สวัสดีครับ…
เห็นพี่กิ่งเล่าให้ฟังว่า คุณเอกอยากได้ความคิดเห็นที่มีต่อกิจกรรมในครั้งที่สองนี้ เท่าที่ผมดูกิจกรรมที่ทางทีมได้เตรียมไว้ก่อนก็เห็นด้วยในภาพรวมนะครับ แต่สำหรับในรายละเอียดของกิจกรรมนั้น ผมยังนึกภาพการดำเนินกิจกรรมไม่ค่อยออกเลยขอปรึกษา และถามไถ่ไปในตัวนะครับ
เท่าที่ผมดูนั้น กิจกรรมหลักที่เป็นหัวใจของกระบวนการในครั้งนี้ก็คือ กิจกรรมที่ทางทีมเรียกว่า กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่องเล่า "การบริหารจัดการนำไปสู่การพัฒนามนุษย์ที่สมบูรณ์"
ตรงกิจกรรมนี้ ผมไม่แน่ใจว่า ในรายละเอียดของการดำเนินกิจกรรมนั้น Fa หลัก (คุณเอก กับพี่กิ่ง)จะอาศัยโครง หรือประเด็นใดบ้าง สำหรับเป็นหางเสือในการประคับประคองทิศทางการสนทนาให้ไปสู่เป้าหมายที่เราตั้งไว้
และเมื่อพูดถึงเป้าหมาย ผมจึงอยากทราบ เจตนารมย์ของทางทีม หรือของทางมูลนิธิ ฯ ด้วยเช่นกันว่า จริงๆ แล้ว เราอยากให้บรรดา Best Practice เหล่านั้นเปิดเผยสิ่งใดต่อพวกเรา
ในตอนนี้เอง ผมมองว่า มันมีหลายบริบท ที่เราสามารถนำไปใช้เป็นกรอบในการดำเนินการเสวนาได้
เช่น หากเรามองว่า คนกลุ่มนี้ คือผู้นำการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลงให้เกิดผลสำเร็จได้มันก็น่าสนใจที่เราจะเข้าไปดูว่า บุคลิกลักษณะ (อาจลงลึกถึงคุณค่า ความเชื่อ) ของผู้นำการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นอย่างไรและพวกเขามีวิธีบริหารการเปลี่ยนแปลงอย่างไรให้ประสบผลสำเร็จ(ตรงนี้ขอออกตัวว่า ผมก็ยังไม่ได้ศึกษาในรายละเอียดของเรื่อง Change Management สักเท่าไหร่)แต่ที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะเห็นว่า ในกลุ่มคนบางประเภท เช่น ผู้บริหารการศึกษา หรือหน่วยงานกลาง มักจะชอบหากเราพูดในบริบทนี้
ส่วนในอีกบริบทหนึ่ง ที่ดูน่าสนใจมาก ก็น่าจะเป็นเรื่องทางจิตตปัญญา สำหรับเรื่องนี้ ต้องขอขอบคุณ คุณเอก และพี่กิ่ง ที่ได้แนะนำหนังสือของคุณหมอธนา พร้อมกับนำมาเสิร์ฟถึงที่
ผมคิดว่าหากมองในบริบทของจิตตปัญญาศึกษาแล้ว ท่านเหล่านี้ คือ "กระบวนกร" ผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงตัวจริง ดังนั้น จึงเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า ท่านเหล่านี้ มีวิธีสร้างกระบวนการเรียนรู้ไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร?
ซึ่งที่น่าสนใจนั้น ผมมองว่า มี ๔ ประเด็นใหญ่คือ
ขอบคุณครับ
จุดเปลี่ยน หรือแรงบันดาลใจในชีวิต ที่ทำให้ท่านเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง (ผมมองว่า ผู้นำต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน)
การสร้างกระบวนการเรียนรู้เพื่อนำไปสู่กระบวนการเปลียนแปลงของผู้ใต้บังคับบัญชา
การบูรณาการกระบวนการเรียนรู้ ลงสู่กิจกรรมการเรียนการสอนให้แก่นักเรียน
บทบาทของการเป็นตัวแบบทางวัฒนธรรม (Role Model)
ตอนนี้ เท่าที่ผมพอจะให้ความเห็นได้ก็มีเพียงเท่านี้แหละครับเดี๋ยวคงต้องขอเวลาไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะไปคุยกันอีกทีในวันอาทิตย์นี้ผมคงจะตามไปสมทบตอนประมาณ ๖ โมงเย็นนะครับ
*** เพิ่มเติม วันที่ ๒๖ กย.๕๒
เอกสาร สรุป การ BAR. เวที ๒ ของทีมงาน Facilitator
เวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จิตปัญญาในวงการการศึกษา
แวะมาเติมกำลังใจให้ค่ะ ^^
ขอบคุณครับ ผมส่งผลกำลังใจนี้ให้ทีมงานของผมด้วยเลยนะครับ :)
น้องเอก สวัสดีครับ
ไม่แน่ใจว่าจะนำ ศิลปะการพับกระดาษ (origami) ไปใช้ในกิจกรรมนี้หรือเปล่า แต่นำข้อมูลที่อาจใช้ได้มาฝากไว้ตรงนี้ก็แล้วกัน
เว็บพอร์ทัลที่ค้นง่าย :
แล้วเข้าไปที่ แบบพับที่คุณอาจสนใจครับ
แบบพับที่ค่อนข้างง่าย แต่สวยงาม & น่าสนใจ เช่น
ผีเสื้อปีกโค้ง แบบพับผีเสื้อ (pdf)
หัวใจติดปีก (แบบนี้ อ.ขจิต พับเก่ง ;-))
ลองดูนะครับ....สู้ๆๆ...ถ้าติดปัญหาอะไร ก็แวะมาถามได้เลยที่บล็อกพับกระดาษ http://gotoknow.org/blog/origami
หรือที่ [email protected] ก็ได้
เผื่อมีอะไรที่พี่ช่วยได้บ้างครับ ^__^
พี่ชิว
พี่เอก..พอลล่าไปด้วยคะ
ประณีต กับ ปราณีต นั้นต่างกันไหมคะ ใช้ในโอกาสใดบ้าง อิอิ
บันทึก "ลึก" ตาม "เจตนารมณ์" ครับ ;)
สวัสดีค่ะ
จาก: | Noppharat Ratanapongphasuk |
ส่งเมื่อ: | 26 กันยายน 2552 4:51:32 |
ถึง: |
jatuporn visitchotiounggoon |
จาก: | Noppharat Ratanapongphasuk |
ส่งเมื่อ: | 26 กันยายน 2552 5:18:50 |
ถึง: | jatuporn visitchotiounggoon |
จาก: | Noppharat Ratanapongphasuk |
ส่งเมื่อ: | 26 กันยายน 2552 5:49:50 |
ถึง: |
jatuporn visitchotiounggoon |
จาก: | jatuporn visitchotiounggoon |
ส่งเมื่อ: | 26 กันยายน 2552 6:47:41 |
ถึง: | nprat |
คุณนพรัตน์ที่นับถือ
การเเลกเปลี่ยนทางปัญญาไม่ถือว่ารบกวน เเต่เป็นความเสียสละที่ควรยกย่องนะครับ
ผมเห็นด้วยเลยในทุกประเด็นครับ และเพิ่มเติมให้ลุ่มลึกเข้าไปอีก
เมื่อคืนคิดเรื่อง เกม...
กำลังฝึกพับผีเสื้อ ที่ ดร.ชิว ท่านเขียนไว้ใน Gotoknow เพื่อใช้ในการ meditation ครับ
และ ผมมาสะดุดอยู่หลายประเด็นที่ตนเองเขียนไว้ อาจต้องตีประเด็นให้แตก
ในส่วน วงครูปฏิบัติการก็ประยุกต์ชุดคำถามนี้ เพราะบริบทเดียวกัน การบริหารจัดการที่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้นเองครับ
เห็นด้วยกับอีเมลก่อนหน้าครับ เรื่อง KM
และมาเรื่อง ฝันอย่างไร เมืองไทยสวยงาม (การศึกษา) เราน่าจะใช้ประเด็นนี้ในการวาดรูปด้วยและแลกเปลี่ยนกัน
ยินดีมากครับ สำหรับความคิดเห็นที่ทำให้เกิดการต่อยอดความคิด
เอก
แวะมาเติมกำลังใจให้ในการทำงาน
“กระบวนการเรียนการสอนที่นำไปสู่การพัฒนามนุษย์ที่สมบูรณ์” ........ เห็นด้วย
สวัสดีครับ พี่ชิว (ดร.ชิว)บัญชา ธนบุญสมบัติ
ผมต้องขอบคุณในความอนุเคราะห์ในครั้งนี้มากๆครับ
เรา(ทีมงาน)ก็ช่วยกันคิดนะครับว่า กิจกรรมใดบ้างที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเวที ลปรร.ได้ฝึกจินตนาการ(ที่คนเราส่วนหนึ่งแห้งเเล้งไป) ผมเห็นกิจกรรมนี้เเล้ว "ปิ้ง" เลยครับ และที่สำคัญกิจกรรมศิลปะการพับกระดาษ (origami)เป็นกิจกรรมที่สามารถช่วยให้เกิดสมาธิ ระดับขณิกสมาธิได้เลย เป็นการวอร์มอัพสู่ เวที แลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี
ตอนนี้ผมโลภไปแล้วนะครับ Download ทุกสิ่งอย่างที่เป็น ศิลปะการพับกระดาษ (origami) ไปศึกษาและไปทดลองพับเองดูครับ ก่อนที่จะเอาการพับกระดาษเข้าไปเป็นหนึ่งในกิจกรรมเตรียมความพร้อม
คิดๆดูเเล้วน่าสนุกนะครับ...
แล้วผมจะนำภาพกิจกรรมที่เกิดขึ้นมาเล่าให้พี่ชิว และ เพื่อนๆใน gotoknow ได้เรียนรู้ร่วมไปด้วยครับ
ขอบพระคุณอีกครั้งนะครับ..
เอก-จตุพร
มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ครับผม
ต้องขอบคุณพอลล่ามากเลยที่สะกิดเรื่องศัพท์ ทำให้ผมต้องไปเปิดพจนานุกรมเพื่อหาศัพท์ที่ถูกต้อง
ใช่เลยครับ "ปราณีต" เป็นคำที่เขียนผิดครับ เราจะใช้ "ประณีต" ครับ
ใช่แล้วครับ อ.Wasawat Deemarn บันทึกนี้เป็นการ BAR. ของทีมงานครับ โดยเนื้อหางานมันก็ต้องละเอียด เเง่มุมที่คุยกันก็ดูลึกๆไปบ้าง
ผมคิดว่าเกิดประโยชน์กับผู้ที่สนใจครับ โดยเฉพาะการสื่อสารเปิดที่ Gotoknow เลยมาเขียนเป็นบันทึกเพื่อให้แลกเปลี่ยนกันครับ
:)
ลึกตามเจตนารมย์ คุณนพรัตน์ ใช้ศัพท์ดีครับ
ผมฝากความระลึกถึง ท่านเกษตรปรีดา ด้วยนะครับ
ไปเมืองเลย ...อากาศคงดี สดชื่นนะครับ ยังไงก็เก็บรูปมาฝากด้วยครับพี่ครูคิม
เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ
ขอบคุณท่าน ชีวิตเอกเขนก มากครับ
ให้กำลังตลอดเวลา มีโอกาสเข้ามา กทม. โทรศัพท์บอกผมด้วยครับ :)
มาแวะให้กำลังใจคะ
ได้กำลังใจมากมายเลย รอบหน้าเชิญน้อง กรรณิการ์ วิศิษฏ์โชติอังกูร มาเเลกเปลี่ยน เห็นบอกทำงานหนัก งานวิจัยหลายชิ้น นำมาเขียนใน gotoknow เผยแพร่ให้สังคมได้เรียนรู้กับน้องบ้างสิครับ :)
สวัสดีครับ อ. Sila Phu-Chaya
บันทึกนี้ถือเป็น BAR.ของทีมงานด้วยครับ พรุ่งนี้ผมจะปริ้นเอ้าท์ ออกไปด้วย ยังไงผมก็ยังคิดว่าต้องมาช่วยกันดูในชุดคำถามให้ง่ายๆ แต่ให้ครอบคลุม
ฝาก อ.ศิลา เรื่องคิดในส่วนของการเตรียมพร้อมกระบวนการในบางช่วงด้วยนะครับ :)
เจอกันครับพรุ่งนี้... :)
จาก: | yuwanuch tinnaluck |
ส่งเมื่อ: | 26 กันยายน 2552 10:44:21 |
ถึง: | คุณเอก คุณซวง |
สวัสดีค่ะ
เวทีครั้งที่สองนี้คงจะมีความเข้มข้น คึกคัก น่าตื่นเต้นมากจากประเด็นและมุมมองต่างๆที่โต้ตอบไปมาที่พี่ได้เห็น ยอดเยี่ยมค่ะ
คุณซวงทำหน้าที่อย่างแข็งขันมาก ดีใจที่ได้ร่วมงานกันค่ะ
เห็นด้วยค่ะการคิดชุดคำถามของแต่ละวงจะต้องมีความเฉพาะด้วยบริบทและภารกิจหน้างาน (immediate task) ซึ่งมีพื้นที่ หรือ Ba ที่จะต้องร่วมงานกัน เช่น ผู้บริหาร กับ ครูน้อย ครู กับ นักเรียน และเรายังจะได้เห็นบุคคลเกี่ยวข้องอื่นๆที่จะปรากฏตัวขึ้นจากเรื่องเล่า
จากประสบการณ์เห็นตรงกันค่ะว่า ผู้นำนั้นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน พี่ใช้คำว่า initiator และ มันมักเริ่มต้นที่ "ใจ" อย่างไรก็ตามเป็นหน้าที่ของเราต้องค้นให้พบว่า การเริ่มต้นที่จะเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงนั้นอะไรเป็นแรงขับดัน หรือ มีแรงบันดาลใจอะไรให้อยู่อย่างเดิมไม่ได้อีกต่อไป (ต้องคุยกันเรื่องการเปลี่ยนแปลงขาขึ้น-กาย สู่ สมอง คือทำบ่อยๆค่อยๆซึมซับชอบไปเอง กับ ขาล่อง-เกิดภายในจิตใจแล้วนำสู่การกระทำ)
แม้ว่าจะมีนโยบาย หรือ มาตรฐานต่างๆที่ถูกสั่งการบังคับให้ทำ แต่ "ท่าที" ของผู้นำนั้นสำคัญมาก กระบวนทัศน์เปลี่ยน วิธีคิดเปลี่ยนจากเดิมๆ นั่นแหละสิ่งต่างๆจึงเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน เพราะมันเหมือนเปลี่ยนในดีเอ็นเอ ไม่ใช่เปลี่ยนหมวก เปลี่ยนเสื้อสามารถของแต่ละบทบาท
บริบทของโรงเรียนซึ่งเป็นหน่วยราชการที่จริงหนีไม่พ้นการถูกสั่งให้พัฒนาตามมาตรฐานที่ใช้อย่างเดียวกันหมดทั่วประเทศ เช่น โรงเรียนวิถีพุทธ โรงเรียนแนวเศรษฐกิจพอเพียง การต้องถูกประเมินตามตัวชี้วัดจากส่วนกลาง ฯลฯ เหล่านี้ มันน่าสนใจว่า โรงเรียนรับมืออย่างไร ได้ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นตัวนำพาการก้าวไป หรือเห็นว่าเป็นอุปสรรคเป็นภาระที่มาเพิ่มเพียงใด ในการที่ต้องจัดการกับปัญหาเฉพาะตัวที่แต่ละโรงเรียนมีไม่เหมือนกัน ประเด็นเรื่อง "ใจ" ตรงนี้จะสำคัญมาก
พี่คิดว่ามิติ Spiritual ในโครงการนี้เราควรชี้ให้ชัด เพราะแน่ๆอยู่แล้วว่า หากจะเอาเรื่องความสุข มันต้องมีตรงนี้ แม้ว่าอาจเป็นประเด็นเรื่องธรรมะ ศาสนาซึ่งคนสมัยใหม่ที่ชินกับวิธีคิด การศึกษาแบบตะวันตกจะมองข้าม ที่ผ่านๆมาการทำงานวิชาการมักขาดการชี้ให้เห็นจุดสำคัญนี้ เพราะมัวไปยกย่องทฤษฏี อยากพิสูจน์ความเป็นนักวิชาการของตน ทำให้สังคมเกิด Spiritual deficiency เสียหายกันไปทั้งโลก ทุกระบบ
สรุปคือ พี่เห็นว่าการถอดบทเรียน (เมื่อเขียนเป็นเล่ม)เราให้ความสำคัญทั้งมิติเชิงวิชาการ ทฤษฎีเป็นกรอบ และเติมมิติ Spiritual ให้มีชีวิตชีวาสะท้อนความเป็นมนุษย์ ที่มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก มีศักยภาพในตนเองที่จะพัฒนาอย่างมีศักดิ์ศรี มีอิสระพอสมควร และมีความสุขจากสิ่งที่ทำอยู่ (ไม่ใช่แค่ทำงานเพื่อ "ยังชีพ") โครงการ HEC จะเสนอแนวทางให้วงการการศึกษาและสังคมอย่างไร เพื่อนำไปสู่งานที่ใหญ่กว่านี้ คือ โครงการ "ครูเพื่อศิษย์"
เสียดายจังคุณซวงไม่ว่างทานข้าวกลางวันด้วยกัน
พี่นุช
สวัสดีครับ
อ่านบันทึกและการแลกเปลี่ยนอย่างตั้งใจ
ทึ่งมากครับ
รู้สึกเป็นเด็กลงไปทันที
ขอเอาบางเรื่องราวในนี้ไปใช้ต่อนะครับ
สวัสดีครับ พี่หนานเกียรติ
ยินดีครับ ที่ผมตัดสินใจเอาการเเลกเปลี่ยนเชิงลึกของทีมงานมา เขียนเป็นบันทึก ก็เพราะเหตุนี้ครับ อยากให้หลายคนได้เรียนรู้ร่วม แต่โดยรวมเนื้อหามันหนักครับ ก็ต้องค่อยๆย่อย ปกติเราคุยกันเพื่อหาเเนวทาง หรือ คิดกรอบอะไรบางอย่างก็ถกกันนาน แต่ด้วยภารกิจของแต่ละท่านก็มี การแลกเปลี่ยนผ่านอีเมล จึงเป็นเวทีเรียนรู้ของเราที่สะดวกที่สุด...
ผมเลยพยายามกลั่นออกมาลงสู่ blog ครับ เผื่อบางท่านที่สนใจ เอาไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้ด้วย
ผมโชคดีครับ ที่ได้ทีมงานที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อสังคม แบบใช้ "ใจและปัญญา" เคียงข้างไปด้วยกัน
งานแบบนี้เองที่ผมเคยคุยกับพี่หนานเกียรติว่า เป็นงานที่พัฒนาตัวเอง พัฒนาสังคม เป็นสองวิถีที่ผมได้เรียนรู้และซึมซับ
เราไม่ได้ทำงานเพื่อยังชีพ แต่เราทำงานเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม แต่หากเรามองเป้าใหญ่เเบบนี้มันก็อาจทดท้อได้ในระหว่างทาง ก็เลยหันมามองตนเองก่อน เติมเต็มตัวเองให้เก่งศาสตร์ ชาญชีวิต พัฒนาตัวเองจากข้างใน เป็น Fa ที่ที่อิ่มเต็ม จากข้างใน พร้อมที่จะแบ่งปัน
ดังนั้น พวกเราจึงทำงานเต็มศักยภาพเท่าที่พวกเรามี ..และยืนยันว่า บรรยากาศในการทำงานแบบนี้ทำให้ผมเติบโตมากขึ้นครับ
เราพยายามจะทำให้ครบเวทีที่ ๓ เเละทำงานให้เสร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่ทำตอนนี้
ในความคิดของคนทำงานแบบผม ผมอยากทำงานกับหน่วยงานที่เห็นคุณค่าของเรา ไปทำงานในที่เขาให้โอกาสเราทำงานอย่างเต็มศักยภาพ ไปทำงานในงานที่พวกเรามีความสุข
ตอนนี้เราพอเห็นบ้างเเล้ว เเละผมก็รวบรวมทีมงานให้เข้มเเข็งในการทำงานชิ้นใหม่ ที่จะมาถึง อีกหลายงาน..
อย่างที่ผมชวนคุยไปเมื่อวันก่อนว่า แม้งานจะหนักหน่วงเเค่ไหน ทุกอย่างสำคัญที่ "ใจ" ตัวเดียวครับ
ทำงานให้ท้าทายต่อเป้าหมายใหญ่และมีความสุขเบิกบานครับ
ด้วยความเคารพครับ
เอก-จตุพร
มาให้กำลังใจคะ คุณภาพคับแก้วคะ
ถึงแม้จะต้องอ่านอีกรอบให้เข้าใจ
พี่ไก่มามุขนี้อีกแล้ว ต้องอ่านหลายรอบ กำลังหัดถอดบทเรียน
ไม่เป็นไรครับพี่ ประกาย~natachoei ที่~natadee เป็นเรื่องปกติมากๆนะครับที่พี่อ่านไม่เข้าใจ 555
บางเรื่องที่เราไม่คุ้นชิน ก็ต้องใช้เวลย่อยกันนานหน่อย บางเรื่องเข้าใจได้เลย แล้วแต่ใครถนัดเเละเสียวซ่าน(เชี่ยวชาญ)
ให้กำลังใจนะครับผม
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะที่แวะไปเยี่ยมกัน
อย่าลืมไปช่วยกันโหวตนะคะ
(ที่จริง ปีที่แล้ว ดิฉันก็เขียนโครงการณ์เสนอเข้าไปค่ะ แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก)
แม้เจ้าของโครงการจะไม่ได้รับเงินจริงๆ แต่ก็คงดีใจค่ะ ที่ความคิดของเค้าได้รับการยอมรับ มีผู้เห็นความสำคัญ และมีการสนับสนุนเงินทุนเพื่อนำไปสานต่อความคิดให้กลายเป้นความจริง
เพื่อประโยชน์ต่อมนษยชาติค่ะ
มาอ่าน เก็บและหยิบฉวยไปใช้ด้วยคนค่ะน้องเอก
เงียบ ๆ ไป-จริงค่ะ
อ่านหนังสือ เตรียมสื่อการเรียนการสอน...
เสร็จแล้วค่ะ
แวะอ่านเป็นช่วง ๆ
หวังใจว่าจะได้ผลลัพธ์เป็น หลินปิง บ้างค่ะ;P
จาก: | pirachaya |
ส่งเมื่อ: | 26 กันยายน 2552 21:27:30 |
สวัสดีค่ะ
เกรงว่าจะ BAR ผ่าน email ไม่ครบทีม คิดว่าคงไม่ต่อเติมอะไรนะคะ เพราะสมบูรณ์ครบถ้วนดีที่สุดแล้ว ชื่นชมค่ะ ในที่นี้ ขอเพียงสรุปประเด็นตามความเข้าใจของตัวเองในเบื้องต้นก่อนนะคะ หลังจากที่ใช้เวลาอ่านอย่างวิเคราะห์และสังเคราะห์การถอดเทปบทเรียนของคุณครูผู้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อให้เห็นบริบทของโรงเรียน ผอ. คุณครู นักเรียนและชุมชนแล้ว ทำให้เห็นจุดร่วมกัน (Shared Vision) ในหลาย ๆ เรื่อง สอดคล้องกับกรอบแนวคิดที่ทางคุณเอก คุณซวงและพี่นุชได้แลกเปลี่ยนกันไปแล้ว
สาเหตุที่ศิลาหายเงียบไปก็เพื่อไปทำการบ้านโดยทำความเข้าใจบริบทเป็นรายบุคคล แล้วจะได้นำไปต่อยอดเจาะข้อมูลที่เรามีอยู่แล้วในแต่ละท่านเพื่อการขยายผลออกไป ในเวทีแรก เราทราบแล้วถึง What (เราเห็นถึงความสำเร็จที่เป็นผลงานปรากฎชัดของแต่ละท่าน) แน่นอนว่าในเวทีต่อไป เราจะเน้นเรื่องการบริหารจัดการ และก็คงลงลึกเกี่ยวกับ How (คุณทำได้อย่างได้ = วิธีการ) และ Why (ทำไมคุณจึงทำเช่นนั้น = แรงบันดาลใจ) ซึ่งจากการอ่านการแลกเปลี่ยนของทีมงานคับแก้วของเราแล้ว เรามีทิศทางและกรอบชัดเจน จึงไม่น่าหวงอะไร
สำหรับประเด็นร่วมประเด็นสำคัญที่เราจะเจาะต่อไปตามที่ทุกท่านมองเห็นตรงกันแล้วคือการศึกษา “ตัวผู้นำการเปลี่ยนแปลงว่ามีรูปแบบ Change Management อย่างไร”
แรงจูงใจ ---> เบื้องหลังความสำเร็จ -->จุดเปลี่ยน -->เปลี่ยนตนเองอย่างไร --->เปลี่ยนแปลง คน/ชุมชน/สวล. --->(บทเรียน/ความล้มเหลว)
โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว หลังจากอ่านการถอดเทป จุดเปลี่ยนได้สอดแทรกอยู่ในคำพูดของหลาย ๆ ท่าน ดังนั้น
1. ชุดคำถามของเราสามารถตั้งต่อยอดจากข้อเท็จจริงของแต่ละท่าน ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าเราจดจำเรื่องราวของผู้แลกเปลี่ยนได้ และแต่ละท่านก็เต็มใจที่จะเล่าและขยายผลต่อให้เราอีก ได้แก่ แรงจูงใจ และบทเรียนต่าง ๆ ที่แต่ละท่านได้เรียนรู้ล้มลุกคลุกคลาน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างไร จนกระทั่งใช้เครื่องมืออะไรไปเปลี่ยนแปลงคน (นักเรียน) ชุมชน (ผู้ปกครอง คนในท้องถิ่น) หรือวัด ขอตั้งข้อสังเกตว่าเครื่องมือที่ว่านั้นสารัตถะก็คือ “กระบวนการสื่อสาร” ของ ผอ หรือคุณครู ซึ่งควรเจาะต่อไปว่าสื่อสารแบบไหน อย่างไร สรุปก็คือ
2. ค้นหาประเด็นร่วมของโรงเรียนหรือของคุณครูเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนในวงสุนทรียสนทนาในประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ ได้แก่เป้าหมาย คุณครูตั้งเป้าหมายอย่างไรในการบริหาร/จัดการ เช่น เน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองได้ ฝึกฝนการคิดอย่างเป็นระบบ หรือคิดสังเคราะห์ (ค้นหาเป้าหมายแท้จริง)
3. อิทธิพลต่อความคิดของทั้งผอ และคุณครู ที่ศิลามองเห็นผ่านการอ่านและการฟังการแลกเปลี่ยนก็คือหลักธรรม พระราชดำรัส/ปรัชญาของพระเจ้าอยู่หัว และตัวคุณพ่อคุณแม่ของแต่ละท่าน เราสามารถเจาะเป็นคำถามต่อไปได้ว่านำแก่นธรรมหรือปรัชญาองค์ความรู้ที่ยึดถือมาแปลงรูปเป็นแนวปฏิบัติแล้วนำไปบริหารจัดการได้อย่างไร
4. การให้ของ ผอ และคุณครู
5. Feedback ของผู้ที่ถูกเปลี่ยนแปลง หรือสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไร
ขออนุญาตส่งน้ำจิ้มแค่นี้ก่อนนะคะ เพราะแบตเตอรี่หมด ขอไปชาร์ตไฟเพิ่มก่อนค่ะ เพิ่งกลับมาจากการไปนำเสนอแผนการสอนกฎหมาย ออกจะมึน ๆ พอสมควรค่ะ ต้องขออภัยอย่างยิ่ง หากเขียนอะไรแล้วทำให้งง ๆ กันไปบ้าง
ภาคภูมิใจมากค่ะที่ทีมงานเราเข้มแข็ม และมีคุณภาพมากเลย ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ (คิดได้ใหม่แล้วจะมาช่วยต่อยอดค่ะ)
ศิลา
จาก: | Noppharat Ratanapongphasuk |
ส่งเมื่อ: | 26 กันยายน 2552 21:10:18 |
สวัสดีคะ ไม่ค่อยมีเวลาเลย แวะมาเยี่ยม สบายดีนะคะ
บันทึกของพี่อ่านกี่ครั้งยังคงประทับใจและมากล้นด้วยสาระทุกครั้งครับ...นับถือๆ
ดูแลสุขภาพด้วยครับ
สวัสดีค่ะคุณเอก
สวัสดีค่ะ
ครู mena สบายดีครับ ก็งานอาจจะหนักบ้างนะครับ แต่ก็บริหารจัดการได้
สวัสดีครับ พี่ ณัฐรดา
ไปอ่านบันทึกนี้เเล้ว ตอนเเรกก็ งงๆ อยู่ ครับ แบบนี้เรียกว่า CSR น่าจะใช่นะครับ น่าจะอยู่ในข่ายนี้ครับ
พี่หมอเล็ก
วันนี้ที่พี่หมอโทรมา พี่ ดร.นุช ก็โทรมาพอดีครับ เลยได้คุยกันนาน ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งใน กทม. นี่หละครับ ยังคุยถึงพี่หมอเล็กด้วยครับ
ตอนนี้ ทีมงานเรากำลังจะวางแผนทำงานร่วมกับหน่วยงานหนึ่งครับ ตอนนี้กำลังจะเข้าไปดูเนื้อหางานที่เราจะทำงานร่วมกัน ผมมี Fa ฝีมือดีเข้าร่วมทีมอีก ๑-๒ คน
คิดว่างานชิ้นต่อไป เราจะทุ่มเทพลังให้เต็มที่ ...ว่างๆต้องเชิญพี่หมอเข้าร่วมแลกเปลี่ยนกันบ้างครับ
เสียงเล็กๆ فؤاد น้องฟูอ้าจ
ขอบคุณครับ ให้กำลังใจสำหรับการเรียนของน้องด้วยนะครับ ...
พี่ อิงจันทร์
อ่านยาก และหนักไปบ้างครับ ผมก็มองว่าน่าจะเกิดประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ เเลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเด็นนี้
สำหรับงานนี้ กำลังจะเปิดเวทีที่ ๒ และ ๓ ในอีกเดือนหน้าที่จะถึง ก็จะปิด จะจบงานเเล้วครับ เราก็อยากทำให้ดีที่สุดครับ ...
สำหรับผมจบงานนี้ จะขออำลาวงการนี้ไปก่อน...
อย่างน้อยงานชิ้นนี้มีคุณค่า หากต่อไป เรากลับย้อนมาดู เราก็จะได้ดีใจว่า ก็เคยได้ทำงานดีๆชิ้นนี้
สวัสดีครับ
แผนพี่ ครูคิม เป็นความลับจังเลยนะครับ
เมื่อครู่ได้คุยกับ ผอ.รร.ชำฆ้อ เห็นบอกว่าท่านจะไปร่วมงานที่ สยามพารากอนด้วย ครับ น่าจะได้เจอหลายท่านที่เราเคยอ่านผลงานนะครับ
พรุ่งนี้จะเริ่มเวที ลปรร.เเล้ว คืนนี้ผมพักที่โรงเเรมและลุยงานพรุ่งนี้ เสร็จเวทีนี้ผมมีแผนไปพักผ่อนที่ชายทะเลแถบ ระยอง จันทบุรี สักสองสามวันครับ :)
สิงห์ป่าสัก พี่วีรยุทธ
เมื่อครู่ ทางทีมได้ BAR. กัน ยังคุยกันว่า หากพี่อยู่ใกล้ๆจะชวนมาเเจมด้วยครับ ผมสบายดีครับ ก็เรื่อยๆ แต่งานช่วงนี้หนักครับ มีงานที่ต้องประสานในหลายๆหน่วยงาน ส่วนใหญ่ก็เป็น Facilitator ที่เน้นการถอดบทเรียน นี่หละครับ :)
สวัสดีน้องเอก ..คิดถึง มาเยี่ยม.." สุข ดี และเก่ง "..ชอบใจที่เอา " เก่ง " ไปไว้สุดท้ายเลย เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมามีภารกิจที่สถานีวิทยุจุฬา เห็นโปสเตอร์แผ่นนี้ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับ สุข ดีและเก่ง ด้วยหรือเปล่า(ฮา)..
สวัสดีคะคุณเอก
สวัสดีครับ แวะมาเยี่ยมพี่เอกครับ
แอบตามไปดูรูปคุณซวงที่บล็อกพี่ครูคิมมากครับ
ได้เห็นหน้่าค่าตากัลยาณมิตรแล้วดีใจครับ
ไปเจอมาที่บ้านครูคิมค่ะ คุณซวงคือพี่ซวง ณ ชุมแสงมั้ยค่ะ
อ้าวววววววววววว
ถ้าใช่ พี่ซวงไปซุ่มทำงานอยู่กับพี่ศิลา และอาจารย์ดอกเตอร์ในห้องพี่เอกนี่เอง
เลยไม่มีเวลามาเขียนบันทึกเลย
โอ้โห ชีวิตของเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ เค้ามีความรู้ และเค้าหมั่นพัฒนาความรู้กันทั้งนั้นเลย
มองไปมองมา กอก็ไม่ได้พัฒนาอะไรสักที ทำอะไรดีน่ะ โอ้ย
จัดที่ไหนหรือครับ ?
สนใจแลกเปลี่ยนด้วยนะครับ
สวัสดีครับ ครูตา ลป.
จากนี้ผมจะเขียนบันทึก การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เวที ที่เราทำ อีกประมาณ ๒ - ๓ บันทึกครับ...
รอติดตามนะครับ
โรงเรียนที่เข้ามาเเลกเปลี่ยนเรียนรู้ ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่เรียกว่า รับนักเรียนที่มีปัญหาบ้าง เด็กที่ไม่พร้อมจากโรงเรียนอื่นๆ ดังนั้นการพัฒนาเด็ก การสร้างกระบวนการเรียนรู้ จะเน้น สุข ดี และ เอา เก่ง ไว้ท้าย
(ผอ.สุมนต์ ม่อนไข่ ผอ.โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ น่าน)
พัฒนาให้ครบทุกมิติ
แต่เราพบว่าโรงเรียนใหญ่ ๆเด็กๆมักมี "เกศ" ที่ใหญ่โต แต่ "กมล" เล็กนิดเดียว นี่คือปัญหาการศึกษาไทยที่จะมีต่อไป เรามีคนเก่งมากมาย แต่ปัญหาเราไม่เคยแก้ไขได้
บันทึกอาจอ่านยากไปบ้างครับ แต่เป็นความพยายามของพวกเรา ที่ต้องเตรียมกระบวนการ
ครู ผอ.สมบูรณ์ และ ครูพิศมัย มีความสุขดีไหมครับ กับการเดินทางมาร่วมกิจกรรมที่ กทม.
ขอบคุณ ผอ.สมบูรณ์ ที่เอาใส้อั่วมาฝากผมด้วย
เข้าใจว่า งานวิศวกร ของพี่ซวง มีภาระหน้าที่ที่หนักมากขึ้น เลยไม่ค่อยมีเวลามาเขียนบันทึกครับ
ขอบคุณ คุณ Man In Flame ที่นำสื่อดีๆมาให้ชมด้วย
เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เราจัดที่ โรงเเรมรามาการ์เด้นส์ ใน กทม.ครับ เวทีที่ ๓ ก็จะมีในสัปดาห์หน้าครับ...
สวัสดีค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวนะค่ะ ดิฉันกนกรัตน์ ทำงานด้านการพัฒนาบุคลากร ของ บมจ.ทีโอที ได้ประมาณ 5ปี ก่อนหน้านี้ ทำด้านพัฒนาระบบบัญชีการเงินโดยนำระบบโปรแกรมสำเร็จรูป SAP R2,R3 ประมาณ 12 ปี สิ่งที่สำคัญที่สุดนอกเหนือจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย คือ ทรัพยากรมนุษย์ ที่จะขับเคลื่อนให้องค์กรประสบผลสำเร็จตาม วิสัยทัศน์ พันธกิจ ที่กำหนดไว้ เป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับองค์กรต่างๆ ทำอย่างไรให้ทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรจะอยู่ร่วมกัน อย่างมีความผาสุข และดึงศักยภาพของแต่ละปัจเจกบุคคลออกมาใช้เต็มความสามารถ ตลอดจนให้องค์กรประสบผลสำเร็จด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงได้รับโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ คุณนะค่ะ กนกรัตน์
ยินดีมากๆครับ คุณ กนกรัตน์ ผมอยากอ่านข้อคิดเห็น และ ประสบการณ์ผ่านการทำงานของคุณเช่นเดียวกันครับ
ด้วยมิตรภาพครับ