๒๓๗.ทฤษฏีที่ไม่มีในตำรา


          กระแสของการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ทำให้ฉันต้องเล่าความจริงที่เป็นเรื่องของเด็ก  หน้าที่ของครูนอกจากจะรับผิดชอบต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้กลุ่มสาระต่าง ๆแล้ว ครูต้องรับผิดชอบต่อการอบรมสั่งสอนและการติดตามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น...จนสุดความสามารถ 

         ครูทุกคนของโรงเรียนวิทยสัมพันธ์  จะรู้จักนักเรียนทุกคนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จำนวนเกือบ ๓๐๐  คน รู้จักชื่อเล่น ชื่อจริง รู้จักพ่อแม่ตลอดไปจนถึงญาติพี่น้อง ปู่ย่าตายาย  สำหรับครูประจำชั้นและครูที่รับผิดชอบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน  จะต้องรู้จักนักเรียนอย่างถั่วถึงเป็นกรณีพิเศษ  ทั้งในด้านการเรียน พฤติกรรม อาการเจ็บป่วย ความขาดแคลนและวิธีการแก้ไข 

        นักเรียนแต่ละชั้นจำนวน ๒๕-๓๕ คน เมื่อถามว่า "ใครมีพ่อแม่ครบถ้วนบริบูรณ์ไม่หย่าร้างบ้าง"  จะพบว่ามีคนยกมือสูงสุดห้องละ ๑๒ คนและต่ำสุด ๔ คน   ในจำนวนนี้เมื่อถามต่อไปว่า "ใครอยู่กับพ่อแม่บ้าง" จำนวนการยกมือก็จะลดลง  หรือไม่บางห้องก็จะไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ได้อยู่กับพ่อแม่  เพราะพ่อแม่แม้ว่าไม่หย่าร้างก็ตาม  จะทอดทิ้งให้เด็กอยู่กับญาติ ผู้เฒ่า ผู้แก่ และไปทำงานที่เมืองใหญ่

      นอกจากนั้นพ่อแม่หย่าร้าง  แต่งงานมีครอบครัวใหม่กันคนละหลาย ๆครั้ง เช่นครอบครัวของแป๋ม มีพี่น้อง ๔ คน  แต่ละคนมีนามสกุลต่างกันและอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน พ่อเลี้ยงคนล่าสุดเสียชีวิตด้วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง แม่ไปทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้าง  นาน ๆกลับมาเยี่ยม  แป๋มต้องอยู่ดูแลน้อง 

     บางคนเล่าให้ครูฟังว่า.."ที่ลาโรงเรียนไปบ่อย ๆนั้น  เพราะไปเยี่ยมแม่ที่เรือนจำ  เพราะต้องคดีค้ายาเสพติด"  บางคนบอกว่า.."คุณครูขาแม่ของหนูมีพ่อใหม่อีกแล้วค่ะ"บางคนบอกว่า "คุณครูขาชาวบ้านเขาเล่าว่าแม่ของหนูมีชู้ค่ะ"บางคนบอกว่า"คุณครูขาชาวบ้านเขาเล่าว่าพ่อของหนูไม่กลับมาแล้วเพราะมีภรรยาใหม่" มากเกินกว่าที่จะเล่าลงในบันทึกฉบับนี้ 

     คุณยายท่านหนึ่งมีหลานชายอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มาบอกกับคุณครูว่า"ฉันไม่รู้จะสอนให้หลานของฉันอ่านได้อย่างไร  เพราะฉันเองอ่านหนังสือไม่ออก"  แต่คุณครูประจำชั้นน่ารักมาก ให้การบ้านเด็กกลับไปสอนคุณยายเขียนสะกดชื่อ นามสกุล ให้ได้  วันหนึ่งเด็กกลับมาบอกครูว่า "คุณครูครับยายของผมมีปัญหาทางการเรียนรู้ครับ  สอนเท่าไรก็ไม่จำ"

        เด็กทุกคนเป็นความหวังของครอบครัว  ในการช่วยกันทำมาหากิน วันหยุดๆปรับจ้างถางป่า ขุดดิน ตัดไม้  โรงเรียนปิดไปรับจ้างแบกของ ก่อสร้าง ขนอิฐแบกปูน  เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช่จ่ายเพื่อความเป็นอยู่  ระยะหลังมีผู้ใจบุญใจกุศลส่งเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ไปช่วยเหลือ ..สามารถเรียกรอยยิ้มของเด็กได้บ้าง  แทนการแบกโลกไว้ตั้งแต่วัยยังเด็กนัก

      ครั้งหนึ่งมีโอกาสพานักเรียน  ไปเรียนรู้และรับรู้สังคมภายนอกจำนวน ๖ คน แต่ละคนมีปัญหาสุมดังนี้  ครอบครัวยากจนหาเช้าและไม่พอกินไปถึงค่ำ บ้านอยู่กระท่อมมุงแฝก/อยู่กับยายและยายเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน พ่อหายสาปสูญ แม่มีครอบครัวใหม่/พ่อไปทำงานแล้วไม่กลับทอดทิ้งให้เธออยู่กับยายที่ร่างกายไม่แข็งแรงและยากจน/อยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงรังเกียจลูกติด/พ่อไปทำงานและถูกให้ออกจากงานไม่ติดต่อกลับมา เธออยู่กับญาติ

      ท่ามกลางสังคมของผู้ใหญ่ที่แปลกหน้าและเป็นเวทีแห่งแรกที่ได้ออกไปเปิดหู เปิดตา ทำให้ท่านผู้ใหญ่ที่ได้พบเห็นตั้งข้อสังเกตว่า "เด็กของครูคิมทำไมเงียบจัง ไม่ร่าเริงเบิกบานเหมือนเด็กโดยทั่วไป"  แม้ว่าฉันได้เล่าที่มาของปัญหาและสาเหตของเด็กแต่ละคนให้ท่านทราบ..แต่ท่านก็ย้ำว่า "ไม่จริงนะ  ต้องยิ้มได้สิ  ต้องอยู่ตามสภาพธรรมชาติของวัยเด็กสิ ต้องอยู่กับปัจจุบันให้ได้ ต้องได้ ๆ ๆ ๆ ๆ "

     ฉันเข้าใจเสมอว่าท่านมีข้อเสนอแนะตามทฤษฏีและจิตวิทยาของเด็กตามที่ท่านร่ำเรียนมา ในการวัดพฤติกรรมเด็กของฉัน เพียงแค่มองเห็นด้วยสายตาในชั่วขณะ "ฉันรู้สึกเจ็บลึก ๆ เป็นบาดแผลทางใจมาจนทุกวันนี้"  ตลอดเวลาฉันอยู่กับเด็กของฉันมานานหลายปีโดยทฤษฏีที่ไม่มีในตำรา  และบอกใครไม่ได้

หมายเลขบันทึก: 258612เขียนเมื่อ 1 พฤษภาคม 2009 19:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (53)

สวัสดีครับคุณครูพี่คิม

เฮ้อ...ได้รับรู้เรื่องอย่างนี้แล้วทั้งเศร้าระคนมีความหวังนะครับ :)

เศร้าเพราะได้รู้ว่าเด็กๆลูกหลานของเรายังขาดความรักอยู่มากและต้องต่อสู้กับอะไรๆหลายๆอย่าง รวมทั้งคำถามที่ตอบเองยังไม่ได้

แต่ที่เดย์เห็นเป็นความหวังก็คือ เด็กๆเหล่านี้นะครับ ถ้าเหลือรอดมาได้นะ จะเป็นผู้ใหญ่ที่เจ๋งมากๆแน่เลยครับ เพราะเค้ามีภูมิคุ้มกันที่ดีมากๆจากชีวิตจริง ได้ต่อสู้และผจญภัยมาซะขนาดที่ ถ้าเจิอะไรที่ร้ายแรง เค้าก็ไม่หวั่น เพราะเจ็บกว่านี้ก็เจอมาแล้ว :)

ฝากดูแลเด็กๆด้วยนะครับพี่คิม ดูท่าทางเด็กๆจะสู้น่าดู

บาดลึก เจ็บลึก แต่ขอให้เด็กเหล่านี้เป็นคนมาสมานแผลให้ครูนะครับ ให้เค้ากลับมาบอกเมื่อเติบใหญ่ว่า หนูสู้และรอดเป็นคนดีมาได้เพราะครู ^_^

 

  • แวะมาอ่านวิถีชีวิตครูที่มีความใกล้ชิดเด็กและทั้งครอบครัวเด็ก
  • เป็นกำลังใจให้สู้ๆๆ
  • นับเป็นงานที่หนักและท้าทายมากค่ะสำหรับการเป็นครู
  • ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนพี่ครูคิมนักว่าได้ทำการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลได้เยี่ยมยอดจริงๆ
  • ยิ่งโรงเรียนเล็ก  สังคมเล็ก  การรู้จักเด็ก  สามารถรู้จักได้ถึง พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย  บางทีแค่เอ่ยนามสกุล  ก็รู้จักทั้งตระกูลแล้ว
  • การคัดกรอง  เพื่อส่งเสริมพัฒนา  ช่วยเหลือ  และแก้ไขปัญหา  น่าจะเป็นภาระที่โรงเรียนได้ทำอย่างจริงจังมาแล้ว  เห็นจากเว็บไซต์ของพี่ครูคิมแล้วนับถือและศรัทธาในการดูแลและช่วยเหลือนักเรียน  และเข้าถึงปัญหาแทบจะทุกกลุ่ม
  • แต่บางปัญหา....ที่มีที่มาและสาเหตุอย่างที่พี่ครูคิมว่า...ก็ยากที่คุณครูอย่างเรา...และโรงเรียนจะเข้าไปเยียวยารักษาได้
  • โรคบางโรค  ต้องการรักษาที่สาเหตุ  
  • การส่งต่อ...เป็นทางออกสุดท้าย
  • แต่นั่น...ก็เป็นแค่ทฤษฎี  เช่นเดียวกันเช่นเดียวกันใช่ไหมคะ  พี่ครูคิม
  • เป็นกำลังใจให้ สู้ ๆๆๆ   ต่อไปนะคะ  ยิ้มสู้ค่ะ

              

 

 

การวินิจฉัย หรือ ตัดสิน ของใครคนหนึ่ง ที่ไม่ได้อินในสถานการณ์ หรือไม่ได้อยู่กับปัญหา อาจมองในมาตรฐานของตนเอง ก็เป็นแบบนั้นเองครับครูคิม ..

เมื่อครูรู้ปัญหา ผมคิดว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเยียวยา  พวกเขาได้ดีมากขึ้น การใส่ใจละเอียดอ่อน ใจเชื่อมใจ จะช่วยเด็กๆได้

มีครูแบบครูคิมถือว่าเป็นโชคดีของเด็กๆครับ

-----------------------

ผมเดินทางไปเก็บข้อมูลโรงเรียนประถมศึกษาตามโครงการที่ผมทำอยู่ ปัญหาร่วมก็คือ เด็กขาดความอบอุ่น อันเกิดจากครอบครัวแตกแยก ซึ่งมีผลอย่างมากกับการพัฒนาของตัวเด็กเอง ผมคิดว่าประมาณ ๗๐ เปอร์เซ็นต์เลยนะครับ ในชนบท เราเกิดปัญหาแบบนี้

หากเราไม่มียุทธศาสตร์ ดูแล เด็กๆที่ด้อยโอกาสทางสังคมเหล่านี้ ผมก็คิดว่าในที่สุดเขาก็จะถูกซ้ำเติมอีกมากจากสังคมปรนัย

พี่คิมเหมือนคนเก็บปลาดาว..เก็บได้วันละไม่กี่ตัวตามแรงที่มี โยนลงทะเลไป  อย่างน้อยก็ได้ช่วยเต็มกำลังความสามารถ ผมคิดว่าสิ่งนี้หละครับ คือ "คุณค่า"ที่แท้จริงของคนเป็นครู และเป็นสถาปนิกสังคม

ขอบคุณและให้กำลังใจอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของครูนะครับ

---------------------

ผมซื้อมือถือใหม่แทนเครื่องที่หายแล้วครับ...คนที่โทรมาคนแรก หลังจากไม่มีเบอร์ใครหลงเหลืออยู่คือ ครูคิม ครับ :)

  • ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าได้
  • โดยเฉพาะเด็กๆ คงต้องมีผู้ใหญ่ อย่างเราๆท่านๆร่วมไม้ร่วมมือกันดูแลช่วยเหลือ ..โชคดีค่ะที่มีคุณครูอย่างครูคิมที่คอยใส่ใจเอาใจใส่
  • เป็นกำลังใจให้ทั้งนักเรียนและคุณครูค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครูคิม

ตามมาส่งเสียงบอกว่าห้ามลืม digital divide และ gotoknow forumนะค่ะ

เด็กๆ เกิดความเหลื่อมล้ำทางความรู้เนื่องจากหลากหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยทางครอบครัว

  • ส่งผลให้จิตใจห่อเหี่ยวการเรียนรู้ลดลง
  • ส่งผลให้ขาดโรงเรียนบ่อย
  • ส่งผลให้ต้องทำงานก่อนวัยหมดเวลาศึกษา
  • สิ่งเหล่านี้เป็นต้นเหตุให้เด็กมีความรู้แตกต่าง ไม่เท่าเทียม ก็คือความเหลื่อมล้ำทางความรู้นั่นเอง

 

"ฉันไม่รู้จะสอนให้หลานของฉันอ่านได้อย่างไร  เพราะฉันเองอ่านหนังสือไม่ออก"  แต่คุณครูประจำชั้นน่ารักมาก ให้การบ้านเด็กกลับไปสอนคุณยายเขียนสะกดชื่อ นามสกุล ให้ได้  วันหนึ่งเด็กกลับมาบอกครูว่า "คุณครูครับยายของผมมีปัญหาทางการเรียนรู้ครับ  สอนเท่าไรก็ไม่จำ"   นี่เป็นทั้งปัญหาและวิธีแก้ไขความเหลื่อมล้ำทางความรู้

อย่ากลัวนะค่ะที่จะใช้คำนี้ ใส่เถอะค่ะ ถ้าไม่ใช่สี่จะแจ้งให้ทราบค่ะ ^__^ 

สวัสดีค่ะน้อง. adayday

  • พี่คิมแอบอ่านตั้งแต่น้องเดย์เข้ามาใหม่ ๆ
  • เราสวนทางกันค่ะ  พี่คิมไปบ้านน้องเดย์และน้องเดย์มาบ้านพี่คิม
  • เม้นท์ของน้องเดย์..พี่คิมตื้นตันใจค่ะ  ทำเอาน้ำตาซึมนิด ๆ
  • เด็กจะสู้..สู้ในทางที่ถูกหรือผิด..ละน้องเดย์
  • ก่อนอื่น..พี่คิมต้องสู้ไปพร้อม ๆกับเด็กด้วยค่ะ
  • พี่คิมรับได้กับภาระและปัญหาของเด็กทั้งหมด..แต่พี่คิมรับความไม่เข้าใจของตนเอง  เกี่ยวกับหลักการทฤษฏีในตำราไม่ได้
  • มันจึงเจ็บปวดค่ะ

สวัสดีครับครูคิม

ผมคิดว่าเด็ก ๆ จะต้องรับรู้ความจริง และยอมรับสิ่งเหล่านั้น

เพราะความจริงทำให้เด็กยิ้มได้ กล้าที่อยู่ในสังคมได้

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะน้องมหา เหรียญชัย เหรียญชัย มาวงษ์

  • คงเป็นกรรมของครูบ้านนอกค่ะน้องมหา
  • พี่คิมขอพูดแทนครูทั้งโรงเรียนว่า..พวกเราทำเช่นเดียวกันทั้งโรงเรียนค่ะ
  • วันที่ ๑๒-๑๕ ก็เตรียมกันแล้วค่ะ เพื่อให้เด็กหันมาสนใจการเรียน และมีสมาธิที่จะรับรู้ค่ะ
  • เรายอมเสียเวลาในการเตรียมการก่อนเปิดไปไม่กี่วัน  ดีกว่าเราจะไปมีปัญหาระหว่างที่สอน
  • ขอขอบคุณน้องมหาค่ะ

สวัสดีค่ะน้องอรวรรณ

  • ใช่ค่ะน้อง..นับเป็นงานที่หนักและท้าทายมากค่ะ
  • บางปัญหาเราใช้เวลาศึกษาและแก้กันเป็นปี ๆค่ะ
  • ทฤษฏีที่เราร่ำเรียนมา..ไม่มีความหมายเลยก็มี
  • ต้องอาศัยนอกตำราที่ว่าค่ะ
  • แม้ว่า..การส่งต่อเป็นทางเลือกสุดท้าย..เราเป็นครูมีหรือที่จะไม่คอยรับฟังข่าวคราวว่า..เป็นไปได้แค่ไหน อย่างไร
  • ขอขอบคุณค่ะที่มาให้แนวคิดและเป็นกำลังใจ

สวัสดีค่ะ ครูคิม

จะว่าไปเด็กๆก็ได้เจอโจทย์ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ

เราเป็นครูก็สอนชีวิต โดยให้กำลังใจ ให้ความรักกับเด็กๆ

เด็กได้ฝึกการแก้ปัญหาชีวิตค่ะ

สวัสดีค่ะน้องเอกจตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

การวินิจฉัย หรือ ตัดสิน ของใครคนหนึ่ง ที่ไม่ได้อินในสถานการณ์ หรือไม่ได้อยู่กับปัญหา อาจมองในมาตรฐานของตนเอง ก็เป็นแบบนั้นเองครับครูคิม ..

  • มาตรฐานของคนและบริบทต่างกันค่ะ
  • ตัวพี่คิมก็ต่างกับเด็กมากมาย..แต่อยู่กับเขามานานจึงเข้าใจและพร้อมที่จะค่อย ๆแก้ไข

เมื่อครูรู้ปัญหา ผมคิดว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเยียวยา  พวกเขาได้ดีมากขึ้น การใส่ใจละเอียดอ่อน ใจเชื่อมใจ จะช่วยเด็กๆได้

  • เห็นด้วยและเป็นจริงค่ะ

สวัสดีค่ะน้องพิชชา

  • พี่คิมว่าเด็ก ๆเข้าใจเรื่องชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าได้
  • แต่..จะให้เขาไปร่าเริงยิ้มเบิกบานต่อหน้าสังคมและเวทีแรกที่เขาไปเห็นนั้น..คงยากสักหน่อยค่ะ
  • แต่เมื่อพวกเขาอยู่กับพี่คิม..เขาร่าเริงค่ะ
  • ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

สวัสดีค่ะน้องสี่ซี่

พี่คิมขา

เขาเม้นกันย๊าวยาวค่ะ

พอลล่าไม่รู้จะเม้นไรดี

บอกว่าคิดถึงนะคะ อิอิ

ฝันดีค่ะ

สวัสดีค่ะน้องชายวัชรา ทองหยอด

  • ถูกต้องแล้วค่ะว่า..เด็ก ๆ จะต้องรับรู้ความจริง และยอมรับสิ่งเหล่านั้น
  • เพราะความจริงทำให้เด็กยิ้มได้ กล้าที่อยู่ในสังคมได้
  • เรื่องนี้เด็ก ๆเขาเข้าใจค่ะ
  • แต่..เขาเป็นเด็กบ้านนอก  ยังไม่เคยพบกับสังคมภายนอก
  • ก็อาจไม่กล้ายิ้มแย้ม และตื่นสนามอย่างมาก
  • เมื่อพวกเขาอยู่โรงเรียนเขาร่าเริงค่ะ
  • กรณีที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ตบตีกัน บ้านไม่มีข้าวกิน..ก็คงยิ้มไม่ออกค่ะ
  • เด็กบางคนคิดในชั่วโมงท้ายว่า..วันนี้เขาจะออกไปหาอะไรมาให้ครอบครัวเขากิน
  • ขอขอบคุณในการแสดงความคิดเห็นค่ะ
  • สภาพเด็กคล้ายกันมากครับ
  • เปอร์เซนต์ครอบครัวหย่าร้างสูง อยู่กับปู่ย่าตายาย..บางคนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ตนเอง
  • วันหยุดต้องออกไปรับจ้างทำงาน หาเงินมาใช้ ช่วยเหลือครอบครัว
  • ผมเคยเถียงกับ สมศ.ครับ เพราะเขาบอกว่า เด็กโรงเรียนผมไม่รักการทำงาน ไม่รักได้ไง! เสาร์-อาทิตย์ ปิดเทอม ทำงานรับจ้างหาเงินกันแทบทั้งนั้น
  • เป็นกำลังใจให้ครูคิมครับ

สวัสดีค่ะน้อง berger0123

  • พี่คิมจะไม่ยอมให้เด็กของพี่คิมเลือกแก้เจอโจทย์ชีวิตด้วยเลือกเองหรอกนะคะ
  • พี่คิม..ขอเป็นส่วนร่วมในการแก้โจทย์ชีวิตของเขาค่ะ
  • และจะพยายามให้เขาได้ฝึกการแก้ปัญหาชีวิตค่ะ
  • ขอขอบคุณในการแสดงความคิดเห็นและกำลังใจค่ะ
  • ทำให้มีแรงที่จะสู้อีกเยอะเลยนะคะ

สวัสดีค่ะน้อง♥.paula ที่ปรึกษาตัวน้อย✿

  • ขอขอบคุณที่มาอ่าน มาเยี่ยม ก็ดีใจมากแล้วนะคะ
  • และทำให้มีกำลังใจค่ะ
  • คิดถึงน้องพอลล่าเช่นกัน

สวัสดีค่ะคุณครู ธนิตย์ สุวรรณเจริญ

  • คนที่เขาไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเด็ก และต่างฐานะกัน ไม่เคยรู้บริบทและสภาพปัญหา ก็ยากที่เขาจะเข้าใจพวกเรานะคะ
  • ถ้าเป็นคนไม่มีหัวจิตหัวใจ..ก็ไปอย่าง..ปล่อยตามเวรตามกรรม ไม่ต้องมาคิดภาระปัญหาที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ
  • พี่แค่เพียงรับรู้ปัญหา..พี่ก็ยิ้มไม่ออกเช่นกันนะคะครู
  • เป็นกำลังใจให้ครูบ้านกร่าง..มัธยมเช่นกันค่ะ
  • ขอขอบคุณที่มาแสดงความคิดเห็น

สวัสดีค่ะน้องสี่ซี่

สวัสดีครับ พี่คุณครูคิม

@ ทึ่ง..ที่ชื่อบันทึกแล้ว "ทฤษฏีที่ไม่มีในตำรา"

@ ลองอ่านแล้วยิ่งพบว่ามากกว่าทฤษฎีเสียอีก

@ เพราะความใกล้ชิดสนิทสนมกับเด็ก สังคม โรงเรียน จึงรู้สภาพปัญหาที่แท้จริง แอบเห็นโจทย์วิจัยลางๆ

@ ส่วนแนวทางในการแก้ปํญหานั้นคงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย

@ "ครูที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์" นอกเหนือจากงานสอน

@ ขอเป็นกำลังใจครับ

สวัสดีค่ะป้าคิม

ป้ากลับมาหรือยังคะ  วันนี้หนูเตรียมตัวจะไปสมัครสอบบรรจุค่ะ

มาขอพรจากป้าคิมก่อน ขอให้ป้ารักษาสุขภาพและดูแลตัวเองนะคะ

อีกไม่กี่วันก็เจอกันที่โรงเรียนแล้วนะคะ

 

อ่านแล้ว ก็สะท้อนใจค่ะ พี่เคยไปเยี่ยมโรงเรียนแห่งหนึ่ง ไปสัมภาษณ์คุณครูด้วย เด็กมีปัญหาครอบครัวกันเยอะ เช่นพ่อแม่เลิกกัน พ่อแม่ไปทำงานกรุงเทพฯ เด็กต้องอยู่กับย่า ยาย เป็นต้น เรื่องแบบนี้ มีอยู่ทั่วไป ในสังคมไทยและสังคมโลกเลยค่ะ   นี่คือโรงเรียนที่พี่ไปเยี่ยมเด็กๆค่ะ

  • อ่าน..ความจริง..ของอาจารย์แล้ว อึ้งไปพักใหญ่เลย ไม่คิดว่าสังคมบ้านเราเป็นถึงขนาดนี้แล้วหรือ
  • ผมเอง เพิ่งเจอเด็กอายุสิบเอ็ด เป็นลูกชายคนเดียวที่ตามแม่ซึ่งเป็นคนไข้ระยะสุดท้ายมารับการรักษาที่โรงพยาบาล เขาอยู่กันสองคนแม่ลูก
  • ผมถามเขาว่า ถ้าแม่ไม่อยู่ น้องจะไปอยู่ไหน ระหว่างไปอยู่กับป้าซึ่งไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน กับ บวชเณร  เขาตอบว่า อยากไปอยู่กับป้า
  • หลังจากแม่พาไปหาป้า แล้วรู้ว่าป้ารับเลี้ยงไม่ไหว คำถามคล้ายๆเดิม ถ้าแม่ไม่อยู่ น้องจะไปอยู่ไหน ระหว่างไปอยู่กับพ่อซึ่งมีภรรยาใหม่ กับ บวชเณร  คำตอบ คือ บวชเณร
  • สวัสดีครับครูคิม
  • ประเด็นที่ครูคิมยกขึ้นมามันเป็นวิกฤตของบ้านเรา ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นผลพวงของการพัฒนาประเทศ กระแสของการพัฒนากระทบกระแทกกับทุกคนไม่เว้น นาย -บ่าว เจ้า - ข้า ยาจก -เศรษฐี ผู้ดี - ไพร่
  • แต่คน หรือกลุ่มคนที่ได้รับหายนะภัยนี้ ในลักษณะที่ฉับพลัน เจ็บป่วย เป็นตายให้เห็นต่อหน้า คือพวกที่เป็น บ่าว ข้า ยาจก ไพร่
  • ในกระแสนี้ทุกคนมีส่วนเป็นผู้กระทำ และถูกกระทำ ในระดับต่าง ๆกัน ซึ่งผมเชื่อว่าโดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้สึกตัว ที่น่าเป็นห่วงคือหลายคนคิดว่าตัวเองเป็นพยัคฆ์ โดยที่ไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าตัวเองนั้นเป็นเหยื่อคำใหญ่ 
  • การแก้ปัญหาเรื่องนี้ ผมคิดว่า ในทุกระดับของชุมชน ต้องการการหันหน้าเข้าหากันของผู้ที่ตื่นก่อน  คนตื่นก่อน ผมหมายถึงคนที่รู้สึกกับปรากฏการณ์นี้ที่อยู่ข้างหน้าตน และมีจิตที่เป็นกุศลที่อยากจะแก้  อย่างครูคิม นี่แหละ
  • ผมเห็นว่า ปัจจุบัน ในชุมชนต่าง ๆมีคนที่ตื่นอยู่หลายคนขึ้นแล้ว แต่ยังขาดการผนึกเข้าหากัน  การต่าง คนต่างทำ ทำให้ไม่มีพลังพอ และทำให้มรรควิธีขาดประสิทธิผล
  • กรณีของครูคิม เป็นเรื่องสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด ถ้าจะไม่ให้เกิดสภาพอย่างนี้  ก็จะต้องทำให้คนสามารถอยู่ กิน อยู่ในชุมชนของเขาได้อย่างมีความสุข
  • เรื่องอย่างนี้ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม ชุมชน รัฐบาล นัการเมือง และรัฐ  มันต้องเป็นวาระในทุกระดับที่เราจะต้องถกเถียง หาข้อยุติร่วมกัน
  • วิถีเศรษฐกิจพอเพียง ที่ในหลวงพระราชทานให้นั้น ก็นับว่าเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่จะแก้ไขสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดได้  แต่ดูเหมือนว่า ทุกฝ่ายยังไม่จริงจังต่อการน้อมนำมาเป็นหนทางแห่งการอยู่ร่วมกัน
  • ต่อไป gotoknow อาจหยิบประเด็นระดับรากเหง้าอย่างนี้มาหาทางออกบ้างก็ได้ หรือ ก็ดี
  • ขอให้ครูคิมสามารถบรรเทาเบาบางทุกข์ของเด็ก ๆลงไปได้ดังใจปรารถนา ผมขออนุโมทนาจิตและกิจอันเป็นกุศลของครูคิมและเพื่อนครูของโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ด้วย

                                                                     paaoobtong
                                                                       2/05/52
                                                                          9:09

  • สวัสดีครับครูคิม
  • ประเด็นที่ครูคิมยกขึ้นมามันเป็นวิกฤตของบ้านเรา ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นผลพวงของการพัฒนาประเทศ กระแสของการพัฒนากระทบกระแทกกับทุกคนไม่เว้น นาย -บ่าว เจ้า - ข้า ยาจก -เศรษฐี ผู้ดี - ไพร่
  • แต่คน หรือกลุ่มคนที่ได้รับหายนะภัยนี้ ในลักษณะที่ฉับพลัน เจ็บป่วย เป็นตายให้เห็นต่อหน้า คือพวกที่เป็น บ่าว ข้า ยาจก ไพร่
  • ในกระแสนี้ทุกคนมีส่วนเป็นผู้กระทำ และถูกกระทำ ในระดับต่าง ๆกัน ซึ่งผมเชื่อว่าโดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้สึกตัว ที่น่าเป็นห่วงคือหลายคนคิดว่าตัวเองเป็นพยัคฆ์ โดยที่ไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าตัวเองนั้นเป็นเหยื่อคำใหญ่ 
  • การแก้ปัญหาเรื่องนี้ ผมคิดว่า ในทุกระดับของชุมชน ต้องการการหันหน้าเข้าหากันของผู้ที่ตื่นก่อน  คนตื่นก่อน ผมหมายถึงคนที่รู้สึกกับปรากฏการณ์นี้ที่อยู่ข้างหน้าตน และมีจิตที่เป็นกุศลที่อยากจะแก้  อย่างครูคิม นี่แหละ
  • ผมเห็นว่า ปัจจุบัน ในชุมชนต่าง ๆมีคนที่ตื่นอยู่หลายคนขึ้นแล้ว แต่ยังขาดการผนึกเข้าหากัน  การต่าง คนต่างทำ ทำให้ไม่มีพลังพอ และทำให้มรรควิธีขาดประสิทธิผล
  • กรณีของครูคิม เป็นเรื่องสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด ถ้าจะไม่ให้เกิดสภาพอย่างนี้  ก็จะต้องทำให้คนสามารถอยู่ กิน อยู่ในชุมชนของเขาได้อย่างมีความสุข
  • เรื่องอย่างนี้ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม ชุมชน รัฐบาล นัการเมือง และรัฐ  มันต้องเป็นวาระในทุกระดับที่เราจะต้องถกเถียง หาข้อยุติร่วมกัน
  • วิถีเศรษฐกิจพอเพียง ที่ในหลวงพระราชทานให้นั้น ก็นับว่าเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่จะแก้ไขสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดได้  แต่ดูเหมือนว่า ทุกฝ่ายยังไม่จริงจังต่อการน้อมนำมาเป็นหนทางแห่งการอยู่ร่วมกัน
  • ต่อไป gotoknow อาจหยิบประเด็นระดับรากเหง้าอย่างนี้มาหาทางออกบ้างก็ได้ หรือ ก็ดี
  • ขอให้ครูคิมสามารถบรรเทาเบาบางทุกข์ของเด็ก ๆลงไปได้ดังใจปรารถนา ผมขออนุโมทนาจิตและกิจอันเป็นกุศลของครูคิมและเพื่อนครูของโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ด้วย

                                                                     paaoobtong
                                                                       2/05/52
                                                                          9:09

พี่คิมขา....

       อ่านแล้ว ถอนหายใจค่ะ

       ประเด็นเหล่านี้(เรื่องใหญ่มากในโรงเรียน)เป็นเรื่องที่พวกหนูมักจะคุยกันในหมู่เพื่อนครูตลอด  ประมาณว่าจับกลุ่มกันเมื่อไรจะต้องมีเรืองนี้แทรกทุกครั้ง  เฮ่อ...อีกที

       พูดอะไรไม่ออกเลยค่ะ 

       ให้กำลังใจกันและกันนะคะ

       สู้ๆ สร้างพลังกายและใจเตรียมรับเปิดเทอมค่ะ ^_^

มิติในการมองมีหลากหลายมุม

จนบางครั้งเขียนออกมาเป็นตำราไม่ไหว

แต่มีหลายคนมองเห็น...เช่นพี่ครูคิม

สบายดีนะคะ

การเรียนรู้...เกิดได้ทุกที่  ทุกเวลา  ในตำราอาจไม่มีค่ะ

ขอบคุณพี่ครูคิมที่นำสิ่งดีๆมาให้เรียนรู้เสมอๆนะคะ

มีความสุข ดูแลตัวเองนะคะ

นำเพลงมาฝากครูคิม ด้วยครับ

เพลงนี้ผมชอบมากครับ

"รู้สึกสบายดี"

ข้อแม้มีอยู่ว่า เวลาเปิดฟังเพลงนี้ ต้องยิ้มไปด้วยนะครับ :)

สวัสดีค่ะพี่คิม

อ่านแล้วไม่ทราบจะยิ้มหรือ...เศร้าดีค่ะ...

"คุณครูครับยายของผมมีปัญหาทางการเรียนรู้ครับ  สอนเท่าไรก็ไม่จำ"

พี่คิมสบายดีนะคะ

คิดถึงค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วรู้สึกสงสารเด็กๆ ไม่รู้ว่าโชคชะตากลั่นแกล้ง หรือทดสอบความอดทนของเด็กเหล่านั้น ปัญหา Digital Divide เป็นปัญหาใหญ่ที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างยิ่งค่ะ เป็นกำลังใจให้ครูคิมเสมอค่ะ

เค้าเรียกว่า.."วิชาชีพ"อยู่ในสายเลือดเลยใช่มั๊ยคะ..พี่คิม..

น่าชื่นใจจังค่ะ..

เห็นใจเด็กๆนะคะ..เค้ายังเด็กนัก..เล็กเกินกว่าที่จะรับรู้ปัญหาอย่างนี้และรับกบมันไหว..

สิ่งที่เราต้องให้..คือ..ความรักและความเข้าใจ...และหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นค่ะ..

เป็นกำลังใจให้นะคะ..

ขอบคุณมากค่ะ...พี่คิม

 

สวัสดีค่ะ

* มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ คุณครูครับยายของผมมีปัญหาทางการเรียนรู้ครับ  สอนเท่าไรก็ไม่จำ"

* สุขกายสุขใจนะคะ

สวัสดีค่ะพี่คิม

***ในเมืองใหญ่ก็มีปัญหาที่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ผู้ปกครองนักเรียนหลายคนยังเลี้ยงลูกแบบเผด็จการ เมื่อถูกต่อต้านก็จัดการกับปัญหาด้วยคำพูดที่หยาบคายแลการกระทำที่รุนแรง...สงสารเด็กๆจัง

  • สวัสดีค่ะ
  • คิดถึงนะคะ
  • ช่วงนี้งานยุ่งมากมากเลยค่ะ

Glitterเพื่อน,มิตรภาพ

สวัสดีค่ะน้องไทบ้านผำ

  • พี่คิมไปธุระข้านอกมาตลอดทั้งวันค่ะ
  • เวลานี้ทำกับข้าวแล้ว..ต้มยำปลาช่อนน้ำใสค่ะ
  • เป็นเวลาไปออกกำลังกาย..แต่ฝนตก
  • เปลี่ยนมาตอบเม้นท์แทนค่ะ
  • ขอขอบคุณที่มห้กำลังใจพี่คิม  ดีใจและมีแรงขึ้นอีกมากมายค่ะ
  • ครูอย่างพี่คิม..นอกจากไม่รู้ทฤษฏีแล้ว..ยังไร้ทฤษฏีอีก..
  • เฮ้อ...จะไหวไหมเนี่ย

สวัสดีค่ะน้อง ยอดฉัตร

  • ขอส่งแรงใจ
  • และช่วยภาวนาให้สอบได้นะคะ
  • รออยู่นะ..มาทานข้าวเย็นด้วยกัน
  • ต้มยำปลาช่อนและน้ำพริกแมงดา  ผักบุ้งลวกค่ะ

สวัสดีค่ะคุณSasinand

  • ใช่ค่ะ.. เด็กมีปัญหาครอบครัวกันเยอะ เช่นพ่อแม่เลิกกัน พ่อแม่ไปทำงานกรุงเทพฯ เด็กต้องอยู่กับย่า ยาย เป็นต้น เรื่องแบบนี้ มีอยู่ทั่วไป ในสังคมไทยและสังคมโลกเลยค่ะ  
  • เข้าไปเยี่ยมเด็ก ๆมาแล้วค่ะ  ไม่ต่างกันเลย
  • ขอขอบพระคุณที่มาเยี่ยมให้กำลังใจค่ะ 

สวัสดีค่ะคุณหมอ นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี

  • เด็กสับสนมากนะคะ  สงสารจังค่ะ
  • หวังว่าคงจะมารับฟังปัญหาที่เล่าอีกต่อ ๆไปนะคะ
  • มีมากมายหลายกรณีค่ะ
  • พวกเรา..มีความทุกข์เล้กน้อยยังแทบจะรับไม่ได้
  • พวกเขาเลือกไม่ได้แล้ว..ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกอีกนะคะ
  • ขอขอบพระคุณที่มาช่วยรองรับความรู้สึกค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์paaoobtong

  • ประเด็นที่ครูคิมยกขึ้นมามันเป็นวิกฤตของบ้านเรา ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นผลพวงของการพัฒนาประเทศ กระแสของการพัฒนากระทบกระแทกกับทุกคนไม่เว้น นาย -บ่าว เจ้า - ข้า ยาจก -เศรษฐี ผู้ดี - ไพร่
  • แต่คน หรือกลุ่มคนที่ได้รับหายนะภัยนี้ ในลักษณะที่ฉับพลัน เจ็บป่วย เป็นตายให้เห็นต่อหน้า คือพวกที่เป็น บ่าว ข้า ยาจก ไพร่
  • ใช่ค่ะอาจารย์..เพราะคนจนไม่มีสิทธิ์ค่ะ
  • ในกระแสนี้ทุกคนมีส่วนเป็นผู้กระทำ และถูกกระทำ ในระดับต่าง ๆกัน ซึ่งผมเชื่อว่าโดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้สึกตัว ที่น่าเป็นห่วงคือหลายคนคิดว่าตัวเองเป็นพยัคฆ์ โดยที่ไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าตัวเองนั้นเป็นเหยื่อคำใหญ่ 
  • แล้วใครจะยุติการกระทำเหล่านี้ได้คะ 
  • การแก้ปัญหาเรื่องนี้ ผมคิดว่า ในทุกระดับของชุมชน ต้องการการหันหน้าเข้าหากันของผู้ที่ตื่นก่อน  คนตื่นก่อน ผมหมายถึงคนที่รู้สึกกับปรากฏการณ์นี้ที่อยู่ข้างหน้าตน และมีจิตที่เป็นกุศลที่อยากจะแก้  อย่างครูคิม นี่แหละ
  • ขอขอบพระคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
  • ผมเห็นว่า ปัจจุบัน ในชุมชนต่าง ๆมีคนที่ตื่นอยู่หลายคนขึ้นแล้ว แต่ยังขาดการผนึกเข้าหากัน  การต่าง คนต่างทำ ทำให้ไม่มีพลังพอ และทำให้มรรควิธีขาดประสิทธิผล
  • คนดีขาดกำลังใจค่ะ
  • กรณีของครูคิม เป็นเรื่องสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด ถ้าจะไม่ให้เกิดสภาพอย่างนี้  ก็จะต้องทำให้คนสามารถอยู่ กิน อยู่ในชุมชนของเขาได้อย่างมีความสุข
  • ต้องการคนชี้แนะและความร่วมมือ ร่วมคิด ร่วมทำค่ะ
  • เรื่องอย่างนี้ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม ชุมชน รัฐบาล นัการเมือง และรัฐ  มันต้องเป็นวาระในทุกระดับที่เราจะต้องถกเถียง หาข้อยุติร่วมกัน
  • มีคนคิดมากมาย..แต่ไม่มีคนทำค่ะ
  • วิถีเศรษฐกิจพอเพียง ที่ในหลวงพระราชทานให้นั้น ก็นับว่าเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่จะแก้ไขสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดได้  แต่ดูเหมือนว่า ทุกฝ่ายยังไม่จริงจังต่อการน้อมนำมาเป็นหนทางแห่งการอยู่ร่วมกัน
  • เมื่อเกิดกับเด็ก ก็พอมีความหวังในข้างหน้าค่ะ
  • ต่อไป gotoknow อาจหยิบประเด็นระดับรากเหง้าอย่างนี้มาหาทางออกบ้างก็ได้ หรือ ก็ดี
  • ขอให้ครูคิมสามารถบรรเทาเบาบางทุกข์ของเด็ก ๆลงไปได้ดังใจปรารถนา ผมขออนุโมทนาจิตและกิจอันเป็นกุศลของครูคิมและเพื่อนครูของโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ด้วย
  • กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะอาจารย์

สวัสดีค่ะน้องครูตุ๊กแก…ตัวดำๆ…

  • ยังค่ะน้อง..อย่าเพิ่งถอนหายใจนะคะ
  • เรามาช่วยกัน ร่วมคิด ร่วมทำ
  • และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ช่วยกันแก้ปัญหานะคะเด้ก..เขาหวังมากอย่างยิ่งที่..หวังว่าครูคือที่พึ่งพิงอันอบอุ่นค่ะ
  • เหมือนที่เล่าให้ฟังทางโทรศัพท์ค่ะ
  • พี่เป็นแรงใจให้น้องตุ๊กนะคะ

สวัสดีค่ะน้องการ์ตูนสิริพร ทิวะสิงห์ tuk-a-toon

  • ขอขอบคุณค่ะ
  • ความรู้สึกที่ดีต่อกัน  เป็นกำลังใจซึ่งกันและกันนะคะ
  • ยังมีเรื่องจะเล่าต่อนะคะ 
  • น้องตูนอย่าลืมมาติดตามอ่านนะคะ

สวัสดีค่ะน้อง@..สายธาร..@

  • ตำรา..ที่บอกว่าให้เด็ก ๆ ได้แสดงออกทางพฤติกรรมอย่างวัยของเด็ก หัวเราะ ร่าเริง
  • แต่..พี่คิมต้องการให้เขาแกร่ง..และค่อย ๆยิ้มมาจากภายในค่ะ
  • มันต้องใช้เวลา...ใช่ไหมคะ
  • ขอขอบคุณที่มาให้กำลังใจเสมอนะคะ

สวัสดีค่ะน้องเอกจตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

  • ยิ้มทุกวันค่ะ
  • ตอนนี้ฟังเพลงไปด้วย
  • มีความสุขดีอีกแบบค่ะ..ฝนตกปรอย ๆอากาศเย็นสบาย
  • วันนี้มีอีกปัญหานำเสนอค่ะ
  • รอติดตามอ่าน...ตอนต่อไป

สวัสดีค่ะน้อง คนไม่มีราก

  • น้องคนนี้..เป็นเด็กเรียนช้าค่ะ  และไม่เคยรู้ว่าพ่อแม่ของตนเองคือใคร
  • อยู่กับยายที่ไม่รู้หนังสือ
  • แม่ไปทำงานที่กรุงเทพ แล้วหายไปเลย ไม่ส่งข่าวค่ะ
  • ครูมักจะบอกเด็ก ๆว่า..ใครมีปัญหาอย่างไรนั่นเอง
  • ทำให้เด็ก ๆจำคำพูดของครูไปเลียนแบบ

สวัสดีค่ะน้อง อาร์ม

  • ขอขอบคุณน้องอาร์มค่ะ
  • พี่คิมไม่มั่นใจว่าอันไหน..จป็นปัญหา Digital Divide เป็นปัญหาใหญ่ที่ควรได้รับการแก้ไข
  • น้องสี่เข้ามาช่วยแนะนำให้เข้าใจไปทีละน้อย ๆค่ะ

สวัสดีค่ะน้องคุณครูแอ๊ว

  • จริงค่ะน้อง...เค้ายังเด็กนัก..เล็กเกินกว่าที่จะรับรู้ปัญหาอย่างนี้และรับกับมันไหว..
  • สิ่งที่เราต้องให้..คือ..ความรักและความเข้าใจ...และหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นค่ะ..
  • และที่สำคัญ..แต่ละคนแตกต่างกันไป
  • ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

สวัสดีค่ะน้องสาวนาง พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง)

  • เด็กคนนี้อยู่ ป.๒ ค่ะ
  • คงจะจำคำพูดของครูว่าเด็ก ๆ มากกว่านะคะ
  • เขายังไม่เคยรู้ว่าพ่อ แม่ของเขาคือใครกัน
  • ร่างกายก็แคระแกรน ไม้แข็งแรงด้วยค่ะ
  • ขอขอบคุณที่มาทักทายให้กำลังใจค่ะ

สวัสดีค่ะน้องกิติยา เตชะวรรณวุฒิ

  • ***ในเมืองใหญ่ก็มีปัญหาที่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ผู้ปกครองนักเรียนหลายคนยังเลี้ยงลูกแบบเผด็จการ เมื่อถูกต่อต้านก็จัดการกับปัญหาด้วยคำพูดที่หยาบคายแลการกระทำที่รุนแรง...สงสารเด็กๆจัง
  • ปัญหาที่พวกเราไม่ได้ก่อ
  • แต่ก็ต้องรับได้ รับที่จะช่วยแก้ไข
  • แต่จะได้..แค่ไหนนั้น..ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเรา..ใข่ไหมคะ

สวัสดีค่ะน้อง KRUPOM

  • ไม่ทราบว่าพาตุ๊กตาหมีตัวนี้..
  • ไปทัวร์ทั่วบล้อกหรือยังคะ
  • ขอขอบคุณสำหรับมาส่งกำลังใจเสมอ ๆนะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท