คนเรายามยืมเงินคนอื่นมาใช้ตอนแรกเป็นเงินกู้..จากเงินกู้ก็เปลี่ยนมาเป็นเงินกู มีเงินในกระเป๋ามากก็ใช้เพลิน จึงเกิดเงินขาดมือที่เรียกกันว่า โรคทรัพย์จากหรือโรคทรัพย์จาง
การรู้จักอดออม(economize)ประหยัด(budget)เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากยิ่ง เพราะสังคมไทยมีนิสัยสุรุ่ยสุร่าย(extravagent) ขาดวินัยในการใช้เงิน เพราะไม่รู้โทษของความสุรุ่ยสุร่ายซึ่งทำให้คนเรามีสุขเฉพาะในยามซื้อ ยามใช้ แต่เป็นทุกข์เวลาใช้คืน หรือเวลาที่ถูกทวงเงินคืน ...
คนเรายามยืมเงินคนอื่นมาใช้ พอได้เงินมาจากเงินกู้เปลี่ยนมาเป็นเงินกู มีเงินในกระเป๋ามากก็ใช้เพลิน ลืมไปว่าเงินเราได้มาจากไหน ตอนไปยืมบอกเขาว่ายืมมาทำอะไร จึงเกิดเงินขาดมือที่เรียกกันว่า โรคทรัพย์จากหรือโรคทรัพย์จาง "Money Philia" เป็นโรคที่เงินไหลออกจากกระเป๋าไม่หยุด คล้ายกับคนเป็นโรค Hemo Philia ่"โรคเลือดไหลออกไม่หยุด" ซึ่งผู้ป่วยจะมีการอาการเลือดไหลออกไม่หยุด ทำให้เสียชีวิต และโรคทรัพย์จาง(Money Philia)ก็มีอาการคล้ายโรค Hemo Philia แต่ผู้เป็นโรคนี้จะมีอาการซื้อไม่หยุดไม่หย่อน เงินในกระเป๋าไหลออกไปเรื่อยๆ และโรคนี้จะเกิดกับคนที่ไม่รู้จักออม ไม่รู้จักใช้เงิน มีรายได้น้อยหรือมีรายได้ปานกลาง แต่ไม่สามารถจัดสรรรายได้ให้ได้สัดส่วนกับรายจ่าย มีรายจ่ายมากกว่ารายได้ เมื่อตรวจตามหลีกคณิตศาสตร์พบว่ารายรับของเขาหักกับรายจ่ายและไม่มีรายเหลือสรุปได้ว่า มีรายรับ - รายจ่าย = ไม่เหลือสักบาท ติดลบ(overspend) เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีอาการทุกข์ทรมานใจไม่จบสิ้น...บางอย่างก็กลายเป็น มหันตภัยในห้องนอน ที่แฝงมาโดยเราไม่รู้ตัว
ในปัจจุบันโรคทรัพย์จาง(money Philai)นี้กำลังระบาดในหมู่คนที่ที่มีรายได้น้อย(incomeless)และบั่นทอนต่อความเจริญก้าวหน้า บั่นทอนความสุข ไม่ยกเว้นว่าเข้าพรรษา(The Buddhist Lent)หรือออกพรรษา ไม่เลือกว่าวันคู่หรือวันคี่ หรือวันฝนตกหรือฝนไม่ตก ก็ยังจนเท่าเดิมเงินไหลออกเท่าเดิม...
ระยะฟักตัวของโรคนี้จะเริ่มประมาณวันที่ 15 ของเดือน บางคนอาจเร็วกว่านั้นก็ได้ บางคนอาจจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของเดือนก็มีพอเงินเดือนออกก็หมดตัว.. แต่อาการจะรุนแรงขนาดไหนขึ้นอยู่กับการจับจ่ายใช้สอยของผู้ป่วย ยิ่งถ้ามือเติบการรักษาโรคนี้ยิ่งยาก...
คนป่วยโรคทรัพย์จางนี้จะมีอาการเหม่อลอย ไม่สบตาผู้อื่นโดยเฉพาะเจ้าหนี้ บางรายมีอาการผวาเมื่อมีการเรียกชื่อ เพราะกลัวการทวงหนี้มากๆ ชอบโกหกเอาตัวรอด ... การป้องกันโรคทรัพย์จาก (Money Philai) โรคทรัพย์จากหรือโรคทรพย์จาง ผู้ป่วยจะมีอาการหงุดหงิด ไม่มีเงินเหลือในกระเป๋า จึงไม่ควรนำของมีค่าเข้าไปใกล้ระยะสายตาและมือเอื้อมถึง ไม่งั้นอาจถูกยืมหรือขโมยโดยไม่แจ้งให้เราทราบล่วงหน้า...
สังคมไทยปัจจุบัน เป็นโรคนี้กันมาก เพราะจนไม่ลง อยากมีอะไรดั่งที่เขามี โดยขาดความเพียงพอ ขาดความรู้จักพอดี เงินมีก็สบาย ขาดก็เหมือนขาดใจ มีเงินเดือนมากไม่น่าอัศจรรย์แต่คุณมีเงินเหลือนี่แหละที่เราถือว่าอัศจรรย์ยิ่ง เดือนนี้คุณเหลือกี่บาทเผื่อว่าหากคุณอยากมีเงินไว้สร้างครอบครัวในวันหน้า
บางคนใช้เงินหมดไปกับการเที่ยวห้างสรรพสินค้า บางคนหมดเงินไปกับการเล่นพนัน บางคนหมดไปกับเหล้าเบียร์ บางคนหมดไปกับซื้อเครื่องแต่งตัว บางคนหมดไปกับเครื่องแต่งหน้า บางคนหมดไปกับสินค้าแบนด์เนม..