การมองโลกและชีวิต


การมองโลกและชีวิตของคนเรานั้นมองได้ 3 แง่ด้วยกันคือ มองโลกในแง่ดี มองโลกในแง่ร้าย และมองโลกตามความเป็นจริง

 

    

             ความวุ่นวายของคน ความเปลี่ยนแปลงของสังคม  ความไม่แน่นอนของชีวิต ปัญหาเหล่านี้อาจทำให้ การดำเนินชีวิตของคนเราได้รับความกระทบกระเทือน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เมื่อเราพบสภาพเช่นนนี้ ก็อย่าเพิ่งประณามโลกว่า โหดร้ายทารุณ เพราะความจริงเรื่องของโลกเป็นอย่างนี้มานานแล้วโบราณท่านเรียนว่าโลกธรรม และคนเราก็จะต้องเป็นอย่างนี้ต่อไปอีก ไม่มีที่สิ้นสุด

                   ดังนั้น คนเราเมื่อถึงคราวประสบปัญหา  ความผันแปรของชีวิต ผิดหวัง หรือไม่ได้เลื่อนขั้นก็ขอให้เราค่อยๆ ใช้สติปัญญาแก้ไขด้วยความสุขุมรอบคอบ พิจารณาถึงความจริงที่ว่า ที่มันเป็นเช่นนี้เพราะอะไรเพราะเรายังดีไม่พอหรือเพราะเจ้านายตามันไม่ถึง  และจำไว้ว่ามิใช่เราคนเดียวเท่านั้นที่ประสบกับปัญหาเช่นนี้ คนทั้งโลกเขาก็ต้องประสบเรื่องแบบนี้ ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะสมหวังทุกอย่าง  ชีวิตของคนเราเป็นไปตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม  ถึงคราวสุขก็สุข ถึงคราวทุกข์ก็ทุกข์  สมหวัง หรือผิดหวัง  ได้รับคำชมบ้าง ได้รับความตำหนิติเตียนบ้าง เคยเป็นนายคนต่อไปอาจเป็นทาสคนก็อาจเป็นได้ เรามาใช้สติรู้ตามเป็นจริงดีกว่า.....     

 

  การมองโลกและชีวิตของคนเรานั้นมองได้ 3 แบบด้วยกันคือ  

                 1.มองโลกในแง่ร้าย คือ มองอะไรก็เห็นเลวร้ายไปหมด โทษคนอื่นว่าโหดร้ายทารุณ โทษเทวดาและเวรกรรมทำให้ตนเองต้องประสบเคราะห์กรรมต่าง ๆ  แต่กลับไม่ยอมแก้ไขอะไร ปล่อยชีวิตไปตามอารมณ์     

                2.มองโลกในแง่ดี คือ มองอะไรก็ดีไปหมด การมองอะไรในทางดีทำให้ใจสบายไปได้บ้าง ไม่ต้องเป็นทุกข์มากแรง ดีกว่าที่จะมานั่งเศร้าอยู่  

                 3. มองโลกในแง่ความเป็นจริง การมองโลกแบบนี้เป็นการมองแบบองค์รวมมองทุกภาคส่วน หรือมองทั้งองคาพยพ วิธีมองแบบนี้เรียกว่ามองแบบ bird eye view มองให้เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริงซึ่งพระพุทธเจ้าทรงสอนให้เรามองโลกในแง่นี้ คราวใดมีทุกข์ ก็ต้องทำจิตใจให้เข้มแข็ง ต่อสู้เอาชนะให้ได้ อย่าท้อแท้หมดกำลังใจ ความทุกข์ก็เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้แน่นอน เกิดได้ก็ต้องดับได้ เมื่อทุกข์ดับไปแล้วสุขมันก็เข้ามาแทน แล้วก็จะเบากายเบาใจเหมือนทิ้งของหนักลงจากบ่า โลกนี้จะเข้าข้างเรา ความสุขก็จะกลับคืนมาสู่เรา หากเรามองโลกและชีวิตให้ถูกต้องเช่นนี้แล้ว เชื่อแน่ว่า จะสามารถครองชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบายตามสมควรแก่ฐานะทีเดียวชีวิตดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความยุติธรรมและดูก็สะอาด ดมก็สะอาด

          แล้วคุณหละอ่านมาถึงตรงนี้ คิดว่าจะมองโลกแบบไหน จึงจะไม่เสียศักดิ์ศรีของนักอ่าน...

หมายเลขบันทึก: 130163เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2007 07:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 22:12 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • เมื่อก่อนมองแบบที่1และแบบที่2...ตามแต่อารมณ์และความรู้สึกในเวลานั้นๆ...แต่พอชีวิตได้เจอเรื่องราวที่หนักๆมากมายก็ทำให้การมองเปลี่ยนไปบ้าง
  • ปัจจุจุบันเลือกที่จะมองแบบที่2และแบบที่3ค่ะ...เพื่อความสบายใจของตัวเราและคนรอบข้าง

สวัสดีครับ  P

           ดีใจจังที่ครูมองโลกทั้งแง่ดีและแง้ความเป็นจริง แสดงว่าเป็นคนใจดี คงไม่ตีเด้ก เพราะเด้กย่อมมีรรมชาติดื้อเป็นธรรมดา และก็อย่าเผลอไปตีลูกชายที่เลี้ยงไม่โตนะขอรับ

..มองโลกในแง่ดี(positivethinking)...สิค่ะ....แล้วจะมีความสุข...อย่าลืมว่า+!...ในร้ายมีดี.....ในดีอาจมีร้ายแฝงอยู่.....เช่นถ้าเรามีหน้าตาขี้เหร่แต่ยังมีความน่ารัก  มีน้ำใจ....คนเขาด่าว่าเราก้อไม่ต้องเสียใจ   ดีเราจะได้พัฒนาตนเอง  เขาไม่ชอบขี้หน้าเราก้อไม่เป็นเป็นความสุขของเขา(เราก้อมองตนเองทำไมถึงไม่ชอบ เราจะได้ปรับปรุงตนเอง)  ตอนนี้เรามีกะตังจิ๊ดเดียวเพราะเราใช้ตังเยอะไปก้อลดการใช้ลง..เราไม่มีแฟนก้อดีจะได้มีเวลาให้พ่อกับแม่เยอะๆ...เป็นต้น

สวัสดีครับคุณหมอธนภัทร์

  • คงต้องเลือกมองแล้วกระมังครับ เห็นด้วยกับหมอครับ
  • ขอบคุณครับที่มาแนะนำ
การมองโลกของคนเรามีหลากหลาย แต่จงเจาไว้นะค่ะว่า  สิ่งที่เราทำต้องทำให้เรามีความสุขมากที่สุดแต่ไม่ได้เห็นแก่ตัวนะ  เพราะความสุขของเราก็อย่าทำให้ใครเดือดร้อน เอาแค่พออุ่น ๆ ล้อเล่นนะค่ะ  คนโคราช

เคยมองโลกในข้อ 1 และข้อ 2 อาจจะเป็นคนที่พบเจออะไรมากมาย ทำให้คิดอะไรไปต่าง ๆ มากมาย แต่ส่วนมากจะมองข้อ 1 อาจจะเป็นคนที่กลัวอะไรไปหมดทุกอย่าง กลัวแม้กระทังใจตัวเอง แต่ก็พยายามจะให้มองในแง่ของความเป็นจริงมาก ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหน แม้จะเป็นสมาชิกใหม่ แต่ขอขอบคุณอาจารย์มาก ๆ ที่แนะนำเวปนี้ ทำให้ได้อ่านบทความหลาย ๆ อย่าง ทำให้ได้แง่คิด ต่างมองต่างมุม ขอขอบคุณอีกครั้งน่ะค่ะ

ดีจัง

ได้ข้อคิดมากมายกับการมองโลก..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท