เขาว่ากันว่า มีข้อห้าม 9
ประการในการรับประทานอาหาร
ซึ่งครูแป๋มว่าน่าสนใจใคร่หาคำตอบประกอบเหตุผล
(ว่าไปโน่น...) ไม่ทราบว่าทุกท่านจะเห็นเป็นประการใด คำถามทุกข้อขึ้นต้นด้วยคำว่า
"ทำไม" ตัวอย่างข้อแรกค่ะ
1 ทำไมห้ามทานอิ่มเกินไป
2
.........ห้ามทานอย่างรีบร้อน
3
.........ห้ามทำหลายอย่างขณะทานข้าว
4
.........ห้ามกลืนโดยไม่เคี้ยว
5
..........ห้ามซดน้ำแกงร้อนจัด
6
.........ห้ามเลือกกิน
7
..........ห้ามดื่มน้ำก่อนทานอาหาร
8
..........ห้ามอดอาหารมื้อเช้า
9
..........ห้ามอบรมเด็กเวลาทานอาหาร
ตื่นเต้นจังเลย..ใครน๊าจะตอบถูกทั้งหมด
ลุ้นค่ะลุ้น..อิอิ
ตอบ
ข้อ ๑ กระเพาะอาหารทำงานหนัก อาจเป็นโรคไหลย้อน
ข้อ ๒ การย่อยที่ปากน้อย ก็จะไปหนักทางกระเพาะ ลำไส้
ข้อ ๓ น้ำย่อย ทำหน้าที่ไม่ดี จริงๆแล้วเวลากิน ไม่ใช่เวลาทำงาน ไม่ใช่เวลาเล่นเกมอยู่แล้ว
ข้อ ๔ คล้ายข้อ ๒
ข้อ ๕ ก็ลวกปาก ตับ ไต ไส้ พุง น่ะซีครับ
ข้อ ๖ จะได้อาหารไม่ครบ ๕ หมู่
ข้อ ๗ น้ำย่อย ถูกน้ำบุกเสียก่อน
ข้อ ๘ เราต้องใช้พลังงานมาก ช่วงเช้า ถึงกลางวัน
ข้อ ๙ เด็กจะเครียด รำคาญผู้ใหญ่ด้วย เวลากินเป็นเวลาแสวงหาความสุขอย่างหนึ่ง ผู้ใหญ่กลับเอาความทุกข์มาใส่ เอาไว้อบรมตอนอื่นดีกว่า
ถ้าจะขอใจเหม่อลอยถึงใครบางคนระหว่างทานอาหารจะได้ไหมครับ...อิอิ
อิอิ...น่ารักจังสำหรับคำตอบจากผู้มีอุปการคุณทุกท่านค่ะ
- อาจารย์พิสูจน์ ท่านมีภูมิรู้และชั้นเชิงการตอบไม่ธรรมดาเลยค่ะ เอ่อ..โรคไหลย้อนจากข้อ 1 เป็นยังไงคะ เป็นแบบแป๋มคิดหรือเปล่าน้อ... อีกข้อค่ะ ข้อ 7แป๋มนั่งอมยิ้มนานมาก นึกถึงกองทัพมดแดงถูกกองทัพมดดำบุกรังนอนสิคะ..จินตนาการไปโน่น.. แต่ขออุบคะแนนไว้ก่อนนะคะ ไม่ได้โกงแต่ยังไม่บอกค่ะ อิอิ...
- คุณพันคำ ตอนเด็กๆแป๋มเคยใช้การตอบแบบนี้ค่ะกับท่านผู้อาวุโส (มาก)เจอมะเหงก 1 ที นี่แน่ะ!! คำตอบของคุณพันคำก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้อาจารย์พิสูจน์เลยค่ะ ชื่นชมที่เป็นแบบอย่างที่ดี (ให้กับแป๋ม)ในการแก้ไขคำที่เขียนผิด ขอบคุณค่ะ
- พี่ศิลาคนสวย ใช้วิธีเดียวกับที่แป๋มเคยใช้เลยนะคะ ดูเป็น original ดีค่ะ แม้จะเสริมมา 1 ข้อ แต่ก็มากไปด้วยเหตุและผล ขอบคุณค่ะ
- คุณย่ามแดง อันนี้อยู่นอกเหนือกฏกติกา ดังนั้นอนุญาตค่ะ แถมยินดีให้เหม่อได้ตลอดเวลาได้เลยนะคะ.
ข้อนี้ผมห้ามคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องนี้เสมอๆ เพราะ
8. ห้ามอดอาหารมื้อเช้า
เพราะตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการพลังงานจากอาหารมากที่สุด อาหารจะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานส่งไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย
ทำให้เรากระปี้กะเปล่า สดชื่น สมองต้องการอาหารมากในช่วงดังกล่าว ดังนั้นไม่ควรอดอาหาร เพราะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและพลังงาน
9. ห้ามอบรมเด็กเวลาทานอาหาร
การทำกิจกรรมขณะทานอาหารเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี การไปสอนคนอื่นในขณะที่เรากำลังทำแบบอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น เด็กจะขาดความเชื่อถือ เพราะผู้สอนกลับเป็นผู้กระทำที่ไม่ดีเสียเอง
และถ้าเด็กร่วมรับประทานอาหารด้วยกันเด็กจะรับประทานอาหารไม่เต็มที่ เกิดการต่อต้านออกมาในพฤติกรรมหลายๆอย่าง รวมทั้งไม่ยอมรับประทานอาหารอีกด้วย
ครูแป๋ม อีเมลติดต่อ |
อ่าน: 49
ข้อห้ามในการทานอาหาร
ข้อห้าม 9 ประการในการรับประทานอาหาร
เขาว่ากันว่า มีข้อห้าม 9 ประการในการรับประทานอาหาร ซึ่งครูแป๋มว่าน่าสนใจใคร่หาคำตอบประกอบเหตุผล (ว่าไปโน่น...) ไม่ทราบว่าทุกท่านจะเห็นเป็นประการใด นึกว่าเป็นการฝึกสมองประลองปัญญารอบดึกกันนะคะ ...จะตอบทีละข้อ หรือทุกข้อก็ได้คะ รางวัลค่อยว่ากันอีกทีนะคะ....อิอิ
คำถามทุกข้อขึ้นต้นด้วยคำว่า "ทำไม" ตัวอย่างข้อแรกค่ะ
1 ทำไมห้ามทานอิ่มเกินไป
2 .........ห้ามทานอย่างรีบร้อน
3 .........ห้ามทำหลายอย่างขณะทานข้าว
4 .........ห้ามกลืนโดยไม่เคี้ยว
5 ..........ห้ามซดน้ำแกงร้อนจัด
6 .........ห้ามเลือกกิน
7 ..........ห้ามดื่มน้ำก่อนทานอาหาร
8 ..........ห้ามอดอาหารมื้อเช้า
9 ..........ห้ามอบรมเด็กเวลาทานอาหาร
ตื่นเต้นจังเลย..ใครน๊าจะตอบถูกทั้งหมด ลุ้นค่ะลุ้น..อิอิ
เอ่อ..บางท่านไม่ตอบไม่เป็นไร แวะมาเยี่ยมก็ดีใจแล้วค่ะ
ขออาสาตอบปัญหาในการชิงรางวัลนะครับ
ความจริงปัญหาที่เป็นคำถามนี้มีหลายข้อที่เกี่ยวกับวิชาชีพของผมครับ
คนไข้ที่มาปรึกษาด้วยอาการต่างๆ หลายครั้งหลายหน ผมให้ข้อห้ามถึง 7 ข้อกับผู้ป่วย ยกเว้นข้อ 6 และ ข้อ 9
แต่นี่เป็นคำถามที่เป็นข้อห้ามโดยทั่วๆไป ผมขออนุโลมตอบตามความรู้นะครับ
1. ห้ามทานอิ่มเกินไป
2. ห้ามทานอาหารอย่างรีบร้อน
3. ห้ามทำหลายอย่างขณะที่ทานข้าว
4. ห้ามกลืนอาหารโดยไม่เคี้ยว
เหตุผลคล้ายข้อ 2 แต่สาหัสกว่า
5. ห้ามซดน้ำแกงร้อนจัด
ข้อนี้แน่นอน ของร้อนจะลวกปากและลิ้นตลอดจนถึงหลอดอาหาร ทำให้บวมพอง เกิดการอักเสบของปากลิ้นและหลอดอาหารทำให้รับประทานอาหารไม่ได้ บางครั้งทำให้เกิดแผลถ้าไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว คนที่ซดน้ำแกงร้อนๆ มักมีอาหารคอแห้งคอเจ็บ แกแห้งปากเจ็บ ลิ้นสากเจ็บลิ้น มีคนไข้มาหาบางรายต้องซักประวัติให้ดี บอกว่าเป็นบ่อยมาก ซักประวัติปรากฎว่าเป็นพ่อครัวต้องชิมอาหารร้อนๆวันละหลายๆอย่าง
มีรายงานว่าคนจีนที่นิยมจิบน้ำชาร้อนๆหรือชอบทานข้าวต้มร้อนๆมีโอกาสเป็นโรคเนื้อร้ายมากกว่าชนชาติที่ไม่จิบน้ำชาร้อนๆหรือไม่ทานข้าวต้มร้อนๆ
6. การห้ามเลือกกิน เป็นการสอนให้เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย อาหารไม่ถูกจำกัดหมู่หนึ่งหมู่ใด ทำให้ร่างกายได้รับอาหารครบ 5 หมู่ การเลือกกินมีแต่จะเพิ่มโรคให้ร่างกาย เช่นกินแต่ขาหมู ของมันๆ ก็ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดไขมันอุดตัน ความดันโหตสูงเป็นต้น หรือบางคนเลือกกินโดยไม่กินผักเลย ทำให้ขาดสารอาหาร ฯลฯ
7. ห้ามดื่มน้ำก่อนอาหาร
ข้อนี้ผมห้ามคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องนี้เสมอๆ เพราะ
การดื่มน้ำก่อนอาหาร น้ำจะไปแทนที่อาหารทำให้ทานอาหารได้น้อยลง ระบบประสาทจะสั่งการไปยังสมองทำให้อยากอาหารน้อยลง น้ำที่ทานมากก่อนอาหารจะเจือจางน้ำย่อย ทำให้กระเพาะทำงานหนัก อาหารไม่ย่อย และถ้าทุกมื้อทำเช่นนี้ก็จะเป็นโรคทางเดินอาหารท้องอืดเฟ้อแน่นท้อง
8. ห้ามอดอาหารมื้อเช้า
เพราะตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการพลังงานจากอาหารมากที่สุด อาหารจะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานส่งไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย
ทำให้เรากระปี้กะเปล่า สดชื่น สมองต้องการอาหารมากในช่วงดังกล่าว ดังนั้นไม่ควรอดอาหาร เพราะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและพลังงาน
9. ห้ามอบรมเด็กเวลาทานอาหาร
การทำกิจกรรมขณะทานอาหารเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี การไปสอนคนอื่นในขณะที่เรากำลังทำแบบอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น เด็กจะขาดความเชื่อถือ เพราะผู้สอนกลับเป็นผู้กระทำที่ไม่ดีเสียเอง
และถ้าเด็กร่วมรับประทานอาหารด้วยกันเด็กจะรับประทานอาหารไม่เต็มที่ เกิดการต่อต้านออกมาในพฤติกรรมหลายๆอย่าง รวมทั้งไม่ยอมรับประทานอาหารอีกด้วย
กว่าจะตอบเสร็จเหนื่อยมากครับคุณครู :)
เอ่อ...ท่านคะ เห็นแล้วอย่าว่าแต่ท่านเลยค่ะที่เหนื่อยในการตอบ แม้แต่แป๋มเอง ยังเหนื่อยแทนเลยค่ะ ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์สุวัฒน์ เป็นอย่างสูงนะคะที่ให้คำตอบที่ชัดเจน ตัวจริงเสียงจริงมาตอบแบบนี้ กำไรก็อยู่ที่ผู้อ่าน ความสุขใจก็อยู่ที่ผู้ตอบ
ขอบคุณค่ะ..
ขอบพระคุณทุกท่านครับ อ่านแล้วได้รับความรู้ดีมากเลยครับ
จะนำไปสอนลูกศิษย์ครับ
สวัสดีครับครูแป๋ม
มาอ่านความรู้ดีๆและคำตอบที่เป็นประโยชน์มากๆเลย
ข้อห้ามเดย์เหรอครับ.....
ห้ามสั่งอาหราก่อนดูราคาครับ เอิ๊กอ๊าก :)
นอกนั้นเห็นด้วยจ่ะ
ดีใจจังที่ข้อเขียนแป๋มพอจะมีประโยชน์บ้าง สำหรับข้อห้ามของคุณเดย์ครูแป๋มเห็นด้วยอย่างที่สุดค่ะ เพราะครูแป๋มเคยได้รับบทเรียนมาครั้งหน่ง ครั้งเดียวก็เกินพอค่ะ
ขอบคุณ คุณvisistorค่ะที่นำไปใช้ประโยชน์กับนักเรียน ดีใจที่สุดจริงๆค่ะ
ร้อนในมีหลากหลายอาการ เช่น แผลร้อนใน ลิ้นเป็นแผลหรือลิ้นแตก เจ็บคอ เหงือกบวม มีขี้ตามากหรือตาแฉะ ครั่นเนื้อตัว เป็นไข้ และอื่นๆ อ่านรายละเอียดและวิธีรักษา รวมถึงข้อควรปฏิบัติได้ใน