จะให้ทำอย่างไร เมื่อถูกพิษแห่งรัก


เราถือว่าได้เปรียบ เพราะมีความรู้ ถือว่าเป็นผู้มีปัญญาทางโลก ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้น ให้ใช้ "ปัญญา" ในการแก้ไข "ปัญหา" กันเถิดครับ

มีอีเมลล์ฉบับหนึ่งเขียนถึงผม ประมาณเกือบตีหนึ่งของเมื่อคืน ในเนื้อความบรรยายถึงเรื่องราวชายคนหนึ่งที่เป็นครู มีความทุกข์ใจอันเกิดจากการหย่าร้าง ครอบครัวล่มสลาย และความทุกข์ที่ฝังอยู่ในใจเขาถูกถ่ายทอดมาให้เพื่อครูอีกคน ให้รับรู้ถึงความทุกข์ที่อัดแน่นไม่มีวันคลายในช่วงเวลาที่ผ่านมา...อีเมลล์ฉบับนี้ยังบอกผมอีกว่า "น้ำเสียงเขาดูเศร้าที่สุด" 

ถามว่า จะทำอย่างไร ในเมื่อคุณครูอีกท่านที่เป็นผู้ให้คำปรึกษา ก็ทุกข์ใจไม่ยิ่งหย่อนกว่า เพราะปัญหาตัวเองก็มี แถมยังทุกข์ใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ผมมองว่าเรากำลังติดอยู่ในอารมณ์ "ลบ" ที่ทำร้ายจิตใจเราทุกวี่ทุกวัน เราคิดซ้ำ คิดซากกับเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา และก็ผ่านออกไป ความทุกข์ก็น่าจะผ่านออกไปด้วยแต่ทำไมยังมาติดอยู่ ไม่ยอมไปกับปัญหา

เพราะ "ใจ" เราตัวเดียว  ผมคิดว่า ต้นเหตุของเรื่องตอนนี้อยู่ที่ใจ หากเราทำใจได้ ทุกข์มหันต์ก็จะคลายลงไป

หากเขียนแบบนี้ ใครก็แย้งว่ามันง่ายเกินไป เพราะเขียน เพราะพูด ยังไงก็ได้ หากไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้

ผมก็คิดว่าทุกคนก็เคยมีประสบการณ์ทุกข์ใจกับเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา ถึงแม้ไม่ใช่เรื่องหัวใจ ก็ทุกข์เหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนกันคือ "การจัดการกับความทุกข์" นั้นมากกว่า

เคยสนทนากับ ดร.กะปุ๋ม เธอพูดได้อย่างน่าฟังว่า เรายินดีครอบครองความทุกข์นั้นแต่ว่า ให้อยู่เพียงชั่วคราวประเดี๋ยว ประด๋าว แล้วเชิญเขาจากไป ก็หมายความว่า เราต้องมีสติรู้ว่าเรากำลังทำอะไร เรากำลังคิดอะไร ให้รู้เท่าทันความคิด

เราถือว่าได้เปรียบ เพราะมีความรู้ ถือว่าเป็นผู้มีปัญญาทางโลก ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้น ให้ใช้ "ปัญญา" ในการแก้ไข "ปัญหา" กันเถิดครับ

อย่าให้ปัญหามาทำร้ายเราทุกวี่ทุกวันอยู่เลย

หากคุณกำก้อนหินอยู่ ก็คลายมัน และค่อยๆวางมันลงซะเถิดครับ จะได้เบา จะได้สบาย...

 

 


 

ผมเองก็เป็นผู้ปฏิบัติ เป็นบทเรียนที่ผมได้เรียนรู้ร่วมด้วย แล้วถอดบทเรียนนำมาคุยกัน ไม่ได้เก่งกาจอะไร บ่อยครั้งเราพบว่า เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้เป็นเงื่อนไขทำให้เราทุกข์ใจ จนไม่เห็นหนทางข้างหน้า...

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 183345เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2008 07:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (44)

สวัสดียามเช้าครับ คุณเอก :)

ฝากกำลังใจไปให้เพื่อนคุณเอกด้วยนะครับ :)

เรายินดีครอบครองความทุกข์นั้นแต่ว่า ให้อยู่เพียงชั่วคราวประเดี๋ยว ประด๋าว แล้วเชิญเขาจากไป

""""

ผมเห็นด้วยกับจังหวะชีวิตที่ ดร.กะปุ๋มบอกกล่าวนี้มาก  ผมเองก็เคยได้ทำหน้าที่ในการซึมซับความทุกข์เศร้าของผู้คนในทำนองนี้บ่อยครั้งเช่นกัน

บางครั้ง,  เราไม่สามารถช่วยอะไรได้มากอย่างที่เขาฝากหวัง  แต่อย่างน้อยก็พยายามรับฟังอย่างเห็นใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ผมมองว่า, ใครสักคนที่จมอยู่กับห้วงนั้นแล้วยังมีเพื่อน หรือที่ไหนสักแห่งให้ตัวเองได้เอนพักก็ถือว่ายังโชคดีอย่างมหาศาล  ซึ่งดีกว่าใครที่พบเจอห้วงทุกข์แล้วแลหน้า..แลหลังแล้วปราศจากคนหรือสถานที่ให้หัวใจได้พักวาง

ผมเชื่อเหลือเกินว่า ....
ทันทีที่ก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้   เรื่องดี ๆ ก็จะตามมาอีกเยอะ  ชีวิตไม่โหดร้ายกับคนที่ไม่สิ้นหวัง - ผมเชื่อเช่นนั้น  และถึงแม้จะเป็นการปลอบประโลมเสียมากกว่า  แต่ผมก็เชื่อและศรัทธา  เพราะชีวิตยังคงต้องวิวัฒน์ไปสู่สิ่งที่ดีอยู่วันยังค่ำ 

.....

ท้ายที่สุดนี้ ..
ผมเพียงอยากจะบอกว่า  ผมเป็นอีกคนที่ชอบละเล่นอยู่กับความโศกเศร้า  บางครั้งก็นาน  บางครั้งก็ชั่วครู่ยาวเท่านั้น  และการเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างมี "สติ"  ย่อมสอนให้เราได้รับรู้ว่า  บางขณะความโศกเศร้าก็มีแง่งามของมันเช่นกัน

.....

เป็นกำลังใจให้ครับ...

 

สวัสดีเจ้าค่ะ พี่เอกจ๋า

แวะมาให้กำลังใจ ให้พี่สุดหล่อนะเจ้าค่ะ รักษาสุขภาพด้วยเจ้าค่ะ --->น้องจิ ^_^

สวัสดีครับ ขออนุญาต ลปรร ด้วยครับ

       เรื่อง "พิษรัก" นี่ แก้ยากเหมือนกันครับ จากมุมมองของผมเอง  ผมคิดว่าสิ่งที่จะรักษาแผลใจได้ดีที่สุด ก็คือ "เวลา" ครับ    แต่บางครั้ง กว่าที่เวลาจะเข้ามาแก้ไข  ก็อาจจะ "สายเกินไป"  ดังนั้นก่อนที่จะใช้เวลาเข้าแก้ไข   ก็ต้องใช้ตัวของเราเองนี่แหละครับที่แก้ไข  (เรียนผูก ต้องเรียนแก้ครับ)

     การใช้ตัวเองเข้าแก้ไขปัญหา "พิษรัก" 

     1.  ระบายออกให้เต็มที่  (ที่ไม่ต้องพึ่งพาอบายมุขหรือดื่มเพื่อลืมเธอ)  อาจจะร้องไห้ให้เต็มที่    ตะโกนดังๆ   หรือ เขียนใส่กระดาษแล้วเผา ฯลฯ วิธีนี้อาจจะผ่อนคลายได้ขึ้นมาบ้างนิดๆ

  2.  เปลี่ยนสถานที่   เปลี่ยนกิจกรรม

 3. วิธีที่ดีที่สุด คือ "ทำใจ" ครับ ต้องร้องเพลงของพี่เต๋อ ที่ว่า "อกหักไม่ยักกะตาย"  

4.  เรื่องทำใจ พูดง่ายแต่ทำยาก  ถ้าทำใจไม่ได้  ทุกข์ก็ปล่อยให้มันทุกข์ไป   แต่อย่าไปทำร้ายตัวเอง  หรือ ทำลายตัวเอง    เมื่อทุกข์มากๆ เข้า ประเดี๋ยวก็จะเบื่อไปเอง

                          ขอบคุณครับ

 

อ.Wasawat Deemarn ครับ

เปิดอีเมลล์เช้านี้ กับ เนื้อหาที่เขียนในบันทึกครับ

ผมมักจะรับทราบเรื่องราวของเพื่อนๆด้วยกัน ผ่านการให้เกียรติ ไว้ใจ เป็นเรื่องที่ดีมากครับ อย่างน้อยผมได้เรียนรู้ร่วม

เพลง ก้อนหินก้อนนั้น เป็นเพลงที่มีความหมาย ทำให้ได้คิด ได้กระตุก ...ผมมักจะยกเอาเพลงนี้ให้หลายๆคนที่ อยู่ในวังวนแบบนี้ ได้ฟัง และคิดตาม

คนเราก็เท่านี้นะครับ...หากทุกข์เกิดขึ้นแต่เหตุ เราก็ควรแก้ที่เหตุ เมื่อเหตุต้นเรื่อง หากผ่านไปทุกข์นั้นไปติดที่เหตุอีกจุดที่สำคัญ คือ "ใจ"

เราจะทำอย่างไรกับ"ใจ"นี้ หากเราไม่"ทำใจ" เรียนรู้ผ่านความทุกข์นั้น และตัดทุกข์ออกไป ดดยการเปลี่ยนวิธีคิด

อาจทำได้ช้าเร็ว อยู่ที่การปฏิบัติ บุคลิก ความคิด ความเชื่อ ทุน ต่างๆ

แต่ก็ขอให้กำลังใจทุกท่านครับ

เรียนรู้ เข้าใจ ยอมรับและอยู่กับมันให้ได้...

ถ้าจะให้ดีกว่านั้นใช้ประโยชน์จากมันให้ได้ครับ...

มีความสุขกับการทำงานครับเพื่อน...

สวัสดีครับ อ.เอก

  • ความรักนั้นสวยงาม ใจนี้เป็นใจที่สวยงาม ดังนั้น ควรเก็บไว้เฉพาะความสวยงาม
  • ขอบคุณครับ

บางครั้งการที่เราเคยอกหัก ก็ทำให้เราได้ผ่านบทเรียนอันสวยงามมาได้

พอย้อนไปถึงวันนั้น เรายังมีความรู้สึกที่ดีได้ เพราะทุกวันนี้ราจดจำสิ่งที่ดีดีที่มีต่อกัน แต่เพราะเราไม่ใช่คู่กัน เราถึงไม่ได้อยู่ด้วยกันในชาตินี้

แต่คนเรา..ถึงแม้ไม่ได้เป็นคู่รักกัน แต่เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ใช่ไหมคะ

พูดคล้ายๆ..พี่มีประสบการณ์ยังไงไม่รู้นะ..เอกนะ

 

 

เรียนรู้และเข้าใจเหตุแห่งทุกข์ และหยุดเหตุนั้น

ให้กำลังใจครับ

สวัสดีค่ะ

แม้ว่าจะมีสติ และพยายามเหลือเกินที่จะเอาชนะความทุกข์ มันก็ยากเหลือเกินเช่นกัน

เลยต้องทำชีวิตให้เข้ากับความทุกข์ ด้วยการนอน แม้จะไม่หลับก็นอน บางครั้งบางคน ได้ร้องไห้ออกมาบ้าง ก็ทำให้สบายใจได้ไม่น้อย

สงสัยต้องปรึกษาผู้รู้เสียแล้วคะ

- ข้อคิดดีๆเพื่อครอบครัว

1. ข้อสำคัญของการเลือกคู่ คือ เราไม่ได้เลือกใครเพราะเขาสมบูรณ์แบบ แต่เพราะเขามีจุดดีหลัก ๆที่เราประทับใจ ส่วนจุดอ่อนด้อยนั้นเป็นส่วนปลีกย่อยที่เราสามารถยอมรับได้อย่างไม่ยากเย็น

2. ในความเป็นจริง ไม่มีใครดีเลิศสมบูรณ์แบบ ถ้าเรามองไม่เห็นจุดอ่อนด้อยของเขาเลย นั่นแสดงว่า เรายังไม่รู้จักเขาอย่างแท้จริง หรือไม่ เราก็กำลังตกอยู่ในความหลงใหล ..จนไม่ลืมหูลืมตา

3. การแต่งงาน คือ การผูกพันกันด้วยหัวใจ ไม่ใช่เพียงร่างกายและยิ่งไม่ใช่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เชิงธุรกิจ

4. คนที่แต่งงานเพราะความเหงา จะยิ่งเหงาหนักเป็น 2 เท่า แต่งงานแบบคลุมถุงชน ก็มีแนวโน้มว่า ชีวิตจะมืดมนไปอีกนาน

5. ความสุข ความทุกข์ ครึ่งหนึ่งอยู่ที่ชีวิตหลังแต่งงาน คิดให้ดีก่อนที่จะเลือกใคร มาเป็นคู่ชีวิต...

6. บ้านจะเล็กหรือใหญ่ ไม่สำคัญ แต่ “ความรัก” ต้องใหญ่ที่สุดในบ้าน

7. คำว่า “รัก” พูดมากไป ย่อมดีกว่า พูดน้อยไป...

8. เมื่อเรา ทำผิด....จง “ขอโทษ” เมื่อเขา ทำผิด ....จง “ให้อภัย”

9. ชีวิตแต่งงาน คือ ชีวิตแห่งการปรับตัว ถ้าไม่คิดจะปรับตัวเข้าหาใคร อยู่เป็นโสดไป ก็ดีกว่า...

10. ยอมเป็นผู้แพ้ ดีกว่า เป็นผู้ชนะที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากชีวิตสมรสที่หักพัง...

11. “แก้ตัว” .... ช่วยอะไรไม่ได้ “แก้ไข” .......ช่วยได้ทุกอย่าง...

12. เมื่อมีปัญหาในครอบครัว อย่าลืมใช้ความรักและหลักเหตุผลเป็นกรรมการตัดสิน ไม่ใช้ อารมณ์ หรืออาวุธ..

13. งอนแต่พองาม...ก็งามดี แต่งอนเกินพอดี ก็เกินงาม...

14. ต่างคนต่างแข็ง ไม่มีใครยอมอ่อนข้อต่อกัน...บ้าน...ก็คงไม่ต่างอะไรกับสนามรบ

15. เมื่อสามีอ่อนแอ ไม่รับบทบาทผู้นำ ความสับสนวุ่นวาย ก็ตามมา หรือเมื่อภรรยา พยายามแย่งบทบาทการนำจากสามี ชีวิตครอบครัวก็รอดยาก

16. ความไม่ซื่อสัตย์ ต่อกันเพียงครั้งเดียว ก็อาจสั่นคลอนความไว้วางใจที่มีให้กันได้ ท้ายที่สุด ชีวิตคู่ก็จบลงด้วยความแตกร้าว ยากเยียวยา

17. ความเห็นแก่ตัว สนใจแต่ปัญหา อารมณ์ ความรู้สึก และความสนใจของตัวเองชีวิตคู่ ก็อยู่ด้วยกันยาก

18. ก่อหนี้สินจนล้นพ้นตัว ครอบครัวก็มีแต่ความตึงเครียดทุกเช้าเย็น

19. เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือทั้งสองฝ่ายเรียกร้องและคาดหวังจากกันและกันมากเกินพอดี ปัญหาก็จะมีเรื่อยไป…ไม่สิ้นสุด

20. ควรตระหนักว่า...ภรรยา ไม่ใช่ผู้ปรนนิบัติรับใช้สามี แท้จริงแล้ว สามีภรรยา ควรเอาใจใส่ดูแลกันและกันอย่างดีที่สุด...ย่อมดีกว่า

21. ไม่มีอะไร ทำให้ภรรยาปวดร้าวใจ มากเท่าการค้นพบว่า สามีมีหญิงอื่นในหัวใจ

22. รักเดียว ...ใจเดียว ไม่ใช่เรื่องเชย แต่เป็นเรื่องดีที่สามีทุกคนในโลกควรกระทำ

23. การขอโทษภรรยาเมื่อทำผิด ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี แต่เป็นศักดิ์ศรีของสามี...ที่แท้จริง

24. ไม่ควรมองว่า งานดูแลบ้าน เป็นความรับผิดชอบของภรรยา สามีควรมีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระอย่างสุดความสามารถเสมอ

25. สรีระรูปร่างหน้าตา ที่เปลี่ยนไปของภรรยา ไม่ควรเป็นเหตุให้ความรักในหัวใจของสามีจืดจางลงแม้แต่น้อย

26. ควรระลึกอยู่เสมอว่า ...การนำครอบครัวนั้น คือ การนำโดยเห็นผลประโยชน์ของครอบครัวเป็นหลักไม่ใช่ เพื่อความสุข ความพึงพอใจของตนเอง

27. ภรรยาที่ดี ควรสนับสนุนสามีให้ก้าวไกลในชีวิต ไม่ใช่ดึงรั้งให้หยุดอยู่กับที่ หรือถอยหลัง

28. ภรรยาที่ดี ไม่ควรใช้วิธีการบับบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อให้สามีตัดสินใจตามความคิดของตน

29. ในสถานการณ์หน้าสิ่ว หน้าขวาน สามีต้องการภรรยาที่สงบนิ่ง ช่วยกันคิดหาทางออก ไม่ใช่ภรรยาที่เอาแต่โวยวาย ตีโพย ตีพายหรือร้องไห้ฟูมฟาย โดยปล่อยให้เขาต้องแบกภาระหนักอึ้งเพียงลำพัง

30. การไม่ตีลูก เพราะกลัวลูกเจ็บ เมื่อยังเป็นเด็ก กลับจะทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่า เมื่อเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สร้างปัญหา และถูกลงโทษ... จากสังคม

31. ช่องว่างระหว่างวัย...ระหว่างรุ่น...ย่อมไม่มี ถ้าพ่อแม่ตระหนักถึงความสำคัญ และใช้ความพยายามที่มากพอ วิธีที่ดีที่สุด คือ พ่อแม่ควรวางแผนเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับลูก ไม่ใช่ตามแก้ปัญหาเมื่อเกิดขึ้นแล้ว

32. พึงตระหนักว่า ลูกไม่ใช่ดินน้ำมัน ที่พ่อแม่ อยากจะปั้นให้เขาเป็นอะไรก็ได้ตามใจชอบ เขาย่อมมีจิตใจที่มีเอกลักษณ์แห่งความชอบ ความสนใจที่แตกต่างไปจากพ่อแม่ได้เสมอ

------------ขอขอบคุณเจ้าของบทความ

"This better to have loved and lost than to never have loved at all."

การที่เราได้รู้จักความรักและการสูญเสีย..ย่อมดีกว่าการไม่รู้จัก"ความรัก"เลย..

...........

"ถ้าไม่เอาทุกข์ไว้ที่ใจ..ใจก็จะไม่ทุกข์ค่ะ.."

เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่อยู่ในสภาวะนี้ค่ะ..

หวัดดีค่ะ

  • เห็นท่าจะจริง
  • ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ
    ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง
  • เป็นเช่นนั้นแล
  • ขอให้หลวงปู่ทวดคุ้มครองทั้งสองคนนะครับผม  ดูแลตัวเองด้วยนะครับ

คุณ  แผ่นดิน  ครับ

จะว่าผมประสบกับความรักเป็นพิษแบบจังๆผมก็ไม่เคยนะครับ เพียงแต่แอบรักแบบเด็กๆแล้วก็อกหัก เป็นเรื่องเด็กๆจริงๆ แต่มันก็เจ็บปวดเล็กๆนะครับ (ฮา)

แต่ผมคิดว่าความเจ็บปวดจากสิ่งที่เราพลาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรักหรือไม่ ก็เป็นความทุกข์

วังวนแห่งความทุกข์นั้น มันทำร้ายเราตลอดเวลาหากไม่ปลดมันออกไป อาศัยแต่เพียงเวลาก็เนิ่นนานเกินไป ใจที่ถูกกรีดก็เจ็บกลัดหนอง เป็นความทรงจำที่ไม่ดีครับ

อย่างเช่นในวันสองวันนี้ ผมเองก็รู้สึกผิดหวังกับ สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ที่รู้สึกว่าเหมือนถูกฟ้าฟาด แต่นั่นก็เป็นความรู้สึกทุกข์ช่วงแรก อาศัยเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน เปลี่ยนมุมคิดให้ดี ความรู้สึกดีๆก็กลับคืนมา แต่ว่าสิ่งที่พังทลายลงไปคือความสัมพันธ์ ความรู้สึกอันดีที่ยังบูรณะไม่ได้ ก็ปล่อยไป ไม่คิดแล้ว

เป็นแบบนี้เอง

ผมมักจะได้อ่านเรื่องราวดีๆของคุณพนัสเสมอ และผมก็ซึมซับความรู้สึกดีๆผ่านคุณพนัสบ่อยๆเช่นกันไม่ว่าจะเห็นในบันทึก หรือแม้กระทั่งคุยกัน

ผมต้องขอบคุณมากครับสำหรับมิตรภาพที่มีให้นะครับ

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณ น้องจิราภรณ์โก๊ะจิจัง แซ่เฮ ^๐^!  ครับผม

ขอบคุณสำหรับกำลังใจให้พี่เอกครับ น้องคงสบายดีและให้มีความสุขกับชีวิตมหาวิทยาลัย

ในโลกใบใหม่ที่เรียกว่า มหาวิทยาลัย มีเพื่อนมีเรื่องราวมากมาย อาจทำให้น้องจิ สุข ทุกข์ได้ ก็อย่าท้อ ขอเป็นกำลังใจ

ส่วนเรื่องเพื่อน ขอให้พบเพื่อนที่ดี มีความจริงใจ มิตรสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมีความจำเป็นมากสำหรับการเรียน ชีวิตในมหาวิทยาลัย

ขอให้มีความสุขมากๆครับ

 

สวัสดีครับ อ.small man

ข้อคิดเห็นของอาจารย์ ดีมากครับ  เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่มีทุกข์ แบบค่อยๆทำ ค่อยๆคลาย

เรื่อง ทำใจ นี่จริงๆครับ พูดง่าย แต่ ทำยาก โดยเฉพาะคนที่เจ็บปวด เมื่อเขาอยู่ในวังวนแบบนั้น กว่าใจจะถูกฉุดขึ้นมาจากหลุมดำของใจ ก็ยากทุลักทุเล

"อกหักไม่ยักกะตาย"   เห็นด้วยครับ

ประเด็นนี้อาจดูเป็นประเด็นเล็กๆแต่ไม่เล็กสำหรับชีวิตคนเรา เป็นต้นเหตุของความยุ่งยากทั้งมวลได้ หากเราไม่ปรับวิธีคิด หาวิธีแก้ไข

ขอบคุณท่านอาจารย์มากครับ

เพื่อนรัก -ดิเรกMr.Direct

ชอบมากครบ สำหรับ ประโยคที่ว่า เรียนรู้ และเข้าใจ อยู่กับมันให้ได้

ผมเห็นด้วยครับ หากเราจะใช้บทเรียนนี้สอนเรา เป็นประสบการณ์ที่ดี

ผมเองได้รับประสบการณ์ในสองวันที่ผ่านมาอย่างน้อยไม่ใช่เรื่อง "รัก" เเต่เป็นเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันที่ไม่คิดว่าจะเจอกับเรื่องแบบนี้ ก็ทุกข์ใจ มีอารมณ์แกว่ง โกรธ  แต่ก็เป็นอยู่ไม่นาน ผมยอมให้แค่นั้น แล้วเชิญความทุกข์ออกไป...คิดได้มันก็เบา

เข้าใจมากขึ้น ได้เรียนรู้มากขึ้น นี่เป็นบทเรียนที่ดีของผมครับ

ขอบคุณเพื่อนที่ให้กำลังใจในทุกเส้นทาง

กลับ กทม.เรานั่งคุยกันนะครับ มีเรื่องราวหลากหลายเล่าให้ฟัง

อ.เอก

ความรักนั้นสวยงาม ใจนี้เป็นใจที่สวยงาม ดังนั้น ควรเก็บไว้เฉพาะความสวยงาม

ยินดีครับ สำหรับประโยคที่เฉียบคม สไตล์อาจารย์เอก  แต่ผมก็ยังคิดว่า เราเก็บเอาบทเรียนอีกด้านของความสุขเป็นบทเรียนด้วยจะดีมั้ยครับ เก็บไว้แต่ไม่ทุกข์ เก็บไว้พิจารณา

ผมระลึกถึงเพื่อนเสมอ มีโอกาสคงได้เจอกันอีกครับ

ขอบคุณครับ

พี่อุบลอุบล จ๋วงพานิช

ผมอ่านแล้ว นั่งอมยิ้มๆครับ

ข้อเขียนพี่น่ารักมาก ...ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องจริงเลยครับ หากเราไปกันไม่ได้ เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ...

ผมเองก็ไม่ได้ช่ำชองในเรื่องนี้ แต่พอจะเข้าใจทุกข์แบบนี้ดี ทางออกของผมก็ไม่ต่างกับทุกคน คือทุกข์ก่อน แล้วค่อยหาทางคลายทุกข์ ...หากไม่ทุกข์ก็คงไม่ใช่นะครับ เป็นเรื่องธรรมดา

และ ค่อยๆหาแฟนใหม่ (ฮา) อันนี้ล้อเล่นนะครับผม

คุณ Pipom

ข้อเสนอแนะของคุณ นั้นคือ แก่นของวิธีการที่อยากนำเสนอเลยครับ

หากเราดับเหตุแห่งทุกข์นั้นได้ ตรงนั้นคือ หนทางแก้ไขปัญหาทั้งมวล

ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ

 แวะมาเยี่ยมค่ะ คุณเอก

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบันทึกเล่มนี้

มีรอยยิ้มมาฝากค่ะ

 

ป้าแดงpa_daeng [มณีแดง คนสวย แซ่เฮ] ครับ

ก่อนอื่นขอกอดสักทีนะครับ

เมื่อผมมีความทุกข์ คราวก่อนที่ ด่านชายแดน น้ำเสียงป้าแดง ร้อนรน และเป็นห่วงมาก แค่ได้สัมผัสความทุกข์นั้นก็หาย

ดร.กะปุ๋ม เอก และ ดิเรก ต้องขอบคุณป้าแดงมากครับ

ผมเห็นด้วยเรื่อง ร้องไห้นะครับ นั่นเป็นทางออกที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ที่เรามีเวลาร้องไห้ อาจร้องไห้เสียให้พอ แล้วเริ่มต้นใหม่

ทุกอย่างคือ บทเรียน

ผมเองก็ได้รับบทเรียนที่ดีทุกวัน...

ขอบคุณครับป้าแดง

โอ้...คุณเพชรน้อย

ต้องขอบคุณมากๆครับ สำหรับเคล็ดดีๆที่นำมาฝากกัน น่าสนใจทั้งนั้นเลย

ยอมเป็นผู้แพ้ ดีกว่า เป็นผู้ชนะที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากชีวิตสมรสที่หักพัง...

ชอบทุกประโยคเลย

แต่ประโยคที่นำมาข้างบน หมายถึง การลดฐิฎิซึ่งเป็นเรื่องที่เราควรฝึกฝน ฝึกให้อภัย

ประเด็นนี้มักเป็นปฏิปักษ์กับความรัก

ผมจะพยายามครับประเด็นนี้

  ขอบคุณมากครับP

"This better to have loved and lost than to never have loved at all."

การที่เราได้รู้จักความรักและการสูญเสีย..ย่อมดีกว่าการไม่รู้จัก"ความรัก"เลย..

---------------------------------------------------

แค่ครูแอ๊วเข้ามาเยี่ยม ก็มีความสุขมากๆแล้วครับ แถมยังเอาคำคมมาฝากอีก อ่านแล้วได้คิด

ขอให้ครูแอ๊วมีความสุขมากๆนะครับ

พี่แอนLioness_ann ครับ

ขอบคุณเสียงโทรศัพท์ที่เอื้ออาทรห่วงใย ผมฝากบอกน้องเมธัสด้วยแล้วครับ เธอขอบคุณมากๆ

ช่วงที่พี่แอนโทรมากำลังประชุมบนโตอาหารอยู่เลย ทำให้ไม่สะดวกในการสนทนาประสารักนะครับ อิอิ จริงๆคิดถึ้งงง

พี่ยกท่อนเด็ด ของเพลงก้อนหิน...มาเลย ชอบ ครับ ชอบ

ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ
ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง

 

ขอบคุณพี่สาวที่น่ารักคนนี้มากๆครับ

ครูเอ เมื่อวานว่าว่างๆจะโทรศัพท์ไปคุยกับครูเอ ครับ แต่ไม่มีเวลาเลย มีความสุขดีนะครับ เรื่องราวที่เป้นไป คงมีวิธีการเหมือนในบันทึก

ผมเองก็เรียนรู้ไปด้วย

บางทีก็เหนื่อย บางทีก็ฮึดสู้

ที่สำคัญเราได้เรียนรู้และแกร่งไปเรื่อยๆ

ประเด็นแบบนี้ใครบางคนอาจมองเล็กน้อย แต่ผมว่าเป็นเรื่องสามัญที่ควรใส่ใจ

มีความสุขมากๆนะครับผม

------------

ภาพคนสวยที่วัดไหนเอ่ย อิอิ???

 

  ความรักเป็นเช่นนี้    คือไฟ

รักย่อมทำหัวใจ         คิดสร้าง

ใครเคยสุขฤทัย         เพราะรัก  ดีเฮย

หากรักพาหย่าร้าง     นั่นแล้วทุกข์ใจ

อิอิ  อ้ายบ่าว paleeyon มาแล้ว

รู้อยู่แล้วครับ ว่า อ้ายบ่าว ช่ำชองในเชิงรักแบบนี้มาก อยากได้ความคิดเห็น แต่ไม่ผิดหวังเลย

ขอบคุณมากครับ อ้ายเปลี่ยนครับ

ความรักเป็นเช่นนี้    คือไฟ

รักย่อมทำหัวใจ         คิดสร้าง

ใครเคยสุขฤทัย         เพราะรัก  ดีเฮย

หากรักพาหย่าร้าง     นั่นแล้วทุกข์ใจ

อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณเอก

* คุณเอกเป็นศิราณีกรณีนี้บ่อยๆ เลยนะคะ

* ปีที่แล้ว จำได้ว่า ก็เคยมีเคสเรื่องนี้

* งั้นวันหลัง ปูมีศิราณีเพิ่มอีกคนแล้วสิค่ะ :)

* ความสุขในวันศุกร์สุขสันต์ค่ะ

หวัดดีค่ะ...

เพราะกว่าจะเจอ คนที่ใช่ นั้นไม่ง่าย

อย่าให้ความไม่เข้าใจ

มาทำให้หัวใจอ่อนแอ...

    

ขอบคุณครับ

คุณ poo   และ คุณครูwindy

ขอให้มีพลังใจที่เข้มแข็งครับผม

พี่เองนะคุณเอก คิดว่าคงรู้ว่าใครดอดมาแฝงกาย แสดง คคห

สำหรับเรื่องนี้ พี่คิดว่า ใครก็ตามที่ยังมีทุกข์จ่อมจมอยู่กับอดีต พิษรัก ..นั่นคือยังเข้าไม่ถึงสัจธรรมแห่งความรัก

ความรักแท้ยิ่งใหญ่มาก ๆ
ทำให้เรายิ้มได้ทั้งน้ำตา
ทำให้เราอดทน ซื่อสัตย์ ไม่ไหวเอนไปตามสิ่งยั่วยวนหรือความสุขสบายอื่น ๆ เรียกว่า เราสองคนถ้ารักกันจริง กัดก้อนเกลือกินกันได้ นั่นเป็นความจริง เป็น"รักแท้"

โดยทั่วไป "รักแท้"เพียงครั้งเดียว สัมผัสได้ก็เกินพอแล้ว..เพราะมันมีหลายรสชาติ ทั้งหวานอม ขมกลืน(ขื่น)

บางครั้งเราอาจ(คิด)ว่าเรารักคนอื่นได้อีก เป็นรักแท้ครั้งอื่น ๆหรือ???..ยากค่ะ

คงเป็นเพียง"ฝันหวาน""ขนมหวาน""สิ่งแปลก สิ่งตื่นเต้น"ฯลฯ  เพศชายคงเข้าใจดี

นี่คือรักสมหวังแบบทั่ว ๆ ไป

ถ้าไม่สมหวังล่ะ

พี่เคยอ่านเจอว่า..ให้ความรักของเราออกไปเรื่อย ๆ และอย่าคาดหวังอะไรตอบแทนกลับคืน

ถ้าเราทำได้ เราจึงจะสามารถพูดได้เต็มปากว่าเรามี"รักแท้"

ถ้าเรายิ้มออก มีความสุขแอบซ่อนตัว แทรกความเหงาเบาบาง..ช่างมัน
ก็อนุโลมค่ะ ว่า เริ่มเข้าใกล้ความ"รักแท้"

อ่านใหม่อีกสักเที่ยว

ฮิ ฮิ น้ำเน่าดีเหมือนกัน

มีคนบอกว่า พอลล่าเป็น lovelism ฮ่าๆๆ พี่ช่วยแปลให้หน่อยค่ะ ......อิอิ ..


มีความรักมาส่งให้ค่ะ พอลล่า ...
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

คุณ kruajit_Siha kruajit Siha

คิดในแง่บวกเป็นเรื่องที่ดี แต่จะให้ดีขึ้นไปอีกคือ พิจารณาตามแง่มุมของความจริงของชีวิตครับ

ขอบคุณครับกัลยาณมิตรของผม

คิดถึงครับพี่

ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ

คุณ พี่เอง  (เอ...ผมจำไม่ได้ครับ ว่า พี่เอง เป็นใครนะครับ ผมมีพี่สาวเยอะเเยะเลยครับ อีกทั้งสำนวนการเขียน ก็ประมาณนี้หมดเลย ๕๕๕)

แต่ยินดีมากมายนะครับที่พี่ให้ความรู้สึกที่ดีผ่านบันทึกของผม ก็หมายถึงพี่มาทักทายและมอบ "ไมตรีจิต" ให้ผมแล้ว...ผมมีความสุขครับ

รักแท้ รักเทียม และรักไหนๆ ผมว่าก็เป็นความรู้สึก เริ่มต้นที่ดี เมื่อมีคำว่ารัก แม้แต่คำว่ารักเทียม อย่างน้อย ก็มีคำว่ารักอยู่ แต่อาจรักนิดเดียว และจากไป...ระหว่างที่อยู่ด้วยกันในบรรยากาศแห่งความรักนั้นก็มีความสุข

ผมเห็นด้วยว่ารักที่ขยายออกไปเรื่อยๆแบบไม่หวังสิ่งตอบแทนคือ "รักแท้" และ รักแท้ในแง่มุมที่เราเขียนนั้นมีจริงหรือไม่ ผมว่ามีครับ แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกินตามที่บอก...เหมือนกับว่าเรานั่งมองเขายิ้ม เราก็มีความสุขด้วย แบบห่างๆประมาณนั้น

นี่คือ ความปรารถนาดี ที่เห็นเขามีความสุข แบบปราศจากเงื่อนไข

ชีวิตคนเรามองในอีกมุมก็น้ำเน่าเป็นละครโรงใหญ่ วิเคราะห์ทางจิต เราก็เห็น ความซับซ้อนของพฤติกรรมมากมาย...แต่แก่นใจจริงๆก็คือ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ที่มีความต้องการพื้นฐานที่ไม่ต่างกัน

หากเราเข้าใจพื้นฐานตรงนี้ ...เราก็สามารถรักได้ทุกคน แบบไม่มีเงื่อนไข

และผมก็รักพี่เช่นเดียวกันครับ

สวัสดีครับ

ขอบคุณครับ น้อง paula ที่ปรึกษา~natadee

รักเป็นความสวยงามครับ พอลล่า ...ดังนั้นเป็นอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีนิยามอะไร ของตัวพอลล่าเองดีทั้งหมด

รักให้เป็น...รักให้เข้าใจ...

น้องครูโย่ง หัวหน้า~ natadee

คิดถึงเช่นกัน ผมอยู่ที่ กทม.เเล้วครับผม เพิ่งมาจากกระบี่เมื่อคืนนี้เองครับ

 

  • สวัสดีค่ะ น้องเอกจตุพร
  • มีคนถูกยาพิษชนิดร้ายแรงนี้เยอะนะคะ  "พิษแห่งรัก"  อย่างน้อยก็สักครั้ง สองครั้งในชีวิตค่ะ   
  • จริงไหมค่ะ หากจะเปรียบ " รู้สึกตัวเร็ว ได้รับการรักษาเร็ว มีกำลังใจดี ..... หายเร็ว"
  • แต่ถ้า " รู้สึกตัวช้า ไม่ยอมรักษา ขาดกำลังใจ .... แก่ง่าย และตายเร็วค่ะ"
  • " ยอมรับในความทุกข์นั้น  คิดในแง่บวก ให้อภัยซะ .... ดอกรักดอกใหม่ก็บานสดใสมาแทนที่ค่ะ (รักตัวเอง รักเพื่อนฝูง ... มีตั้งหลายอย่างให้ได้รักค่ะ ... ไม่จมปลักกับปัญหาและเรื่องเก่าๆค่ะ) 

 

พี่อร ครับ

แต่ละคนก็มีภูมิในเรื่องนี้แตกต่างกันครับ ผมเองก็เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาด้วย เวลาช่วยได้ ผมเข้าใจว่า ยากเหลือเกินที่ทำใจให้ยอมรับได้ทันที แต่เวลาช่งวยเยียวยาได้ อย่างน้อยครึ่งชีวิตที่เหลือ เราก็ต้องอยู่กันไป

ขอบคุณครับ

 

แก้ไขครับ "ภูมิ" เป็น "ภูมิคุ้มกัน" หรือ วัคซีนใจ

สวัสดีค่ะ

เห็นหัวข้อ..พี่คิมยังไม่กล้าเข้ามาอ่านสักเท่าไร

เพราะพี่คิมพ้นวัยรัก วัยทุกข์เรื่องความรักแล้ว (เข้าใจอย่างนั้น)  แต่คิดขึ้นมาอีรูปแบบ  คุณจัตุพร ฯคงมีเรื่องที่น่าสนใจ  ก็แวะมา  อ่านอย่างเดียวก็ดีกว่าไม่อ่านเลย

อ่านแล้วค่ะ  ทำให้นึกถึงเหตุการณ์จริงที่โรงเรียนของพี่คิมเมื่อวานที่ผ่านมา "คณะกรรมการมาประเมินโรงเรียนโครงการคุณธรรมชั้นำ ฯ และนักเรียนดีเด่นด้านคุณธรรมฯ เพื่อรับทุนสนับสนุนของธนาคารออมสิน"

โดยเจตนา พวกเราไม่มุ่งหวังผลการประกวด  แต่เราอยากประกาศว่า เราได้ยืนอยู่ที่จุดเริ่มต้นแล้ว  มีความพร้อมที่จะออกเดิน ออกวิ่ง  และอย่างน้อย ๆ พวกเราได้รับการชี้แนะ ชี้นำจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้

ส่วนเด็ก..เราต้องการให้โอกาส เปิดเวที ให้เขาได้รับทุนการศึกษา เพราะเป็นเด็กขาดแคลน บ้านแตก ต้องรับผิดชอบตา ยายและน้อง ๆ รับจ้าง วันหยุดไม่ได้เที่ยวเตรหรือสุขสบายเหมือนเด็กอื่น ๆ รวมท้งการรับผิดชอบตัวเอง

เมื่อคณะกรรมการถามเด็กว่า ..."หนูคิดว่าหนูมีปัญหาอะไรที่หนักใจบ้าง"

เด็กตอบว่า "หนูไม่ได้ทำตัวเป็นปัญหา ปัญหาของหนูจึงไม่มี หนูไม่ยากได้อะไร ๆ ที่เพื่อน ๆ เขามี หนูจึงไม่ต้องแก้ปัญหา"

กรรมการซักต่อ ....ว่า " ถ้าสมมุติหนูไม่มีเงินมาโรงเรียนและครูบอกให้ว่ามีความจำเป็นต้องจ่าย หนูจะทำอย่างไร ถ้าหนูมีเงินไม่พอจ่าย"

เด็กตอบว่า .."หนูจะไปรับจ้างเพิ่ม และมาขอความกรุณาจากคุณครู หนูจะไม่ยืมเพื่อน กลัวติดนิสัยไม่ดี และเพื่อน ๆก็ลำบากไม่แพ้กัน"

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความรัก...แต่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาของเด็กอายุเพียง  14 ปีค่ะ

ขอบคุณครับ พี่คิม

โดยเนื้อหาของข้อเสนอแนะ ผมก็อยากให้ผู้อ่านอ่านทวนตามช้าๆ มีเรื่องราวของบริบทที่ครูเล่าชัดเจนเลย

ยอดเยี่ยมมากครับ สำหรับวิธีการแก้ปัญหาของเด็กหญิงวัยเพียง ๑๔ ปี

ถ้าเราหัวเราะ โลกทั้งโลกจะหัวเราะกับเรา

...ถ้าเราร้องไห้..เราจะร้องไห้...เงียบๆคนเดียว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท