ยาเม็ด “ป้องกันวัวตด” ช่วยลดภาวะโลกร้อน


เจ้าของฟาร์มวัวในประเทศไทย ลองสั่งซื้อเข้ามาใช้ดูนะคะ (ฮิฮิ) แต่เกษตรกรไทยบ้านเราฟังอ่านไว้เฉยๆ เถอะค่ะ เดี๋ยวต้องเป็นหนี้เป็นสินในการกู้เงิน ธกส.มาซื้อยาแก้วัวตดแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ

เชื่อว่าหลายท่านเมื่ออ่านชื่อบันทึกแล้วก็อดที่จะอมยิ้มและแกมประหลายใจไม่ได้ว่า

ครูมิมเอาอะไรมาพูด ตดวัว (ขออภัยค่ะที่ใช้คำไม่สุภาพ แต่เพื่อให้ได้อารมณ์ในการอ่านยิ่งขึ้น) นี่นะจะเป็นสาเหตุของโลกร้อน ถึงขนาดต้องมีการคิดค้นยาแก้ตดวัวกันให้วุ่นวาย ถ้าไม่เชื่อครูมิมก็ลองอ่านต่อไปนะค่ะ แล้วจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง!!!

นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้คิดค้นหาวิธีป้องกันมลภาวะเพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ ยาเม็ดป้องกันไม่ให้วัวตดหรือผายลม

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Hohenheim เชื่อว่าวัวจากฟาร์มต่างๆ มีส่วนทำให้เกิดมลภาวะเรือนกระจก หรือ Greenhouse gass ประมาณ 4%

ยาเม็ดที่คิดค้นขึ้นมานี้จะช่วยให้สภาพอากาศบริเวณโดยรอบดีขึ้นอีกมาก รวมทั้งการที่ก๊าซในกระเพาะวัวลดลงจะทำให้วัวสุขภาพดีขึ้น และให้น้ำนมมากขึ้นด้วย

แต่งานนี้ก็มีปัญหาค่ะ ปัญหาอย่างเดียวที่ว่าก็คือ ยาเม็ดที่ว่านี้มีขนาดราวๆ ลูกคริกเก็ต (ลูกอะไรหนอ ใครทราบบอกด่วน) และยังหาวิธีทำให้วัวกลืนเข้าไปไม่ได้  สงสารวัวที่สุดค่ะ แต่ถ้าเพื่อโลกของเรา ก็ยอมเถอะนะวัวจ๋า  ถือว่าช่วยกัน

นี่ขนาดวัวนะคะ ยังมีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อนเลย ใครที่ยังนิ่งเฉยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ประมาณว่าข้ามีเงินจ่ายค่าน้ำมัน ค่าไฟ และยังเผาป่ากันอยู่อย่างนี้  มีหวังงานนี้ได้อายวัวกันบ้างละคะ

หมายเลขบันทึก: 170159เขียนเมื่อ 10 มีนาคม 2008 18:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 17:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (31)

ขำกลิ้งเลยค่ะ  ชื่อบันทึกน่ะค่ะ

มี  ยาเม็ด ให้คนหรือเปล่าค้า

ขอบคุณแม่อ้อย

  • ดีใจที่แม่อ้อยขำ
  • ขำวันละนิดจิตแจ่มใสค่ะ
  • ยาเม็ดสำหรับคนจะมีหรืออันนี้ไม่แน่ใจค่ะ แต่มีก็น่าจะดีนะคะ

สวัสดีครับ

    อิๆๆ น่าสนใจมากๆ เลยนะครับ จริงๆ น่าจะมียาให้คนด้วยเนอะครับ และอาจจะมียาให้ลดคนหายใจเร็วด้วย เพราะหายใจออกมากๆ ก็ส่งผลครับ อิๆๆ

    จริงๆ ก่อนอากาศเสียจะลอยขึ้นอากาศ อาจจะต้องมีต้นไม้ดูดซับไว้ก่อน อากาศเสียก็จะลอยขึ้นไปน้อยลงครับ

ขอบคุณมากครับ

In men's cricket the ball must weigh between 5.5 and 5.75 ounces (155.9 and 163 g) and measure between 8 13/16 and 9 in (22.4 and 22.9 cm) in circumference.
In men's cricket the ball must weigh between 5.5 and 5.75 ounces (155.9 and 163 g) and measure between 8 13/16 and 9 in (22.4 and 22.9 cm) in circumference.

 

สวัสดีครับ

นำภาพลูกคริกเก็ตมาฝากครับ

ท่าทางจะกลืนยากจริงๆ ครับ

  • สวัสดีค่ะครูมิม
  • อ่านชื่อเรื่องก็ขำๆ แล้ว มาอ่านเรื่องยิ่งขำใหญ่ 
  •  แล้วก็อยากรู้ว่าลูกคริกเกตเป็นอย่างไร เลยต้องไปค้นหา เจอที่นี่ มีวิ.ดิ.โอ แสดงวิธีเล่นด้วย
  • กลับมาเห็น คุณ ธ.วัชชัย นำรูปลูกคริกเกตมาฝากแล้ว
  • ต้องขอบคุณคุณ ธ.วัชชัย และครูมิม ที่ทำให้เกิดอาการอยากรู้ขึ้นมาค่ะ
  • ว่าแต่ว่า..ยาเม็ดขนาดใหญ่กว่าลูกเทนนิสอีกนะ..ให้วัวกิน..
  • เอ๊ะ..ขนาดยา..หรือว่า ขนาด ตดวัว..กันแน่ อิ..อิ..

ขอบคุณคุณเม้งค่ะ

ยาสำหรับคนตอนนี้ไม่มีค่ะ แต่ถ้าช่วยกันปลูกต้นไม้เยอะก็พอช่วยได้ เพราะต้นไม้คอยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของโลกร้อนค่ะ

 

ขอบคุณคุณธวัชชัยค่ะ

โอ้โห นี่หรือคริกเก็ต ลูกขนาดนี้ ถ้าครูมิมเป็นวัวก็ขอบายค่ะ ยอมให้เขาประนามว่าทำให้โลกร้อนดีกว่า ทำใจไม่ได้ จะให้กลืนยังงัย หุๆ

ขอบคุณค่ะที่นำภาพมาฝาก

ขอบคุณคุณดวงพรค่ะ

  • อุตสาห่าส์ไปค้นมาให้ ขอบคุณมากๆค่ะ
  • ดีใจค่ะที่ขำ ครูมิมเขียนเองยังขำ55
  • เห็นรูปที่คุณธวัชชัยเอามาฝากก็ตกใจ สงสารวัวที่สุดเลย
  • แต่ถ้าตดวัวลูกขนาดนี้ก็ไม่ไหวนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ

มีเวลาจะลองไปค้นดูค่ะว่า ลมหายใจของคนเรามีผลต่อภาวะโลกร้อนมากน้อยเพียงใด แล้วจะนำมาบอกค่ะ

  • สวัสดีค่ะน้องครูมิม
  • พี่อึ่งชวนมาขำ ๆ ค่ะ
  • งานนี้หละใครmeไม่รู้ไม่ชี้เป็นได้อายวัวบ้างหละ   555

ขำกลิ้งกับความคิดช่วยลดภาวะโลกร้อนโดยป้องกันวัวตด ฮ่ะๆๆเอิ้ก

โดนยาเม็ดขนาดลูกคริกเก็ต สงสัยว่ามันจะไปช่วยอุดรูตดมากกว่า ฮ่าๆๆๆ

ครูมิมช่างสรรหาจริงๆ

ปลูกต้นไม้เยอะๆช่วยได้ครับ

นักศึกษาฝึกงาน ดูแลบล็อกค่ะ

ตลกดีนะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ แต่จะว่าไปแล้วสงสารวัวนะคะ ยาเม็ดใหญ่ขนาดนั้น

ชื่อของเรื่องน่าสนใจมากค่ะ ดึงดูดใจ ให้เข้ามาอ่านดีค่ะ

กลัวจังเลยครับ กลัวจะมีคนคิดต่อไปเรื่อยๆ

แค่นักวิทย์คิดก็ยังสงสัยเลยครับว่าจะป้องกันวัวผายลมได้จริงหรือเปล่า เพราะปัญหาคือยังหาวิธีให้วัวกลืนไม่ได้แล้วเราจะเชื่อเขาได้มั๊ยเนี๊ยะ

ช่างละเอียดอ่อนกับปัญหาโลกร้อนจริงๆเลยนะครับ ขนาดก๊าซที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติของต้นไม้ หรือสัตว์ก็ยังกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน แล้วจะต้องลดที่ต้นเหตุด้วยหรือเปล่าครับเนี๊ยะ  ห่วงจนหายขำเลยครับ ถ้าต้องลดต้นไม้ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ก็คงมีผลกระทบหลายด้านเช่นกัน แล้วจะลดอะไรดีครับที่มีผลกระทบน้อยที่สุดและมีผลดีมากที่สุด

  • ยาเม็ดใหญ่จัง
  • สงสารวัว ฮ่าๆๆๆ
  • โห เป็นความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย
  • ต้องไปหาต้นไม้มาปลูกเพิ่มแล้วครับ

สวัสดีค่ะพี่อึ่ง rak-na

  • ถ้าชอบเดี๋ยวมิมไปหาเรื่องแปลกมาเล่าสู่กันฟังอีกค่ะ
  • คนอ่านขำคนเขียนก็ยิ้มออกค่ะ

ขอบคุณพี่อึ่งค่ะ

สวัสดีค่ะ ท่านอัยการ

  •  เห็นว่าต้องเปลี่ยนวิธีการแล้วละคะ ถ้ามันกลืนไม่ได้ก็เอาไปอุด.....แทน55
  • ขอบคุณท่านค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ กวินทรากร

การปลูกต้นไม้ช่วยได้จริงๆ ค่ะ งั้นไปซื้อต้นไม้มาเลยค่ะปลูกกันคนละต้น สองต้นแค่สมาชิกG2K ก็คงได้หลายต้นนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณ คุณนักศึกษาฝึกงานดูแลบล็อกค่ะ

  • อย่างนี้มีกำลังใจเขียนบันทึกขึ้นอีกมากค่ะ

 

สวัสดีค่ะ ว่าที่ ร.ต วุฒิชัย สังข์พงษ์

  • การแก้ปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆค่ะ
  • นักวิทยาศาสตร์พยายามคิดทุกวิถีทางที่จะช่วยโลก
  • เพราะฉะนั้นเราก็ต้องช่วยกันนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ อ.ขจิต

  • อย่างที่สวนป่า ช่วยลดโลกร้อนได้มากทีเดียวค่ะเพราะมีต้นไม้เยอะ
  • ขอบคุณอาจารย์ค่ะ
  • สวัสดีค่ะ อ่านแล้วขำดีค่ะ
  • สงสารวัวเนาะ  คงสำลักแน่ๆ เลยค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่เอื้องแซะ

  • ขอบคุณค่ะ คนอ่านแล้วขำ แต่วัวมันคงซีเรียสน่าดูนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ

ขอเสนอวิธีลดภาวะโลกร้อน มี 3 ข้อครับ

1. ลดการปรุงแต่ง

- ลดใช้สีทั้งปวง ลดเสื้อผ้า ลดเครื่องประดับ ลดเครื่องสำอาง ลดความเพลิดเพลิน ลดสุรา ลดท่องเที่ยว

2. ลดการให้กำเนิดมนุษย์

- มนุษย์เกิดมาทานอะไรเข้าไปบ้างจนกว่าจะจากโลกนี้ไป ถ้าหายไปสักคนจะลดอะไรลงไปได้บ้าง

3. ลดการบริโภคอาหาร

- เดิมมนุษย์เรามิได้ทานอาหาร 3 มื้อ ถ้าลดเหลือสักคนละ 2 มื้อจะลดอะไรได้บ้าง

ถ้าเห็นว่าพอเป็นแนวคิดหนึ่งได้ ช่วยขยายต่อด้วย

ช่วยขยายต่อด้วย

สวัสดีครับ ครูมิม

  • แวะมาเยี่ยมครับ
  • น่าจะมียาเม็ดครูมิม ตด นะครับ
  • อิอิ
  • คงจะลดโลกร้อน
  • เอ.. หรือว่าโลกจะร้อนกว่าเดิม
  • อิอิ

สวัสดีค่ะ คุณสมคิด นานาง

ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยมชมบันทึกเก่าๆ และได้เสนอวิธีการช่วยลดปัญหาสภาะโลกร้อน จะเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นล้วนมาจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น ถ้าจะให้แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องก็ต้องเริ่มจากการแก้พฤติกรรมของมนุษย์นี่แหละค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะที่ช่วยกันตระหนักถึงปัญหา ...

สวัสดีคะครูโย่ง..

มาป่วนถึงบันทึกเก่าๆ เลยนะคะ อิอิ ถ้ามีใครคิดค้นได้อย่างครูโย่งว่า จะให้เขาผลิตเผื่อครูโย่งด้วยคะ เพราะคิดว่าครูโย่งน่าจะเป็นสาเหตุของโลกร้อนอยู่ไม่น้อย อิอิ

ถือว่าช่วยกันนะคะ ^_^

แป๋วววววววววววววว

โดนเลย

ฮื้อๆๆๆๆๆ

ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว

แต่ก็มิได้นำพา ฮ่า ๆ เอิ๊ก ๆๆๆ

ครูโย่งค่ะ

  • แป่วๆๆ อิ๊อิ๊
  • ล้อเล่นนะคะ
  • แต่ก็ไม่ได้นำพาจริงๆ ด้วย 55

ครูมิม

คนอื่นเขามาขำๆ พี่แจ๋วขอมาแบบเครียดๆ หน่อยจ๊ะ

คือเคยอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับการผายลม เขาว่ามีประโยชน์ต่อระบบร่างกาย

ทีนี้ถ้าไม่ให้วัวภายลมแล้วมันจะมีผลข้างเคียงกับระบบของวัวหรือเปล่า

คืออ่านของครูมิมเขาก็ว่ามีแต่ผลดีเนอะ

งั้นขอมาให้ถุงทองด้วยสิ ชอบมานอนเหนือลม แล้วปล่อย อิอิ

สวัสดีคะพี่แจ๋วคนดี...

คิดถึงจังค่ะ..มาแบบขำๆ หรือเครียดๆก็ได้ค่ะมิมก็รู้สึกดีใจทั้งนั้น วันนี้ไม่ต้องไปทำงานเหรอคะ หรือว่าทำอยู่บ้าน วันนี้มีกิจกรรมวันสุนทรภู่ค่ะ มิมก็เลยแว้บมาได้ แต่ช่วงบ่ายคงต้องไปดูนักศึกษาทำโครงงานเหมือนเดิมนะคะ

ที่พี่แจ๋วถามว่า ถ้าไม่ให้วัวฝายลมจะมีผลต่อระบบต่างๆ ของวัวหรือเปล่านั้น มิมคิดว่า การที่วัวหรือสิ่งมีชีวิตทุกชนิดฝายลมนั้นเป็นเพราะในลำไส้มีแก๊สในกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้จุก เสียด แน่นท้อง สิ่งมีชีวิตเลยต้องฝายลมออกมา เป็นการปรับตัวของร่างกายตามธรรมชาติค่ะ

อย่างที่เวลาเรามีแก๊สในกระเพาะงัยค่ะ ทรมานมากเราต้องหายามากินเพื่อลดแก๊สในกระเพาะ ฉะนั้นคิดว่าการคิดค้นยาเพื่อป้องกันการฝายลมของวัวน่าจะเป็นผลดีต่อสุขภาพของวัวนะคะ เพาะลดแก๊สในกระเพาะ เมื่อไม่มีแก๊สในกระเพาะก็ไม่ต้องฝายลม ลดแก๊สเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนได้ด้วย และทำให้วัวมีสุขภาพดีขึ้นด้วยค่ะ  อิอิ

เครียดไหมค่ะ..ฝากหอมแก้มถุงทองด้วยค่ะ ถุงทองเหมือนข้าวหอมเลยฝายลมหน้าพัดลมทุกที ..ทำให้ครอบครัวร้าวฉานหลายครั้งแล้ว 55

คิดถึงพี่แจ๋วนะคะ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท