จากข่าวที่กำลังดังและมาแรงของทีวีหลายช่องและหนังสือพิมพ์ ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่ผ่าตัดตาแล้วติดเชื้อ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดเหตุการณ์ขึ้นตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2552 มาแล้วนั้น ขอชื่นชมโรงพยาบาลแห่งนี้มาก ที่ได้มีการดูแลเยี่ยวยาผู้ป่วยและญาติเป็นทีมที่เข้มแข็ง พร้อมทั้งทีมสอบสวนโรค หาสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างทันทีที่เกิดเหตุการณ์และพบผู้ป่วยรายแรกที่มีอาการผิดปกติ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีส่วนร่วมในฐานะบทบาทของพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อที่ดูแลหอผู้ป่วยตา ในส่วนของการประสานงานรับทราบข้อมูลจากหอผู้ป่วยตาและภาควิชาจักษุที่ได้ทบทวนขบวนการผ่าตัดและแจ้งแพทย์ให้ระมัดระวังและปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยผ่าตัดตารายอื่นๆ ที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลศรีนครินทร์เกิดการติดเชื้อเหมือนกับโรงพยาบาลแห่งนั้น
เราได้คุยกันว่าจะทำอย่างไร ได้ปรึกษาแพทย์สาขาโรคติดชื้อ ได้รับคำแนะนำที่ตรงกันว่าควรจะเน้นในเรื่องของการล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการดูแลผู้ป่วย ก่อนที่จะหยอดตา หลังหยอดตา จัดโซนให้ผู้ป่วยแยก จากผู้ที่ไม่ติดเชื้อ
ในส่วนของบทบาทพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ ได้ดำเนินการร่วมกับหอผู้ปวย ที่รับการรักษาผู้ป่วยที่ส่งตัวมารักษาต่อ โดย
บทเรียนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ในเบื้องต้นขอนำเรื่องราวการผ่าตัดต้อกระจกมาให้ทราบก่อนนะคะ ขอบคุณข้อมูลจากเครือข่ายงานระบาดวิทยา
ต้อกระจก <script language='JavaScrip t' src='http:// www.thaiclinic. com/phpAds/ adjs.php? clientID= 15&target=_ blank&withText= 0'></script><noscript><a href='http:/ /www.thaiclinic. com/phpAds/ adclick.php' target='_blank'><img src='http:// www.thaiclinic. com/phpAds/ adview.php? clientID= 15&target=_ blank&withText= 0' border='0'></a></noscript>
ต้อกระจก เป็นปัญหาทางสายตาที่มีผลต่อประชาคมโลกมานานครับ WHO ประเมินว่าทั่วโลก หกพันล้าน มีคนตาบอดประมาณ 35-40 ล้าน ซึ่งเป็นผลงานของต้อกระจกและโรคแทรกของมันถึง 45% โดยเฉพาะในแถบประเทศที่ไม่ร่ำรวยนักซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณที่มีแสงแดดจัด (คุ้นๆเหมือนประเทศไทยไหมครับ)
ต้อกระจก คือการมัวของตาซึ่งเกิดจากความขุ่นในเนื้อเลนส์ในดวงตา ซึ่งมีหลายสาเหตุให้เกิด เช่น จากอายุที่มากขึ้น, โรคติดเชื้อในครรภ์มารดา, อุบัติเหตุ, การอักเสบทั้งจากการติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ, การรับรังสี, โรคที่เกิดจากการขาดอาหาร, โรคทางพันธุกรรมบางอย่าง, โรคทาง metabolic อีกเยอะ |
นอกจากนี้ หากเกิดร่วมกับบางโรคอาจทำให้เลนส์ขุ่นขึ้นได้เร็วกว่าปกติ เช่น เบาหวาน เป็นต้น
อาการโดยทั่วไปของผู้เป็นต้อกระจก คือ
- ตามัวลง โดยมากจะค่อยๆมัวลงช้าๆทีละน้อย นอกจากกรณีอุบัติเหตุ หรือโรคอื่นๆบางชนิด อาจมัวได้อย่างรวดเร็ว
- การลดลงของ contrast sensitivity (การแยกความแตกต่างของความมืด-สว่าง) เมื่ออยู่ในที่แสงจ้า หรือการมองดวงไฟในเวลากลางคืน
- myopic shift คือ การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เป็น ‘สายตาสั้น’ มากขึ้น คือการมองไกลจะ ไม่ค่อยชัด และการมองระยะใกล้จะชัดเจนกว่า พบในต้อกระจกบางชนิด
- monocular diplopia คือ เห็นภาพซ้อนเหมือนมีวัตถุปกติใดใดมากกว่าหนึ่งอัน ทั้งที่มองด้วยตาข้างเดียว
- ปวดตา และมีต้อหินแทรก อันนี้อันตรายครับ เพราะจะมัวไปเรื่อยๆ และแก้ไขให้มองเห็นใหม่ ได้ยาก หรือบางครั้ง ไม่ได้เลย
การรักษา
- การรักษาด้วยยา : ตอนนี้มียาหยอดที่ใช้หลายยี่ห้อครับ โดยมากจะเคลมว่า สามารถทำให้เลนส์ ที่ขุ่นใสขึ้นได้ หรืออย่างน้อยก็ทำให้การขุ่นที่ค่อยๆมากขึ้นนั้น ขุ่นช้าลงกว่าเดิมครับ เท่าที่ลองๆ ใช้กันดู ปรากฏว่ายาบางตัวก็ได้ผลจริงอย่างที่เค้าโฆษณา คือ ในผู้ป่วยบางคนมองเห็นได้ชัด ขึ้นจริง อ่านตัวหนังสือที่มีขนาดเล็กลงได้มากกว่าก่อนใช้ยา แต่ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ถ้าเป็นมาก เลนส์ขุ่นมากแล้ว มักใช้ในกรณีที่เริ่มเป็นน้อยๆมากกว่า โดยมักจะต้องหยอดยากัน วันละสามสี่ครั้งเป็นเวลาหลายๆเดือน ผู้ใช้ยาบางท่านเข้าใจผิดว่า หยอดแค่สองสามอาทิตย์แล้ว จะเห็นชัดดีเลย เหมือนกับการกินยา แก้หวัด หรือโรคปวดหัว ตัวร้อนทั่วไป ซึ่งก็คงต้องอธิบายกัน ตรงนี้ว่า ยานี้เห็นผลช้ามากครับ และในบางคน ถึงหยอดไปก็ไม่ได้ช่วยให้เห็นชัดขึ้นเลย
- การรักษาด้วยการผ่าตัด
- Couching
เป็นวิธีโบราณที่ไม่มีใครทำกันแล้ว (อินเดียทำกันมาหลายร้อยปี) จะใช้วิธีเอาเข็มจิ้ม เข้าไปในตาผ่านบริเวณตาขาวเพื่อเขี่ยให้เลนส์ที่ขุ่นหลุดร่วงจาก ตำแหน่งเดิมลงไปใน ช่องลูกตาด้านหลัง ซึ่งคนไข้จะเห็นชัดขึ้นไม่มากนัก และต้องใช้แว่นที่มีเลนส์อันเท่า ขนมครก เพื่อรวมแสงให้ได้โฟกัสแทนเลนส์ที่หลุดออกไป วิธีนี้มีโรคแทรกซ้อนได้เยอะแยะ ปัจจุบันวิธีนี้ยังพบได้ตามบ้านนอกบ้างเหมือนกัน (โดยแพทย์ไม่มีปริญญาใดใด – เท่าที่ผมเจอ บางรายคิดค่าทำแพงกว่าแพทย์แผน ปัจจุบันในโรงพยาบาลรัฐซะอีก แต่สุดท้าย ก็ต้องมาโรงพยาบาลเพื่อแก้โรคแทรกซ้อน กันจนได้ครับ)
- Intracapsular cataract extraction with/without intraocular lens implantation
อันนี้นิยมกันในแพทย์แผนปัจจุบันเมื่อกว่าสิบปีก่อน คือการผ่าตัดเข้าไปในลูกตา และดึงเอาเลนส์ออกมาทั้งอัน แล้วค่อยใส่เลนส์เทียมเข้าไปแทน หรือไม่ใส่ก็ได้ แล้วเย็บปิดแผล ซึ่งจะลดโรคแทรกซ้อนอันเกิดจากเลนส์ที่คงค้างอยู่ในกรรมวิธี couching ไปได้ แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงเยอะอยู่ ปัจจุบันแทบไม่มีใครทำ ยกเว้นในผู้ป่วยบางรายเช่น ผู้ป่วยที่เยื่อยึดเลนส์หย่อน หรือฉีกขาด หรือผู้ได้รับอุบัติเหตุกระทบกระแทกที่ตาอย่างรุนแรงเท่านั้น ดังภาพด้านล่าง
1.เย็บ Hang เยื่อบุตา |
2.กรีดกระจกตา |
3.เปิดกระจกตา |
4.ตัดม่านตาเป็นช่องเพื่อป้องกันต้อหินแทรก |
5.เอาLensออกมา |
6.ใส่ Lens ใหม่เข้าไป |
ภาพแสดง Intracapsular cataract extraction with intraocular lens implantation
- Extracapsular cataract extraction with/without intraocular lens implantation
นิยมกันในปัจจุบัน เป็นการผ่าตัดเข้าไปในลูกตา เจาะถุงหุ้มเลนส์เอาเลนส์ที่ขุ่นออกทั้งอัน โดยเหลือถุงหุ้มเลนส์เอาไว้ และใส่เลนส์เทียมเข้าไปในถุงหุ้มเลนส์นั้น แล้วจึงเย็บปิดแผล ซึ่งจะปลอดภัยในระหว่างการผ่าตัดมากกว่า และมีโรคแทรกซ้อนในภายหลังน้อยกว่ามาก ปัจจุบันนิยมทำวิธีนี้ ในรายที่เลนส์แข็งๆขุ่นๆครับ แต่แนวโน้มก็ลดลงเรื่อยๆแล้ว
สวัสดีค่ะอาจารย์
สวัสดีคะน้องซิลเวีย
ข้อมูลนี้ได้จากเครือข่ายระบาดวิทยา พี่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ ได้มีการเรียนรู้ และศึกษา นะคะและเป็นสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับบริการนะคะ
สรุปสาเหตุไหมคะว่า เกิดปัญหาในส่วนไหนบ้าง
สวัสดีคะพี่แก้ว
สาเหตุจากที่แถลงข่าวของผอ.โรงพยาบาลโรงพยาบาลที่เกิดเหตุและกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่พบสาเหตุนะคะ ตัวอย่างน้ำยาที่ใช้ เครื่องมือผ่าตัด เคริ่องมือแพทย์ ไม่พบเชื้อที่เป็นเชื้อก่อโรคที่เพาะได้จากน้ำวุ้นลูกตาผู้ป่วยนะคะ พี่แก้ว
เรื่องนี้คงจะได้มีการทบทวนกันต่อไป
พี่สุติดตามข่าวแล้ว ไม่ได้โทษโรงพยาบาล หมอ แพทย์ นางพยาบาล เครื่องมือ อุปกรณ์เลย พี่สุมีความคิดว่า ผู้ป่วยไม่รักษาความสะอาดตนเองเวลาอยู่บ้าน ให้เข้มงวด อาหารการกินของแสลง ก็ไม่เว้น ไม่ให้ดูโทรทัสน์รีงสีจะโดน ก็ไม่ทำตาม และผู้ป่วยมีแต่สูงอายุ มากแล้ว ภูมิต้านทานก็ต่ำ ให้กลับไปอยู่บ้านก็ดูแลตนเอง แบบไม่รักษาความสะอาด แล้วบางคนก็มีโรคเบาหวานมาเกี่ยวข้อง จึงอาจทำให้ตาบอดได้
ถ้าไม่รักษาให้ก็ว่า รักษาให้ก็โดน
พี่สุก็ฟังข่าว กลัวน้องๆ พยาบาล เสียกำลังใจ ในสิ่งที่เกิดขึ้น กิตติ สิงหาปัด ออกข่าวตอนเย็นทุกวัน ไม่มีเว้น ตอนนี้เห็นที่ รพบ.ศรนครินทร์ก็มีข่าวแล้ว
ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ พยาบาลทุกคนนะคะ ค่อยๆแก้ปัญหาไปคะ
สวัสดีคะพี่สุ
คนไข้ที่ผ่าตัดที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ยังไม่มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากการผ่าตัดต้อกระจกนะคะ พี่สุ ถ้ามีไก่จะทราบเรื่องก่อนอยู่แล้วคะ
ข่าวที่ออกมามีชื่อโรงพยาบาลศรีนครินทร์เกี่ยวข้องเพราะว่า เราเป็นที่รักษาคนไข้ผ่าตัดที่รพ.ศูนย์แล้วแพทย์ส่งมาให้โรงพยาบาลศรีนครินทร์รักษาต่อนะคะและใช้ห้องผ่าตัดในการรักษาคนไข้จากรพ.เดิมนะคะ
สวัสดีค่ะ
มาติดตามข่าว hot hit ค่ะพี่ไก่
น้องมี่เอาภาพน้องหมาแพนดี้มาฝากป้าไก่ด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะ
ติดตามข่าวที่กำลังครึกโครมและน่าเป็นห่วงมากค่ะ
ขอให้ค้นพบสาเหตุและจัดการได้โดยเร็วนะคะ
(^___^)
สวัสดีคะน้องอิง น้องหมาทำไมน่ารักอ้วนกระปูก แล้วน้องมี่จะอุ้มไหวไหม ฝากความคิดถึงน้องมี่ด้วยนะคะ
สวัสดีคะ ขอบคุณมากนะคะที่เป็นห่วงและกำลังใจ
พอมีข่าวแล้วก็ทำให้หลายฝ่ายต้องตื่นตัวนะคะ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายก็หวาดกลัวเหมือนกันนะ
ขอให้เป็นสิ่งเตือนใจให้ระวังทุกวิถีทางนะไก่
สวัสดีครับคุณ ประกาย
ติดตามข่าวอยู่ครับ
ขอบคุณที่ให้ข้อมูลรายละเอียดครับ
สวัสดีค่ะคุณไก่ ประกาย~natachoei ที่~natadee ดีใจที่คุณไก่แวะไปเยี่ยม..งานช่วงนี้หนักไหมคะ..ขอให้มีความสุขมากมากนะคะ