How closed have you ever been to a deadline..? (I've been just a foot..!)


ความตาย แม้จะเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ต้องเจอ แต่การแค่ได้เฉียดซักครั้งก็ทำให้ขนหัวลุกได้เหมือนกัน

How closed have you ever been to a deadline?  ( I’ve been just a foot..!)

ขึ้นชื่อเรื่องซะน่ากลัวเลย จริงๆแล้วแค่ตั้งคำถามถามตัวเองมากกว่าหลังจากเจอเหตุการณ์หวีดหวิวแบบใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัวไปเลย เรื่องมีอยู่ว่า แขก(ฝรั่ง)ที่เคยไปทัวร์อ่าวพังงากับผมเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เกิดอยากเดินป่าและขอให้ผมเป็นไกด์  เป็นโปรแกรมของผมเองครับ Khao lak half day trekking ใช้เส้นทางง่ายๆที่อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ เป็นเส้นทางสบายๆ มีพันธุ์ไม้ให้ศึกษาตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะไม้ใหญ่ที่เด่นก็จำพวก ยางมันหมู  ตะเคียนทราย ขึ้นสูงเด่นตลอดเส้นทาง ต้นใหญ่อายุคงร่วมร้อยปี แขกทุกคนสนุกและเป็นกันเอง แม้ทุกคนจะชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะความชื้นที่สูง ก็แน่หล่ะครับเรากำลังอยู่ในป่าดิบชื้น แม้อุทยานแห่งชาติเขาหลักฯจะเป็นอุทยานที่มีพื้นที่แค่สองร้อยกว่าตารางเมตร แต่สภาพป่าก็สวยและสมบูรณ์ครับ ที่เรียกว่าป่าดิบชื้นได้ จะต้องได้รับปริมาณน้ำฝนมากกว่าสามพันมิลลิเมตรต่อปีด้วยครับ และที่เขาหลักปริมาณน้ำฝนอยู่ที่สี่พันเศษๆเองครับ

เส้นทางเดินมองเห็นทะเลเขาหลักและในวันที่แดดดีทะเลจึงเป็นสีฟ้าใส มองเห็นปลาหมึกว่ายหากินอยู่เป็นฝูง ผมยังพูดเล่นกับแขกว่า” Would be no one believe that you’ve seen a squid on your jungle trek,haven’t you?” ทุกคนหัวเราะและใครคนหนึ่งเปรยลอยๆว่า “It supposed to be something very rare.” (ห้าคนที่มา ทุกคนเป็นนักประดาน้ำ)      ซักพักเราก็เจอกับรังผึ้งในโพรงไม้เราหยุดและพูดคุยกันเรื่องผึ้งและความหวานของมัน ซักพักหูผมก็ได้ยินเสียงอะไรซักอย่างทับใบไม้แห้งๆเสียงสม่ำเสมอและใกล้เข้ามา ผมหันไปดูก็ต้องใจหายวาบเห็นแค่เกล็ดและขนาดลำตัวผมก็รู้ได้ทันทีครับว่า เป็นงูกินงู คนใต้เรียกมันว่าบองหลา ชื่อสามัญของมันก็คือ จงอางครับ (King Cobra ,ophiophagus hanna ) ความยาวของมันเกือบสี่เมตร ส่วนความใหญ่ลองหลับตานึกดูครับ ผมตาไม่ฝาดแน่นอนสีของมันจะออกเขียวมากกว่าเหลือง มันเลื้อยลงมาจากที่ชันและเมื่อเห็นความเคลื่อนใหวมันก็หยุดและแผ่เบี้ยเตรียมพร้อมแต่ไม่ยกตัวจากพื้นสูงนัก มันอยู่ตรงหน้าผมห่างจากปลายเท้าไม่ถึงฟุต ผมมีมีดพร้าขนาดพอเหมาะอยู่ในมือแม้จะอยูในระยะที่ฟันได้พอดีแต่ผมก็ไม่กล้าครับ เพราะถ้าผมช้ากว่ามันนิดเดียวผมก็ไม่มีโอกาศที่จะคิดอะไรโง่ๆแบบนั้นอีกเลยแน่นอน งูจงอางเป็นงูที่มีนิสัยดุ ปกติจะเลื้อยช้าแต่ปราดเปรียวและว่องใวเมื่อตกใจและยังมีพฤติกรรมการกัดแบบติดแน่น ไม่ฉกเหมือนงูเห่า ปริมาณน้ำพิษแต่ละครั้งจึงมาก มากขนาดใหนเหรอครับ .งูขนาดเกือบสี่เมตรก็มากพอที่จะล้มช้างตัวขนาดสามตันได้สบายเลยหล่ะครับ พิษงูจงอางทำลายระบบประสาทเหมือนพิษงูเห่าแต่รุนแรงกว่าเพราะปริมาณมากกว่า  สิ่งที่ทำได้และเป็นวิธีที่ดีที่สุดก็คือบอกให้ทุกคนหยุดอยู่กับที่อย่าขยับ “Stop.. don’t move..!” โชคดีที่แขกเชื่อฟังและนิ่งพร้อมกันทุกคน เพราะหากใครตกใจและเคลื่อนใหวก็จบกัน ซักอึดใจเมื่อมันสงบก็เลื้อยหลบไปทางหลังแขกผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างผม ห่างส้นเท้าเธอไม่ถึงห้าเซนติเมตร เมื่อมันเลื้อยผ่านไปอย่างสงบเราก็ถอนหายใจและมองหน้าพร้อมพร้อมกัน

ปกติแล้วเราไม่ใช่อาหารของมัน มันคงไม่เลื้อยเข้ามาหาเราเฉยๆแน่  นั่นเป็นเพราะว่างูไม่มีหูครับ มันหูหนวก แต่มีประสาทจับความเคลื่อนใหวที่บริเวณท้องที่ยอดเยี่ยม มันสามารถรู้สึกได้แค่ใบไม้หล่นลงพื้น แต่การที่เราหยุดอยู่กับที่และพูดคุยกันเรื่องผึ้งทำให้มันไม่สามารถรู้สึกและได้ยินเสียงของเราได้จึงเลื้อยเข้ามาจ๊ะเอ๊กับเราโดยง่าย บางคนได้ยินถึงกับทำตาโตอย่างมั่นใจก่อนจะพูดว่า คงเป็นเด็กพ่อตาเขาหลักที่มาทักทายไม่ได้มาทำร้าย จะเป็นอะไรก็ช่างที่แน่ๆมันเป็นประสบการณ์เฉียดความตายที่มีค่า แม้ผมจะมีอุปกรณ์ที่ดูดพิษอยู่กับตัวแต่ก็ไม่เคยคาดหวังที่จะใช้ ขอพกใว้ทำเท่ให้เป็นของใหม่อยู่อย่างนั้นจะดีกว่า

ป่าสอนและย้ำให้ผมรู้ว่าการเคารพนั้นย่อมได้การเคารพตอบเสมอ เป็นบทเรียนมีค่าและตื่นเต้น ก่อนกลับผมทิ้งท้ายกับแขกว่า พวกโชว์จับงูมักโชว์งูตัวโตดูน่ากลัวแต่ช้ากว่างูวัยรุ่นที่ทั้งดุและปราดเปรียวกว่า ที่พวกเล่นกับงูทั้งหลายมักหลีกเลี่ยง แขกที่อายุมากหันไปพูดกับลูกสาวว่า “Did you see?, The elder always calmer.” และหันไปจูบลูกสาวอย่างรักไคร่ เป็นพ่อลูกที่น่ารักจริงๆ

ภาพและข้อมูลบางส่วนจากอินเตอร์เนต :www.electron.rmutphysics.com

หมายเลขบันทึก: 246831เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2009 02:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ขอบคุณครับ ตื่นเต้นไปด้วย ปิดท้ายข้อคิดด้วย pay your respect and get it back in return.

"ป่าสอนและย้ำให้ผมรู้ว่าการเคารพนั้นย่อมได้การเคารพตอบเสมอ"

ขอบคุณมากครับ สำหรับการร่วมแจมและข้อคิดเห็นดีๆ มันเป็นการพยายามเรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่ผมคาดไม่ถึง เพื่อเป็นการเตรียมตัวและป้องกันเหตุการณ์ร้ายๆที่อาจจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ก็ยังนับเป็นความโชคดีของผมครับที่ยังมีโอกาศได้ใช้คำว่า "วันข้างหน้า"อีกครั้งหนึ่ง

ขอบคุณครับ

(O.o)...โฮ่ะๆ ใจหายใจคว่ำจริงๆ อ่านจบยกมือลูบอกสามครั้ง เอาน่าก็แค่จ๊ะเอ๋ยังไม่มีใครโดนกัด ประสบการณ์แบบนี้ถ้าเจอกะตัว ภาวนาขอให้ตอนนั้นมีใครอยู่ข้างๆ สักคน ขอแบบมีสติหน่อยก็พอ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรโง่ๆ ลงไปบ้าง

การเคารพนั้นย่อมได้การเคารพตอบเสมอ...คงเหมือนกับที่มีคำพูดว่า "ถ้าปรารถนาสิ่งใดจากเขา ก็จงให้สิ่งนั้นแก่เขาเช่นเดียวกัน" เพื่อนคนหนึ่งเคยบอกว่าชอบประโยคนี้มาก

แอบขำค่ะกับ ตอนที่คุณบอกว่า "แม้ผมจะมีอุปกรณ์ที่ดูดพิษอยู่กับตัวแต่ก็ไม่เคยคาดหวังที่จะใช้ ขอพกใว้ทำเท่ให้เป็นของใหม่อยู่อย่างนั้นจะดีกว่า"

เป็นใครก็คงคิดแบบนี้หล่ะค่ะ...อย่าต้องใช้เลยจะดีที่สุด

  • สวัสดีค่ะ น้องการีม
  • พี่ตั้งใจอ่านมากเลยค่ะ ลุ้นไปด้วย เหมือนไปเดินป่าด้วยจริงๆ ก็โล่งอกไปนะคะ ที่ผ่านมาได้ด้วยสติ + โชคดี
  • เขียนแนวนี้บ่อยๆ นะคะ ชอบอ่านค่ะ เพราะชีวิตจริงพี่ไม่มีโอกาสจะได้เดินป่าแบบนี้ (ชราแล้ว)
  • ขอบคุณค่ะ

หวัดดีครับน้องปุ้ย

ยินดีที่ได้รู้จัก และขอบคุณกับการเยี่ยมชมและความคิดเห็น

ครับ ในสถานการณ์และวินาทีฉุกเฉิน มีเวลาคิดแค่เสี้ยววินาทีแค่นั้นครับ ถ้าผิดก็อาจไม่มีสิทธิ์แก้ตัวอีกเลย ผมรู้จักงูจงอางเพราะเห็นทั้งในฟาร์มงูและในธรรมชาติ เคยเห็นงูจงอางตอนว่ายน้ำ,ล่าเหยื่อและตอนเลื้อยหนี รู้จักความเร็วของมันเป็นอย่างดี มันมีหน้าตาที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย แต่ไม่เคยเจอในระยะใกล้ขนาดนี้และเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทันครับ ใจหายเลยครับบอกตรงๆ ผมรู้ว่าการอยู่เฉยๆจะปลอดภัย แต่แขกผมอีกห้าคนไม่เคยเห็นและไม่รู้จัก หากใครคนใดคนหนึ่งเกิดขยับเพราะความตกใจเราอาจต้องเจอกับเหตุร้ายที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว พูดแล้วยังใจหายอยู่เลย

สวัสดีครับพี่อร

สบายดีใช่ใหมครับ ยังไม่ได้แวะเข้าไปดูเลย ว่ามีเรื่องใหม่ๆ สบายๆสไตล์พี่อรเข้ามาบ้าง เอาใว้จะกลับไปตามอ่านครับ

ได้ครับพี่ ถ้าชอบเรื่องป่าเดี๋ยวผมจะพาเที่ยวโดยไม่ต้องกลัวทากกลัวเห็บหรือแม้แต่งูจงอางเลยครับ คงจะเป็นแถวๆเขาสกและบริเวณเขื่อนเชี่ยวหลาน เพราะผมคุ้นเคยกับแถบนั้นครับ

ช่วงนี้เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนดูแลสุขภาพด้วยน่ะครับ และคนข้างๆพี่ด้วยครับ

เอ..ผมว่า ชรา กับ มากด้วยอายุ นี้ไม่เหมือนกันน่ะครับ และผมก็ว่าพี่อรเป็นอย่างหลังมากกว่าครับ ขอบคุณด้วยเช่นกันครับ ขอให้สุขภาพดีมีความสุขทั้งสองคนครับ

โอย...ตื่นเต้นไปด้วยและขอบคุณมากๆเลยค่ะที่จบอย่างมีความสุข คุณ kareem เขียนเล่าลำดับเหตุการณ์ได้เก่งมากๆเลยค่ะ ยังกับดูหนังอยู่เลย เพิ่งได้เห็นงูโดนตีตายมาไม่นานนี้เอง ยังรู้สึกคับข้องใจไม่หายอยู่เลยค่ะ ได้มาอ่านบันทึกนี้แล้วช่วยให้สิ่งที่เชื่อยังคงอยู่ ไม่ชอบงูเลยแต่ก็ไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่ต้องทำลายชีวิตเขาเลยนะคะ เพราะคิดว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีถิ่นของเขาเอง และส่วนมากเรานี่แหละไปรุกรานเอาที่ของเขามาใช้ประโยชน์ จนเขากลายเป็นผู้บุกรุกไปเสีย แล้วเรายังไปหวาดระแวงเขาอีก คิดว่ามนุษย์เราไม่ยุติธรรมเลยนะคะ เอาตัวเองเป็นที่ตั้งเสมอเลย

ถือโอกาสมาขอบคุณ ภาพกล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่ ของคุณ kareem ที่เอาไปฝากด้วยค่ะ สวยสมบูรณ์มากๆ มากกว่าที่ไปค้นหาดูมาอีกค่ะ คุณ kareem ได้เขียนบันทึกเฉพาะเธอผู้พิเศษ ดอกนี้บ้างหรือยังคะ น่าจะเป็นภาพอ้างอิงที่น่าเก็บไว้เป็นหลักฐานว่าเมืองไทยเรามีอะไรดีๆแบบนี้มากมายด้วยนะคะ

สลามคะ

ยินดีที่ได้รู้จักคะ...แต่ทัวร์คุณการีมตื่นเต้นจริิงๆ นะคะ...อธิบา่ยได้เห็นภาพมากเลยคะ ถ้ามีโอกาสจะไปร่วมทัวร์ด้วยนะคะ...

ขอบคุณมากคะ

สวัสดีครับครูโอ๋

และก็ต้องขอขอบคุณด้วยครับสำหรับคำแนะนำ อยากจะเขียนถึงเหลืองกระบี่เหมือนกันครับ แต่อยากให้ได้ภาพจากธรรมชาติมาลงในบล๊อก จะดูมีอรรถรสมากกว่า อดใจรออีกหน่อยน่ะครับ

ขอบคุณอีกครั้งครับ

สวัสดีค่ะ

ขอเรียนรู้ด้วยค่ะ

....ดีค่ะพี่ชาย

แวะเข้ามาเยี่ยมค่ะ ถ้ามีโอกาส อยากลองเดินป่า แบบที่พี่เล่ามาดูซักหน

แต่ใจจริงยังไงก็ชอบทะเลมากว่าค่ะ เบื่อป่าแล้วมั้ง ก็เกิดในป่านี่ค่ะ

เห็นด้วย กับพี่ที่ว่า ความตาย เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ต้องเจอ

แต่ ความเห็นส่วนตัว ความตายน่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายในโลกที่เราคิดจะกลัว

ความน่ากลัวจริงๆคือวินาทีก่อนตายมากกว่า จริงม๊ยค่ะ

ปล.ถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้นคงช็อก แต่ไม่ต้องห่วงน่ะค่ะ

หนูคงนิ่งสุดในกลุ่ม งูไปแล้ว ช่วยลากหนูออกไปด้วย

เพราะเจองี้ทีไรก้าวขาไม่ออกเลยค่ะ ตายไม่กลัวน่ะค่ะแต่กลัวงูสุดชีวิต

วัสลามครับ คุณครู ผุสดี

ด้วยความยินดีครับคุณครู และขอขอบคุณครูด้วยครับที่แวะมาทักทาย ขอเก็บบล็อกของครูเข้าในแพลนเน็ตของผมด้วยน่ะครับ

สวัสดีครับ คุณ berger0123

ด้วยความยินดีเลยครับ ต้องขอขอบคุณกับการเข้ามาด้วยเช่นกันครับ

สลาม บัง

ผมเคยเจอในป่ายาง แต่ไม่ใหญ่เท่ากับบังเจอ มันชูคอประมาณกะกับสายตาเมื่อช่วงนั้นประมาณ 20 เซ็นไม่ทราบว่าพันธ์อะไร แต่คนเรียกว่า จงอางใบ ชื่อจริงไม่ทราบ อ่านแล้วผมรู้สึกขนหัวลุกเพราะพิษมันสามารถล้มช้างได้ถึงสี่เชือก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท