรมก็เป็นอีกเรื่อง

สวัสดีค่ะน้องKanchana

เรื่องนี้พี่คิมรับฟังแล้ว "แรงมาก" ค่ะ  ผู้บริหารของครูสี่เต็มบาทหรือล้นบาทก็ไม่ทราบนะคะ

เรื่องการยึดสติ การทำใจ อะไรนั้น  เป็นอีกเรื่องเพื่อใช้ในการดูแลตนเอง  หากแต่ใครโดนเรื่องแบบนี้ ก็ใช้เวลาเยี่ยวยานานหน่อยค่ะ

ถ้าเป็นพี่คิมนะคะ  อย่างไรต้องฝากบทเรียนค่ะ

สวัสดีค่ะน้องดาวเรือง

ต้องรอดูน้องเหมี่ยวด้วยค่ะ เพราะตอนนี้แฟนน้องเขาป่วย อาจต้องไปดูแลกัน  เอาไว้แน่ใจกันแล้ว  จะแจ้งล่วงหน้านะคะ

สำหรับพี่คิมกำลังมีความฝึกให้สบาย ๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะน้องอิงจันทร์ ณ. เรือนปั้นหยา

ก็ต้องเป็นเช่นนี้แหละนะ  คนเราอยู่ในสังคม  แม้หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องเลือกปฏิบัติให้ดีและสมควร  จริงไหมคะ

ครูอีกท่านเล่าว่า อีก 2 ปี ถึงคราวผู้บริหารจะเกษียณบ้าง คณะครูตกลงกันว่าจะจัดงานเกษียณอายุของ ผอ. ให้ยิ่งใหญ่กว่านี้ โดยเริ่มเตรียมการกันบ้างแล้ว พร้อมกับเชิญครูอิงล่วงหน้าด้วย

นี่แหละนะคะ  จะเข้าข่ายกรรมใดใครก่อค่ะ  ขอขอบคุณกับเม้นท์ยาว ๆ เป็นพิเศษค่ะ พี่คิมว่าเรื่องนี้ถึงแม้ไม่ส่งเสริมการจองเวร การล้างแค้น  แต่ก็น่าจะสร้างบทเรียนให้ผู้บริหารบ้าง ไม่เช่นนั้นเขาก็จะเป็นผู้บริหารไม่เอาไหนสิ  จริงไหมคะ

สวัสดีค่ะน้องคนไม่มีราก

น้องสบายดีนะคะ  คิดถึงจังค่ะ ดีใจมากที่น้องแวะมาเยี่ยมพี่คิม "คนตกงาน" แล้วนะคะ

บันทึกของพี่คิมเกี่ยวข้องกับใจแฟบใจฟูค่ะ  แต่ไม่ได้เกิดกับเรา  ก็ทำให้เราวางได้ง่าย  แต่ถ้าเกิดกับเราก็คงห่อเหี่ยวนะคะ

-สวัสดีครับครูคิม....

 -"แบบนี้ก็มีด้วย!!!!"...

-สบายดี....นะครับ..

-มี "ทอง" มาฝากครับ.....

  • สวัสดีค่ะ
  • อ่านแล้ว ต้องตามไปอ่าน บันทึกใจฟูแฟ่บของอาจารย์ประพนธ์แล้วถึงมาที่นี่อีก
  • เกษียณอายุราชการของแต่ละคน คงแตกต่างกันมากมาย
  • มีอีกแบบเหมือนกันค่ะ ที่ไม่อยากให้ใครจัดงานให้ ก็มีหลากหลายแบบ นะคะ
  •  ค่ะ คงเป็นเพราะ ท่านได้มีประสบการณ์จากหลากหลายเรื่องราวที่พบประสบเจอ

สวัสดีค่ะน้องฐานิศวร์

น่าตื่นเต้น และท่าทางจะสุขแท้ ๆ นา  พี่คิมจะรออ่านเรื่องเล่าและชมภาพเด็ด ๆ นะคะ  ขอเป็นกำลังใจค่ะ

สวัสดีค่ะน้องดาวblue_star

เรื่องแบบนี้มันเป็นการแสดงความรัก อาลัยและความรู้สึกดี ๆ ต่อกันนะคะ  พี่คิมแม้ว่าจะจากกันแล้วก็จะเก็บจำแต่สิ่งที่ดี ๆค่ะ

งานเลี้ยง..ถือเป็นมารยาทอีกอย่างหนึ่งนะคะ  แต่พี่คิมเองไม่ชอบพิธีการสักเท่าไรค่ะ

บันทึกนี้เห็นใจครูสี่ค่ะ

สวัสดีค่ะน้องเกษตร(อยู่)จังหวัด

พี่คิมว่าครูสี่โชคดีแล้วนะคะ  ที่ได้หนีจากผู้บริหารที่ป่วยทางจิตแบบนั้น  พี่คิมฟังจากครูสี่เล่าว่า ...ครูในโรงเรียนครูสี่ก็พูดแบบนี้ค่ะว่า "เขาไม่ลาออกหรือย้าย หรือเกษียณบ้างก็แล้วไป"

สวัสดีค่ะน้องkrugui Chutima

เช่นเดียวกันค่ะ พี่คิมรู้สึกเห็นใจ  และเข้าใจความรู้สึกของครูสี่มากค่ะ  อ้อคะ...ครูสี่เป็นคนดี คนเก่งและมีฝีมือ มีชื่อเสียงทั้งจังหวัดด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะน้องถาวร

หากเล่นกันแบบนี้ พี่คิมว่า "มันไม่ธรรมดา" หรอกนะคะ  เพราะคนธรรมดาเขาก็คงไม่ทำกันแบบนี้

สวัสดีค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง

ขอขอบคุณค่ะ  สำหรับทองที่สามารถทานได้   หากมีโอกาสจะทัวร์ตะรอนไปเยี่ยมที่เมืองกำแพงค่ะ

สวัสดีค่ะน้องอิงจันทร์ ณ. เรือนปั้นหยา

ตกลงไปหลัง ๑๑ ตุลาคมค่ะ  อย่าลืมไปชักชวนท่านผู้เฒ่าด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะคุณใบบุญ

ทราบความจริงมาเหมือนกันค่ะว่า  เขาเลือกละเว้นเฉพาะรายนี้เท่านั้นค่ะ  คงมีปัญหาทางจิตใจนะคะ  เพราะคนที่สมบูรณืเขาจะมีมโนสำนึกในเรื่องดี ๆค่ะ

วันนี้คิดถึงแต่บันทึกของคุณหมอประพนธ์ ตลอดทั้งวันค่ะ

 เหตุการณ์แบบครูสี่ ก็เป็น  เช่นนั้นเอง   ครับ 

สวัสดีค่ะท่านรองฯsmall man

"เป็นเช่นนั้น" แล  กาลเวลาคงทำให้ครูสี่ดีขึ้นค่ะ  ครูสี่ท่านมีความสามารถสูงค่ะ เป็นคุณครูมีฝีมือเชียวหละ  ทำให้อ่านออกว่าเช่นนั้นเอง ค่ะ

+ สวัสดีค่ะพี่คิม...สงสัยเหมือนกันว่าพลาดบันทึกนี้ไปได้อย่างไร...

+ แต่ไม่เป็นไรค่ะ...อ๋อยอยากบอกครูสี่ว่า...การจะป็นผู้บริหารที่ดีได้สิ่งสำคัญ  คือ

         1. รู้จักครองตน

         2. รู้จักครองคน

และ   3. รู้จักครองงาน

+ ผลจากการรู้จักครองทั้ง 3  คือ  แยกได้ระหว่าง  ส่วนตัว  ส่วนของงาน   ส่วนของราชการ  

+ หนูว่าบางที่เราอาจต้องอโหสิกรรมแบบอินเทรนด์...คือ  ฝากรอยแผลเป็น(บทเรียน) ไว้ให้เขาได้ศึกษาเรียนรู้ค่ะ...ยิ่งสูงยิ่งหนาว...เขาก็รู้...นี่อะไรกายอยู่ที่สูงแต่จิตใจใยไขว่คว้าใต้ถุน....กร้ากกกกกกก...ปากร้ายไปไหมพี่

+ ถอยดีกว่าค่ะ...

สวัสดีค่ะน้องอ๋อยและน้องแอมแปร์~natadee

เขาคงท่องได้หรอกนะคะ "ครองตน ครองคน ครองงาน" เพียงแต่เขาลืมที่จะแยกได้ระหว่าง  ส่วนตัว  ส่วนของงาน   ส่วนของราชการ...ค่ะ

บุคคลประเภทนี้สมควรให้อภัย  เพราะเป็นบุคคลน่าสงสารที่สุด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท