สวัสดีด้วยความระทึกใจมากค่ะพี่โอ๋
แอมแปร์มีเวลาแว่บมาหนึ่งจึ๊ก เพราะวันหยุดนี้น้องชายกับน้องสะใภ้มาหาหลานได้ คืนนี้หลังจากทำงานเสร็จก็เสด็จมาออนไลน์ได้สักแป๊บ ระทึกใจกับระบบช่วงนี้จริงๆ ไม่แน่ใจว่าจะโพสต์ได้ไหม แต่อย่างไรก็เอาใจช่วยทีมงานเช่นเคยค่ะพี่โอ๋
แอมแปร์ชอบใจที่พี่โอ๋เล่าเรื่องเลี้ยงลูก น้องวั้น นองเหน่น และน้องฟุง มากค่ะ พี่โอ๋เขียนถึงข้อคิดที่ทำให้ "นึกขึ้นได้" เมื่อเจอประสบการณ์ตรงในการเลี้ยงหลานอายุสี่เดือนครึ่งอยู่หลายข้อ พอเพื่อนๆโทรฯมาคุยด้วยแอมแปร์ก็เลยสาธยายให้ฟังอย่างสนุกสนาน (เพราะจำที่พี่โอ๋บอกได้)
เพื่อนชมว่าเอ๊ก-สะ-เปิดจริงๆ ช่วยเมลมาเล่าวิธีเลี้ยงหลานให้ฟังหน่อย พวกป้าๆจะได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า แอมแปร์ตกกะใจน่าดู เพราะจำไปจากบันทึกพี่โอ๋ไม่ได้คิดเอง แต่เพื่อนปลอบใจว่าเล่าๆไปเหอะ เอาแบบที่เจอมากับตัวนี่แหละ..บ้านๆดี แอมแปร์เลยแว่บมาถอดผ้าอ้อม เอ๊ยถอดบทเรียนของตนเองในบันทึกนี้เล็กน้อย แล้วส่งเป็นฟอร์เวิร์ดเมลไปให้เพื่อนๆ เผื่อจะเป็นข้อคิดเล็กๆน้อยๆให้กับคุณป้ารุ่นต่อไป ที่อาจบังเอิญหลงมาอ่าน ท่านจะได้ไม่ทรงพระวิงเวียนอย่างที่แอมแปร์เจอมาแล้ว ^_^
(จึงเรียนมาเพื่อขออนุญาตใช้ภาษาแบบที่สนทนากับพวกป้าๆเอ๊ยพวกเพื่อนๆนะคะ)
ของฝากสำหรับคุณป้าทุกคน : )
1.ถ้าท่านแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะรีบไปทำงาน
จงหักห้ามใจอย่าอุ้มหลานที่ไม่ได้ใส่แพมเพิร์สเป็นอันขาด เพราะอาจเจอพลังสายน้ำแบบมิคาดฝัน จนไปทำงานสายโดยไม่เจตนา
และสำหรับพวกผู้หญิง ตอนเช้าๆ อย่าหอมแก้มหลานทั้งเครื่องสำอางเด็ดขาด แก้มเด็กอ่อนบอบบางมาก พร้อมจะเป็นเม็ดผดผื่นได้ทันที ต่อให้ใช้(ทั้ง)ลัง(ทั้ง)โคมก็เอาไม่อยู่ ...เผลอๆท่านอาจโดนย่าของหลานมองตาเขียวปั๊ดชัดเจนอีกต่างหาก
2. สร้างจุดขาย เพื่อให้หลานจำได้
เด็กเล็กๆจำเสียงได้ก่อนจำหน้า จงหาเอกลักษณ์อันเป็นอัตลักษณ์ของตัว เพื่อให้หลานจำได้ไม่สับสน ของแม่เราใช้เสียงหะเอ๊อ..อ..อ.. แล้วก็ เอะ เอ... เอ้... เอ้อะ.. (ลงท้ายคล้ายๆงี้แหละ) ตอนกล่อมนอน หลานเราจำได้จริงๆนะ
ของเราใช้ โยกเยกเอ้ย (เวอร์คลาสสิก) กับอันนี้
ลูกไก่มันร้องเจี๊ยบ เจี๊ยบ
ลูกแมวมันร้อง เมี้ยว เมี้ยว
ลูกหมามันร้อง บ๊อก บ๊อก
น้องเอิร์ธร้อง แง่.. แง่.. แง่...
หลานเราฟังแล้วยิ้ม..ม..ม.. เห็นเหงือกด้านในเลยขอบอก..
ของพ่อเราเจ๋งสุด เพราะพ่อบอกว่าร้องได้เนี้ย และพูดอย่างอื่นไม่เป็น พ่อใช้ว่า ป๊ะกะถึ่ง ถึ่งป๊ะถึ่งๆ ป๊ะกะถึ่ง ถึ่งป๊ะถึ่งๆ ป๊ะกะถึ่ง ถึ่งป๊ะถึ่งๆ วนไปวนมาอยู่ยังงี้จนหลานเราทำหน้าเบ้แบบอยากจะร้องไห้แล้วจริงๆนะ คือคงเบื่อสุดขีดแต่บอกไม่ได้ ^_^
ข้อคิด เตรียมเพลงไว้หลายๆเพลง นึกถึงใจเราที่โดนบังคับฟังเพลงเดิมๆที่เราไม่ชอบซ้ำไปซ้ำมา คงเบื่อน่าดู แต่ของพ่อเราบอกว่าร้องได้เพลงเดียวเนี่ยแหละ สุดฝีมือแล้ว หรือไม่ก็หยุดร้อง อดฟังไปเลย อิอิ
3.ช่วงไคลแม็กซ์ จงเงียบสถานเดียว
ช่วงง่วงกำลังจะนอน.. เด็กบางคนหูไวจนน่ากลุ้ม นิดก็แอ๊ะ หน่อยก็แอ้..แอ้..แอ้ ยิ่งช่วงง่วงๆจะหลับมิหลับแหล่ ยิ่งต้องระวัง เพราะเสียงอะไรนิดเดียวก็ทำให้เธอตาสว่าง ลุกขึ้นมาร้องแง แง แง กว๊ากๆๆๆๆๆ...ใหม่ได้ โดยไม่ต้องมีเหตุผลเลยแม้แต่นิดเดียว
และลงว่าได้ร้องละก็ ท่านเป็นต้องกลับมาเริ่มใหม่ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ร้อง เอ่ เอ๊ กันจนคอแห้ง เมื่อยแขนแทบหลุด ....ขอยืนยันด้วยเคาเตอร์เพนสองหลอดเป็นอย่างน้อย
4.เป็นธรรมชาติ
อันนี้เพิ่งอภิปรายกับแม่ (ย่าของหลาน แม่ของเรา) มา เพราะแม่บอกว่าเด็กต้องให้กินนอนเป็นเวลา แล้วเด็กจะไม่งอแง คนเลี้ยงก็ไม่เหนื่อย ที่แม่พูด เราก็คิดว่าถูก แต่ไม่ค่อยอยากให้บังคับนอนตอนที่หลานยังไม่อยากนอน (คือจับใส่เปล หรือจับให้นอนในท่าบังคับ เช่นท่านอนหงาย หรือนอนตะแคง หรือนอนคว่ำ แล้วตบก้นเอ่เอ๊ (จะเขียนไปทำไมอ๊ะเหนี่ย ก็มีอยู่สามท่าเนี่ยแหละ )ตอนที่หลานเรายังไม่ง่วง
ดูแล้วหลานออกจะลำบากใจ ออกแนวคับข้องใจนิดหน่อย แล้วก็ร้องแงๆ แบบไม่ค่อยชอบใจ ไม่เป็นธรรมชาติ แต่แม่บอกว่าหยั่งงี้แหละ เด็กเขาจะนอน แม่เราออกแนวมั่นใจมาก ห้ามเถียงอีกตั่งหาก
เลยบอกแม่อย่างดีว่าเอาฮี้ ขอหนึ่งที เดี๋ยวอุ้มให้ รับรองจะเอ่เอ๊.. หะเอ๊อ.. อึอื๊อ.. อ.. อ.. ฮื้อฮือ.. แป๊บเดียวหลับ ถ้าไม่หลับยินดีคืนหลานให้ ..ไม่ต้องทอน..
แล้วอาศัยช่วงแม่นั่งหัวเราะ รีบอุ้มช้อนตัวหลานขึ้นมาจากเปล โยกตัวแกว่งเบาๆแบบเปลชั้นดี (คือเราต้องเป็นเปลที่ดูดีกว่า) แล้วชวนคุยด้วยคำที่เป็นเอกลักษณ์หรือจุดขายเฉพาะตัว ที่หลานรับรู้ว่าถ้าเป็นคนนี้อุ้ม ก็จะได้ยินบทนี้แหละเป็นประจำ อาจเป็นร้อยกรอง บทร้องเล่น หรือประโยคคำพูดเด่นๆที่คล้องจองกันเป็นจังหวะ อย่าให้เสียงดัง เอาแบบนุ่มๆขอบชีส เอ๊ยนุ่มๆกำลังดี
หลานจะนิ่ง สงบ (เพราะง่วงได้ที่แล้ว ถูกของแม่) และไม่งอแง(เพราะถูกบังคับให้นอน ซึ่ง(เราคิดเอาเองว่า)ถูกของเรา) พอหลานง่วงได้ที่แล้วค่อยเอ่เอ๊กล่อมนอน รับประกันว่าจะหลับอย่างดี เต็มประสิทธิภาพ (แปลว่าหลับสนิท)
ถ้าไม่ได้ผล จงรีบคืนหลานให้แม่ และรีบเผ่นให้พ้นแอเรียนั้นโดยเร็ว เพื่อเกียรติภูมิและสวัสดิภาพของท่านเอง อิอิอิ
5. ตัดสินใจให้เด็ดขาด ก่อนแทนตัวเองว่า "ป้า" ในที่ทำงาน
เพราะลงว่าได้ ป้า เข้าทีหนึ่งแล้ว คราวนี้ก็ต้อง ป้า ตลอดไป ไม่มีสิ่งใดมาขัดขวาง(ผู้อื่น)ได้ อันนี้โทษหลานไม่ได้ คือมันมาเองตามวัยและใบหน้า อยู่ดีๆเพื่อนเห็นหน้าก็เรียก "ป้า" หน้าตาเฉย โดยไม่ขออนุญาตกันเลย... แถมบางคนยังชอบเรียกดังๆให้ได้ยินกันทั้งซอยเอ๊ยทั้งตึกอีกด้วย
ท่านว่าจงหนักแน่นมั่นคง และแทนตัวเองว่า พี่ อย่างเข้มแข็งต่อไป ใครเรียกป้าก็จงทำไขหูเสีย แต่ระวังเขาจะแซวว่า แก่แล้วยังหูตึงอีก จะเจ็บใจแบบดับเบิ้ล : )
อนึ่ง เมื่อท่านได้รับแบ็คเวิร์ดเมลนี้แล้ว จงส่งต่อไปให้ครบคนเท่าจำนวนอายุ ท่านจะถูกเลขท้ายสามตัวเป็นอย่างน้อย และเลขท้ายสี่ตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ดีกว่าไม่ถูกเลยสักตัว อิอิ
อ่านเมลที่ตัวเองส่งไปให้เพื่อนแล้วก็กลุ้มใจค่ะพี่โอ๋ เพราะมันยาวมากเช่นเคย แต่คาดว่าเพื่อนคงอ่านแค่บรรทัดแรกก็เลิกอ่าน
เพราะแค่ประโยคขึ้นต้น ...ก็ชวนให้โมโหจะแย่แล้วน่ะค่ะ อิอิอิอิ
************************************************************************