ใกล้เกลือกินด่าง...เสียดาย


อยู่กับหนังสือ แต่ไม่ค่อยได้อ่าน

                 "อยู่กับหนังสือ แต่ไม่ค่อยได้อ่าน หลายคนเป็นอย่างนั้น ปล่อยให้หนังสือดี ๆ ผ่านมือไป เสียดาย..." ทั้งที่ทำงานกันในห้องสมุด คลังความรู้ หนังสือที่มี ก็ได้อ่านฟรี หลายคนที่ทำงานเป็นแบบนี้ค่ะ เคยคุยทีเล่นทีจริง ถ้าเราอ่านหนังสือที่ห้องสมุดของเราจัดซื้อ จัดหาเข้ามา เราจะพัฒนาตัวเองได้อีกเยอะ หนังสือสมัยนี้ คนเขียน เขียนสนุก แค่อ่านชื่อหนังสือก็กระตุกต่อมความอยากอ่านเข้าแล้ว มีทั้งที่เป็นตำราวิชาการแต่อ่านสนุก อะไรที่เข้าใจยาก กลับง่าย

                อยู่กับห้องสมุด ต้องทำตัวเป็นคนมีวิชา (เกิน) จะหยิบจับเล่มไหนมาแนะนำเป็นลายลักษณ์ ก็ขออย่างเดียวให้เป็นสาระ มีประโยชน์เยอะๆ เป็นการจำกัดขอบเขตการนำเสนอไปเสีย เลยไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากคนใน (หอสมุด) อ่านและแนะนำ แต่ถ้าถามเล่น ๆ ถึงนวนิยายที่กลายเป็นละคร แม้ไม่มีรางวัลการันตี และอาจไม่มีบริการในห้องสมุด (มหาวิทยาลัย) จะได้มาหลายความเห็น แต่เสียดายไม่มีรันเวย์ให้ร่อนลง หนังสือดี ๆ ห้องสมุดมีเยอะค่ะ  วันนี้การสำรวจหนังสือในห้องสมุดที่มีบริการ (จริง ๆ) (ติดตาม-ค้นเจอได้) จากฐานข้อมูล CMUL OPAC (Online Public Access Catalog)   ณ  วันที่  30  กันยายน  2550 พบว่าห้องสมุดทั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีหนังสือให้บริการ 795,879  เล่ม และมีผู้ใช้บริการยืมหนังสือและเอกสาร (สถิติจากรายงานประจำปี 2550 สำนักหอสมุด มช.) ตลอดทั้งปีงบประมาณ 2550 เป็นจำนวน 1,056,340 เล่ม หรือเฉลี่ย  3,062 เล่มต่อวัน

                แต่เท่าที่สุ่มถามคนห้องสมุดอ่านหนังสือน้อยมาก...เสียดาย

หมายเลขบันทึก: 167044เขียนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2008 09:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 23:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (49)

สวัสดีครับ ขออนุญาต ลปรร ด้วยครับ

       เกี่ยวกับเรื่องใกล้เกลือกินด่าง   ผมมีประสบการณ์ที่คล้ายๆกันครับ   เป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องการจัดอบรม

       ผมสังเกตว่าคนที่เป็นผู้จัดอบรม มักไม่ค่อยฟังวิทยากรที่เชิญมาให้ความรู้

                              ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณ small man

เป็นเช่นนั้นจริงด้วยค่ะ ครั้งหนึ่งไปเข้าสัมมนา เจ้าของงานหน้าแตก เพราะคุยกัน วิทยากรเลยถาม ขอโทษครับคุยกันจบหรือยัง จะได้ตอบคำถาม...Oh My God เราจึงได้มีเครื่องเตือนสติตัวเอง ถ้าเป็นคนจัดงาน ตั้งใจฟัง แต่ยังนิสัยไม่ดีที่ชอบเผลอจ้องเขม็งผู้เข้าอบรมที่คุยรบกวนสมาธิคนฟังคนอื่น ๆ ขอบคุณค่ะร่วม ลปรร

 "อยู่กับหนังสือ แต่ไม่ค่อยได้อ่าน หลายคนเป็นอย่างนั้น ปล่อยให้หนังสือดี ๆ ผ่านมือไป เสียดาย..."  << อิจฉาค่ะ  ลองคิดว่าถ้าเป็นต้อมอยู่ท่ามกลางหนังสือกองโตๆ ทั้งที่มีสาระน้อยและสาระมาก ต้อมจะมีความสุขสักเพียงไหนนะ?  แค่เวลาได้เดินในงานมหกรรมหนังสือในแต่ละครั้งที่มีหนังสือละลานตา  แค่เดินจริงๆ นะคะ  ต้อมก็หัวใจพองโตแล้ว  ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้ซื้อหาติดไม้ติดมือกลับมาเชียงใหม่นักหรอก

คงจะอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ  และคงมีอีกหลายคนที่ก็สนใจอ่านหนังสือทั่วไป  แต่ด้วยมาด  ด้วยฟอร์ม ก็เลยต้องแอ๊บๆ ไว้หน่อย  ประเดี๋ยวคนเขาจะคิดว่าไม่สมกับที่เป็นนักวิชาการเลย 

นานาจิตตังค่ะ  แต่ต้อมชอบมาก  ^^

คุณน้องต้อม เนปาลี ค่ะ ถ้าเอาความเสียดายและอิจฉา มาหลอมละลายรวมกัน โลกหนังสือกับคนรักหนังสือคงสวยงาม อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมและหวานละมุนของความสุขนะคะ ^^ เริ่มติดสำนวนใครไม่รู้แถวนี้แล้วค่ะ คิกคิก

  • สวัสดีเจ้า  คุณกัตติกา..

ชอบค่ะ  ที่นำเอาคำว่า "เสียดาย" + "อิจฉา" มาหลอมละลายแล้วจะได้กลิ่นหอมและหวานละมุนของความสุข 

เสียดายหนังสือมากมายมหาศาลที่วางอยู่นิ่งๆ บนชั้นโดยปราศจากการแตะต้อง

อิจฉาคนที่ได้มีโอกาสทำงานท่ามกลางกองหนังสือละลานตาเหล่านั้น

หากคนที่โปรดปรานรักใคร่ในตัวหนังสือได้มีโอกาสเช่นนั้นบ้าง  คิดดูสิคะ..โลกของเขาหรือเธอจะอบอวลไปด้วยความสุขมากเพียงไหน 

ป.ล. นี่เป็นการโพสครั้งที่ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้วค่ะ  T_T  เน็ตเพี้ยนๆ เลยไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้สักที

ขอบคุณคุณต้อมในความอดทนและชัยชนะที่สามารถโพสความเห็นได้ในที่สุดค่ะ

ไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าจะได้อยู่ท่านกลางกองหนังสือ มีความสุขมาก ถึงมาก ๆ เลยค่ะ

คำว่า "หนังสือ" ยังช่วยจุดประกาย (เขียน+คิด) คือจู่ ๆ ก็คิดถึงเรื่องเก่า ๆ และประสบการณ์ที่ผ่านมากว่า 40 ปี พอคิดได้ก็ดูเหมือนมีเรื่อง (จะ) เล่า ได้มากมายที่ผูกโยงกับ "หนังสือ" ตั้งแต่ เรียน เล่น เลี้ยง (ลูก) รวมเวลาเหงาด้วยค่ะ ว๊าว// อยากมีเวลาว่างมาก ๆ จังเลย จะได้อ่านหนังสือได้เยอะๆ เหมือนคุณต้อม (อ้าวตกลงเป็นตัวเราเองใช่มั้ยนี่ที่เสียดาย...คิกคิก)

ห้องสมุด มช. ยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ (แม้ว่าขั้นตอนกว่าจะเข้าถึงจะมีมากไปนิด... แต่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินค่ะ) มีโอกาสแวะไปถามหากันได้นะคะ

  • สวัสดีเจ้า คุณกัตติกา..

มีประโยคหนึ่งที่คิดว่าเท่ห์  ได้ยินมาจากไหนก็ไม่รู้ค่ะ  แต่มักจะนำไปบอกต่อบ่อยๆ ว่า "หนังสือเลือกคนอ่าน"  ^^ 

ต้อมยังอ่อนด้อยในเรื่องหนังสือต่างๆ ค่ะ    อาจจะอ่านน้อยกว่าใครๆ ด้วยซ้ำ   และก็ยังอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ หากมีโอกาส   ต้อมมีหนังสือเป็นเพื่อนค่ะ ((รู้สึกว่าเราจะมีเพื่อนชื่อคล้ายกันใช่ไหมเอ่ย?))    คงเพราะตัวเองขี้อาย และหนังสือเป็นเหมือนคัมภีร์หรือประตูที่พาต้อมไปไหนได้ทุกที่ตามแต่จินตนาการจะพาไป  

หนังสือช่วยจุดประกาย (เขียน+คิด) จริงๆ ด้วยค่ะ  ^^   เพราะหนังสือเนี่ยก็เลยทำให้ต้อมชอบคิดและเขียน ((อันนี้ไม่นับความ"ขี้ลืม"ในระดับเว่อร์นะคะ))    เวลาได้เขียนนี่..มีความสุขนะคะ    เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองออกมาซะงั้น  อั้นแน่ะ  ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ  คือต้อมหมายถึงคนขี้อายอย่างต้อมจะมีช่องทางได้สื่อสารอะไรกับเขาได้บ้าง  

ยังไม่เคยเข้าไปในห้องสมุด มช. เลยค่ะ  แล้วถ้ามีโอกาสจะลองเข้าไป   

  • สวัสดีอีกทีๆ นะเจ้า คุณกัตติกา..

แบบว่าชอบคุยเรื่องหนังสือ  http://gotoknow.org/blog/naepalee/110176    เวลาใครคุยเรื่องหนังสือจะชอบเมียงมอง  ไถลตัวอวบๆ อ้วนๆ เข้าไปใกล้ๆ  เอียงหูฟัง  ส่ายตาดู  ^^  คงประมาณว่าจะอารมณ์เดียวกับ "เห็นหลังคาบ้านคนที่เราแอบหลงรักก็ชื่นใจ"  

ใครๆ ชอบถามว่าไปเดินในงานหนังสือแล้วทำไมไม่ค่อยเห็นซื้อหนังสือ  ก็อ้าว..ไม่เคยบอกนี่นา ว่าจะไปซื้อ   บอกว่าจะไปเดินค่า   หนูแค่ไปเดินดูหนังสือเอง  ก็มีความสุขแล้ว  ((จริงๆ ก็อยากได้ไปหมด  แต่รักพี่ เสียดายน้อง  อยากได้ไปหมด  เลยอดจริงๆ --สมน้ำหน้าตัวเอง ))  

มีความสุขนะคะ  กับการได้อยู่ท่ามกลางหนังสือ  แม้ว่าหนังสือบางเล่มจะแค่ได้จับมาพลิกเบาๆ  ไล่สายตาไปตามรูปภาพสวยๆ เท่านั้น   ก็หนังสือบางเล่มสวยๆจริงๆ  แต่ไม่ได้เขียนด้วยภาษาไทย   มันเลยเป็นข้อจำกัด  ตัวอย่างเช่น หนังสือ Book of Plants & Symbols by Anne Dumas  ที่พี่นุช  หรือ P  คุณนายดอกเตอร์  กรุณาส่งมาให้ยืมอ่าน   ในบันทึก http://gotoknow.org/blog/naepalee/154116  อันนี้ถือว่าเสพด้วยตา   ไม่ผิดกติกาใช่ไหมคะ?   ค่อยๆ กระดื๊บๆ อ่านไปทีละหน้าสองหน้า   แฮ่ะๆๆ  ก็ความสุขน่ะเสพได้ด้วยตา  ด้วยใจ ก็เหมือนกันไม่ใช่หรือคะ? 

 

 

สวัสดีเจ๊าคุณ  เนปาลี

เรื่องหนังสือเลือกคนอ่าน เห็นด้วยจริง ๆ นะคะ สำหรับพี่ต๋อย (น่าน...สนิทเพิ่มขึ้นแล้วเนอะ เรียกพี่คิดว่าใช่นะคะ)  พี่เป็นคนประเภทอ่านหนังสือธรรมะล้วน ๆ  ไม่ค่อยได้ หนังสือไม่เลือกเรา (อิอิ) แต่มีอยู่วันหนึ่ง (ซึ่งคงถึงเวลาของเราหรือเป็นบุพเพฯ) เดิน ๆ อยู่ในห้องสมุด เจอหนังสือเลขหมู่ประมาณ 100 และ 200 (ปรัชญา และ ศาสนา) นี้แหละค่ะ

ถ้าหนังสือทุกเล่มทุกเรื่องมีชีวิต ก็อาจเป็นได้ว่าหนังสือปิ๊งเราเข้าแล้ว เป็นหนังสือนิยายอิงธรรมะ ที่ทำให้พี่ติดงอมแงม แล้วต้องตามอ่านหนังสือ รวมทั้งประวัติของหลวงพ่อ และเรื่องราวในพุทธศาสนา คำสอน หลายต่อหลายเล่มตั้งแต่นั้นมา แล้วก็สามารถอ่านหนังสือที่เป็นธรรมะล้วน ๆ ได้ (บ้าง) แล้ว (ตามแต่เวลาจะอำนวยให้) ซึ่งก็มีหลายสิ่งที่ทำให้ตัวเองเปลี่ยนแปลง (ดูดีมีศีลมีธรรมมากขึ้น) 

หนังสือชุดนี้สอนความจริงเกี่ยวกับชีวิตให้เราตั้งหลายอย่าง สะท้อนกลับให้เรา (ตั้งใจ) ปฏิบัติ ทำตัวดีดี ทำด้วยใจ ให้ด้วยใจมากกว่าที่เคยทำ ช่วงนั้นติดใจหนังสือชุดนี้จนถึงกับติดตามซื้อเก็บเป็น Collection เฉพาะ ไม่พอค่ะ ซื้อเป็นของขวัญให้คนที่รัก มีคุณแม่ และเพื่อนรักมากคนหนึ่ง ซึ่งเธอก็ติดตามเล่มอื่น ๆ มาโดยตลอดเหมือนกันเลย  แล้วคุณแม่ยังฝากซื้อเพื่อส่งให้ญาติผู้ใหญ่ ต่อกันเป็นลูกโซ่ เป็นเรื่องปลื้มใจค่ะที่เราสามารถเป็นสื่อกลางนำหนังสือที่ดี พิเศษ ส่งต่อให้ใครๆ เห็นคุณค่า ใช้ประโยชน์ได้ด้วย

จริง ๆ แล้ว หนังสือที่ว่านี้ อาจารย์ที่เขียนท่านเขียนจนจบหมด 50 ตอน 100 ตอนเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่จะไม่รวมเป็นเล่ม วางจำหน่ายจนกว่าจะถ่ายทอดเรื่องราวเป็นตอน ๆ ผ่านนิตยสารให้จบหมดทุกตอนของแต่ละชุดเสียก่อน

ติดงอมติดแงม จนต้องขอจองอ่านนิตยสารเล่มนี้ (ที่ห้องสมุด) เดือนละสองครั้งเป็นเวลานานนับปี...หนอนหนังสืออย่างน้องต้อม ต้องทราบแน่เลยว่าคือหนังสือชื่ออะไร เรื่องอะไร...ไม่เฉลยตอนนี้นะคะ หรือท่านที่เข้ามาอ่านจะทราบ ลองทายได้ค่ะ ^^

  • สวัสดีเจ้า พี่ต๋อย.. ((ขออนุญาตเรียกพี่..เสียเลย))

พี่ต๋อยใจร้าย  ไม่ยอมใบ้ชื่ออาจารย์ที่แต่ง  ไม่ยอมบอกชื่อหนังสือ  แล้วต้อมจะนั่งทางในนึกออกไหมล่ะคะ   หรืออย่างน้อยต้องบอกชื่อตอน  ชื่อเรื่อง  ชื่อนิตยสาร มาบ้างสิ  เพราะงั้นไม่ขอตอบ  (( ก็ไม่รู้จะตอบอะไรจริงๆ นี่นา ฮือๆ  ก็คนถามใจร้ายนี่ ))  นั่งรออ่านเฉลยดีกว่า

ต้อมเองก็อ่านหนังสือธรรมะไม่ค่อยได้ค่ะ   มีหนังสือ"คู่มือมนุษย์" ของท่านพระพุทธทาส  ที่ได้มา 3 ปีได้แล้วกระมัง  แต่ยังอ่านไปได้ไม่ถึงไหน    หรือหนังสือ "พุทธศาสนาไทยในอนาคต" ที่เขียนโดย พระไพศาล  วิสาโล  ที่ยังแค่แตะมาพลิกๆ แล้วก็ง่วงโดยพลัน   เล่มแรกพี่สาวสุดเซ็กซี่ให้มาเนื่องในวันคล้ายวันเกิด   เล่มที่สองนั้น..พี่สาวคนสวยอีกคนให้มาในวันที่ไปเจอตัวเป็นๆ ในงานหนังสือที่เมืองกรุง    ชะรอยพี่ๆ จะเห็นว่าหนังสือทั้งสองเล่มนี้เหมาะกับต้อม ((เหมาะตรงไหนเนี่ย?))

แต่ช่วงนี้ต้อมจะได้รับหนังสือคำสอน - ธรรมะ ที่ส่งมาทั้งให้ยืมอ่าน และให้มาเป็นสมบัติส่วนตัวเลย  โดย  P  คุณนายดอกเตอร์   ก็เลยได้คลุกคลีมากกว่าเมื่อก่อนบ้างค่ะ    แต่เทียบกับคนอื่นแล้วก็คงเป็นจำนวนน้อยอยู่ดี    เล่มล่าสุดเพิ่งเดินทางมาถึงเมื่อวาน  เกี่ยวกับเรื่อง "ขันติ" 

ต้อมไม่รู้ว่าท่านอื่นที่อ่านหนังสือต่างๆ แล้วจะได้อะไร    สำหรับตัวต้อมเอง นอกเหนือไปจากความบันเทิงแล้วต้อม "ได้คิด"    และหลายๆ ครั้งก็มีการเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองในทิศทางที่ดีขึ้น  

มาถึงบรรทัดนี้แล้ว  พี่ต๋อยคลายความใจร้ายลงบ้างแล้วหรือยัง?  ต้อมรออ่านเฉลยอยู่ค่ะ    แถมด้วยยิ้มหวานๆ ด้วยนะเอ้า!

ไม่ได้ใจร้ายกับน้องต้อมซักหน่อยแล้วตอบช้าเพราะว่าตั้งใจจะค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมมาประกอบด้วยค่ะ

เฉลยหรือบอกไบ้กันดีเนี่ย..

หนังสือนวนิยายธรรมะของ สุทัสสา อ่อนค้อม (นามปากกา รศ ดร. สุจิตรา อ่อนค้อม) มีหลายเรื่องนะคะ ที่ตามอ่านมี สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม มักกะลีผล นารีผล วัฏจักรชีวิต ความหลงในสงสาร ความหลังในสังสาร...

อาจารย์เขียนลงนิตยสารกุลสตรีค่ะ

ตั้งนั่งตั้งตาอ่านเล่มแรก ทำให้อยากรู้จัก พระครูเจริญ สมภารวัดป่ามะม่วง...

สงสัยมาก่อนเลยว่า มีจริงมั้ย ท่านพระครู แล้ววัดป่ามะม่วงล่ะ ก็ตามค้นหา ในที่สุดก็ทราบว่ามีจริง แต่ไม่ได้ใช้ชื่อนี้

จากหนังสือของสุทัสสา ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นประดังประเดเข้ามา ก็ติดตามค่ะ ได้อ่านเรื่องที่ไม่ใช่นวนิยาย (เรื่องจริง เรื่องกฏแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ)  โชคดียุคนี้เป็นยุคหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ + สื่อออนไลน์ และไม่มีการปิดกั้นความรู้  ทำให้เราสามารถติดตาม ศึกษาเรื่องที่เราสนใจได้ตลอดเวลา

ก่อนจะตอบคำถามน้องต้อม ก็สืบค้นข้อมูลมาประกอบ ตั้งใจจะตามหาลิงค์ไฟล์เนื้อเรื่องของนวนิยายมาให้เป็นเครื่องเคียงอาหารสมองซักหน่อยหนึ่ง ก็ไปเจอความเห็นในเว็บไซต์หนึ่งของคุณคนไกลวัด พูดถึงผลงานเขียนสุทัสสาค่ะ  ซึ่งตรงกันกับความรู้สึกของพี่ต๋อย ขอคัดมาฝาก

"เขียนแบบ Story Teller เล่าชีวิตของคนไปวัดด้วยปัญหาและจุดประสงค์ต่าง ๆ กัน  บางคนไปขอของเก๊หลวงพ่อให้ของจริงส่วนมากก็ไม่เอา  ไม่ตื่นเต้นผาดโผนเร้าใจ   จากประสบการณ์จริงไม่ปนนิยาย    เขียนได้ดีมากเล่นเอาดิฉันผู้อ่าน  ผู้อยู่ไกลวัดต้องบินไปเข้าอบรมที่วัดอัมพวัน 7 วัน   ก่อนอ่านหนังสือเล่มนี้ดิฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่า "กรรมฐาน"  แปลว่าอะไร  ไตรลักษณ์นั้นไม่ต้องพูดถึง  นี่ไกลวัดถึงขนาดนี้!" (จากเว็บไซต์ http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/008194.htm)

ส่วนไฟล์หนังสือเรื่อง สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ก็มีให้อ่าน 80 ตอน ตามลิงค์นี้ค่ะ (แต่ถ้าอยากยืมหนังสือไปอ่าน บอกได้นะคะจะเอามาให้ยืมค่ะ)

                  ทดลองอ่าน คำนำและบทที่หนึ่ง นะคะ

และนอกจากนี้ยังมีไฟล์ mp3 ที่เป็นเรื่องราวจากหนังสือ สำหรับคนชอบฟังด้วย

ส่วนลิงค์ค้นหามานี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่น้องต้อมและท่านที่สนใจจะต่อยอดต่อไปได้ค่ะ

น้องต้อมยิ้มออกแล้ว...แน่เลย ^^

  • สวัสดีเจ้า..

อ่านแล้วก็ร้อง อ้อ!  พร้อมๆ กับยิ้มออกแล้วค่ะ  ^^  ต้อมเคยอ่านมาบ้างเหมือนกัน  สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  มักกะลีผล  และเคยเข้าไปเวบลานธรรม รวมถึง เว็บไซต์พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) บ้างค่ะ  ตามแต่โอกาสและตัวอยากรู้มาสะกิดๆ ยิกๆ ให้เข้าไปอ่านดู   พูดถึงหลวงพ่อจรัญนี่จะนึกถึงการสวดพาหุงฯ ค่ะ

ขอกราบขอบพระคุณนะคะ  สำหรับข้อมูลมากมายที่นำมาเฉลย (( มากขนาดนี้ไม่เรียกว่า "ใบ้" แล้วค่ะ เนอะ -- มากจนสามารถนำไปเขียนบันทึกใหม่ได้เลยนะคะ นั่น ))

ชอบอ่านเรื่องแนวนี้ด้วยค่ะ  ^^

 

555 ก็เขียนบันทึกใหม่ จะต่อไม่ติดน่ะค่ะ 555 น้องต้อมออนไลน์เช้า สาย บ่าย ค่ำ แถมมื้อดึกด้วยไหมเนี่ย พี่โดนลูกสาวแย่งใช้คอมค่ะ...กำลังจะมีบันทึกใหม่เรื่อง เมื่อลูกรักอะนอ.. คอยตามอ่านมั้ยคะ ให้เดาแต่รู้แล้วห้ามบอก...

  • ธุ พี่ต๋อยค่ะ ..

ปกติต้อมออนไลน์ช่วงเวลาทำงาน (ตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 4 โมงเย็น อาทิตย์ละ 7 วัน)เองค่ะ  ^^  แต่ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาค่อยยังชั่วหน่อย   ได้มีวันอาทิตย์เหมือนคนอื่นเขาบ้าง  และตั้งแต่ย้ายบ้านเข้าสวนก็ไม่ได้ออนไลน์กลางคืน  เพราะบ้านอยู่ทุรกันดาร   พี่ๆ ล้อว่าอยู่หลังเขา   นอกเสียจากน้องชายลากไปร้านเน็ต  ซึ่งก็นานๆ ครั้งค่ะ  น๊านนน บอกเสียละเอียดยิบ

ไม่บอกหรอกนะว่าจะติดตามอ่านบันทึกใหม่  ว่าแต่ไปมาแล้วล่ะ  อ้าววววววว.......

สวัสดีคุณน้อง P เนปาลี ค่ะ

แค่ อาทิตย์ละ 7 วัน เองเหรอคะ โอโห น้อยจัง ..ล้อเล่น ยังไงรักษาสุขภาพด้วยนะคะ อยู่หน้าจอนาน ๆ ทั้งสายตา ทั้งเคล็ดขัดยอกปวดเอว เมื่อยหลัง จะถามหาค่ะ ต้องการจานดาวเทียมสักดวงไหมคะจะได้ไม่โดนลาก...(คุยกันสนุกจัง แต่พี่ยังไม่ได้ตอบในเมล ขอโทษด้วยนะคะ มีแต่งานประชุมรุมเร้า)

บันทึกใหม่เรื่อง เมื่อลูกรักอะนอ..ยังไม่ได้ลงมือเขียนเลยค่ะ (ฮิฮิ) ยังลอยวนเวียนอยู่ในหัว)

  • สวัสดีเจ้า ..

7 วัน..น้อยจัง??  <<  ใครบอกแบบนี้นับเป็นคนที่ใจร้ายมากๆ  (( จริงๆ แล้วอยากพิมพ์คำว่า "มากๆ" เป็น "มั่กๆ" เหมือนที่วัยรุ่นเขาพิมพ์กัน  จะได้รู้สึกเหมือนกระแทกกระทั้นอารมณ์ขุ่นเคือง+ตวัดเสียงให้สูงเล็กน้อยแบบไม่พอใจหรือขัดใจ   แต่นี่เป็นกระดานสาธารณะเลยไม่สามารถทำได้  ประเดี๋ยวเยาวชนของชาติเกิดพลัดหลงเข้ามาอ่านแล้วจะจดจำการสะกดคำไปใช้แบบผิดๆ   แต่อ้าว! พิมพ์ไปแล้วหรือเนี่ย?  อิอิ  ))

ก็โต๊ะต้อมเป็นโต๊ะคอมพ์นี่คะ   จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะ..นะ  เอาเสียหน่อย   ตั้งแต่รู้จัก G2K ก็เลยเสพย์ทุกวันค่ะ   วันไหนไม่ได้เข้ามาอ่านอะไรก็จะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป    แรกๆ อาการคล้ายจะลงแดง   แต่พอเวลาผ่านไป..ความตื่นตาตื่นใจก็ลดระดับลงหน่อย  อิอิ  บ่นปวดคอมากๆ เข้า เลยมีบันทึกนี้ขึ้นมา  >> http://gotoknow.org/blog/agri-aoyyala02/167806  แต่เช้านี้ค่อยยังชั่วแล้วค่ะ

จะรออ่านบันทึกใหม่เรื่อง "เมื่อลูกรักอะนอ.." นะคะ   รีบๆ จับตัวหนังสือและเรื่องราวที่ลอยวนอยู่ในหัวมาเรียงร้อยเป็นเนื้อเรื่องเสียที    ไม่เช่นนั้นจะมาทวงทุกคราวที่มีโอกาส (ขู่ๆๆ))

 

 

สวัสดีคุณครูภาษาไทยP ค่ะ ผิดไปแล้ว...อภัยนักเรียน คนนี้ด้วยนะคะ

  • ธุค่า..

แน่ะๆๆ ได้ที ๆ  ^^

  • เมื่อก่อนชอบอ่านหนังสือ  พบเศษกระดาษหนังสือพิมพ์ที่เค้าห่อของไม่ได้ต้องเก็บมาก่อน
  • แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือเท่าไหร่ เพราะว่าปวดตาบ้าง  หนังสือตัวเล็กไปบ้าง ???ไม่ใช่เป็นคำแก้ตัว???
  • แต่ก็อ่านนะ  แต่อ่านน้อยลงเท่านั้นเอง ??เป็นไปตามวัย??

ลุงเอกอยู่ใกล้เกลือและนอนกับเกลือ  ด่างก็ไม่ค่อยได้กิน  หนังสือที่ขนซื้อๆมาไม่ได้อ่านจำนวนมาก  มากขนาดไหน...ขนาดมีห้องสมุดในบ้านนั่นแหละ  

        บางทีบางเรื่องดูปก  ดูสารบัญก็น่าอ่านซะแล้ว  ชอบให้คนมาสรุปถ้าอ่านไม่ทัน  แต่ต้องสอนหนังสือจึงมีไว้ค้น  บันทึกเอาไว้ลำดับต่อภาพเวลาสอนครับ  

สวัสดีค่ะคุณ P 19. วัชรา ทองหยอด 

  • ยิ่งเป็น สว เรายิ่ง(ต้อง)ชอบอ่านค่ะ ไว้สอนลูกทำการบ้านนะคะ อย่างที่รู้เป็น สว ก็เป็นผู้ทรงภูมิ เพราะบริหารราชการบ้านเมือง (ว่าจะไม่ย้ำแล้วนะน้องชาย เพราะมันจะเข้าตัว..เจี๊ยบๆ)

เรียนคุณ P 20. ลุงเอก

  • หนูดีใจจังเลยค่ะ ขอบคุณลุงเอกที่แวะมาทักในวันนี้
  • ลุงเอกเป็นหนึ่งในหลายท่านเลยค่ะ ที่หนูอยากรู้จัก
  • ก็ได้แต่แอบอ่าน ไม่กล้าทิ้งร่องรอย คราวนี้จะไปขอความรู้แบบเสียงดังๆ แล้วละค่ะ

สวัสดีครับคุณดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

เราต้องติดตามความรู้  เทคโนโลยีและข่าวสารต่าง ๆ ในช่องทางอื่น  เพื่อให้รู้ทันวิทยาการสมัยใหม่และไม่ให้ตกข่าว และนำมาคุยแลกเปลี่ยนกันได้ไงละครับ

คุณไข่ วัชรา คะ ลืมตอบได้อย่างไร? เบลอมากแล้ว ใช้ IT มากไป จะขอลาพักผ่อนสักหลายวัน แล้วจะลองไม่แตะต้อง ไอทีบางตัวดูสักทีนะคะ...

เรียน ท่านดาวลูกไก่... ต้นไม้ที่แนะนำให้....ตีนเป็ด....

คุณสมบัติ 1. เป็นไม้เนื้ออ่อน

              2. เป็นไม้ที่โตเร็วพุ่งใหญ่

               3. ใช้เวลาในการปลุก 2 - 3 ปีก็สูง 4-6 เมตร

              4. มีดอกที่หอม และดก

              5. นิยมนำมาจัดสวน

              6. สามารถตกแต่งตามใจได้ยิ่งตัดกิ่งเท่าไหร่ กิ่งก้านก็ยิ่งแตกหน่อมากเท่านั้น หาซื้อได้ตามร้านขายพันธ์ไม้ทั่วไปได้ ในเชียงใหม่แนะนำที่ ตลาดคำเที่ยง

วีระ ณ บ่อหลวง

วีระชาติ  ทาลึ

 

สวัสดีค่ะคุณดาวลูกไก่

คิดอีกมุมนึงนะคะ แม้ว่าคนทำงานห้องสมุดจะอยู่กับหนังสือดีๆ มากมาย

แต่ก็จะใช่ว่านั่งอยู่เฉยๆ ใช่ไหมคะ มีงานในหน้าที่ที่ต้องทำมากมายอีกเช่นกัน

คนที่รักหนังสือโดยส่วนตัวอาจพยายามหาเวลาอ่านได้วันละเล็กวันละน้อย

แต่เชื่อว่าคงอ่านไม่ได้มากอย่างใจต้องการ

แจ๋วเองจะพบว่าตอนที่ทำงานหนังสือ

ไปร้านหนังสือ ซื้อหนังสือมาตุนๆ ไว้ แต่กลับไม่มีเวลาอ่านอย่างที่ต้องการ

หรือช่วงที่เปลี่ยนไปทำงานเกี่ยวกับศิลปะในหน่วยงานแห่งหนึ่ง

ก็แทบไม่มีเวลาไปดูงานศิลปะของที่อื่นๆ เลยทั้งที่เราอยากไป

มีสัมนาบางแห่งก็อยากไปร่วม แต่ปลีกตัวไปไม่ได้

ทั้งที่เป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวเอง เป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเอง

ซึ่งองค์กรจะได้รับผลประโยชน์จากเราด้วย

จากที่เคยเห็นมากก็กลายเป็นคนแคบลงเพราะก้มหน้าก้มตาอยู่กับงานมากมายของตัวเอง

ย้อนกลับมาที่งานห้องสมุด

ถ้ามีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้กับพนักงาน(หรือมีอยู่แล้วไม่ทราบนะคะ)

เช่น ให้พนักงานเลือกหนังสือที่สนใจ อ่าน และสรุปสั้นๆ

จากนั้นแนะนำขึ้นเวปหรือวารสารห้องสมุด ก็น่าสนใจนะคะ

เจ้าหน้าที่ได้ความรู้เพิ่ม และคนใช้บริการห้องสมุดก็หาหนังสือที่สนใจง่ายขึ้นอีก

ไม่ทราบเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่าค่ะ

แต่คิดเอาเองว่าคนเราหากไม่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ตนเองสนใจ

ก็น่าจะมีอะไรสักอย่างที่เป็นข้อจำกัดค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

เป็นเรื่องน่าคิดมากเลยค่ะ มีเรื่องอยากสนทนากับคุณแจ๋วยาวเลย

ตอนนี้กำลังประชุมทำ "พิมพ์เขียว" หน่วยงาน แอบเข้ามาอ่าน เดี๋ยวเย็นๆ จะมาคุยด้วยนะคะ (จะลงแดง ไม่ได้เข้ามา G2K) ประชุมทั้งวันเลยค่ะ

  • น้องคิดถึงอยู่พอดี
  • มารายงานอากาศว่า
  • โคราช
  • ฝนกำลังตก
  • อิอิๆๆ

คุณ วีระ ณ บ่อหลวง

ขอบคุณค่ะ ต้นตีนเป็ด  พญาสัตบรรณ เสียด้วย เหมือนจะมีที่บ้านแม่ค่ะ ว่าแต่ว่าประเภทเดียวกับที่นักพิษวิทยาเตือนมาหรือเปล่าคะว่ามีพิษต่อหัวใจ สามารถฆาตกรรมอำพรางได้น่ะค่ะ...

 

เข้ามาทักทายคุณดาวลูกไก่อีกครั้งค่ะ :)

ทานข้าวเย็นหรือยังคะ

คุณ jaewjingjing ค่ะ

  • นี่ ใกล้เกลืออีกคนเหมือนกันนะคะ ช่วงที่เปลี่ยนไปทำงานเกี่ยวกับศิลปะในหน่วยงานแห่งหนึ่ง ก็แทบไม่มีเวลาไปดูงานศิลปะของที่อื่นๆ เลยทั้งที่เราอยากไป
  • คนห้องสมุดทำงานจุกจิกค่ะ งานหนังสือละเอียดมากเหลือเกิน เค้าวิเคราะห์เนื้อหา สาระแต่เพื่อหารหัสพิศวงค่ะ แอบใช้คำนี้เลยนะคะ......ดังนั้นเค้าเลยไม่มีเวลาพินิจพิจารณาเนื้อหาสาระในหนังสือเล่มที่ผ่านมือไปเสมอๆโชคดีไม่ได้เป็นบรรณารักษ์หรือพนักงานห้องสมุด
  • วิเคราะห์รหัสพิศวงงงงวยแล้วก็ผ่านกระบวนการต่างๆ นานา แบบจะต้องรีบทำ รีบส่งออกบริการ เพื่อผู้ใช้เกิดความพึงพอใจค่ะ
  • ความจริงลืมมองไปว่า เราเองควรผ่อนคลาย แบ่งเวลา ถ้าชอบ อยากอ่านเล่มไหน ก็เป็นผู้ใช้บริการคนหนึ่งได้ ยืม ก็ได้สิทธิการยืมยาวนานพอกับอาจารย์ด้วยนะคะ...ขอเสียดายอีกทีซิคะ..
  • เคยชักชวนให้หมุนเวียนเลือกอ่านสักเล่ม อ่านแบบว่าเป็นงานหนึ่งของคุณเลยนะ แล้วเอามาแนะนำกัน ให้ถือว่าเป็นปริมาณงานคุณด้วยเอ้า...ก็ไม่มีใครสนใจ ว่าแล้วก็เอาความไม่งามมาเปิดเผย...เสียด๊าย เสียดายค่ะ
  • เห็นด้วยค่ะ...แต่คิดเอาเองว่าคนเราหากไม่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ตนเองสนใจ ก็น่าจะมีอะไรสักอย่างที่เป็นข้อจำกัดค่ะ...
  • กำลังได้ความคิดอย่างหนึ่งว่า จะปรับปรุงการเสนอแนะนำหนังสือใหม่ มาทำเมนูหนังสือ เสริฟเป็นมื้อๆ ผ่านเว็บไซต์ที่ดูแลอยู่ค่ะ ทำให้สนุกๆ (เราสนุก) อาจมีใครมาสนุกอ่านกับเราด้วยมั้งคะ (ไฮเปอร์ถามหาอีกแล้ว)

น้องชาย ขจิต ฝอยทอง

คิดถึงตอนอยู่โคราชเหรอคะ แล้วตอนนี้ถึงบ้านพี่นารีแล้วยังคะนั่น ต้องการเรือเพิ่มมั้ยคะ จะส่งล่องแม่ปิงไปให้ค่ะ...

 

คุณ ดาวลูกไก่

นั่นสิคะแจ๋วก็เคยใกล้เกลือกินด่าง(ทั้งที่อยากกินข้าว...อ้าว)  บางทีนะคะ  ร้ายกว่านั้นคืองานของหน่วยงานเราเองนั่นแหละ  แต่วุ่นซะจนคนในหน่วยงานก็ไม่ได้ดู ไม่ได้ความรู้ เพราะมัวแต่ยุ่งกับการจัดการ การเตรียมงาน นึกแล้วยังเศร้า มีหน้าเอาความรู้ไปให้คนอื่นๆ แต่ก็เป็นเรื่องจริงนะคะ

ส่วนประเด็นที่คุณดาวลูกไก่บอกว่า

กำลังได้ความคิดอย่างหนึ่งว่า จะปรับปรุงการเสนอแนะนำหนังสือใหม่ มาทำเมนูหนังสือ เสริฟเป็นมื้อๆ ผ่านเว็บไซต์ที่ดูแลอยู่ค่ะ ทำให้สนุกๆ (เราสนุก) อาจมีใครมาสนุกอ่านกับเราด้วยมั้งคะ (ไฮเปอร์ถามหาอีกแล้ว)

น่าสนใจมากเลยค่ะ  สนับสนุนและเป็นกำลังใจนะคะ  ลองทำทุกทาง  น่าจะมีสักอย่างที่ทำให้คนทำงานหันมาสนุกกับเราด้วยก็ได้ หรือถ้าไม่ได้ก็หาวิธีต่อไป 

สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :)

 

คุณ jaewjingjing และนักอ่านที่แวะเวียนมาค่ะ

รู้สึกไหมคะ ยิ่งเราขลุกกับหนังสือ คุยเรื่องหนังสือ เรายิ่งสนุก อยากทำอะไรโน่น นี่มากมาย ที่มันเหมือนจะฝังรากอยู่ข้างใน

รู้สึกเหมือนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทำให้เรามีพลังลึกลับ ทำให้กลับมาย้อนนึกถึงพ่อ แม่ ที่ให้โอกาสเรา ให้อย่างไรมากมาย ที่มาส่งผลเอาในภายหลัง อาจจะช้าไปบ้าง แต่ลึกๆ รู้สึกถึงความอดทนของท่านจังเลยค่ะ...ว่าแล้วก็อยากเป็นอย่างพ่อ รอยเท้าของพ่อก้าวไปทางไหน ก็อยากจะตามรอยไป ซ้ำรอยได้ก็อยากทำ...

เนปาลี หายไปไหนน้อ ถ้าอยู่หน้าจอคงกระโดดเข้าผสมโรงด้วยแน่ๆ เลยนะคะ..

คุณดาวลูกไก่คะ

อ่านที่คุณดาวลูกไก่พูดถึงพ่อแล้ว สำหรับแจ๋วมีเวลาอยู่กับพ่อสั้นมากๆ ค่ะ รับรู้แต่ว่าท่านรักเรา แล้วท่านก็จากไป มาพบสมุดเก่าๆ ที่ท่านจดนั่นนี่ไว้ ถึงเห็นว่า ทำไมลายมือเขียนหนังสือของตัวเองเหมือนพ่อเขียนจังเลย แจ๋วจะอยู่กับแม่มาตลอดจะเห็นว่ายามว่างแม่ชอบอ่านหนังสือนิยายค่ะ บางอย่างหรือหลายอย่างน่าจะถ่ายทอดผ่านทางสายเลือดได้นะคะ คิดเหมือนกันมั้ยคะ :)

คุณแจ๋วค่ะ

ยกมือเห็นด้วยเช่นเคยค่ะ

พ่อของพี่ เรียกพี่นะคะ พี่น่าจะ สว กว่าอิอิ

พ่อพี่ก็ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน แต่แม่มักจะมีอะไรมาให้ดูเรื่อย เดี๋ยวค้นเจอเรื่องเขียนเก็บไว้ ที่นั่น ที่นี่ เยอะไปหมด ลายมือเหมือนกัน นี่ไม่รู้ทฤษฎีนะคะ แต่ความชอบเหมือนกัน น่าจะเกิดจากการปลูกฝัง ตามหลักการ

แต่ก็แปลกใจว่า จะสามารถถ่ายทอดสำนวนการเขียน ออกมาได้คล้าย ใกล้เคียงกัน เป็นไปได้จริงไหม

แต่ น้องจ๊ะ..บอกว่า พี่กับพี่สาว ชอบเขียน แถมสำนวนน่าหยิกคล้ายกัน

ไม่รู้จะมีนักวิจัยแถวนี้มาอธิบายให้เข้าใจกระจ่างไหมนะคะ...

สวัสดีครับ

อยู่กับหนังสือจนอาจจะเบื่อไปเลยก็ได้ครับ

เคยเรียน มช ชอบเข้าอ่านหนังสือหอสมุด

จนหมดเวลาทำการ

ไม่ได้ไปหลายปีแล้ว คิดถึง

งั้นแจ๋วเรียกพี่ดาวลูกไก่นะคะ

น่าจะมีการลำดับญาติกันใน G2K มั้ยคะ เพื่อความไม่ผิดพลาด :)

บางทีแจ๋วจะเรียกท่านอื่นๆ เป็นพี่เป็นน้องก็ไม่ค่อยกล้าค่ะ

อือม์ นะคะ คุณน้องคนไม่มีราก คุณน้องชายอาจารย์ขจิต คุณน้องหนิงแซ่เฮ คุณพี่สาวอาจารย์อ้อย คุณพี่เพื่อนร่วมทาง...น้องจ๊ะ (เนปาลี) คนหลังไม่พูดชื่อ เดี๋ยวมีงอน

พี่อายุ 23 ค่ะ (เอารหัสเรียนเป็นวัยถาวร)...คุณแจ๋วล่ะคะ...

ถ้าใช้รหัสเรียนเป็นอายุ แจ๋วต้องไปเลือกรหัสไหนมาดี :)

แบบจริงจัง เดี๋ยวส่งเมล์ไปบอกนะคะ

ส่งเมล์ไปให้แล้วนะคะ :)

พี่เลขตัวเดียวค่ะ  ดูลูกสาวพี่สิคะ

เมื่อลูกรักอ๊ะ..(กางหนังสือเลี้ยงลูกจน...เป็นเรื่อง)(1)

แหม ดีใจรู้ความลับ อาจารย์ wasawat อีกเรื่องแล้ว ว้าวววว

ความผิดติดตัว อีกแล้ว คุณ ธ.วั ช ชั ย

  • ขออภัยนะคะไม่ได้ทักทายลูกช้าง มช. อีกท่านหนึ่ง
  • มีเวลากลับไปให้หายคิดถึงร่มแดนช้างบ้างนะคะ

    

สวัสดีค่ะพี่ดาวลูกไก่

  • มาเยี่ยม ๆ มอง ๆ ด้วยความระลึกถึงค่ะ 
  • อย่าว่าแต่คนอยู่ในห้องสมุดเลยค่ะ คนไม่มีรากซื้อหนังสือที่คิดว่าชอบและดี เกือบทุกเดือน ยังอ่านไม่ทัน บางเล่มผ่านไป 3 ปียังไม่ได้อ่าน แล้วยังไปซื้อมาใหม่อีกเล่ม ก้อ..เล่มเดิม...ฮา...
  • มาชวนไปอ่าน เรื่อง ครูดี ๆ ค่ะ

 

ขอบคุณค่ะคุณน้องคนไม่มีราก
คิดถึงเหมือนกันค่ะ

ดร. Lin Hui  เขียนเรื่องสนุกค่ะ ยังไม่เคยทิ้งรอยซักที ไม่กล้าด้วยค่ะ ภาพเธอดูสง่างามมากเลยค่ะ แต่เขียนประวัติน่ารักชมัด (ความจริงเป็นคนกลัว ดร. ค่ะ มี ดร.เยอะมากที่ g2k  ส่วน ว่าที่ ยังพอใจกล้ามั่ง อิอิ)

พี่ดาวลูกไก่คะ

  • อ. Lin Hui ท่านน่ารักมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ค่ะใจดีที่หนึ่งเลย
  • ตอนแรกคนไม่มีรากก็คิดว่าท่านดุค่ะ ที่ไหนได้ล่ะคะ ตลก...ซ้า...ขำกลิ้งเลยค่ะ
  • ท่านมีต้นไม้ ดอกไม้สวย ๆ เยอะด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณน้อง

จะต้องหาโอกาสไปสวัสดีแนะนำตัวแน่ๆ ค่ะ เผื่อจะได้พี่สาวเก่งๆ เพิ่มขึ้น...(เผื่อจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ตัดสินใจเรียนต่ออีก...)

ดีจ้าพี่สาวคนสวย

อยากขอย้ายไปอยู่ห้องสมุดบ้าง...แต่เขาไม่ให้ไปอะค่ะ....ฮือๆๆ

ไม่เช่นนั้นคงจะนั่งอ่านแบบหนำใจไปเลย...เย้เย้

คิดถึงๆๆ....  เมื่อไหร่ไปฉลอง ตัดเค้กย้อนหลังกันดีคะ (น้อยก้อยอยากไปมาก...วันศุกร์นี้เป็นไงคะ...)

สวัสดีค่ะน้องอิง

พักเที่ยง ทานข้าวใต้ถุนอาคาร แล้วก็เหลือเวลาตั้ง 40 นาทีในห้องสมุด ม. พายัพ ได้แล้วค่ะ อีก 5 นาทีเก็บไว้เดินกลับไปทำงานไง...

ไปทานเค้กซีเคร็ดเรซิพีกัน...มั้ย...(เค้กชิ้นใหญ่ๆ) ^^ อ้วนดีนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท