พวกเราคงจะได้ยินได้ฟังเรื่องคุณค่าของอาหารตะวันออกที่เน้นพืชผักมาไม่มากก็น้อย วันนี้มีข่าวดีสำหรับท่านที่ชอบพืชผักและเต้าหู้มาฝากครับ...
ท่านอาจารย์ดอกเตอร์มาริลีน เซงและคณะ แห่งศูนย์มะเร็งฟอกซ์เชส สหรัฐฯ ทำการศึกษาผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน 3,000 คนในเมืองเซี่ยงไฮ้ กลุ่มตัวอย่างครึ่งหนึ่งเป็นมะเร็งเต้านม
ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงเซี่ยงไฮ้กินอาหาร 2 กลุ่มใหญ่ได้แก่ กลุ่มหนึ่งกินอาหารฝรั่ง หรืออาหารตะวันตก หนักเนื้อและน้ำตาล(หวาน) อีกกลุ่มหนึ่งกินอาหารจีน หรืออาหารตะวันออก หนักผักและเต้าหู้
กลุ่มที่กินอาหารฝรั่งจะกินเนื้อวัว หมู กุ้ง ไก่ ลูกอม ขนม และผลิตภัณฑ์จากนมสูง ส่วนกลุ่มที่กินอาหารจีนจะกินเต้าหู้ กะหล่ำปลี ถั่ว ถั่วงอก ผักใบเขียวสูง และกินเนื้อน้อย
ผู้หญิงเซี่ยงไฮ้ที่กินอาหารฝรั่งมีความเสี่ยงมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น 60% นอกจากนั้นเมื่อวิเคราะห์ชนิดของมะเร็งเต้านมพบว่า
ผู้หญิงเซี่ยงไฮ้ที่กินอาหารฝรั่งมีความเสี่ยงมะเร็งเต้านมชนิดมีตัวรับฮอร์โมนเพศหญิง (estrogen receptor) เพิ่มขึ้นถึง 90% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินอาหารประเภทพืชผัก
อาจารย์เซงบอกว่า สาเหตุที่อาหารฝรั่งเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านมอาจเป็นผลจากการกินเนื้อแดง หรือเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ฯลฯ มาก
หรืออาจเป็นผลจากคนที่กินอาหารฝรั่งมักจะอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวมากกว่าคนที่กินอาหารประเภทพืชผัก
การกินอาหารฝรั่งให้น้อยๆ หน่อย โดยเฉพาะลดเนื้อแดงให้น้อยลง กินผักโดยเฉพาะตระกูลกะหล่ำ บรอคโคลีให้มากขึ้น กินถั่ว ถั่วงอก เต้าหู้ และผักใบเขียวให้มากขึ้นน่าจะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมให้น้อยลงได้ และยังช่วยป้องกันโรคอ้วนได้ด้วย
เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ทราบผลการวิจัยนี้แล้ว น่าจะรีบบอกชาวเซี่ยงไฮ้ว่า กินอาหารจีน เน้นผักเน้นเต้าหู้น่ะดีอยู่แล้ว อย่าไปกินอาหารจานด่วน(ฟาสต์ฟูด) หรืออาหารฝรั่งแบบ "หวาน-มัน-เค็ม" เลย...
อาจารย์เซงท่านบอกว่า การศึกษานี้คงจะช่วยให้ได้ข้อคิดที่ดีในการป้องกันมะเร็งเต้านมได้แก่
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดี และไม่เป็นมะเร็งเต้านมครับ (ผู้ชายก็เป็นมะเร็งเต้านมได้ โดยพบในสัดส่วนประมาณ 1 ในร้อยของผู้หญิง)...
ข่าวประกาศ...
ขอแนะนำ...
แหล่งที่มา:
ไม่มีความเห็น