AAR สามคนสามมุม


สุภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า "อ่านหนังสือพันเล่ม ไม่เท่าเดินทางหนึ่งลี้"


จากมุมมองของเพื่อนร่วมทางสองคนในการไปสวนป่า ทำให้เห็นอะไรที่ต่างไป สามคน สามมุม เวลาเดียวกัน สถานที่เดียวกัน คนหนึ่งตระหนักถึงความเป็นไปของชีวิตอย่างเรียบง่าย ทำความเข้าใจ และยอมรับ  อีกคนหนึ่งตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบให้กับชีวิต  ส่วนอีกคนมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ เข้าใจ แม้จะไม่พูดอะไร แต่ก็พยายามหาจุดสมดุลเพื่อปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมแก่ชีวิต

น่าแปลกว่าสารที่เราได้รับนั้นออกมาจากสถานที่เดียวกัน แต่กลับถูกตีความไปตามประสบการณ์และความเข้าใจในชีวิตที่ต่างออกไป เราต่างคนต่างเลือกที่จะแปรสารไปในวิถีของตน แต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายจุดมุ่งหมายจะยังอยู่ที่จุดเดียวกันหรือไม่ อาจเป็นได้ว่าเราเลือกเดินคนละเส้นทางและในที่สุดก็ไปบรรจบที่ปลายทางเดียวกัน หรืออาจเป็นไปได้ว่าเราเลือกเดินเส้นทางขนานที่ไม่เวียนมาบรรจบกันอีก แต่กระนั้นก็บรรลุถึงความมุ่งหมายที่ตั้งใจไว้ของแต่ละคนเช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่าอะไรถูกผิด ณ เวลานี้ ไม่มีใครบอกได้ว่าวิธีคิดไหนที่ถูกต้อง ต่างคนต่างเลือก ต่างคนต่างเดิน และไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่ผลพิสูจน์จะปรากฏชัดออกมา แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่ต้องพิสูจน์อะไรกับใคร อาจจะไม่มีใครถูกหรือผิดเลยก็เป็นได้



การที่ได้ออกจากชีวิตประจำวันไปพบสิ่งที่ต่างออกไปทำให้โลกทัศน์เราสามคนเปิดกว้างขึ้น ได้เห็น ได้รู้จัก ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้เข้าใจโลกรอบตัวเพิ่มมากขึ้น ดูเหมือนเวลาสั้นๆ ที่เราไปสัมผัสนั้นแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ระยะเวลาไม่ได้เป็นสิ่งชี้วัดถึงผลที่ได้รับ ขอยกประโยคที่พูดคุยกันกับคุณ Conductor มาให้อ่านกันปิดท้าย



Susan: นาทีที่ไปสวนป่าชอบที่สุดก็ตรงเดินชมสวน เพราะสงบและเป็นสิ่งที่อยากเจอ อาจจะเห็นว่าเฉยๆ บ้าถ่ายรูปไปหน่อย แต่ฟังอยู่ และก็ได้เห็นมุมมองอะไรบางอย่างที่ต่างออกไปติดตัวกลับมา ก็แค่อยากจะบอกค่ะ

Conductor: สำหรับคนที่มีเวลาน้อย ทุกวินาทีมีค่า ไม่ควรปล่อยให้เสียเปล่า สำหรับคนที่มีเวลา "เหลือเฟือ" ทุกวินาทีก็มีค่าเช่นกัน เพราะนาฬิกาเดินไปเรื่อยๆ และเวลาของเราก็ลดลงทุกวินาทีเช่นกันครับ คนขาสั้นย่อมเดินช้า (บางทีก็แวะถ่ายรูป) แต่ระยะทาง ไม่เคยให้ส่วนลดกับชีวิตเรา

Susan: ขาสั้นก็ใช้เวลาต่อระยะทางมากกว่าคนขายาว แต่ก็อาจจะได้อะไรที่มากกว่าหรือต่างออกไปเพราะความช้า ตามหลังก็ใช่ว่าจะไปไม่ถึง คนเดินเร็วขายาวอาจมองข้ามบางอย่างเพราะความรวดเร็วก็เป็นได้ ใครจะรู้ slow but sure เวลามีน้อย สำหรับเรามีค่าทุกวินาที แต่ขอใช้แบบไม่เร่งรีบ ค่อยๆ ละเลียดพิจารณาไปกับมันทุกวินาที ชีวีจะมีสุขกว่า คิดแบบนั้นนะ

Conductor: ไม่มีความเห็นเพิ่มเติมครับ อ่านแล้วรู้สึกดี ถ้าคิดแบบนี้ ก็เที่ยวได้สบายใจ ไม่ต้องทำงานอย่างเดียว

หมายเลขบันทึก: 183789เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2008 02:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

น่าจะตั้งชื่อภาพว่า ในหรือนอก ครับ

พี่ก็นั่ง AAR ส่วนตัว แบบคนไม่ได้ไปสวนป่าเหมือนกัน ^ ^

การเรียนรู้(ที่เป็นแบบเฉพาะตัว)ของแต่ละคนที่เกิดขึ้นที่สวนป่านั้น เกิดขึ้นได้ เพราะ"ใจ"สั่งมาก่อน..ไม่รู้ว่าเป็นแบบเดียวกับที่เขาเรียกว่า"จิตอาสา"ไหม คือมี"ใจ"ให้ก่อนอยู่แล้ว..พร้อมที่จะมาเีรียน มารู้ มาดู และพบคนแปลกหน้าที่เคยเจอแต่ในเน็ตที่สวนป่า พร้อม/ไม่พร้อมที่จะกอดหรือถูกกอดก็แล้วแต่ อิอิ

สำหรับพี่แล้ว เห็นว่า ทุกคน"ได้"อะไรดีๆ กลับไป แต่"ของดี"ของแต่ละคนที่ได้ไปไม่เหมือนกัน แต่อยู่บนรากฐานมิตรภาพ..คือ"ได้"จากคนที่อยาก"ให้" และ่อย่างน้อย ก็"ได้"กันไปบ้าง ไม่มากก็น้อยแน่นอน..

ขนาดนั่งดู/ตามอยู่ตั้งไกล ยังได้เรียนรู้กะเขาเลย อิอิ

รูปใหม่หน้าแฉล้มเชียวนะ

คอมเมนต์อ.ตุ๋ย เป็นเพลงหรืเปล่าคะ "ใจสั่งมา"

เป็นการเดินทางและการเรียนรู้ที่ดีจริงๆ ไม่ว่าจะขาสั้นหรือขายาว... :)

พ่อครูบา: ขอบคุณสำหรับรูปค่ะ ดีจัง ชอบ แปลก ภาพบางภาพก็สื่ออะไรได้แบบไม่ธรรมดา

คุณขายาว: อยู่ที่คนมองค่ะว่าตัวเองอยู่ฝั่งไหน บางครั้งคนเราก็เถียงกันแทบตายเพราะเรื่องตำแหน่งที่ยืนอยู่นี่ล่ะ หนึ่งรั้วกั้นสองฝั่ง มองว่าอยู่ในก็ได้ นอกก็ได้เช่นกัน ถกเถียงกันไปทำไมในเมื่ออาจจะถูกทั้งคู่ ถ้ารื้อรั้วลงก็ไม่มีนอกใน (แต่อาจโดนพ่อครูบาตีหัวได้)

พี่ตุ๋ย: คนเราย่อมแตกต่างค่ะพี่ แต่ต่างบนพื้นฐานความเข้าใจและเคารพในความคิดผู้อื่น มาเพื่อเก็บสิ่งดีที่มีประโยชน์กลับไป ได้มากได้น้อยก็ได้อยู่ดี แต่ผู้ที่รู้จักรับก็ต้องเรียนรู้จักที่จะให้ก่อนด้วยค่ะ เหรียญมีสองด้าน ทำอะไรมากไปอย่างเดียวก็ไม่สมดุล

น้องจิ: ขอบใจสำหรับกาแฟ พี่ได้ฟังขลุ่ยฝีมือน้องแล้ว เพราะมาก พี่เล่นได้แต่ recorder ไม่เคยหัดขลุ่ยไทย ไว้เจอกันเป่าให้ฟังบ้างนะ

พี่อุ๊: อ้าว เปลี่ยนรูปพร้อมกัน ใจตรงกันนะ รูปใหม่ถ่ายเมื่อวานเอง เพราะใส่เสื้อเชิ้ตดูเรียบร้อยผิดปกติ ขำเรื่องเพลงง่ะ คิดได้ไง เราลืมไปแล้วเพลงนี้ โบจัง ^ ^ ก็อย่างว่านะพี่ ขาสั้นขายาวก็ถึงจุดหมายได้เหมือนกัน แต่อาจจะใช้เวลามากกว่าหน่อย เวลาที่ใช้เพิ่มมากขึ้นต่อระยะทางก็ทำให้ได้รายละเอียดอะไรที่ต่างไป ต้องไปถามพี่นกดู พวกเดินเร็วควายหาย ว่าปกติเวลาเดินเที่ยวกันเขามองข้ามอะไรไปบ้าง เขามองเป้าหมาย แต่เราเก็บอะไรไปตลอดเบี้ยบ้ายรายทาง เป็นทั้งนิสัยและอุปสรรคทางกายภาพส่วนตัวน่ะ ; P

การที่ได้ออกจากชีวิตประจำวันไปพบสิ่งที่ต่างออกไปทำให้โลกทัศน์เราสามคนเปิดกว้างขึ้น ได้เห็น ได้รู้จัก ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้เข้าใจโลกรอบตัวเพิ่มมากขึ้น

รู้สึกดีจัง..ตรงใจ.. 

ฝาแฝดยังคิดต่างกันเล้ย เน๊าะ

นี่คน... อ่ะ ยิ่งอิสระยิ่งระเบิดเถิดเทิง ขนาดมีกรอบคิดยังนอกกรอบ เอ้า... อิอิ

ยิ่งนอกกรอบ ก็ 360 องศาจะเลือกมุมไหนล่ะเน๊าะ 

ต่างกันน่ะดีแล้ว เหมือนกันหมดละยุ่งเลย ขาสั้นก็สั้นเหมือนกันหมด ยาวก็ยาวเหมือนกันหมด อิอิ จะเป็นไงไม่รู้นะ..

ชอบใบไผ่ น้องซูซาน

มาทวงรูปอีกรอบ อยากได้มากๆๆ เสื้อสีชมพู

พี่อึ่ง: ที่เขียนได้ออกมาแบบนั้นก็เพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ค่ะ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคนใหม่ ก็ยังเป็นคนเดิมที่มีประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยการสัมผัสตรงเพิ่มขึ้น

พี่บางทราย: Think outside the box คำนี้รู้จักกันดีค่ะ แต่คิดแล้วมีประโยชน์เป็นจริงแค่ไหนก็ต้องมาว่ากันอีกทีค่ะ แต่หนูก็ยังอยากขายาวอยู่ดีนะคะ มีคนหัวเราะเยาะส่วนสูงหนูด้วยอ่ะ

พี่ลูกหว้า: ส่งให้แล้วนะ เพราะเห็นเม้นท์ทวงนี่ล่ะถึงนึกได้ วุ่นๆ มาหลายวันอยู่

มาขอบคุณเรื่องรูปคนหน้าตาดี อิอิๆๆ หายจากไข้หรือยัง บอกให้พักผ่อนมากๆๆก็ไม่เชื่อ พักบ้างก็ได้ ครับ

ดีขึ้นเพราะยาแรงมาก กินแล้วน็อคเลย พึ่งฟื้น กำลังรอกินข้าวต้ม เสร็จแล้วกินยาก็คงน็อคอีก ยาแก้ไอน่ะอย่างแรง อันนั้นต้องกินอีกทีตอนห้าทุ่ม ดีแล้วที่ต้องห่างแปดชั่วโมงก่อน ไม่งั้นตายแน่ ยาอะไรแรงเป็นบ้า นี่อยากลุกมานั่งมั่งแล้วล่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท