ไม่ว่าในสังคมโลกยุคปัจจุบันหรือโบราณก็ตามทีมีสิ่งหนึ่งที่เคียงข้างคนในสังคมทุกคนและทุกสมัยเป็นเรื่องที่ปรากฏให้เราได้ศึกษาเป็นประจำคือโลกธรรมที่ครอบงำมนุษยชาติทุกๆคนอยู่ได้แก่ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศและอัปยศ (เสื่อมยศ) และสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลที่ทำให้คนเราเกิดความหวั่นไหวอ่อนไหวได้ง่ายมาก ๆ ถ้าได้รับสรรเสริญก็หวั่นไหวไปในทางดีคือดีใจฟูใจภาคภูมิใจ ในทางกลับกันเมื่อได้รับนินทาเราก็มักมีใจเอนเอียงไปทางเศร้าเสียใจไม่อยากรับคือเราเกลียดนินทา ทุกข์ เสื่อมลาภยศ แต่นั่นแหละเราปฏิเสธเรื่องเหล่านี้ได้ยาก แม้บางคนจะบอกว่าไม่ตื่นตระหนกกับเรื่องนินทาเลยแต่ก็มีอยู่บ้างที่เรื่องเหล่านี้ทำให้ต้องคิดกลุ้มอกกลุ้มใจๆกับคำนินทา คำตำหนิ กลุ้มใจกับความสูญเสียทรัพย์สินเงินทองของรักหรือการสูญเสียอำนาจ
จริงอยู่ถ้าเคยบวชเรียนหรือฟังพระเทศน์ เราได้ยินพระสอนหรือเรารู้อยู่แล้วจากตำราว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเป็นเช่นนี้ไปได้ บางคราเมื่อโลกธรรมเกิดเราก็ได้แต่ให้กำลังใจตัวเองและสอนตนเองให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องต่อไป เหมือนโบราณอีสานภาษิตว่า “เฮ็ดไว้ไผซิซังกะตามซ่าง เฮ็ดแม่นแล้วไผซิย้องกะซ่างตาม” หมายถึง ทำดีแล้วจะจะชอบจะชังก็ช่างเถิดขอให้เรามีใจร่มเย็นแล้วกัน ทำดีแล้วก็ถือว่าเป็นความดีแล้วให้มั่นใจว่าเรื่องที่เราทำถูกต้องดีงามแล้วต้องทำต่อไปอย่าไปละทิ้งสิ่งดีงามนั้น ต้องให้กำลังใจตนเองแบบนี้เพราะคนที่ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลกนี้ แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งผิดพลาดบกพร่องเราก็ต้องพร้อมที่จะกลับมาแก้ไขเพื่อให้เกิดความถูกต้องโดยไม่ดันทุรังทำต่อไปเป็นอันขาดเพราะความสูญเสียมันจะตามมาอย่างไม่คาดคิดก็ได้
เรื่องบางเรื่องเราไปทำในสถานที่แห่งหนึ่งอาจจะถูกใจคนกลุ่มหนึ่งแต่ไม่ถูกใจคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีให้เห็นอยู่เกือบเป็นประจำวัน เรื่องที่เราเคยทำเรื่องเดียวกันนี้เองและทำแบบเดียวกันด้วยบางคนชอบอีกคนชัง เราจึงไม่สามารถทำให้ถูกใจคนทุกคนได้ ฉะนั้นขอให้เรายึดความดีเป็นที่ตั้ง เราต้องเตรียมใจยอมรับความจริงในข้อนี้ให้ดีหาไม่แล้วเราจะหมดกำลังใจเอาได้ง่ายๆ
การทำสิ่งใดก็ตามจะให้ถูกใจคนทุกคนหรือให้ถูกใจคนทั้งโลกคงเป็นไปได้ยากเพราะความคิดของคนไม่เหมือนกันนั่นเอง ภาษิตของพุทธศาสนาจึงสอนเตือนไว้ว่า "ไม่มีใครหลีกหนีพ้นคำนินทาได้เพราะคนที่เราเจอะเจอทุกวันนั้นมีอัธยาศัยต่างกัน เรื่องเดียวกันที่คนหนึ่งทำแล้วได้รับการยกย่องอีกคนทำอาจถูกนินทาก็ได้"
สวัสดีครับ ขออนุญาตแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยครับ
ในการทำงานของผม ก่อนที่จะตัดสินใจทำงานใดๆ ผมจะต้องคิดให้ดีเสียก่อนครับ ว่างานนี้
ทำงานเพื่อตนเอง หรือ ทำงานเพิ่องาน
ทั้งสองประเด็น ผลแตกต่างกันมากครับ ในเรื่องของการยอมรับ และ การต่อต้าน การถูกใจ ไม่ถูกใจ
บางครั้งที่ผมก็หลงไปทำงานเพื่อตัวเองครับ ทำเพื่อให้ตัวเองเด่น ดัง ผลที่ออกมา ไม่ถูกใจใครเลยครับ
แต่ถ้าผมทำงานเพื่องาน การยอมรับมีมากครับ การต่อต้านมีน้อย และ เสียงที่ต่อต้าน ก็เป็นเสียงนกเสียงกาที่ไร้ประโยชน์ครับ
ส่วนเรื่องของการถูกใจไม่ถูกใจ ขึ้นอยู่กับว่าเขามองว่าตนเองจะได้หรือเสียอะไรไปบ้าง จากการทำงานของเรา
และการมองให้ถูกใจก็มองได้ 2 อย่างเหมือนกันครับ คือ มองเพื่อตนเอง หรือ มองเพื่องาน
ขอบคุณครับ
ใช่ค่ะ..เห็นด้วยที่สุด..เจอเรื่องแบบนี้มาจนจะชินแล้วค่ะ..ไม่มีใครทำอะไรที่ถูกใจคนทั้งโลกหร่อกค่ะ..ฟังบ้าง..ทำหูทวนลมซะบ้าง..จะได้ไม่เครียด..เนอะ..
สวัสดีครับ รัตน์ชนก
สวัสดี OOHOOH
สวัสดีครับแผ่นดิน
สวัสดีครับ ท่าน ผอ.ที่เคารพ
สวัสดีค่ะ เห็นด้วยและชอบข้อความนี้ค่ะ “เฮ็ดไว้ไผซิซังกะตามซ่าง เฮ็ดแม่นแล้วไผซิย้องกะซ่างตาม”